เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – ตอนที่ 7.2

ตอนที่ 7.2

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 7.2

ตอนที่ 7.2

ตั้งแต่อายุได้ประมาณเก้าขวบ เธอเองก็เคยเข้าคลาสเรียนโดยมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบด้านการศึกษาเป็นคนสอนอยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกัน แต่อาจารย์ในตอนนั้นไม่ใช่เครย์ลีบัน

หรือว่าภายหลังเขาจะเปลี่ยนไปรับหน้าที่อื่น

อย่างไรก็ตาม ‘คลาสเรียน’ ที่เครย์ลีบันพูดถึงก็คือ การประเมินผู้สืบทอดอย่างเป็นทางการครั้งแรกของเด็กตระกูลลอมบาร์เดียในรูปแบบคลาสเรียน พวกเขาจะรวบรวมเด็กในตระกูลตามตารางว่างของผู้รับผิดชอบด้านการเรียนการสอน เพื่อที่จะได้สอนหนังสือให้พร้อมกัน

หากฟังผิวเผินอาจจะคล้ายกับคลาสเรียนในครอบครัวแบบสบายๆ แต่มันไม่ใช่แบบนั้นอย่างสิ้นเชิง ทั้งยังมีด้านที่โหดร้ายอยู่มากทีเดียว

อันดับแรก คลาสเรียนไม่กำจัดช่วงอายุของเหล่าเด็กๆ ที่ถูกกำหนดในการเข้าเรียน

ไม่สนใจว่าอายุเท่าไหร่ เด็กที่ได้รับการประเมินว่าเตรียมพร้อมมากพอที่จะตามคลาสเรียนได้ทัน ก็จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วม จึงกลายเป็นการแสดงให้เห็นถึงระดับปัญญาของพวกเด็กๆ ผ่านทางอายุที่เริ่มเรียนโดยอัตโนมัติ

อันดับที่สอง การเลิกเรียนเองก็ไม่มีอายุที่ถูกกำหนดไว้เช่นกัน

หากวันไหนได้ยินคำสั่งว่า ‘ไม่ต้องมาเข้าเรียนอีกต่อไปแล้วก็ได้’ ก็ถือว่าสิ้นสุดการเรียน

ตัวเธอในอดีตเองก็อยู่ในกรณีนี้

แน่นอนว่าไม่ใช่จบการศึกษา แต่เป็นการถูกริบสิทธิ์ในการเข้าร่วมชั้นเรียนหนังสือ

และอันดับสุดท้าย การประเมินตลอดระยะเวลาการเรียนการสอนจะถูกรายงานตรงต่อท่านปู่

พูดง่ายๆ ก็หมายความว่า เครย์ลีบัน เพลเลสจะเป็นสายตรงที่ช่วยเชื่อมต่อเธอกับท่านปู่เข้าด้วยกัน และเหตุผลที่เขามาหาเธอด้วยตัวเองเช่นนี้ก็คือ

‘ท่านปู่ส่งเขามานี่เอง’

ฟีเรนเทียพยายามอดกลั้นเสียงหัวเราะลงไป เมื่อนึกถึงใบหน้าของท่านปู่ที่นัยน์ตาส่องประกายบางอย่างยามมองเธอ

พอเขาเห็นว่าเธอเอาแต่เหม่อมองด้วยนัยน์ตากลมโตไม่มีปฏิกิริยาอะไรเป็นพิเศษ เครย์ลีบันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยคล้ายกับไม่พอใจอะไรสักอย่าง ก่อนวางหนังสือลงตรงหน้าเธอ พลางเอ่ยถาม

 ได้ยินว่าอ่านหนังสือเล่มนี้อยู่หรือครับ 

 ค่ะ เริ่มอ่านตั้งแต่เมื่อวานค่ะ 

 อย่างนั้นหรือครับ ถ้าเช่นนั้นเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรครับ 

ดูเหมือนต้องการที่จะทดสอบว่าเธอสามารถอ่านหนังสือเล่มนี้ได้จริงหรือเปล่าสินะ

ดีมากที่เมื่อคืนเธออ่านมันไว้แล้วล่วงหน้า

เธอส่งเสียง ‘อืม’ แสร้งทำเป็นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยตอบ

 เพิ่งจะอ่านไปได้แค่นิดเดียว แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้คนมหัศจรรย์ที่รวมตัวกันอาศัยอยู่ในป่าลึกทางใต้ของอาณาจักรค่ะ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับพวกเขาเหล่านั้น 

เครย์ลีบันฟังเธอเล่าแล้วก็ตกใจเล็กน้อย ท่าทางคงจะคิดว่าเธอแค่ถือหนังสือเล่มนี้ไปไหนมาไหนเหมือนของเล่นเฉยๆ ละสิ

…ก็พอจะเข้าใจได้

เด็กอายุเจ็ดขวบที่ควรจะอ่านพวกหนังสือนิทาน กลับอ่านหนังสือที่ขนาดผู้ใหญ่อ่านยังรู้สึกเบื่อ ก็สมควรอยู่หรอกที่จะรู้สึกสงสัย

เธอยิ้มมองเครย์ลีบันด้วยท่วงท่าราวกับจะบอกว่า ‘เชิญถามมาได้ทุกเรื่องเลยค่ะ’

 ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้คือใครครับ 

 ตรงหน้าปกก็เขียนไว้ว่า ‘โรพิลลี่’ นี่คะ? 

 เนื้อหาหน้าแรกพูดถึงอะไรครับ 

 คนที่ชื่อโรพิลลี่เล่าว่าไปได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับผู้คนทางใต้มาได้ยังไงค่ะ 

 อืม… 

คนที่เป็นฝ่ายพูดอะไรไม่ออกเมื่อได้ยินคำตอบคล่องแคล่วของเธอกลับกลายเป็นตัวเครย์ลีบันเสียเอง เธอที่ลอบหัวเราะคิกคักอยู่ในใจเมื่อเห็นภาพนั้น จึงเอ่ยถามกลับไปด้วยใบหน้าใสซื่อไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใด

 มาเพราะอยากอ่านหนังสือเล่มนี้เหรอคะ ให้ยืมเอามั้ยคะ 

เธอยื่นหนังสือเล่มหน้าปกสีเขียวส่งให้เครย์ลีบันพร้อมกับเอ่ยพูด

 ถึงจะอยากรู้เนื้อหาครึ่งหลังก็เถอะ แต่ไว้ข้าค่อยอ่านทีหลังก็ได้ค่ะ 

 อะแฮ่ม ไม่ใช่แบบนั้นครับ มันเป็นหนังสือที่ข้าเคยอ่านแล้ว ท่านฟีเรนเทียอ่านต่อไปก็ได้ครับ 

 อา ค่อยโล่งอกหน่อย! 

เธอยิ้มแย้มในขณะที่ดึงหนังสือกลับมากอดราวกับดีใจมากจริงๆ

เห็นนัยน์ตาของมนุษย์เลือดเย็นคนนี้สั่นไหวอย่างรุนแรงครู่หนึ่ง แล้วก็รู้สึกว่าความสนุกในการกลั่นแกล้งเขามันลดลงฮวบไปเลย

ตกใจแค่แป๊บเดียวเอง

เครย์ลีบันเปลี่ยนสีหน้ากลับมาเฉยชาอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มถามคำถามอื่นกับเธอต่อ

 ข่าวลือที่โรพิลลี่ได้ยินมามีทั้งหมดสามเรื่องด้วยกัน เขา… 

 เดี๋ยวค่ะ ลุงเครย์ลีบัน 

 ทำไมหรือครับ 

 ผิดแล้วละค่ะ 

เธอยกมุมปากกระตุกยิ้ม

 โรพิลลี่ไม่ใช่ ‘เขา’ แต่เป็น ‘นาง’ ต่างหากล่ะคะ 

 ครับ? 

 ดูจากคำนำด้านหน้าก็มีพูดเอาไว้ค่ะ ชื่อเต็มคือ อาวาเน่ โรพิลลี่ เป็นนักวิชาการหญิงค่ะ 

 นะ…นั่นมันเรื่องอะไรกัน 

เครย์ลีบันตื่นตระหนกรีบเปิดหนังสือดู ก่อนจะอ่านคำนำ

อา สนุกดีจัง

เธอพูดต่ออีกหนึ่งประโยคไปทางเครย์ลีบันที่ไม่อาจเก็บซ่อนสีหน้าอับอายเอาไว้ได้

 ไหนว่าอ่านจบแล้วไง คงจะอ่านแค่คร่าวๆ สินะ 

ไหล่ของเขาสะดุ้งเฮือก ใบหูขึ้นสีแดงก่ำ

เธอถึงกับต้องกัดกระพุ้งแก้มข้างหนึ่งเอาไว้ เพื่อกลั้นเสียงไม่ให้เผลอระเบิดเสียงหัวเราะออกไป

ตุบ! เครย์ลีบันปิดหนังสือจนเกิดเสียงดัง จากนั้นก็พูดขึ้นในขณะที่มองเธอนั่งสบายอกสบายใจคล้ายกับต้องการจะขู่ให้กลัว

 แรกๆ คงจะตามเนื้อหาคลาสเรียนยากหน่อยนะครับ 

 คงจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เยอะแยะเลยสินะคะเนี่ย!  

เธอพยักหน้าหงึกหงัก พูดอย่างร่าเริง ทำทีเป็นว่าดีใจเป็นอย่างมาก

 ถึงแม้อายุจะน้อย แต่จะไม่มีข้อยกเว้นอะไรให้เป็นพิเศษหรอกนะครับ ท่านฟีเรนเทียจะต้องเข้าร่วมเรียนด้วยกันกับลูกพี่ลูกน้องทุกท่านที่อายุมากกว่า 

 น่าสนุกดีนะคะ!  

ต้องให้ท้องฟ้ามืดสนิทเสียก่อน ถึงจะเห็นพระจันทร์ส่องแสงสว่างชัดเจนมากขึ้น

หากอยู่ข้างเด็กพวกนั้น เธอคงจะดูฉลาดมากกว่าน่าดูเลยเชียว!

เครย์ลีบันถอนหายใจพลางมองเธอที่แกว่งขาสั้นป้อมด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะเอ่ยพูดอย่างยอมแพ้

 …และก็ไม่ใช่ลุงครับ กรุณาเรียกว่าอาจารย์ด้วยครับ 

ในที่สุดก็ได้รับอนุญาตแล้ว!

เธอรีบตอบก่อนที่เครย์ลีบันจะเปลี่ยนใจ

 ค่ะ อาจารย์! 

ได้เข้า ‘คลาสเรียน’ ด้วยอายุเจ็ดขวบอย่างนั้นเหรอ!

บางทีอาจจะเร็วที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของลอมบาร์เดียเลยก็ได้

เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เครย์ลีบันจะรายงานให้ท่านปู่ฟังแบบไหนกัน

พอจินตนาการดูแล้วก็ยิ่งรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมามากกว่าเดิม เธอมองเครย์ลีบัน ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท