เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – ตอนที่ 48.1

ตอนที่ 48.1

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล ตอนที่ 48.1

ตอนที่ 48.1

 มาทำอะไร…ที่นี่ครับ 

จักรพรรดิโยบาเนสพยายามอดกลั้นจนหน้าผากยับย่น แต่เสียงที่ดังออกมายังคงกระแทกกระทั้นไม่น่าฟัง

ดังนั้นเขารีบกระแอมไอเสียงดัง ‘ฮึ่ม ฮึ่ม’ แก้ไขคำพูดของตน

 ข้าหมายถึง…มาไกลถึงขนาดนี้มีธุระอะไรหรือครับ 

 นั่นสิพ่ะย่ะค่ะ คงจะหมายความเช่นนั้นอยู่แล้ว 

รูลลักฉีกยิ้มเสียจนมองเห็นริ้วรอยรอบนัยน์ตาได้อย่างชัดพลางเอ่ยพูด

 สามปีแล้วสินะพ่ะย่ะค่ะ 

เจ้าตระกูลลอมบาร์เดียไม่เคยออกจากเขตแดนลอมบาร์เดียง่ายๆ และมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้โยบาเนสรู้สึกโล่งใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคอยเฝ้าระวังอยู่ไม่ห่าง

ชายชราคนนี้ทราบเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นในพระราชวังเป็นอย่างดี แต่ตนที่เป็นถึงจักรพรรดิกลับแทบไม่อาจล่วงรู้ได้เลยว่าภายในลอมบาร์เดียนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง

 ประมาณนั้นได้ครับ 

โยบาเนสพยายามทำใจให้สงบ เขานั่งลงบนที่นั่งตำแหน่งสูงสุดในขณะที่เอ่ยตอบ

 ที่ผ่านมาเติบโตขึ้นมากเลยนะพ่ะย่ะค่ะ 

แต่ก็สงบลงได้เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น คำพูดเพียงประโยคเดียวของรูลลักทำให้คิ้วเข้มได้รูปของโยบาเนสกระตุกหนึ่งครั้ง

ท่าทางที่ปฏิบัติกับตนราวกับจักรพรรดิของอาณาจักรเป็นเพียงแค่เด็กน้อยแถวบ้านที่ไม่ได้พบกันเสียนาน มันทำให้เขารู้สึกโกรธ

 ข้าผู้ชราคนนี้อยากมาพระราชวังหลายรอบแล้ว แต่คำที่ฝ่าบาทตรัสเอาไว้เมื่อครั้งสุดท้ายที่พบหน้า มันสลักอยู่ในใจจนต้องหันหลังกลับเมื่อมาถึงหน้าประตูวังน่ะสิพ่ะย่ะค่ะ 

 …หากใครมาได้ยินเข้า จะคิดว่าข้าข่มเหงเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียไม่ต่างอันใดจากเสด็จลุงได้นะครับ 

 พระองค์ตรัสไว้ว่า ‘หากเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียยังคงเข้าออกพระราชวังเหมือนเป็นบ้านของตัวเอง ข้าคงไม่มีหน้าเป็นผู้นำอาณาจักรได้ ถ้าอยากลากข้าลงจากบัลลังก์ ก็โผล่หน้ามาเข้าร่วมประชุมบ่อยๆ ดูสิ’ ไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ 

 อะแฮ่ม… 

โยบาเนสพูดอะไรไม่ออก

เขาต้องมีปฏิกิริยาเช่นนี้อยู่แล้ว เพราะนั่นเป็นคำที่ตัวเองเคยกล่าวไว้กับรูลลักจริงๆ

 คงเป็นเพราะตอนนั้นข้าทำงานหนักมากเกินไป… 

รูลลักหัวเราะโยบาเนสที่เอาแต่หาข้อแก้ตัวข้างๆ คูๆ ก่อนจะเอ่ยพูดต่อ

 ทั้งๆ ที่ที่ผ่านมาอดกลั้นมาได้ตลอดแท้ๆ แต่วันนี้จำเป็นต้องมาเข้าเฝ้าฝ่าบาทให้ได้ ขอทรงประทานอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ 

 …มีเรื่องอะไรกันแน่ครับ ถึงได้มาตั้งแต่รุ่งสาง 

ดูเหมือนว่าโยบาเนสเองก็จะอยากรู้จนไม่อาจทนได้ไหวเช่นกัน

การมารอถึงห้องทำงานโดยไม่ส่งสารมาแจ้งล่วงหน้าแบบนี้ สมกับที่เป็นรูลลัก แต่ก็ไม่สมกับที่เป็นรูลลักเหมือนกัน

 อาจจะฟังดูลามปามไปบ้าง แต่พระองค์ทราบหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ ว่าเจ้าชายลำดับที่สองเฟเรสตกอยู่ในสถานการณ์เช่นใด 

 เฟเรส 

ชื่อนั้นไม่คุ้นหูเสียจนขนาดพูดออกมายังกระดากปาก

กว่าจะตระหนักได้ว่านั่นคือชื่อโอรสของตนที่เขาลืมไปเสียนาน ก็ต้องใช้เวลาอยู่หลายวินาทีทีเดียว

 หากเป็นเด็กคนนั้น จักรพรรดินีคงจะคอยช่วยดูแลให้อย่างดีแหละครับ ที่เจ้าตระกูลมาที่นี่วันนี้เป็นเพราะเด็กคนนั้นหรือครับ 

เพราะเป็นเรื่องที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน โยบาเนสจึงเอียงคอด้วยความงุนงง

 กระหม่อมขอถามฝ่าบาทสักเรื่อง พระองค์เชื่อว่าจักรพรรดินีจะดูแลเจ้าชายลำดับที่สองได้เป็นอย่างดี ถึงได้ฝากฝังให้เป็นคนเลี้ยงดูหรือพ่ะย่ะค่ะ 

ถึงแม้จะพูดกับจักรพรรดิโดยใช้คำสุภาพอ่อนน้อม แต่กับจักรพรรดินีรูลลักไม่เคยทำเช่นนั้น

มันเป็นวิธีการของเหล่าเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียในทุกรุ่น ที่มักจะแสดงจุดยืนในฐานะของพวกเขาออกมาให้เห็น ว่าคนพวกนั้นกับพวกเขาอยู่คนละระดับชั้นกัน

โยบาเนสตอบด้วยความโมโห เพราะในน้ำเสียงของรูลลักนั้นทำราวกับต้องการตำหนิตน

 นี่ตอนนี้คิดที่จะเข้ามายุ่งกระทั่งเรื่องภายในราชวงศ์เลยหรือครับ 

เทียบกับอดีตจักรพรรดิแล้ว โยบาเนสเป็นจักรพรรดิที่อ่อนน้อม ไม่เคยแสดงท่าทางเป็นศัตรูอย่างเปิดเผยกับลอมบาร์เดียแต่อย่างใด ทว่าดูเหมือนเมื่อเป็นเรื่องผู้สืบทอดบัลลังก์ของตัวเองจะเกินขอบเขตความอดทนของโยบาเนสไปเสียหน่อย

 กระหม่อมไม่ได้กล่าวเช่นนี้เพื่อจะพูดคุยเรื่องความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูโอรสกับฝ่าบาทหรอกพ่ะย่ะค่ะ ในราชวงศ์ของเช่นนั้นมันจะไปมีประโยชน์อันใดได้ เพียงแต่… 

รูลลักส่ายหน้าคล้ายกับรู้สึกสมเพชเล็กน้อย

 เมล็ดพันธุ์ที่ฝ่าบาทเป็นผู้หว่าน ไม่ควรจะกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ฝ่าบาทต้องกลายเป็นหุ่นเชิดไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ 

 ทำให้ข้าเป็น…หุ่นเชิด? 

โยบาเนสเริ่มซีเรียสขึ้นมาแล้ว

 นั่นหมายความว่ายังไงกันครับ ช่วยอธิบายด้วย 

รูลลักยิ้มผ่อนคลายให้โยบาเนสที่เริ่มรู้สึกร้อนรนขึ้นมา เขาพูดต่อ ทว่าคำพูดที่หลุดออกมาจากปากกลับไม่ได้ฟังเบาสบายไปด้วยเลยแม้แต่น้อย

 มีข่าวมาแจ้งว่าตระกูลอังเกนัสตัดกำไรที่ได้จากเขตแดนในปีนี้ลงครึ่งหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ 

 ครึ่งหนึ่งรึ 

ความจริงที่ตระกูลอังเกนัสของจักรพรรดินีเลี่ยงภาษีในระดับหนึ่งนั้น สำหรับโยบาเนสแล้วมันไม่ใช่ข่าวใหม่แต่อย่างใด

แต่ความจริงที่ว่าปริมาณที่หลบเลี่ยงไปนั้นมีมากกว่าครึ่ง มันทำให้เขาต้องตกตะลึง

 แต่ยังมีอีกเรื่องที่ฝ่าบาทคงจะต้องให้ความสนใจเพิ่มเสียหน่อยพ่ะย่ะค่ะ 

 เรื่องอะไรหรือครับ 

 คนที่ค้นพบว่าในรายการภาษีมีจุดผิดปกติได้ทำการรายงานให้เจ้าหน้าที่ทราบ แต่น่าแปลกที่ไม่มีใครดำเนินการอะไรเลยพ่ะย่ะค่ะ 

มันเป็นอย่างที่รูลลักพูดจริงๆ

จักรพรรดิตกใจเป็นอย่างมาก สีหน้าของเขาซีดเผือดราวกับสีหลุดลอกไปจากใบหน้า

รูลลักไม่สนใจปฏิกิริยาของจักรพรรดิ เขายังคงราดน้ำมันต่อไป

 มันเป็นหลักฐานที่แสดงถึงความจริงที่ว่ามีคนจำนวนมากทำงานเพื่อตระกูลอังเกนัส ทั้งๆ ที่ได้รับเงินจากราชวงศ์ไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ 

แถมยังเทมันลงไปพรวดๆ เสียด้วย

 เรื่องที่ไม่จ่ายเงินภาษีอย่างเหมาะสม ก็ยังจะมองว่าเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยพอกล้อมแกล้มยอมปิดตาลงข้างหนึ่งได้อยู่หรอก เพียงแค่ถ้าหากข้าราชการประจำราชวงศ์เองก็ร่วมมือด้วยแล้วละก็… มิใช่ว่านี่หมายถึงอำนาจของฝ่าบาทถูกลิดรอนไปมากแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ 

 อืม… 

องค์จักรพรรดิปวดศีรษะจนต้องยกมือขึ้นนวดขมับ

รูลลักมองภาพนั้นราวกับกำลังรับชมละครเวทีสนุกๆ เรื่องหนึ่ง เขาโยนหินก้อนที่สองออกไป โดยหวังว่าคราวนี้จะก่อให้เกิดคลื่นยักษ์ในทะเลสาบ

 กระหม่อมยังมีอีกเรื่องที่ต้องขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ ไม่ทราบว่าพระองค์จำเหมืองแร่ที่ตั้งอยู่แถวแม่น้ำเซเบสได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ 

 …จำได้ครับ 

 เหมืองแร่เหล็กที่อดีตจักรพรรดิมอบหมายให้ลอมบาร์เดียของพวกเราไว้ใช้เตรียมการรับมือในกรณีฉุกเฉิน บุตรชายของข้าดันขายมันให้ตระกูลบาราพอร์ทเสียแล้วละพ่ะย่ะค่ะ 

 หากเป็นตระกูลบาราพอร์ท… 

 หนึ่งในตระกูลใต้บังคับบัญชาที่มีอยู่หยิบมือของอังเกนัสพ่ะย่ะค่ะ 

มันมีไว้สำหรับสถานการณ์ฉุกเฉินในกรณีที่ตระกูลดิวเรลลี่ถูกขับไล่ลงจากบัลลังก์ พระองค์จึงได้แอบลักลอบแบ่งทรัพย์สินของราชวงศ์ไปทีละน้อย แล้วฝากฝังมันไว้กับตระกูลลอมบาร์เดีย

ยกตัวอย่างเช่น ทองคำกว่าห้าพันแท่งที่เก็บซ่อนเอาไว้อยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของห้องนิรภัยธนาคารลอมบาร์เดีย

ภายนอกอาจจะเป็นที่รู้จักกันในฐานะ ‘เหมืองแร่เล็กๆ ที่ไม่มีค่าอะไร’ แต่ที่จริงใต้ดินเป็นเหมืองแร่เหล็กขนาดใหญ่เลยทีเดียว

มันเป็นการปฏิบัติตามคำสาบานที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่เนิ่นนานสมัยก่อนว่า ‘ดิวเรลลี่และลอมบาร์เดียจะไม่มีวันหันหลังให้กัน’

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท