เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 2 บทที่ 60.2

เล่ม 2 บทที่ 60.2

 ได้ยินว่าคราวนี้ก็ตระกูลชูลส์ซื้อที่ดินข้างๆ อีกแล้วใช่มั้ยคะ 

 ไม่รู้ว่ากว้านซื้อไปกี่ผืนแล้วนะคะเนี่ย 

 ตระกูลชูลส์เองก็ได้ใบบุญของตระกูลลอมบาร์เดีย ถึงได้เจริญรุ่งเรืองขึ้นแบบนั้นใช่มั้ยล่ะคะ 

คำพูดนั้นตั้งใจจะหยอกเย้าให้ฟีเรนเทียอารมณ์ดี

ถึงแม้เธอจะยังไม่ได้เปิดตัวในสังคมอย่างเป็นทางการ แต่พวกหญิงสาวชนชั้นสูงต่างก็ไม่ยอมออกห่างข้างกายเธอกันเลย

 วันนี้เจ้าชายลำดับที่สองเองก็ได้รับการยอมรับจากฝ่าบาทแล้ว องค์จักรพรรดินีคงจะอารมณ์เสียไปพักใหญ่เลยนะคะ 

 จะแค่อารมณ์เสียเฉยๆ เหรอคะ คงจะไม่มีงานเลี้ยงในวังไปพักใหญ่เลยละค่ะ น่าเสียดายจัง 

 เจ้าชายลำดับที่หนึ่งจะทำยังไงนะคะ คงต้องห้ามไม่ให้ลูกชายโผล่หน้าไปลานล่าสัตว์สักระยะแล้วละค่ะเนี่ย 

 ใช่ค่ะ เกิดไปทำให้เจ้าชายลำดับที่หนึ่งอารมณ์เสียขึ้นมา… 

นี่คือสังคมชั้นสูงที่เธอเคยแต่ได้ยินคนเขาพูดถึงกันอย่างนั้นเหรอ

แม้แต่เรื่องราวของจักรพรรดินีที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ยังพูดกันได้อย่างไม่ลังเล

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติเสียด้วย ผู้คนรอบด้านถึงได้เริ่มพูดความเห็นของตัวเองกันทีละประโยคสองประโยค ส่วนผู้คนที่รายล้อมอยู่รอบตัวเธอต่างก็สนทนากันไม่หยุด

ตอนแรกก็คิดว่าดีอยู่หรอกที่ได้ฟังข่าวซุบซิบในแวดวงชั้นสูง แต่ฟังเยอะๆ เข้าตอนนี้เริ่มรู้สึกปวดหูแล้วน่ะสิ

เรื่องที่จักรพรรดินีกับอาสทาน่าเป็นพวกนิสัยเลวทราม เป็นเรื่องที่เธอเองก็รู้ดีอยู่แล้วด้วย

 คุณหนูฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย 

เสียงใหม่เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นตัดบทสนทนา

เขาคือผู้ดูแลประจำพระราชวัง

 เชิญคุณหนูที่ชั้นบนครับ 

ไม่ว่าจะงานเลี้ยงงานไหนก็มักจะมีกลุ่ม ‘วงใน’ ที่มักจะแยกตัวไปรวมกลุ่มกันในที่แห่งหนึ่ง เพื่อพูดคุยสนทนากันเฉพาะกลุ่มทั้งนั้น

ปกติแล้วเจ้าภาพงานเลี้ยงจะเรียกตัวคนกลุ่มหนึ่งไปยังสถานที่ที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวกว่าโถงงานเลี้ยง ชอบสนทนากันอย่างเงียบๆ สำหรับงานวันนี้ดูเหมือนจะเป็นชั้นบนสินะ

ฟีเรนเทียลุกขึ้นจากที่นั่งในขณะที่รับสายตาอิจฉาจากเหล่าคุณหนูรอบตัว

 ขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในวันนี้นะคะ ครั้งหน้าหากข้าเปิดตัวในสังคมอย่างเป็นทางการ ก็ขอฝากตัวด้วยนะคะ 

 แหม ได้แน่นอนค่ะ มันแน่นอนอยู่แล้ว… 

 ก่อนจะถึงตอนนั้นก็มาร่วมงานเลี้ยงบ้างเป็นครั้งคราวสิคะ! 

 เป็นเกียรติของพวกเราต่างหากค่ะที่ได้ชมชุดเดรสงดงามของคุณหนู 

เธอหันหลังให้กับผู้คนที่แย่งกันพูดพร้อมกับรอยยิ้มแสนหวาน ก่อนจะปลีกตัวเดินตามผู้ดูแลประจำพระราชวังออกไป

ผู้ดูแลพาเธอขึ้นมายังห้องชั้นสองตามที่เธอคาดการณ์เอาไว้ ก่อนจะเอ่ยพูดอย่างนอบน้อม

 กรุณารอสักครู่นะครับ 

ฟีเรนเทียถูกทิ้งเอาไว้อยู่บนทางเดินกับอัศวินสองนายที่ยืนเฝ้าประตูอยู่

และในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้

เธอหันหลังกลับไปมองเพื่อดูว่าอีกฝ่ายคือใคร

อา หมอนี่โผล่มาที่นี่ทำไมเนี่ย

 เฮ้ 

เจ้าของเสียงไร้มารยาทคืออาสทาน่านั่นเอง

เด็กนี่ตอนนี้อายุสิบสี่ปีแล้ว เขาโตขึ้นมากจนดูใกล้เคียงกับภาพลักษณ์อันธพาลในความทรงจำของเธอ

เด็กหนุ่มห้อยดาบสำหรับใช้ป้องกันตัวไว้ที่เอว จงใจแสดงออกให้คนอื่นรู้อย่างชัดเจนว่าเจ้าตัวเรียนฟันดาบ แต่สภาพเขากลับเหมือนพวกดีแต่ท่า ชอบทำตัวกร่างไปทั่วซอยมากกว่า

เธอแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน ยืนรอให้ประตูเปิดออก

 เฮ้ ยายเลือดผสม 

คงจะกลัวคนไม่รู้ว่าเป็นแฝดวิญญาณกับเบเลซักสินะ

คำศัพท์ที่ไม่ได้ยินมาเสียนานทำให้สีหน้าของเธอบิดเบี้ยวไม่น่ามอง

 อะไรกัน เห็นว่ามารดาเจ้าเป็นคนเร่ร่อนชั้นต่ำ แต่เรียก ‘ยายเลือดผสม’ แล้วกลับหัวเสียสุดๆ ท่าทางจะเป็นเรื่องจริงสินะ ยายเลือดผสม? 

ฟีเรนเทียยังคงมองตรงไปข้างหน้า เมินเฉยหมอนี่

 ไม่รู้จักเกรงกลัวเจ้าชายบ้างเลยหรือไง! 

อาสทาน่าคว้าไหล่ของเธอ หมุนตัวเธอกลับมามองเขาอย่างแรงจนไหล่เธอเจ็บไปหมด

พวกอัศวินเองก็ผงะเมื่อเห็นพฤติกรรมรุนแรงของเจ้าชาย แต่กลับไม่มีใครเข้ามายุ่ง พวกเขาเพียงแค่จับตามองพวกเราด้วยใบหน้าตึงเครียดเท่านั้น

 ปล่อยไหล่หม่อมฉันด้วยเพคะเจ้าชาย 

 หึ 

พอเห็นเธอต่อต้านเสียงเย็นชา อาสทาน่าก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์น่ารังเกียจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น

 แต่ยังไงก็รู้จักเรียนที่จะใช้คำราชาศัพท์บ้างแล้วสินะ 

ท่าทางจะพูดถึงเรื่องเมื่อสมัยตอนที่เธอเหยียบแล้วจงใจเตะหมวกของเขาไปไกลอยู่ละมั้ง

 เวลาผ่านไปนานมากแล้ว เพราะฉะนั้นก็ปล่อยวางได้แล้วกระมังเพคะ 

 ไม่ ข้าไม่ถูกใจแววตาหยิ่งยโสของเจ้า แล้วจะทำไม ยายเลือดผสม? ที่นี่คือพระราชวังแล้วเจ้าจะทำอะไรได้ 

อาสทาน่าบีบไหล่เธอแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเธอยิ่งรู้สึกปวดมากขึ้น นัยน์ตาของเขากำลังสื่อแบบนั้น

เธอปัดมือของอาสทาน่าอย่างแรงจนเกิดเสียงดังเพียะ

 นี่เจ้า! เป็นแค่นังเลือดผสมชั้นต่ำกล้าดียังไง! 

คำนั้นหลุดออกมาจากปากอีกแล้วนะ

เลือดผสม

‘ใครเขาหลบก้อนอึเพราะหวาดกลัวกันล่ะ เขาหลบเพราะมันสกปรกต่างหาก’ เธอตั้งใจจะหลบเลี่ยงไม่พาตัวเองเข้าไปพัวพันกับอาสทาน่าด้วยความคิดเช่นนั้นแล้วแท้ๆ

รู้สึกได้ว่าความอดทนของเธอถึงขีดจำกัดแล้วจริงๆ

และ แควก

เพราะเด็กนี่ดึงชุดของเธออย่างแรง ทำให้ผ้าไหมที่ลอรีลทุ่มเทแรงกายช่วยเย็บตกแต่งให้ฉีกขาดออกจากชุดเดรสของเธอ

แกตายแน่!

เธอถลึงตาจ้องอาสทาน่าเขม็งก้าวถอยหลังทั้งๆ ที่ยังถูกคว้าเสื้อเอาไว้แบบนั้น

โดยที่อาสทาน่ายังคงจับชุดของเธอแน่นไม่ยอมปล่อย

 โอ๊ะ? 

อาสทาน่าตกตะลึงทั้งๆ ที่ยังมีสีหน้าโง่เขลา

สายเกินไปแล้ว เจ้าโง่

เธอกระแทกหลังของตัวเองด้วยแรงทั้งหมดที่มีเข้ากับประตูที่ถูกปิดไว้ด้วยสภาพที่อาสทาน่าดึงชุดของเธออยู่แบบนั้น

โครม!

เสียงสนั่นดังขึ้นพร้อมกับประตูที่เคยถูกปิดได้ถูกเปิดออก เธอกับอาสทาน่าต่างก็กระเด็นเข้าไปข้างในห้อง

 เทีย! 

ได้ยินเสียงตกใจของท่านพ่อดังขึ้นจากข้างหลัง

และ ครืด เสียงเก้าอี้หลายตัวเสียดสีเข้ากับพื้นห้อง

มองจากอาสทาน่าที่ใบหน้าแดงก่ำเพราะเพิ่งประเมินเหตุการณ์ตอนนี้ออกแล้ว ช่วยทำให้เธอเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้านหลังของเธอออกได้อย่างชัดเจน

เอาละ งั้นก็มีพยานเรียบร้อย

ฟีเรนเทียปัดมือของอาสทาน่าที่ยังจับไหล่เธอไว้ออก ทำให้เขากระเด็นถอยหลังไปเหมือนถูกผลัก

 นะ…นังนี่…! 

อาสทาน่าตั้งใจจะพูดอะไรบางอย่างด้วยความโมโห แต่เธอชิงพูดขึ้นก่อน

 จำคำที่ปู่พูดให้ดี แค่เตะด้วยเท้าเสีย 

เธอเป็นหลานสาวนิสัยดีผู้เชื่อฟังคำสั่งของท่านปู่

เธอสาวเท้าก้าวเข้าไป เตะเข้าที่หน้าแข้งของอาสทาน่าด้วยแรงทั้งหมดที่มี

 อ๊าก! 

อาสทาน่ากำลังสับสนจนไม่ทันได้หลบเท้าของเธอ เขายกมือขึ้นกุมหน้าแข้งของตัวเอง ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ

 อะ เจ้าชาย! 

อัศวินนายหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูตกใจรีบเข้ามาช่วยพยุง

แต่อาสทาน่ากลับสบถสาปส่ง ผลักอัศวินคนนั้นออกอย่างแรง ชักดาบออกมา

ชิ้ง

เสียงน่าขนลุกดังขึ้น พร้อมกับดาบที่ถูกชักออกมาชี้มาที่เธอ

 ข้าจะฆ่าเจ้า! 

อาสทาน่าตะโกนเสียงดัง นัยน์ตาของเขาแดงก่ำแสดงให้เห็นว่าขาดสติไปแล้วโดยสมบูรณ์

แต่หมอนี่ก็ต้องหยุดชะงักไม่อาจก้าวเข้ามาใกล้เธอได้แม้แต่ก้าวเดียว

เคร้ง

เพราะจู่ๆ ก็มีดาบอีกเล่มโผล่ขึ้นมาขวางเขาเอาไว้อย่างแม่นยำ

 หากไม่อยากโดนฟัน ก็วางดาบนั่นลงซะ 

เป็นเฟเรสนั่นเอง

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท