เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 2 บทที่ 58.1

เล่ม 2 บทที่ 58.1

บทที่ 58

 ฮ่าฮ่าไม่เปลี่ยนไปเลยนะครับ ท่านป้า 

ท่านพ่อยิ้มอย่างคนพ่ายแพ้

 แน่นอนสิ คนแก่เปลี่ยนไปง่ายๆ มีที่ไหนกัน 

ท่านหญิงเซอเชาว์เองก็มีสีหน้าหยอกล้อเล่นมุกกับท่านพ่อ

 พี่น้องของเจ้าไม่มาร่วมงานด้วยหรือ 

เบเจอร์กับลอเรนซ์ไม่มาเข้าร่วมงานเลี้ยงในวันนี้

ได้ยินว่าระยะหลังมานี่ ทั้งสองคนกำลังยุ่งอยู่กับการร่วมมือกันลองทำธุรกิจใหม่

แน่นอนว่ายังไม่มีใครทราบว่าธุรกิจที่ว่านั่นคือกิจการใด

ชานาเนสอยากจะมาร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน แต่สองแฝดดันป่วยเป็นไข้พร้อมกันทั้งคู่ ทำให้ไม่อาจมาร่วมงานได้แต่ก็ยังส่งกระดุมสำหรับตกแต่งซึ่งเข้ากับชุดที่ท่านพ่อสวมมาวันนี้ให้แทน

 ฮ่าฮ่า พวกเขายุ่งกันอยู่ไม่ใช่หรือครับ 

ท่านพ่อตอบเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ท่านหญิงเซอเชาว์กลับเดาะลิ้นเสียงดังจิจ๊ะในลำคอ

 ตั้งแต่เด็กก็ไม่เอาไหนอยู่แล้ว พี่ชายของเจ้าน่ะ ลอเรนซ์เจ้าโง่นั่นเอาแต่ยุ่งอยู่กับการเกาะขากางเกงของเบเจอร์ ไล่ตามต้อยๆ 

 อย่างนั้นหรือครับ 

 ใช่ เบเจอร์เองก็เป็นพวกโลภมากเหลือเกิน เคยกระทั่งยัดคุกกี้ส่วนที่ต้องมอบให้เจ้ากับลอเรนซ์ยัดใส่ปากในคราวเดียวจนคางยื่นด้วยนะ เป็นพวกโลภเสียจนท้องแตกก็คงยังไม่รู้ตัว 

 อุ๊ปส์! 

ให้ตายเถอะ เผลอหลุดหัวเราะออกไปซะเสียงดังเลย

 ฮึ่ม อะแฮ่ม! 

เธอรีบกระแอมไอแสร้งทำเป็นไม่ได้หัวเราะอะไร แต่แววตาของท่านหญิงเซอเชาว์ช่างร้อนแรงเหลือเกิน

ท่านหญิงเป็นคนไม่ชอบพวกไร้มารยาทหรือพวกบุ่มบ่ามเลือดร้อนเป็นไฟ

รู้สึกเหมือนหยาดเหงื่อไหลท่วมแผ่นหลัง

เธอรีบเอ่ยพูดกับท่านพ่อ

 ข้าขอไปเดินเล่นในงานหน่อยได้มั้ยคะ 

 หืม เอาสิ เทียของพ่อคงจะเบื่อแล้วสินะ ยังไงก็อย่าไปที่มืดๆ อยู่แต่ในโถงงานเลี้ยงนี้เท่านั้นล่ะ 

 ค่ะ พ่อ! 

เธอไม่ลืมกล่าวลาท่านหญิงเซอเชาว์อย่างสุภาพ แล้วเดินมุ่งไปทางอื่น

คงต้องใช้กลยุทธ์ล่าถอยเสียก่อน

 เทียของพวกเรางดงามมากเลยไม่ใช่หรือครับ ท่านป้า 

เบทริกซ์ เซอเชาว์มองแคลอฮันที่กำลังยิ้มเหมือนเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปี ในขณะเดียวกันนางก็รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย

ช่วงวัยเยาว์ ความสัมพันธ์ระหว่างเบทริกซ์กับนาตาเลียนั้นค่อนข้างสนิทสนมกันเป็นพิเศษ

ถึงแม้ความสัมพันธ์ของพวกนางจะเป็นพี่สะใภ้กับน้องสาวของสามีที่อาจจะกระอักกระอ่วนใจกันได้ แต่ทั้งคู่กลับใกล้ชิดกันมากจนเหมือนพี่สาวน้องสาวที่คลานตามกันมาจริงๆ

นาตาเลียเป็นฝ่ายจากโลกนี้ไปก่อน ใบหน้าที่นางแสนอาลัยนั้นเริ่มจางหายไปจากความทรงจำ ทำให้นางรู้สึกอ้างว้างเหลือเกินแต่ภาพลักษณ์อันแสนอ่อนโยนของนาตาเลียกลับยังคงมีชีวิตอยู่ราวกับโกหกยามนางมองใบหน้ายามยิ้มแย้มของแคลอฮัน

แคลอฮันได้รับนิสัยนุ่มนวลและค่อนข้างเงียบไม่พูดไม่จามาจากนาตาเลีย ทำให้นางเป็นกังวลอยู่เรื่อยว่าเขาจะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางพี่น้องที่มีนิสัยรุนแรงพวกนั้นได้หรือเปล่า

 ดูเอื่อยเฉื่อยไม่น่ามองเท่าไหร่ 

 อย่างนั้นหรือครับ แต่ออกจะน่ารักนะครับ… 

ในนัยน์ตาของแคลอฮันยามมองศีรษะทุยของลูกสาวที่เดินห่างออกไปไกลนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่

 ข้าไม่ได้พูดเพราะนางเป็นลูกสาวหรอกนะครับ เทียน่ะเป็นเด็กที่ฉลาดมากจริงๆ ครับ อันที่จริงชุดที่สวมมาวันนี้เทียก็เป็นคนตกแต่งด้วยตัวเอง ติดอัญมณีตามที่นางต้องการ และก็เสริมแต่งด้วยผ้าชนิดอื่นเข้าไปด้วยน่ะครับ 

 โอ้ว อย่างนั้นหรือ 

นัยน์ตาเต็มไปด้วยริ้วรอยของเบทริกซ์หันไปมองเดรสของฟีเรนเทียอีกครั้ง

ในสายตาของนาง มันเป็นชุดที่งดงามและมีเสน่ห์มากจนทำให้ต้องเผลอมองตามอยู่เรื่อย

เรียกได้ว่านางเองก็ตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ถามชื่อของคนที่ดีไซน์เสื้อผ้าชุดนั้นอยู่เหมือนกัน

แต่เด็กที่เพิ่งจะอายุได้สิบเอ็ดปีกลับเป็นคนต้นคิดอย่างนั้นหรือ

ท่านหญิงเซอเชาว์มองภาพของฟีเรนเทียที่หายเข้าไปด้านในระเบียงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตั้งใจพูดหยอกล้อ

 มีเซ้นส์ด้านความสวยความงามไม่เหมือนบิดา ค่อยโล่งอกหน่อยนะ 

 ทะ…ท่านป้า! ข้าไม่มีเซ้นส์ตรงไหน… 

เบทริกซ์กวาดสายตาไล่มองแคลอฮันจากบนลงล่างด้วยนัยน์ตาไม่พอใจแทนคำตอบ

 เกิดมาหน้าตาดีขนาดนั้น แต่กลับไม่อาจดึงเอาจุดเด่นนั่นมาใช้ แล้วยังจะพูดมากอีก 

ใบหน้าของแคลอฮันขึ้นสีแดงเรื่อเล็กน้อย เขาเปลี่ยนหัวข้อกลับมาสนทนาเรื่องฟีเรนเทียต่อ

 ทุกคนต่างก็บอกว่าเทียเหมือนข้ามาก… 

 เด็กคนนั้นเนี่ยนะ 

ท่านหญิงแสยะยิ้ม

 คนอ่อนปวกเปียกอย่างเจ้าน่ะ แตกต่างจากเด็กนั่นตั้งแต่รากเหง้าแล้ว 

 แต่ยังไงก็เป็นลูกสาวข้านะครับ ถ้าไม่เหมือนข้า… 

 ชาห์นหรือเปล่านะ ชื่อแม่ของเด็กคนนั้น 

แคลอฮันเม้มปากแน่น

เวลาผ่านไปเนิ่นนานแล้วก็จริง แต่มันเป็นชื่อที่ยังคงทำให้เขาเจ็บปวดใจไม่เปลี่ยน

 ใช่แล้ว เด็กคนนั้นเหมือนแม่ของนางไม่มีผิด โดยเฉพาะนัยน์ตาแข็งกร้าวคู่นั้น 

นัยน์ตาสงบนิ่ง กระจ่างใส มีเป้าหมายชัดเจน เมินเฉยทุกสิ่ง

มันไม่ใช่นัยน์ตาที่เด็กอายุเพียงแค่สิบเอ็ดปีจะมีได้

แคลอฮันที่อ่อนแอแบบนี้ ทำไมถึงเลี้ยงเด็กคนนั้นให้โตขึ้นมาเป็นแบบนั้นได้กันเป็นเรื่องที่แม้แต่ท่านหญิงเซอเชาว์เองก็ยังรู้สึกสงสัยอยู่ในใจ

 เชซายูไม่ใช่ที่ดินที่ใหญ่อะไรขนาดนั้นหรอก แต่รอบข้างมีแม่น้ำและภูเขาใหญ่ เป็นผืนดินที่อุดมสมบูรณ์มากพอทำให้ครอบครัวหนึ่งไม่ขาดแคลนเรื่องอาหารการกินเท่านั้นเอง 

ท่านหญิงพูดราวกับเชซายูเป็นแค่สวนเล็กๆ ในชนบท

เชซายูเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการคมนาคมที่เชื่อมต่อตั้งแต่อาณาจักรแลมบลู ผ่านตอนกลางของทวีป ลากยาวไปถึงทางตอนใต้ เป็นทั้งทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ซึ่งเป็นอู่ข้าวอู่น้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุณหภูมิอบอุ่น

ไม่ต่างอะไรจากเซอเชาว์เฉือนเนื้อชิ้นใหญ่แบ่งให้แคลอฮัน

 เดิมทีที่ดินผืนนั้นตั้งใจจะมอบให้นาตาเลียไว้เป็นสินเดิม แต่เพราะอดีตจักรพรรดิไม่ต้องการให้เขตแดนของลอมบาร์เดียเพิ่มมากขึ้นไปกว่านั้น ทำให้มันมาตกอยู่ในการครอบครองของเซอเชาว์แทนน่ะ 

 เรื่องนั้น…ไม่ทราบเลยครับ 

 บิดาของเจ้าเองก็ไม่ได้มีนิสัยพูดจาซอกแซกไปทั่ว ในเมื่อตอนนี้เจ้าเองก็มีเขตแดนในครอบครองแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจใครอีก 

ไหล่ของแคลอฮันสั่นสะท้านเล็กน้อย

 อย่างไรเบเจอร์ที่เป็นบุตรชายคนโตก็คงตั้งใจจะเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปสินะ ดังนั้นหากถึงตอนนั้น เจ้าก็พาบุตรสาวมายังเชซายูเสีย อย่างไรทางใต้ที่อบอุ่นก็เหมาะจะให้เด็กเติบโตมากกว่าอยู่แล้ว 

 ขอบคุณ…มากจริงๆ ครับ ท่านป้า 

แคลอฮันโค้งศีรษะขอบคุณ

เสียงพูดเจือเสียงหัวเราะของท่านหญิงเซอเชาว์ปักเข้าลงบนกลางศีรษะของแคลอฮันที่โค้งลงมา

 ไม่ได้ให้ฟรีๆ หรอกนะ 

 …ครับ? 

 หากรู้สึกขอบใจกันละก็ เปิดสาขาร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันที่เซอเชาว์ด้วยล่ะ 

แคลอฮันกะพริบตาปริบๆ

 เซอเชาว์ที่มีทั้งห้องเสื้อ ทั้งผ้าทอเติบใหญ่แพร่หลาย ย่อมต้องเหมาะสมกว่าที่ดินของเจ้าพวกนั้นอยู่แล้ว ไม่คิดเช่นนั้นหรือ 

แคลอฮันไม่อาจตอบอะไรออกไปได้ง่ายๆ เขาได้แต่หัวเราะ ‘ฮ่าฮ่า…’ ด้วยความลำบากใจ

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท