เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 2 บทที่ 57.2

เล่ม 2 บทที่ 57.2

เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แต่ก็ช่วยไม่ได้อยู่ดีที่ยังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

นั่นไงว่าแล้วเชียว

สายตาของท่านหญิงเซอเชาว์จับจ้องอยู่ที่เธอ

 อ๊ะ! เด็กคนนี้คือบุตรสาวของข้า ฟีเรนเทียครับ นางคือย่าสะใภ้ของลูกน่ะ 

 สวัสดีค่ะ ท่านหญิงเซอเชาว์ ข้าฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดียค่ะ 

ท่านหญิงเซอเชาว์เป็นคนภูมิใจในตัวเองสูง เพราะท่านลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

เพราะฉะนั้นเธอเลยคิดว่าการเรียกแทนตัวอย่างเป็นทางการนั้น น่าจะดีกว่าการเรียกแทนตัวแบบญาติมิตร

โล่งอกที่ท่านหญิงเซอเชาว์เองก็ดูเหมือนจะพอใจแบบนี้มากกว่า นางยิ้มจางในขณะที่พยักหน้ารับรู้และกวาดสายตามองชุดที่เธอสวมอยู่

อาจจะดูธรรมดา แต่นัยน์ตาสีน้ำตาลดุร้ายคู่นั้นกำลังเปล่งประกายด้วยความสนใจ

 โอ้ว ชุดนี่ช่างเหมาะกับเจ้ามากเหลือเกินนะ 

 ขอบคุณที่ชมค่ะ ท่านหญิงเซอเชาว์ ชุดนี้เป็นชุดจากร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันค่ะ 

 นี่คือเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ได้ยินคนเขาลือกันอย่างนั้นหรือ 

นัยน์ตาของหญิงชราเบิกกว้าง

 จะ จะเรียกว่าเสื้อผ้าสำเร็จรูปก็คงจะเกินไปเล็กน้อยครับ ลูกสาวบอกว่าอยากจะสวมใส่ชุดที่ข้าทำขึ้นมาร่วมงานเลี้ยงวันนี้ ข้าจึงตัดเย็บขึ้นมาแล้วลูกสาวก็ตกแต่งมันด้วยเครื่องประดับมากมาย จึงแตกต่างไปจากเสื้อผ้าสำเร็จรูปธรรมดามากครับ 

ท่านพ่อโบกมือทั้งสองข้างเป็นพัลวัน รีบอธิบายอย่างร้อนรน

 ชุดนี่เด็กคนนี้เป็นคนตกแต่ง 

ท่านหญิงเซอเชาว์จ้องเธอเขม็ง

 ถูกใจมั้ยคะ ท่านหญิง 

ฟีเรนเทียเอ่ยถามด้วยความกระวนกระวาย

 …อืม ใช่ เป็นเดรสที่งามมากจริงๆ 

ว่าแล้วเชียว

ถึงจะกังวลนิดหน่อยเหมือนกัน แต่โล่งอกที่มันได้ผลอย่างที่คาดไว้

ที่จริงแล้ว สไตล์แบบนี้ที่เย็บผ้าไหมปักลวดลายหรูหราตามขอบชุดนี่ มันเป็นเทรนด์ที่ท่านหญิงเซอเชาว์เป็นคนคิดค้นขึ้นในชาติที่แล้วเพราะมันเป็นเทรนด์ที่จะถูกคิดค้นในอีกประมาณสามถึงสี่ปีหลังจากนี้ เธอเลยไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะใช้ได้ผลหรือเปล่า

แต่ดูจากที่ไม่อาจละสายตาออกไปจากเดรสของเธอได้ ก็คงจะถูกใจมากทีเดียว

 ใช่แล้ว หากนำเสื้อผ้าสำเร็จรูปมาตกแต่งแบบนี้ ก็จะได้เสื้อผ้าหลากหลายสไตล์เลยสินะ 

ท่านหญิงเซอเชาว์ลูบเนื้อผ้าชุดเดรสที่เธอสวมอยู่โดยไม่รู้ตัวพลางเอ่ยพึมพำไปมา

จู่ๆ ตัวตนของเธอก็กลายเป็นเหมือนหุ่นโชว์เสื้อผ้าเสียได้ แต่เธอไม่สนใจเรื่องนั้นหรอก

ในเมื่อเธอใส่ชุดนี้มาก็เพราะตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้ ต้องขอบคุณด้วยซ้ำไป

 ผ้าไหมที่ผลิตจากเซอเชาว์ของข้าน่าจะผสานกันได้ดีกับเสื้อผ้าสำเร็จรูปทีเดียวนะ คิดอย่างไรล่ะ แคลอฮัน 

ท่านหญิงเซอเชาว์เอ่ยถามท่านพ่อ

 อา คือเรื่องนั้น… 

ท่านพ่อกำลังครุ่นคิดคำพูดที่จะใช้

แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งเอ่ยแทรกบทสนทนาขึ้นมา

 อัญมณีที่ติดอยู่บนชุดนี้เป็นอัญมณีจากเขตแดนของข้าเอง ท่านหญิงเซอเชาว์ 

เขาคือเจ้าตระกูลไอบันเจ้าของเคราสีเทา เจอโรม ไอบัน

 เจ้าตระกูลไอบันมาทำอะไรถึงเมืองหลวงกันล่ะ 

 ท่านหญิงเซอเชาว์จากทางใต้ยังเคลื่อนไหว แล้วการที่ข้ามาที่นี่จะเป็นเรื่องใหญ่อันใดได้ 

 การเดินทางบนทุ่งหญ้ากับการลำบากข้ามแม่น้ำข้ามภูเขาย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว 

ท่านหญิงเซอเชาว์กับเจ้าตระกูลไอบันโต้เถียงกันไปมา

 ทุกท่านอยู่กันที่นี่นี่เองครับ 

คราวนี้คือเจ้าตระกูลรูมันจากตะวันออก

ยกเว้นอังเกนัสจากทางตะวันตก ผู้ปกครองดินแดนแถบอื่นต่างก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่

ท่านพ่อถูกพลังของทั้งสามคนกดทับจนหอบแฮก ราวกับหากปล่อยไว้แบบนี้คงได้ขาดอากาศหายใจตายกันพอดี ส่วนชนชั้นสูงรอบๆ ต่างก็เดินวนเวียนอยู่ในละแวกนั้น เพื่อที่จะลอบฟังบทสนทนาระหว่างพวกเขา

เจ้าตระกูลรูมันซึ่งมาเป็นคนสุดท้ายเอ่ยถามท่านพ่ออย่างตรงไปตรงมา

 ใช่แล้วละได้ยินว่าคราวนี้ร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันวางแผนจะออกจากภาคกลางไปเปิดสาขาที่อื่นด้วยนี่นะ 

ที่ผ่านมาร้านขายเสื้อผ้าได้เปิดสาขากระจายออกไปยังเมืองใหญ่ เมืองรอบข้าง เมืองลอมบาร์เดีย และเมืองหลวงซึ่งทั้งหมดล้วนตั้งอยู่ในภาคกลางเท่านั้น

และคราวนี้ก็กำลังมองหาเมืองอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในภาคกลาง

ดูเหมือนข่าวลือจะแพร่ไปทั่วแล้ว

 คนที่ดูแลเรื่องนั้นที่จริงแล้วไม่ใช่ข้า… 

ท่านพ่อเหงื่อไหลท่วมในขณะที่เอ่ยพูด

 อ๊ะ! อยู่นั่นนี่เองครับ คุณเครย์ลีบัน! 

เครย์ลีบันกำลังเดินมาทางด้านนี้พอดี เขากล่าวทักทายอย่างนอบน้อม

ภาพลักษณ์ยามสวมเสื้อคลุมผ้าไหมเข้ารูปสีน้ำเงินเข้มช่างเข้ากันได้ดีกับงานเลี้ยงหรูหรานัก

 เครย์ลีบัน เพลเลสครับ 

ท่านพ่อแนะนำเครย์ลีบันให้เจ้าตระกูลทั้งสองท่านรู้จัก

 เขาเป็นคนที่คอยช่วยดูแลการติดต่อค้าขายภายนอกที่ข้ายังไม่ชำนาญนัก และคนที่ลงมือทำงานของร้านขายเสื้อผ้าจริงๆ ก็คือคุณเครย์ลีบันคนนี้ หากมีคำถามอะไรก็… 

พูดให้ถูกต้อง คนที่ลงมือทำงานตัวจริงเป็นเธอกับเครย์ลีบันต่างหากล่ะ แต่ช่างเถอะ

ในเมื่อคนอื่นไม่รู้ถึงการมีตัวตนของเธอ ช่วงนี้คุณค่าของเครย์ลีบันจึงยิ่งกำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

 โฮ่ว อย่างนั้นนี่เอง งั้นพวกเราไปดื่มไวน์องุ่นด้วยกันทางด้านนั้นสักแก้ว… 

 ข้ามีไวน์กุหลาบชั้นเลิศที่นำมาจากรูมันด้วยนะ 

เจ้าตระกูลไอบันกับเจ้าตระกูลรูมันรีบพุ่งเข้าหาเครย์ลีบันอย่างรวดเร็ว

การประชุมทางธุรกิจจึงเริ่มทันทีมันเสียตรงนั้น

รายละเอียดว่าพวกเขาพูดคุยเรื่องอะไรกันบ้าง ไว้เดี๋ยวเครย์ลีบันก็จะมาแจ้งให้เธอทราบทีหลังเอง ตอนนี้เธอเลยไม่ได้สนใจบทสนทนาของพวกเขานัก

พอผู้ปกครองเขตแดนอื่นๆ เข้ามาแทรก เหล่าคหบดีทั้งหลายในงานเลี้ยงที่กำลังเล็งจังหวะหาทางเข้าหา ต่างก็ไม่อาจแทรกตัวเข้ามายื่นให้ได้แม้กระทั่งนามบัตรทำได้เพียงแค่ยืนดื่มเหล้าเฝ้ามองอยู่ไกลๆ ด้วยความไม่พอใจเท่านั้น

มีเพียงแค่ท่านหญิงเซอเชาว์เท่านั้นที่ไม่เกาะติดเครย์ลีบัน

ทั้งยังเดินเข้ามาใกล้เธอกับท่านพ่อมากขึ้น แล้วเอ่ยพูด

 มาสนทนาเรื่องที่ดินเชซายูกันหน่อยมั้ยแคลอฮัน 

มันคือรอยยิ้มของผู้ชนะที่คิดวิธีการดีๆ ออก

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท