เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 2 บทที่ 69.2

เล่ม 2 บทที่ 69.2

ท่านหญิงเซอเชาว์มองชานาเนสที่นั่งอยู่ตรงหน้านาง

 ได้ยินข่าวลือเรื่องอาการป่วยของแคลอฮันแล้ว แต่นี่คือวิธีที่ลอมบาร์เดียปฏิบัติต่อตระกูลที่จะร่วมมือกันทำธุรกิจอย่างนั้นหรือ 

 ต้องขออภัยด้วยค่ะ ที่ไม่อาจแจ้งให้ทราบล่วงหน้าได้ 

ชานาเนสก้มศีรษะลงอย่างสุภาพ

ภาพนั้นยิ่งทำให้ท่านหญิงเซอเชาว์รู้สึกโมโหมากขึ้นไปอีก

 ไหนลองแก้ตัวมาสิ! แบบนี้คิดว่าข้าจะเชื่อใจแคลอฮัน ร่วมกันสร้างกิจการใหญ่โตได้หรือยังไง! 

 ท่านป้า 

หลังจากที่ชานาเนสเอ่ยเรียกท่านหญิงเซอเชาว์เสียงแผ่ว นางก็หยิบเอาจดหมายที่เก็บอยู่ในอกเสื้อออกมา

มันคือสารจากแคลอฮัน

ท่านหญิงเซอเชาว์เปิดมันออก แล้วก็ต้องหลุดเสียงร้องครางต่ำ

[ถึง ท่านป้าเบทริกซ์

ข้าคิดว่าป่านนี้คงจะทราบข่าวเรื่องของข้าแล้ว และก็คงกำลังจะโกรธเคืองกันอยู่ครับ

ข้าตั้งใจว่าจะแจ้งข่าวให้ทราบเมื่อถึงเวลา แต่หากทำเช่นนั้นคงกลายเป็นว่าข้าโกหกท่านป้าเสียแล้วน่ะสิครับ

เพื่ออนาคตของเทีย บุตรสาวของข้า ข้าถึงได้ตั้งใจว่าจะเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับ ไม่ให้ใครทราบให้ได้นานที่สุดครับ

แต่ในสถานการณ์ที่เรื่องราวทั้งหมดกลับแพร่ออกไปแตกต่างจากที่ตั้งใจไว้ ข้าจึงต้องบากหน้าขอร้องท่านป้าอย่างหน้าไม่อาย

ขอท่านป้าได้โปรดเชื่อใจข้า และรอคอยข้าอีกสักพักเถอะนะครับ

หากไม่อาจเชื่อใจข้าที่คิดปิดบังท่านป้า ก็ขอให้เชื่อใจคนที่ข้ามอบหมายไว้ใจให้นำสารฉบับนี้มาให้ด้วยเถอะครับ

ข้าจะพยายามเพื่อให้วันที่ข้าจะไปพบ และแจ้งข่าวดีให้ท่านทราบด้วยตัวข้าเองมาถึงนะครับ

จาก แคลอฮัน]

 เด็กเจ้าเล่ห์… 

นึกว่าเป็นเด็กทึ่มทื่อหัวอ่อนเสียอีก ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นจิ้งจอกเหมือนบิดาของเจ้าเสียแล้ว

เล่นทำตัวอ่อนน้อม เรียก ‘ท่านป้า’ แบบนี้ แล้วนางจะใจร้ายกับหลานชายที่กำลังป่วยได้ลงคอได้ยังไงกันล่ะ

ความโกรธเคืองเริ่มจางหายไปจากใบหน้าของท่านหญิงเซอเชาว์ นางเอ่ยถามชานาเนส

 ที่ว่าจะมาแจ้งข่าวด้วยตัวเอง มันหมายความว่ายังไงกัน 

 เรื่องนั้น… 

ชานาเนสพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกสับสนเอาไว้ถึงแม้จะไม่เผยความรู้สึกออกมา แต่นางเองก็กำลังพยายามทำความเข้าใจกับสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ได้เท่ากับท่านหญิงเซอเชาว์

ในตอนที่นางกำลังเตรียมตัวจะไปพบแคลอฮันหลังจากทราบข่าวว่าเขาเป็นโรคเทรนด์บลู ฟีเรนเทียก็แวะมาหานางและส่งสารของแคลอฮันให้ พร้อมกับขอร้องให้นางช่วยเดินทางมาหาท่านหญิงเซอเชาว์

‘ไม่ใช่ในฐานะพี่สาวของท่านพ่อ แต่ช่วยไปพบในฐานะชานาเนส ลอมบาร์เดียให้ทีนะคะ’ พร้อมกับคำขอร้องเช่นนั้น

 นักเรียนทุนคนหนึ่งของลอมบาร์เดียที่เป็นนักวิจัยได้คิดค้นยารักษาโรคเทรนด์บลูขึ้นมาได้พอดี และได้นำมันมาให้ค่ะ 

 ถ้าอย่างนั้นหมายความว่าแคลอฮันจะหายดีได้อย่างนั้นหรือ 

 กำลังรักษาตัวอยู่ค่ะ 

เรื่องไม่อาจโกหกคนอื่นได้ พี่สาวน้องชายอย่างชานาเนสกับแคลอฮันต่างก็เป็นเช่นเดียวกัน

ท่านหญิงเซอเชาว์หรี่ตามองชานาเนส

 หากข้าเชื่อใจและรอคอย แต่ความเชื่อใจนั่นมันกลับแทงเข้าที่ฝ่าเท้าของข้า พวกเจ้าจะทำยังไงล่ะ ทางอังเกนัสเองก็ดูพร้อมใจที่จะจับมือกับเซอเชาว์ของข้าอยู่เหมือนกันนะ 

ว่าแล้วเชียว

ชานาเนสกำหมัดแน่น เมื่อมั่นใจแล้วว่าสิ่งที่นางคาดการณ์เอาไว้เป็นเรื่องจริง

 ท่านป้าคะ แคลอฮันอาจจะเป็นน้องชายของข้า แต่ก็เป็นเด็กที่มีนิสัยตรงไปตรงมาโกหกคนอื่นไม่เป็นจนเรียกว่าทึ่มทื่อเลยก็ได้ค่ะ หากเขามีเล่ห์เหลี่ยมมากกว่านี้สักหน่อยก็คงดี แต่เพราะเป็นคนที่ทำเรื่องพวกนั้นไม่เป็นน่ะสิคะ 

หลังจากที่นางทราบว่าน้องชายคนนั้นเป็นโรคร้ายก็เพิ่งจะผ่านมาได้เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

ทว่าตอนนี้ไม่มีเวลาให้ชานาเนสมานั่งเสียใจหรือตื่นตระหนกอะไรทั้งสิ้น

การจัดการงานที่แคลอฮันไหว้วานให้สำเร็จลุล่วง เป็นเพียงเรื่องเดียวที่นางจะช่วยเหลือน้องชายที่นอนป่วยติดเตียงได้

 ข้าเชื่อว่าตอนนี้แคลอฮันเองก็กำลังพยายามทำอย่างเต็มที่ เพื่อเอาชนะโรคร้ายค่ะ แต่ถ้าหากแคลอฮันไม่อาจรักษาสัญญาได้… 

ชานาเนสนึกถึงคำพูดของหลานสาวตัวน้อยขึ้นมา

‘ไม่ใช่ในฐานะพี่สาวของท่านพ่อ แต่ช่วยไปพบในฐานะชานาเนส ลอมบาร์เดียให้ทีนะคะ’

หรือเด็กคนนั้นจะคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว ว่าอาจจะมีสถานการณ์ที่เธอต้องกล่าวเช่นนี้เกิดขึ้น

ชานาเนสยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อตัวนางเผลอคิดเรื่อยเปื่อยไปเสียได้และมองหน้าสบตาท่านหญิงเซอเชาว์ตรงๆ ในขณะที่พูดขึ้น

 หากเป็นเช่นนั้น เมื่อถึงเวลาก็ขอให้เชื่อมั่นในลอมบาร์เดียค่ะ แคลอฮัน เด็กคนนั้นอาจจะเป็นผู้ก่อตั้ง ‘ร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮัน’ ก็จริง แต่เขาก็เป็นบุตรชายของเจ้าตระกูลอย่างรูลลัก ลอมบาร์เดีย และลอมบาร์เดียย่อมไม่มีวันทำให้ผู้คนที่เชื่อมั่นในลอมบาร์เดียต้องผิดหวังอย่างเด็ดขาดค่ะ 

ความเงียบเข้ากลืนกินไปทั่วห้องอยู่ครู่หนึ่ง

สุดท้ายท่านหญิงเซอเชาว์ก็ถอนหายใจเสียงแผ่วจนแทบเป็นเสียงคราง

 …ฝากบอกแคลอฮันด้วยว่า ไม่ต้องห่วงเรื่องเซอเชาว์ ให้ตั้งใจกับการรักษาก็พอ บอกด้วยว่าอีกไม่นานข้าจะแวะขึ้นไปเยี่ยม 

 ค่ะ ท่านป้า 

ชานาเนสซ่อนมือที่สั่นเล็กน้อยของตัวเองไว้ใต้แขนเสื้อกว้างของชุดเดรส ในขณะที่ลุกขึ้นจากที่นั่ง

 และก็ชานาเนส 

ท่านหญิงเซอเชาว์นวดหน้าผากด้วยใบหน้าเหนื่อยล้าพลางเอ่ยพูด

 ทางเซอเชาว์ของพวกเราไม่มีความคิดที่จะขายเหมืองให้สามีของเจ้าหรอกนะ ฝากบอกเขาด้วยว่าเลิกเกลี้ยกล่อมได้แล้ว 

 …เหมือง? 

ชานาเนสตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง แต่เพียงไม่นานก็เก็บซ่อนสีหน้าเอาไว้ แล้วพยักหน้าลง

 ค่ะ ท่านป้า ข้าจะแจ้งเขาให้ค่ะ 

ผ่านไปได้สามสัปดาห์แล้วหลังจากที่ความวุ่นวายเกิดขึ้น

โล่งอกที่เรื่องราวที่ปิดฉากลงได้ในคราวเดียวพวกนั้นถูกปิดตายลงอย่างสมบูรณ์ แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงแค่เรื่องชั่วคราวที่จะมั่นคงอยู่ต่อได้ไปอีกระยะหนึ่งเท่านั้น

วิธีการแก้ไขที่ดีที่สุดมีเพียงแค่ผลิตยารักษาโรคเทรนด์บลูขึ้นมา ช่วยให้ท่านพ่อฟื้นตัวได้สำเร็จเท่านั้น

เอสทีร่าเองก็กำลังวิจัยอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ยังไม่สามารถก้าวข้ามอุปสรรคไปได้อยู่ดี

โรคของท่านพ่อกำลังแย่ลงเรื่อยๆ เหมือนเมื่อชีวิตก่อน

 …ไปก่อนนะ 

และในสถานการณ์เช่นนี้ เธอก็ต้องเข้าวังเพื่อรับหน้าที่เป็นเพื่อนเล่นของเฟเรส

ถึงแม้จะอยากเฝ้าอยู่ข้างเตียงคนไข้อย่างที่ใจอยาก แต่ท่านพ่อกลับผลักหลังเธอ สั่งให้ออกไปเล่นกับเฟเรส จะได้รับลมให้สดชื่นเสียบ้าง

ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ท่านพ่อต้องการ เธอจึงจำเป็นต้องไป

เธอขึ้นรถม้าด้วยใบหน้าเศร้าหมอง

ระยะเวลาหลายชั่วโมงจากคฤหาสน์ลอมบาร์เดียจนถึงพระราชวัง ความคิดต่างๆ นานาพันกันยุ่งเหยิงอยู่ในหัวสมอง

และในที่สุดเธอก็เดินทางมาถึงวังโฟอิรัคที่เฟเรสอาศัยอยู่

 เทีย สวัสดี 

เฟเรสกล่าวทักทายเธอด้วยรอยยิ้มบางที่จางเสียจนเกือบมองไม่เห็น

 สวัสดี 

เธอกำลังรู้สึกหงุดหงิด

ในสถานการณ์ที่อยากจะใช้เวลาร่วมกันกับท่านพ่อให้ได้มากขึ้นแม้จะแค่ชั่วโมงเดียวก็ตาม เธอรู้สึกเสียดายเวลาที่จะต้องแบ่งเอามาใช้ร่วมกันกับเฟเรสแบบนี้

เฟเรสรับคำทักทายอันแสนเฉื่อยชาของเธอ เขาเหม่อมองใบหน้าของเธออยู่ครู่หนึ่ง

มันเป็นนิสัยอย่างหนึ่งของเด็กนี่

 ไปกันเถอะ 

แล้วมือของเฟเรสก็เลื่อนมาจับมือของเธอเอาไว้

 อะไร จะไปที่ไหน 

 ที่ที่วันนี้พวกเราจะเล่นด้วยกันทั้งวัน 

 ข้าไม่มีอารมณ์เล่นหรอกนะ 

 ข้ารู้ 

รู้อะไรกันแน่

ในตอนที่ความอดทนของเธอเริ่มถึงขีดสุดเฟเรสใช้มืออีกข้างที่ไม่ได้กุมมือของเธอเอาไว้ผลักประตูบานใหญ่ให้เปิดออก

 ที่นี่… 

 ห้องสมุดประจำวังโฟอิรัคน่ะ ข้ารวบรวมหนังสือเกี่ยวกับโรคเทรนด์บลูและสมุนไพรมาไว้ที่นี่ มากที่สุดเท่าที่ข้าจะหามาได้ 

เฟเรสช่วยเลื่อนเก้าอี้ตรงโต๊ะที่ตั้งอยู่กลางห้องสมุดออกให้พลางเอ่ยพูด

 มาลองหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคเทรนด์บลูด้วยกันเถอะ ถ้าลองหาดูบางทีพวกเราอาจจะค้นพบวิธีอะไรดีๆ ก็ได้ 

 เฟเรส… 

 ครั้งนี้ข้าจะช่วยเจ้าเอง 

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท