เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 2 บทที่ 76.2

เล่ม 2 บทที่ 76.2

ลอรีลดูลังเลเล็กน้อย ในเมื่อนางเป็นคุณหนูชั้นสูงจากตระกูลดิลลาร์ดก็คงจะไม่เข้าใจพฤติกรรมของเธออยู่แล้วละ

ก็นะ การเดินไปกินไปแบบนี้มันเป็นเรื่องที่ผิดวิสัยคุณหนูชั้นสูงอยู่แล้ว

ต่อให้เป็นลอรีลที่ดูสบายๆ กว่าใครๆ ก็เถอะ ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่นางไม่เคยลองทำมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียวอยู่ดี

 ถ้าไม่กิน งั้นเอามาให้ข้าเถอะ 

ลองสิ ลอง

คำพูดของเธอทำให้ลอรีลตรวจเช็กดูให้แน่ใจว่ารอบๆ ไม่มีใครเดินผ่านไปมา ก่อนจะกัดหนึ่งคำอย่างระมัดระวัง

 …โอ้! 

 อร่อยใช่มั้ยล่ะ 

 ค่ะ! ว้าว อร่อยจริงๆ นะคะ! 

กินคำที่สองคำที่สามต่อไม่หยุด ทั้งๆ ที่ยังรู้สึกประหลาดใจอยู่

ฟีเรนเทียมองภาพนั้นด้วยความพอใจ ในขณะเดียวกันก็เริ่มกินแซนด์วิชต่อ

อา รสชาติหวานเค็มกลมกล่อม! อร่อยจัง!

 คงต้องแวะไปร้านนั้นบ่อยๆ แล้วละค่ะ! 

ลอรีลเอ่ยพูดกะพริบตาปริบๆ นัยน์ตาเป็นประกาย

เธอฉวยโอกาสที่ลอรีลกำลังกินแซนด์วิชอย่างไร้สติ เดินต่อไปยังเป้าหมายถัดไปอย่างเป็นธรรมชาติ

มันคือตลาดในเมืองลอมบาร์เดียที่มีผู้คนมากมายส่งเสียงดังโหวกเหวก

เธอไม่ได้เดินไปยังใจกลางตลาดที่มีผู้คนมากมายซื้อขายผลไม้ อาหาร เครื่องใช้ในครัวเรือน และของอื่นๆ อีกมากมายกันอย่างยุ่งวุ่นวายแต่ค่อยๆ เบี่ยงเส้นทางไปทีละนิด จนในที่สุดก็มาถึงย่านการค้าเปิดใหม่ที่ตั้งอยู่ข้างๆ

บนถนนที่ให้ความรู้สึกเป็นระเบียบกว่าตลาดเล็กน้อย มองตรงไปเห็นตึกสีเขียวเข้มตั้งเด่นตระหง่านอยู่

อาคารหลังนั้นคือ ร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันที่เพิ่งเปิดสาขาที่สองในเมืองลอมบาร์เดียนั่นเอง

 จะไปร้านขายเสื้อผ้าเหรอคะ 

 อื้อ เพิ่งเปิดใหม่ทั้งที ก็ว่าจะลองไปเที่ยวดูสักหน่อย 

เธอออกปากสั่งลอรีล ในขณะที่มองร้านขายเสื้อผ้าที่มีผู้คนเดินเข้าออกตลอดเวลาไม่ขาดสาย

 ข้ามีเรื่องให้ตรวจสอบดูสักครู่หนึ่ง แยกกันเข้าไปเถอะ แล้วก็อย่าเรียกชื่อข้าให้คนอื่นๆ รู้ล่ะ เข้าใจมั้ย 

 ค่ะ คุณหนู… 

พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นภายในร้านขายเสื้อผ้าที่ถูกตกแต่งอย่างเป็นระเบียบ

หน้าตาเป็นแบบนี้นี่เอง

เคยได้ยินแต่เครย์ลีบันพูดถึง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเห็นด้วยตาของตัวเอง

ร้านขายเสื้อผ้าให้บรรยากาศใกล้เคียงกับ ‘ร้านเสื้อผ้า’ ที่เธอรู้จักมากทีเดียว

ชั้นหนึ่งเป็นเสื้อผ้าผู้หญิง ชั้นสองเป็นเสื้อผ้าผู้ชาย

เธอลงมือตรวจสอบสิ่งที่เธอเคยได้รับแต่ทางรายงานมาโดยตลอดทีละอย่างด้วยตัวเอง

พวกพนักงานร้านขายเสื้อผ้าตามประกบลอรีลที่มองแค่ปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคุณหนูชั้นสูงในทันที แต่ไม่มีใครสนใจเธอที่เป็นแค่เด็กทั้งยังมาคนเดียวเลยสักคน

 สวัสดีค่ะ คุณลูกค้า มาคนเดียวเหรอคะ 

แต่แล้วในตอนที่เธอรู้สึกผิดหวังกับสกิลในการต้อนรับลูกค้าของร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮัน

น้ำเสียงเป็นมิตรก็เอ่ยกับเธอ

นางเป็นหญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาสีม่วง ผมสีดำ

 ไม่ได้มาคนเดียวค่ะ กำลังรอพ่ออยู่ 

 โอ้ อย่างนั้นนี่เอง งั้นถ้ามีอะไรต้องการก็เรียกได้ตลอดเลยนะคะ 

ผู้หญิงคนนั้นส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะปลีกตัวออกไปเริ่มสนทนาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มกับลูกค้าท่านอื่น

ฟีเรนเทียแสร้งทำเป็นดูเสื้อผ้า ในขณะที่ลอบสังเกตพนักงานที่ทำงานในร้านขายเสื้อผ้ารวมถึงผู้หญิงคนนั้นไปด้วยและในตอนนั้นเองก็ได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนขึ้น

 ไม่สิ ก็บอกแล้วไงว่าเพิ่งซื้อไปได้ไม่นานเองน่ะ? 

ชายวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังเถียงเรื่องอะไรบางอย่างกับพนักงานด้วยใบหน้าขุ่นเคือง

 ทำไมถึงไม่เชื่อที่คนอื่นเขาพูด แล้วทำตัวแบบนี้กันล่ะเนี่ย 

ตรงหน้าชายคนนั้นมีชุดเดรสสีน้ำเงินประมาณสิบตัววางกองสุมอยู่ ท่าทางจะเป็นคนที่มาเพื่อขอเงินคืน

 กล้าดียังไงมากล่าวหาว่าคนจากตระกูลลีบาตินเป็นพวกขี้โกหก จะเอาแบบนี้ใช่มั้ย 

ชายวัยกลางคนคนนั้นเชิดหน้าขึ้น ในขณะที่พูดจายกตนข่มคนอื่น

พอสายตาของผู้คนรอบข้างเริ่มมองมา พนักงานร้านขายเสื้อผ้าก็ก้มหน้าลงด้วยใบหน้าแดงก่ำอย่างช่วยไม่ได้

 ไม่ใช่แบบนั้น…ขออภัยค่ะ จะทำการคืนเงินให้เดี๋ยวนี้ค่ะ 

 ก็น่าจะทำแบบนั้นแต่แรก! 

เธอรู้สึกได้ว่าใบหน้าของชายคนนั้นที่กำลังยิ้มอยู่นั่นมันมีอะไรบางอย่างแอบแฝง

มันแปลกชอบกล

แต่แล้วในตอนท้ายพนักงานคนนั้นตั้งใจจะหยิบตั๋วเงินเท่าราคาเสื้อผ้าพวกนั้นส่งให้ชายคนนั้น

 ขอเสียมารยาทสักครู่นะคะ 

ผู้หญิงคนที่เข้ามาทักเธอเมื่อครู่เดินเข้าไปแทรกข้างหน้าพนักงานคนนั้นอย่างนุ่มนวล ในขณะที่ฉีกยิ้มกว้าง

 สวัสดีค่ะ ข้าชื่อไวโอเล็ตเป็นผู้ดูแลสาขาใหญ่ลอมบาร์เดียค่ะ เห็นว่ามาจากตระกูลลีบาตินใช่มั้ยคะ 

 ชะ…ใช่แล้วทำไม 

 ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเป็นคุณพ่อบ้านจากตระกูลลีบาตินสินะคะ 

 อะแฮ่ม ตั้งใจจะไม่เผยตัวแท้ๆ ถูกต้องแล้ว 

ชายคนนั้นขมวดคิ้วแน่น พูดข่มเสียงดัง

 ที่ร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันของทางเราออกเอกสารที่เรียกว่า ‘ใบเสร็จ’ ให้ทุกครั้งที่มีการซื้อขายค่ะ ต่อให้ซื้อแค่ถุงมือคู่เดียวก็ออกให้เช่นกัน เมื่อครู่นี้บอกว่าต้องการคืนของสิบชุดจากเสื้อผ้าที่ซื้อไปทั้งหมดสี่สิบตัว ถ้าอย่างนั้นคงต้องขอรบกวนให้แสดงใบเสร็จของเสื้อผ้าสี่สิบตัวที่ว่านั่นด้วยนะคะ 

 เรื่องแบบนั้นเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก… 

 หากเป็นคุณพ่อบ้าน น่าจะทราบเรื่องนี้ดีอยู่แล้วนี่คะ 

ถึงแม้จะยังยิ้มอยู่ แต่รอยยิ้มของไวโอเล็ตกลับดูอำมหิตมาก

ชายคนนั้นสะดุ้งตกใจเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพลาดไปเสียแล้ว ก่อนที่จะรีบร้อนอธิบายด้วยความร้อนรน

 ตะ…ตระกูลของเราเพิ่งทำการค้ากับทางร้านขายเสื้อผ้าเป็นครั้งแรกก็เลย… 

 หากเป็นตระกูลลีบาตินที่กล่าวมา ทางตระกูลมาซื้อของกับพวกเราที่สาขาใหญ่ ไม่ใช่ที่นี่ได้สามครั้งแล้วค่ะ ทุกครั้งข้าเป็นคนดูแลเอง แต่ขออภัยด้วยนะคะ ข้าไม่เคยเห็นหน้าคุณลูกค้าแม้แต่ครั้งเดียวเลยค่ะ รบกวนขอทราบนามของลูกค้าได้มั้ยคะ 

 ขะ…ข้าน่ะ…ฮึ่ย! 

ชายคนนั้นกัดฟันกรอด จ้องไวโอเล็ตเขม็ง ก่อนที่จะวิ่งหนีออกไปจากร้านขายเสื้อผ้า

 ฮู่ว… 

ไวโอเล็ตถอนหายใจเสียงค่อย เพียงครู่เดียวก็กลับมามีใบหน้ายิ้มแย้มเหมือนเดิมนางเอ่ยขอโทษบรรดาลูกค้าที่อยู่ในร้าน

 ผู้จัดการ ขอโทษค่ะ… 

พนักงานคนที่เกือบถูกผู้ชายคนนั้นหลอกให้หยิบเงินให้เดินเข้ามาพูดกับไวโอเล็ต

 ไม่เป็นไร แต่ตั้งแต่ครั้งหน้าต้องตรวจสอบใบเสร็จด้วยล่ะ และข้อมูลของตระกูลที่มาซื้อบ่อยๆ ก็ต้องจำไว้ด้วยนะ ลืมไปแล้วหรือไงที่เมื่อไม่นานมานี้ตระกูลลีบาตินเพิ่งถูกขโมยขึ้นคฤหาสน์น่ะ 

 อ๊า! มีเรื่องแบบนั้นจริงๆ ด้วย ใช่แล้ว… 

เธอลอบยิ้มในใจในขณะที่มองไวโอเล็ตตบไหล่ให้กำลังใจพนักงานที่เกือบจะร้องไห้ออกมารอมร่ออยู่แล้ว

ดีละ ถ้าเป็นคนคนนี้น่าจะใช้ได้

แต่แล้วในตอนที่เธอกำลังยืนยิ้มอยู่ด้วยความพอใจ

ไวโอเล็ตที่ออกไปตรวจเช็กด้านนอกเมื่อได้ยินเสียงรถม้าจอด ก็เดินเข้ามาย่อกายปรับระดับสายตาให้เข้ากับเธอ แล้วพูดขึ้น

 ท่านแคลอฮันมาถึงแล้วค่ะ คุณหนูฟีเรนเทีย 

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท