เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 3 บทที่ 86.1

เล่ม 3 บทที่ 86.1
ฟีเรนเทียใช้ปลายนิ้วบดขยี้เศษคุกกี้ในขณะที่บ่นพึมพำไปด้วย
“ไอ้พวกผู้ชายนี่นะ…”
“แค็ก! ”
หลังจากได้ยินคำพูดพร่ำบ่นของเด็กสาวเฟเรสที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็สำลักจนไอไม่หยุด
ตอนนี้เธออยู่ที่พระราชวัง เพื่อรับบทบาทเพื่อนเล่นของเฟเรสที่ถูกเลื่อนออกไปเสียนาน
แต่สถานที่ที่เธอนัดพบกับเฟเรสไม่ใช่ที่วังโฟอิรัคหรอกนะ
มันคือสวนประจำวังส่วนกลางที่เปิดให้แขกทุกคนที่แวะมาเยือนพระราชวังสามารถเข้ามาเที่ยวชมได้ต่างหากล่ะ
เพราะถึงยังไงเขาก็ไม่ได้ทำอะไรผิดอยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องถูกขังอยู่แต่ในวังโฟอิรัคทุกวี่ทุกวัน
แคทเธอรีนและคาอิลรัสช่วยตั้งโต๊ะกับเก้าอี้ให้ในตำแหน่งดีๆ มีแสงแดดส่องลงมาอย่างอบอุ่นใกล้กับบริเวณน้ำพุ
เค้กที่คราวนี้เธอก็ยังคงซื้อมาจากร้านคาราเมล อเวนิวถูกจัดเรียงใส่จานอย่างสวยงาม
ส่วนเครื่องดื่มนั้นทั้งเธอกับเฟเรสต่างก็ไม่ได้ชื่นชอบดื่มชาเท่าไหร่นัก เพราะทั้งคู่ยังอยู่ในวัยกำลังเจริญเติบโต พวกเขาจึงจัดเตรียมนมสีขาวเอาไว้ให้แทน
แต่ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากกินเค้กเสียเท่าไหร่
ฟีเรนเทียเล็งหาเศษขนมปังชิ้นอื่นต่อ ก่อนที่จะใช้ปลายนิ้วดีดมันกระเด็นไปไกล
“…เทีย”
เฟเรสเรียกเธอด้วยใบหน้าตื่นตกใจเล็กน้อย แต่เธอไม่ได้ตอบอะไรเขา
จริงๆ เลย เพราะเจ้าเวสตินนั่นแท้ๆ เลยทำให้เธอรู้สึกไม่ไว้ใจพวกผู้ชาย เจ้านั่นกล้านอกใจคนรักด้วยใบหน้ายิ้มแย้มได้ยังไงกัน
“อืม”
เฟเรสมองเธอที่ความดันต่ำจนโมโหเดือด เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็หันไปมองรอบๆ
หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินพุ่งตรงไปยังสวนดอกไม้ที่อยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เด็ดเอาดอกไม้กลับมากองโต
มันเป็นดอกไม้สีขาวดอกเล็กดูบอบบางเป็นช่อตูมที่กำลังจะเบ่งบาน
เขายัดมันใส่ในอุ้งมือของเธอ
“…”
ทำแบบนี้ใครจะไปหงุดหงิดต่อได้ลงคอล่ะก็เขาเล่นใส่ใจกันขนาดนี้
เฟเรสมองหน้าเธอในระยะประชิด ใกล้มากเสียจนเหมือนกับเขากำลังลอบประเมินปฏิกิริยาตอบรับของเธอหลังจากได้รับดอกไม้ มันเป็น ‘หน้าตาที่หล่อเหลามากเสียจนทำให้คนต้องหายโกรธโดยไม่รู้ตัว’
ฟีเรนเทียถอนหายใจเสียงแผ่วกึ่งยอมแพ้ ก่อนที่จะสูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้
พอสูดกลิ่นหอมหวานของดอกไม้เข้าไป กลิ่นหวานๆ ก็ติดค้างอยู่ที่ปลายจมูก ทำให้อารมณ์เดือดพล่านเริ่มสงบลงได้บ้าง
“ขอบใจนะ เฟเรส”
“ดีขึ้นแล้วใช่มั้ย”
เธอเองก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน
ดันเผลอทำตัวโมโหใส่เฟเรสเสียได้
ฟีเรนเทียอธิบายให้เขาฟังด้วยความละอายใจ
“ไม่ได้โมโหเพราะเจ้าหรอก”
“ข้ารู้”
“งั้นทำไมถึงได้เอาดอกไม้มาให้ล่ะ”
“ถ้าขนาดของหวานยังทำให้อารมณ์ดีขึ้นไม่ได้ ข้าคิดว่าอย่างน้อยดอกไม้สวยๆ ก็น่าจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้บ้างน่ะ”
“อ่า”
“ก็เทียชอบดอกไม้”
อืม ก็จริง
รู้สึกแปลกอยู่เหมือนกัน ที่เฟเรสอ่านความรู้สึกของเธอออกแบบนี้
โดยเฉพาะนัยน์ตาสีแดงคู่นั้น เวลาที่เขาจ้องมองเธอโดยไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกล้วงความลับ
รู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว
เธอยกแก้วนมขึ้นดื่มเพื่อหลบสายตาของเด็กหนุ่มขณะเดียวกันก็แอบใช้หางตาลอบสังเกตเขาไปด้วย
เฟเรสกำลังปัดเศษหญ้าที่เปรอะติดเสื้อผ้าจากการที่เขาไปเด็ดดอกไม้มาให้เธอเมื่อครู่ แคทเธอรีนที่ยืนอยู่ข้างกายเขาเองก็คอยให้ความช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง
คนส่วนใหญ่บอกว่า เมื่อเข้าถึงวัยแตกหนุ่มอายุใกล้สิบหกปี รูปร่างหน้าตาจะเริ่มเปลี่ยนไปจนดูไม่ค่อยได้
แต่เฟเรสไม่ได้ดูหน้าตาแย่ลงเลย เขากลับหล่อเหลามากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ
ตอนนี้ก็เหมือนกัน เจ้าตัวแค่ปัดเศษหญ้าตามเสื้อผ้าเท่านั้นเอง แต่แววตาที่เป็นประกายคู่นั้น ทั้งจมูกโด่งดั่งรูปสลัก ไหนจะสันกรามคมชัดนั่นอีก ทั้งหมดนั่นมันดึงดูดสายตาของผู้คนให้ต้องสนใจเขาอยู่เรื่อย
พอเห็นภาพตรงหน้า จู่ๆ เธอก็เผลอหลุดพูดออกไปด้วยแรงกระตุ้นในใจ
“เฟเรส ต่อไปเจ้าห้ามนอกใจเด็ดขาดเลยนะ”
ชะงัก
การเคลื่อนไหวของเฟเรสกับแคทเธอรีนหยุดชะงักทันที
แม้แต่คาอิลรัสที่ยืนเก็บจานเค้กที่เพิ่งกินกันไปเมื่อครู่อยู่ด้านข้างก็เช่นกัน
ทั้งสามคนหันมามองเธออย่างพร้อมเพรียงโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ทำไมล่ะ มีอะไรเหรอ
คนที่มีปฏิกิริยาเป็นคนแรกคือคาอิลรัส
เขากัดริมฝีปากล่างแน่น พยายามเก็บซ่อนรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นผ่านนัยน์ตาสื่อความรู้สึกดั่งอีโมติคอน ก่อนจะหันหน้าหลบไปทางอื่น
แคทเธอรีนเบิกตากว้าง นางกะพริบตาถี่อยู่หลายครั้ง เอาแต่มองเธอสลับไปมากับเฟเรสด้วยใบหน้าตกใจ
ส่วนเฟเรส
“เจ้า…เป็นอะไรหรือเปล่า”
เธอสะกิดหลังมือของเด็กหนุ่มพลางถาม
ทันใดนั้นใบหน้าแข็งทื่อเหมือนน้ำแข็งของเขาก็ลุกเป็นไฟในชั่วพริบตา รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงเปลวไฟลุกโชนขึ้นมาจริงๆ นะ
ผิวขาวเนียนถูกย้อมไปด้วยสีแดงลามลงมาจนถึงต้นคอ สุดท้ายมันก็แดงก่ำลามไปจนถึงใบหู
“อะ…อื้อ…”
เฟเรสพยักหน้าลงอย่างเชื่องช้า
ปฏิกิริยาของทุกคนทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ
เธอพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นหรือไง
“ใบหน้าเจ้า…แดงมากเลย นี่เป็นหวัดหรือเปล่าเนี่ย”
หรืออากาศหนาวเกินไปที่จะมาออกนั่งด้านนอกแบบนี้
“ปะ…เปล่า ไม่เป็นไร”
เฟเรสยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหน้าในขณะตอบมือของเขาใหญ่มากจนฝังใบหน้าลงไปได้มิด
“ตกใจนิดหน่อย”
“ที่บอกว่าห้ามนอกใจน่ะเหรอ”
“…อื้อ”
ทำไมล่ะ
“แต่เฟเรสเองตอนนี้ก็เริ่มถึงวัยแบบนั้นแล้วไม่ใช่หรือไง”
“วัย…แบบนั้น?”
“อืม ก็วัยที่เริ่มสนใจในตัวผู้หญิง”
ก็เขาเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้วนี่นะ
เฟเรสค่อยๆ ลดมือที่ปิดใบหน้าลงอย่างเชื่องช้า ก่อนจะถามเธอ
“แล้ว?”
“เพราะฉะนั้นข้าถึงได้บอกไงว่า ถ้าไปคบกับใครก็อย่าได้นอกใจเป็นอันขาด”
“…หมายความแบบนั้นเองสินะ”
เฟเรสพึมพำเสียงแผ่ว
“ฮู่ว”
“เฮ้อ”
ฟีเรนเทียได้ยินเสียงคาอิลรัสกับแคทเธอรีนที่ยืนอยู่ด้านหลังถอนหายใจอย่างพร้อมเพรียง
“ทุกคนทำไมเป็นแบบนี้เนี่ย”
เธอถาม แต่แคทเธอรีนกับคาอิลรัสกลับเอาแต่หลบสายตาของเธอ
เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท