Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1890 หากชักช้าเพียงน้อยมันได้ตายแน่

ตอนที่ 1890 หากชักช้าเพียงน้อยมันได้ตายแน่

“โม่ซิน!”

ฟุบ!

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่เดินตามหลังชายหนุ่มเข้ามาเตะอกโซชูเจียอย่างแรง

โซชูเจียกระอักเลือดคำโตออกมาพร้อมเสียงไอ ร่างของเขาลอยลิ่วกลับไปไกล

ผู้ติดตามคนนี้มีพลังบ่มเพาะอาณาจักรนภาสวรรค์ห้าดาว มาจัดการกับนภาสวรรค์สองดาวอย่างโซชูเจียนั้นมันแสนที่จะง่ายดาย

ไม่ไกลออกไปเย่หยวนที่ได้เห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น

เมื่อสักครู่นี้โซชูเจียและคนอื่นๆ เรียกชายหนุ่มคนนี้ว่าท่านผู้ตรวจการ

หรือว่าเจียงยู่ถังจะไม่ได้รับตำแหน่งนี้แล้ว?

เย่หยวนรู้ดีว่าตำแหน่งผู้ตรวจการนั้นมันสำคัญกับเหล่าเมืองจักรพรรดิทั้งหลายเพียงใด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสิบเมืองสันเขาใต้นี้มันเป็นโอกาสที่สุดแสนหาได้ยาก

หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ใดๆ เกิดขึ้นตำแหน่งนั้นมันก็คงไม่มีทางเปลี่ยนมือได้ง่ายๆ

ที่สำคัญชายหนุ่มคนนี้ยังพาผู้ติดตามอาณาจักรนภาสวรรค์ขั้นกลางมาด้วย หากให้พูดแล้วเขาเองก็น่าจะเป็นคนใหญ่คนโตของเมืองหลวงจักรพรรดิผู้หนึ่ง เหตุใดถึงได้กลายมาเป็นผู้ตรวจการของสิบเมืองสันเขาใต้กัน?

“ท่านผู้ตรวจการ ท่านทำเกินไปแล้ว!”

การกระทำของชายหนุ่มมันทำให้เล่งหยูไม่พอใจอย่างมาก

ตอนนี้เขาจึงลุกขึ้นมาพูดบอกถามหาความถูกต้อง

ชายหนุ่มมองดูและหัวเราะเย้ยออกมา “เกินไป? เจ้าพวกบ้านนอกไม่รู้จักมารยาท ในเมื่อพวกเจ้าทั้งหลายไม่รู้ ข้าผู้นี้ก็จะสั่งสอนให้เอง! โม่ซิน คนผู้นี้มันลบหลู่ข้า สังหารมัน!”

เคร้ง!

ดาบยาวถูกชักออกมาทันทีที่มีคำสั่งก่อนจะพุ่งแทงเข้ามาหาหัวใจของเล่งหยู

ไม่มีใครคาดคิดว่าผู้ตรวจการคนนี้มันจะช่างโหดร้ายถึงปานนี้ แค่พูดขัดไม่กี่คำก็จะถูกสังหารลงเสียแล้ว

เพียงแค่ว่าต่อหน้านภาสวรรค์ห้าดาวเช่นนี้เล่งหยูที่เป็นเพียงแค่นภาสวรรค์หนึ่งดาวย่อมไม่มีทางใดที่จะขัดขืนได้เลย

เล่งหยูเบิกตากว้างอย่างไม่ทันที่จะยกมือขึ้นมาปัดป้องใดๆ ได้แต่มองดูปลายดาบนั้นพุ่งแทงเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

ตอนนี้เหล่าผู้คนรอบๆ ต่างกรีดร้องขึ้นมาอย่างหวาดกลัวเพราะภาพการตายของเล่งหยูที่จะเกิดขึ้นต่อหน้านี้

แต่ในเวลานั้นเองที่มีเงาร่างหนึ่งปรากฏขึ้นมาขวางหน้าเล่งหยูไว้

เขาขยับเพียงแค่สองนิ้วก็ซัดดาบในมือโม่ซินจนลอยปลิวไปได้

โม่ซินเบิกตามองดูชายหนุ่มหน้าตาไม่คุ้นเคยตรงหน้าด้วยความตื่นตะลึง

“เย่หยวน! เจ้า…เจ้ากลับมาแล้ว?”

“เย่หยวน! เป็นเย่หยวนจริงๆ!”

“ผู้อาวุโสใหญ่กลับมาแล้ว!”

เมื่อเหล่ายอดฝีมือที่นั่งก้มอยู่ทั้งหลายได้เห็นใบหน้านี้พวกเขาก็แสดงสีหน้าท่าทางตื่นเต้นดีใจขึ้นมาทันที

ตำนานผู้นี้ได้หายตัวไปนานหลายร้อยปีแล้ว

ไม่มีใครทราบได้ว่าเขาจากไปที่ไหน แต่ตำนานของเขานั้นมันก็ยังคงอยู่ในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์เสมอมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ผู้ตรวจการคนใหม่มาถึงและคิดจะสังหารผู้คน การกลับมาของเย่หยวนในครั้งนี้มันจึงยิ่งดูอลังการเสียยิ่งกว่าครั้งไหนๆ

หลายร้อยปีนั้นมันไม่ได้เป็นเวลาที่ยาวนานสำหรับนักยุทธอาณาจักรพระเจ้าทั้งหลาย มันเป็นเวลาเพียงชั่วอึดใจ

โซชูเจียและพวกต่างหันมามองเย่หยวนด้วยสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อภาพตรงหน้า

เพราะในเวลาแค่ห้าหกร้อยปีมานี้เย่หยวนกลับสามารถบรรลุขึ้นมาถึงอาณาจักรนภาสวรรค์ห้าดาวได้!

ตอนที่เย่หยวนเชื่อมเขาน้อยแห่งถงเทียนเข้ากับดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นเย่หยวนได้รับปราณเทวะจากทั้งดินแดนศักดิ์สิทธิ์เข้ามาอยู่ในกายทำให้เขาสามารถบรรลุขึ้นสู่อาณาจักรลายพระเจ้าห้าดาวได้ทันที!

เรื่องเช่นนี้มันอยู่เหนือกว่าที่ใครจะคาดคิด!

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียเรื่องที่ว่าเย่หยวนติดหล่มอยู่ที่ยอดอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าถึงสามร้อยปีมันก็ยังคงไม่เลือนหายไป

แต่อาณาจักรนภาสวรรค์มันน่าจะยิ่งยากเย็นกว่าอาณาจักรราชันพระเจ้ามิใช่หรือ?

“เย่หยวน เจ้ากลับมาแล้ว!” เล่งหยูมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าตื่นเต้นและดีใจ

เย่หยวนเองก็หันไปมองที่เล่งหยูด้วยรอยยิ้ม “พี่เล่ง ไม่ได้เจอกันเสียนาน!”

เมื่อมองผ่านไปเขาก็เห็นทั้งซวนอี้ เล่งหยู โซชูเจีย เหอชงรวมไปถึงหนิงจื่อหยวนและพวกอยู่กันพร้อมหน้า

เมื่อได้เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยเย่หยวนก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ

คนทั้งหลายเหล่านี้เมื่อได้เห็นเย่หยวนพวกเขาก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมา

ตั้งแต่ที่เย่หยวนสร้างยอดฝีมือนภาสวรรค์สี่คนขึ้นมาเขาก็ได้รับตำแหน่งที่เหนือล้ำในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์นี้ไปแล้ว

คนทั้งหลายที่เคยมีเรื่องไม่พอใจใดๆ กับเขาต่างก็มุดหน้าหัวหดไม่กล้าต่อต้านเขาอีก

เย่หยวนปกครองทั้งชื่อเสียงและอำนาจในเมืองจักรพรรดิอินทรีสวรรค์ ที่แห่งนี้มันก็เป็นเหมือนบ้านอีกหลังของเขา

แต่ตอนนี้ชายหนุ่มคนนี้กลับคิดมาวางท่าสังหารคนตั้งแต่เจอหน้า แน่นอนว่ามันย่อมทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก

ชายหนุ่มคนนั้นขมวดคิ้วแน่น “เด็กน้อย เจ้าเป็นใคร? คนที่หวู่เทียนผู้นี้คิดสังหารเจ้ากลับกล้าช่วยมัน?”

ที่แท้ผู้ตรวจการคนใหม่นี้มีนามว่าหวู่เทียน

หวู่เทียนนั้นเป็นนภาสวรรค์หกดาว แน่นอนว่าเขาต้องมีพลังฝีมือที่ไม่ธรรมดา

แม้ว่าเย่หยวนจะปรากฏตัวออกมา เขาก็ไม่ได้ตื่นตกใจใดๆ แม้แต่น้อย

นอกจากนั้นหนึ่งในผู้ติดตามของเขายังเป็นถึงยอดฝีมืออาณาจักรนภาสวรรค์แปดดาวด้วย

เย่หยวนไม่คิดหันไปมองหวู่เทียนและบอกแก่ทุกคน “ลุกขึ้นเถอะ”

ด้วยคำสั่งนี้ของเย่หยวนคนทั้งหลายก็คิดน้อมรับและยันตัวลุกขึ้น

นั่นทำให้หวู่เทียนหรี่ตาลงมองด้วยความดุร้าย “หากไม่มีคำสั่งข้า พวกเจ้าทั้งหลายห้ามลุก! อย่าได้ลืมไปเสียว่าข้านั้นคือผู้ตรวจการคนใหม่ของเมืองนี้! แล้วก็เด็กน้อยผู้นี้ ข้าพูดกับเจ้าอยู่ หูเจ้าตึงหรือ?”

นั่นทำให้ทุกผู้คนหน้าถอดสีและคุกเข่าลงนั่งอีกครั้งทันที

เพราะอำนาจของผู้ตรวจการนั้นสุดแสนจะยิ่งใหญ่ ความเป็นความตายนั้นขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเขาล้วนๆ

การท้าทายผู้ตรวจการนั้นมันย่อมไม่เกิดผลดีใดๆ อย่างแน่นอน

เย่หยวนยังคงเมินเฉยต่อหวู่เทียนและยกแขนขึ้นมาหนึ่งข้างพร้อมปล่อยปราณเทวะอันมหาศาลของเขาออกมา

นั่นทำให้เหล่ายอดฝีมือนภาสวรรค์ทั้งหลายต้องลุกขึ้นยืนอย่างไม่เต็มใจนัก

“หากมีปัญหาใดข้าจะรับไว้เอง!” เย่หยวนบอก

หวู่เทียนหัวเราะขึ้น “เจ้าจะรับไว้เอง? เจ้าน่ะหรือ? ทีนี้เจ้าลองลงไปคุกเข่าเสียบ้าง!”

หวู่เทียนเข้ามาโจมตีฟาดฝ่ามือลงใส่เย่หยวนอย่างไม่คิดจะพูดเจรจาใดๆ ต่ออีก

ฝ่ามือนี้มันสุดแสนจะรวดเร็ว ไม่ได้ต่างอะไรกับการลอบโจมตี

พลังโลกของนภาสวรรค์หกดาวหลั่งไหลออกมาทำให้สีหน้าของพวกโซชูเจียทั้งหลายถอดสีทันที

นภาสวรรค์หกดาวนั้นช่างแข็งแกร่งแตกต่างจากพวกเขาสิ้นเชิง

“เย่หยวนระวัง!” เล่งหยูตะโกนบอก

แม้ว่าตอนที่เย่หยวนอยู่อาณาจักรบรรพชนพระเจ้าเขาจะสามารถข้ามขั้นต่อสู้ได้อย่างไม่ยากเย็นแต่อาณาจักรนภาสวรรค์นั้นมันแตกต่างจากอาณาจักรบรรพชนพระเจ้าอย่างไม่อาจเทียบเคียงได้

หนึ่งดาวที่เหนือกว่ามันหมายถึงความตายอย่างไม่อาจเลี่ยง!

แต่ทว่าเย่หยวนกลับแค่หัวเราะออกมาพร้อมยื่นนิ้วกลับไปอย่างรวดเร็ว

“อ้า!”

เสียงร้องดังขึ้นมา เป็นฝ่ายเย่หยวนที่กลับสามารถบีบคอของหวู่เทียนไว้ได้แทน

“แข็งแกร่ง!”

“ไม่นึกเลยว่าแม้จะขึ้นอาณาจักรนภาสวรรค์ไปแล้วเย่หยวนก็ยังสามารถข้ามระดับต่อสู้ได้เช่นนี้!”

“ปัญหาแล้วสิ! ไปลบหลู่ท่านผู้ตรวจการเช่นนี้ เราจบสิ้นแน่!”

จัดการศัตรูลงด้วยกระบวนท่าเดียว โซชูเจียและพวกต่างตกตะลึงอย่างมาก

แน่นอนว่านอกจากความตกตะลึงแล้วพวกเขาก็ยังมีความกังวลด้วย

เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียตำแหน่งผู้ตรวจการนั้นมันก็เหนือกว่าเมืองจักรพรรดิใดๆ!

สีหน้าของผู้อาวุโสที่ติดตามหวู่เทียนมาเปลี่ยนสีเขาถึงคิดจะลงมือตอนนี้มันก็สายเกินไปแล้ว

ชายแก่ร้องขู่ขึ้น “เด็กน้อย ปล่อยนายน้อยเทียนเสีย! ผลที่ตามมาจากการทำร้ายเขามันมิใช่สิ่งที่เจ้าจะรับไว้ได้หรอกนะ!”

เย่หยวนมองดูชายแก่และถามขึ้น “ข้าจะถาม เจ้าตอบมา! หากชักช้าเพียงน้อยมันได้ตายแน่!”

ชายแก่หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง เขานั้นไม่คิดเชื่อว่าเย่หยวนจะกล้าลงมือจริงๆ

เมื่อได้เห็นชายแก่ไม่ยอมตอบกลับมาเย่หยวนก็เพิ่มแรงบีบที่คอมากขึ้น

“แค่ก แค่ก แค่ก!”

หวู่เทียนไอออกมา

“ความอดทนของข้ามีขีดจำกัด!” เย่หยวนร้องบอก

ชายแก่หน้าเปลี่ยนสีและบอกขึ้น “เจ้าถามมา!”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “เจียงยู่ถังไปอยู่ที่ไหนแล้ว?”

ชายแก่ไม่คิดลังเลและตอบกลับมาทันที “เขาได้ทำผิดกฎเมืองหลวงจักรพรรดิและถูกโยนเข้าคุกรอความตายไปแล้ว!”

เย่หยวนได้แต่ขมวดคิ้วแน่นก่อนจะถามขึ้นอีกครั้ง “พวกเจ้าเป็นใคร? เหตุใดถึงได้อยากมาตรวจการสืบเมืองสันเขาใต้นัก?”

…………………………

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Status: Ongoing
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง….
กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก…
ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท