เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 3 บทที่ 127.1

เล่ม 3 บทที่ 127.1

ความเงียบปกคลุมไปทั่วระเบียง

ท่านปู่มองเธอตาไม่กะพริบแม้แต่ครั้งเดียว

และในวินาทีที่เธอคิดว่านัยน์ตาคู่นั้นเริ่มมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นมา

 ฮ่าฮ่าฮ่า! 

ท่านปู่ระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่น

 นั่นมันช่าง… ฮ่าฮ่าฮ่า! 

มันเป็นเสียงหัวเราะดังลั่นอย่างร่าเริง กระทั่งไวน์ก็ยังกระฉอกออกมานอกแก้ว

เธอเฝ้ารอเงียบๆ จนกระทั่งเสียงหัวเราะของท่านปู่เริ่มเบาบางลง

 นั่นคือของขวัญที่เจ้าเลือกหรือ ฟีเรนเทีย 

 ค่ะ ในเมื่อเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็เลยลองโลภขออะไรดีๆ เสียหน่อยน่ะค่ะ ท่านปู่ 

 โลภอย่างนั้นหรือ… 

ท่านปู่ลูบเคราที่ถูกตัดแต่งอย่างดีไปพลางพึมพำเสียงแผ่ว

 เรื่องนั้นถ้าเป็นทายาทของข้าคนนี้ มันเป็นสิทธิที่ไม่ว่าใครก็มีทั้งสิ้น ต่อให้ไม่ขอเป็นของขวัญวันเกิด มันก็เป็นสิทธิของเจ้าอยู่แล้ว 

เธอส่ายหน้าปฏิเสธอย่างหนักแน่นให้กับท่านปู่

เธอที่ได้ย้อนเวลากลับมาคนนี้ ได้ใช้ชีวิตในวัยเยาว์สมกับเป็นลอมบาร์เดียยิ่งกว่าใครๆ

เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอจึงไม่ได้อยู่ในตำแหน่งบุตรนอกสมรส ที่เกิดจากมารดาซึ่งไม่มีใครทราบที่มาที่ไป จนทำให้ต้องถูกผู้คนชี้นิ้วประณามเหมือนอย่างในชีวิตก่อนอีกต่อไปแล้ว

แต่นั่นมันไม่ใช่อุปสรรคทั้งหมดที่เธอยังต้องก้าวข้ามผ่านมันไปให้ได้หรอก

 สิ่งที่ข้าต้องการเป็นของขวัญวันเกิด ไม่ใช่แค่การทวงสิทธิเฉยๆ หรอกค่ะ แต่เป็นการสนับสนุนของท่านปู่ค่ะ 

 มีเหตุผลอันใดกันที่ข้าจำเป็นต้องสนับสนุนเจ้า 

 แน่นอนว่าข้ามีสิทธิของตัวเองอยู่แล้วค่ะ แต่ในเมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว และข้าเป็นหลานสาวของท่านปู่ อีกทั้งยังฉลาดขนาดนี้นี่คะ 

ท่านปู่หัวเราะเสียงทุ้มต่ำเห็นด้วยกับคำพูดของเธอ

 แต่ในขณะเดียวกันข้าก็เป็นผู้หญิงค่ะทั้งยังเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะ ข้าทราบดีค่ะท่านปู่ ว่ามีอุปสรรคพวกนั้นขวางหน้าข้าอยู่ 

เธอมองหน้าท่านปู่ตรงๆ

 ถ้าข้าใช้สิทธิเข้าไปยุ่งกับธุรกิจ จะต้องมีหลายเสียงออกมาคัดค้านแน่ๆ เลยค่ะ 

พูดให้ถูกก็คือ เบเจอร์จะต้องออกตัวคัดค้านอย่างแน่นอน

อีกฝ่ายกำลังพยายามสร้างอำนาจอยู่ภายนอกลอมบาร์เดีย จนถึงตอนนี้ก็ยังคิดว่ามีเพียงแค่ชานาเนสคนเดียวที่เป็นคู่แข่งดังนั้นคงคิดจะตัดกำลังกันแต่เนิ่นๆ หากรู้ว่าหลานสาวที่ยังเด็กอาจจะแสดงความสามารถออกมาให้ผู้คนได้เห็น

 แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ช่วยสนับสนุนข้าทีนะคะ ข้าไม่ต้องการความช่วยเหลือเรื่องอื่นอีกแล้วค่ะ 

เพราะตอนนี้เธอเตรียมการทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว

รอยยิ้มแปลกพิกลปรากฏขึ้นบนใบหน้าของท่านปู่ที่รับฟังคำพูดของเธอโดยไม่พูดอะไรสักคำ

 ได้ ข้าจะทำตามที่เจ้าบอก ในเมื่ออยากได้รับสิ่งนั้นเป็นของขวัญวันเกิด ปู่คนนี้ก็ทำให้ได้อยู่แล้วละ 

นัยน์ตาของท่านปู่ยามกล่าวเช่นนั้น มันแสดงออกให้เห็นถึงความรักที่มากล้นหลายเท่ากว่าปกติที่มีต่อเธอ

 แล้วอยากได้ของขวัญวันเกิดเมื่อไหร่ล่ะ 

 เร็วๆ นี้ค่ะ 

 เร็วๆ นี้? 

 ค่ะ เร็วๆ นี้ 

ท่านปู่เองก็สัญญาแล้ว

ตอนนี้ก็ถึงเวลาอันสมควรแล้ว ไม่จำเป็นต้องรออะไรอีกต่อไปแล้ว

ท่านปู่มองเธอยิ้มๆ ก่อนจะพูด

 ปู่จะรอดู 

* * *

มุมหนึ่งของโถงจัดงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยผู้คนซึ่งแต่งตัวกันมาอย่างหรูหรางดงาม

ในบริเวณนั้นที่ค่อนข้างโหวกเหวกไปด้วยเสียงต่างๆ นานา รวมไปถึงเสียงดนตรี แคลอฮันนั่งเท้าคางอยู่บนโซฟาตัวนุ่ม ครุ่นคิดอยู่เงียบๆ ตามลำพัง

บุตรชายคนที่สามของเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียและเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮันที่แผ่ขยายสาขาไปทั่วอาณาจักร

เขาอาจจะเป็นชายผู้สร้างตัวแปรอันยิ่งใหญ่เหล่านั้น แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเหล่าชนชั้นสูงมากมายให้เหลือบมองมาทางด้านนี้อยู่ในตอนนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ว่านั้น

แต่เป็นใบหน้าโดดเด่นของแคลอฮันที่กำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิด เรียวขายาวยกขึ้นไขว่ห้างดูสง่างามต่างหากล่ะ

 อืมมม 

แคลอฮันกะพริบตาอย่างเชื่องช้า แต่แล้วในตอนที่เขาถอนหายใจเสียงแผ่ว

 มีเรื่องกังวลใจอะไรหรือเปล่าครับ 

 อ๊ะ คุณเครย์ลีบัน!  

การปรากฏตัวของเครย์ลีบันที่เข้ามาชวนคุยอย่างนุ่มนวล ช่วยให้สีหน้าของแคลอฮันสดใสขึ้นมาในทันที

 งานเลี้ยงวันเกิดของท่านฟีเรนเทียแท้ๆ แต่สีหน้าของท่านแคลอฮันกลับดูไม่ดีที่สุดในที่แห่งนี้เลยนะครับ 

 อา เหรอครับ… คุณเครย์ลีบันกล่าวถูกแล้วละครับ เรื่องน่ากังวลพวกนี้ไว้ค่อยไปคิดทีหลังจะดีกว่า ตอนนี้ควรจะสนุกกับวันเกิดของเทียก่อนสินะครับ 

แคลอฮันเกาแก้มแกรกๆ ด้วยความเขินอาย

เครย์ลีบันมองท่าทางนั้นนิ่งๆ ครู่หนึ่ง แล้วนั่งลงใกล้แคลอฮัน พลางส่ายศีรษะไปมา

 แทนที่จะผลักไสความกังวลนั้นให้เลื่อนออกไป มาแบ่งปันกันน่าจะดีกว่าไม่ใช่หรือครับ หากเล่าออกมาว่ากังวลเรื่องใดอยู่ ข้าก็จะช่วยคิดด้วยนะครับ 

 อา… 

แคลอฮันกำลังขัดแย้งในตัวเอง

หากครุ่นคิดด้วยกันกับเครย์ลีบัน แน่นอนว่าจะต้องได้วิธีแก้ไขที่ดีอย่างแน่นอน

เขาเชื่อมั่นแบบนั้น

แต่เครย์ลีบันเองก็ยุ่งอยู่กับการบริหารกิจการเพลเลสมากพอแล้ว เขาจะนำเรื่องของตัวเองไปรบกวนอีกฝ่ายได้ยังไงกัน

 ไม่เป็นไรครับ คุณเครย์ลีบัน ข้าจะลองแก้ปัญหาเอง… 

 ตอนนี้ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากข้าแล้วหรือครับ 

 จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ!  

แคลอฮันสะดุ้งโหยง รีบโบกมือทั้งสองข้างปฏิเสธเป็นพัลวัน

 แต่แค่เรื่องงานของร้านค้าเพลเลส คุณเครย์ลีบันก็ยุ่งมากพอแล้ว อีกทั้งข้าก็ยังติดหนี้คุณเครย์ลีบันเรื่องที่ช่วยดูแลเทียอีก ข้าละอายใจเกินกว่าจะรบกวนไปมากกว่านั้นแล้วละครับ 

 อย่าพูดแบบนั้นสิครับ 

เครย์ลีบันพูดเสียงทุ้ม

 ท่านแคลอฮันเป็นบิดาของท่านฟีเรนเทียไม่ใช่หรือครับ อีกทั้งข้ากับท่านแคลอฮันเองก็เคยเป็นพาร์ตเนอร์ร่วมสร้างร้านขายเสื้อผ้ามาด้วยกันอยู่ช่วงหนึ่งนะครับ 

 คุณเครย์ลีบัน… 

 ท่านแคลอฮันเป็นคนพิเศษ ไม่ต่างอันใดจากครอบครัวของข้าครับ ถ้าพูดเช่นนั้น ข้ามีแต่จะยิ่งเสียใจมากกว่านะครับ 

 …ขอบคุณที่กล่าวเช่นนั้นนะครับ 

แคลอฮันยิ้มกว้างไม่หยุด

 งั้นก็บอกมาเถอะครับ กำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่ 

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท