เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 4 บทที่ 129.2

เล่ม 4 บทที่ 129.2

เครย์ลีบันจดคำแนะนำของเธอลงบนสมุดบันทึกอย่างระมัดระวัง เธอเห็นว่าเขาดูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

 ถ้ามีเรื่องจะพูดก็พูดมาเถอะค่ะ เครย์ลีบัน 

 อา ครับ เรื่องนั้น… 

คงจะรู้สึกอายที่ถูกล่วงรู้ความคิดเข้า เครย์ลีบันจึงเปิดปากพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อเล็กน้อย

 มีเรื่องอยากขอคำอนุญาตจากท่านฟีเรนเทียอยู่น่ะครับ 

 อนุญาตเหรอคะ 

งานส่วนใหญ่ของร้านค้าเพลเลสทุกเรื่องเธอมอบให้มันอยู่ภายใต้การตัดสินใจของเครย์ลีบัน นอกจากว่าจะเป็นเรื่องที่สำคัญมากจริงๆ

เพราะเขาเป็นคนที่มีหัวด้านการค้ามากกว่าเธอ

แต่กลับบอกว่ามีเรื่องที่ต้องการคำอนุญาตจากเธออย่างนั้นเหรอ

 ที่งานเลี้ยงวันเกิดข้าได้ให้คำปรึกษาเรื่องที่ท่านแคลอฮันกังวลไป… 

เครย์ลีบันเริ่มอธิบายแผนการของตัวเองให้เธอฟังด้วยเสียงนิ่งสงบ

 เพราะงั้นก็คือ ท่านพ่อจะสร้างท่าเรือเพื่อที่จะได้ใช้เรือเดินทางเชื่อมไปยังฝั่งตะวันออกจากเขตแดนเชซายู เลยอยากจะถามข้าว่า ถ้าหากร้านค้าเพลเลสจะเข้าไปร่วมลงทุนที่นั่น จะคิดเห็นยังไงใช่มั้ยคะ 

 …ครับ แน่นอนว่าร้านค้าเพลเลสจะต้องลงทุนจำนวนมหาศาล เพราะอย่างนั้นโอกาสความเสี่ยงมันก็จะมากตามไปด้วย ถ้าหากท่านฟีเรนเทียไม่อนุญาต ข้าก็เข้าใจ… 

 คุณเครย์ลีบัน 

 ครับ 

 เป็นอัจฉริยะเหรอคะเนี่ย 

คิดเรื่องแบบนั้นออกได้ยังไงกันเนี่ย

เครย์ลีบันดูตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่ากับเธออย่างระมัดระวัง

 คำว่าอัจฉริยะน่าจะเหมาะกับคนอย่างท่านฟีเรนเทียมากกว่าคนอย่างข้านะครับ… 

 ไม่เลยค่ะ คุณเครย์ลีบันเป็นอัจฉริยะของแท้เลยค่ะ 

ทำเอารู้สึกตื่นเต้นจนสั่นไปทั้งตัวขนลุกชันทั่วแขนเลย

ภาพขนาดใหญ่ที่เธอสามารถวาดมันออกมาได้ เพราะเธอรู้อนาคต แต่นี่มันเหมือนกับว่าเครย์ลีบันเองก็สามารถมองมันออกได้โดยไม่ต้องรู้อนาคตไม่ใช่หรือไง!

เพราะเขาเป็นคนแบบนี้สินะ ในชีวิตก่อนถึงจะตัวคนเดียว ก็ยังสามารถสร้างร้านค้าเพลเลสให้ยิ่งใหญ่ได้แบบนั้น

พอลองมองใบหน้าของเครย์ลีบันที่หัวเราะด้วยความขวยเขินอยู่เล็กน้อย เธอก็สามารถรู้ได้ในทันที

บางทีนัยน์ตาของเธอที่กำลังมองเครย์ลีบันอยู่ในตอนนี้ อาจจะกำลังส่งรูปหัวใจปิ๊งๆ สาดใส่เขาก็ได้

เธอครุ่นคิดสั้นๆ ก่อนจะเอ่ยว่า

 ไหนๆ ก็ลงทุนแล้ว งั้นก็เอาให้มันสุดๆ ไปเลยแล้วกันค่ะ 

 …สุดๆ ไปเลยหรือครับ 

 ขนส่งต้นทรีบ้าที่ตัดและตากแห้งเสร็จเรียบร้อยแล้วไปที่เชซายูค่ะ 

 จะใช้พวกนั้นสร้างท่าเรือหรือครับ 

 เปล่าค่ะ เรื่องแบบนั้นท่านพ่อที่เป็นเจ้าของเขตแดนเชซายูคงจะจัดการเองอยู่แล้ว พวกเราจะสร้างเรือกันค่ะ 

 อ๊ะ เรือ…! 

 แม่น้ำนกทาร์กับแม่น้ำเอลวี่ถือเป็นแม่น้ำที่กว้างใหญ่ในทวีปเลยนี่คะ เรือก็ต้องสร้างให้มันยิ่งใหญ่สมกับขนาดของพวกมันหน่อย 

 เช่นนั้นการขนส่งของร้านค้าเพลเลสของพวกเราเอง ก็สามารถขนส่งไปยังตะวันออกได้ง่ายขึ้นด้วยสินะครับเนี่ย! 

 ไม่ใช่แค่นั้นนะคะ… 

เธอกับเครย์ลีบันเริ่มต้นประชุมกันต่ออย่างไม่สนใจเวล่ำเวลา หลังจากไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นแบบนี้กันเสียนาน

* * *

หลังจากจบการประชุมที่ร้านค้าเพลเลส เธอก็มุ่งหน้าต่อไปยังบ้านของลอรีลทันที เนื่องจากได้รับเชิญให้ไปร่วมรับประทานมื้อเย็นกับครอบครัวของนางในวันนี้

เพราะรู้สึกหิวมากจากการประชุมอันน่าตื่นเต้น ทำให้เธอยุ่งอยู่กับการกินอาหารด้วยความหิวโหย หลังจากนั้นจึงค่อยมานั่งล้อมวงกันอยู่ในห้องรับรองพร้อมกับขนมหวานล้างปากง่ายๆ

แขกที่มาร่วมรับประทานมื้อเย็นในวันนี้ ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว

 โอ้ เมริลลีนของลุง! โอ่เอ๊ โอ่เอ๊! 

 กรี๊ด! 

คนที่กำลังจุ๊บเมริลลีนผู้เป็นหลานสาวอยู่ข้างกายเธอในขณะนี้ก็คือลุงของเมริลลีน หรือเจ้าตระกูลใต้บังคับบัญชาของลอมบาร์เดียอย่างตระกูลเดวอน คลังก์ เดวอนนั่นเอง

 พรินท์ เมริลลีนยังเด็กนัก เจ้าจงใช้ช่วงเวลานี้อย่างมีค่าเถอะ! อีกหน่อยโตกว่านี้ก็คงจะไม่ยอมเล่นกับพ่อแล้ว ถึงตอนนั้นคงต้องเศร้ามาก… 

 นั่นเป็นเพราะท่านพี่ทำตัวน่ารำคาญเกินไปต่างหาก… 

พรินท์กล่าวเช่นนั้นในขณะที่หัวเราะคิกคักกับลอรีล

 ตอนนี้ก็หัวเราะได้หรอก! รอให้เวลาผ่านไปอีกสักหน่อยเถอะ ถึงตอนนั้นเจ้าจะได้รู้ซึ้งว่าพี่ชายคนนี้พูดเรื่องอะไร ต่อให้เจ้าร้องห่มร้องไห้ข้าก็จะไม่ปลอบโยนเจ้าหรอกนะ พรินท์! 

หลังจากรับประทานอาหารและร่วมดื่มไวน์ด้วยกันหนึ่งแก้ว คลังก์ เดวอนก็เริ่มคลายความตึงเครียด จึงพูดมากกว่าปกติที่เคย

ถึงจะเป็นชายวัยกลางคนที่คออ่อนกว่าที่คิดไว้มากก็เถอะ

เธอที่นั่งดื่มไวน์พร้อมกันอยู่นี่ยังเป็นปกติเลยแท้ๆ

ในตอนนั้นเอง สายตาของเธอที่กำลังหัวเราะอยู่ก็พลันสบเข้ากับนัยน์ตาของคลังก์ เดวอน

 คุณหนู 

คลังก์กัดริมฝีปากล่างแน่น ดูเหมือนจะมีเรื่องอยากพูดมากมายเลยทีเดียว

 พูดมาเถอะค่ะ ท่านเจ้าตระกูล 

 ข้าน่ะ ข้าคลังก์ เดวอนคนนี้ เป็นคนที่จงรักภักดีต่อลอมบาร์เดีย ไม่แพ้ใครที่ไหนทั้งนั้นหรอกนะครับ ข้าคนนี้น่ะ! 

เสียงทุบหน้าอกปึงปังดังก้องไปทั่ว

 แน่นอนสิคะ หากไม่มี ‘กิจการคมนาคม’ ของตระกูลเดวอนแล้วละก็ กิจการมากมายของลอมบาร์เดียคงได้เละเทะไม่เป็นท่าเลยละมั้งคะ 

เธอเองก็หัวเราะไปพลางพูดตอบเขาแต่เธอก็ไม่ได้แค่สักแต่พูดออกไปเฉยๆ หรอกนะ

การคมนาคมของลอมบาร์เดียที่ตระกูลเดวอนเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบ ถือเป็นหนึ่งในกิจการที่เป็นแกนหลักสำคัญของกิจการมากมายในลอมบาร์เดีย

 สิ่งที่ช่วยเชื่อมต่อสาขาต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วอาณาจักรเข้ากับสาขาใหญ่ ก็เป็นการคมนาคมลอมบาร์เดีย สินค้าของกลุ่มการค้าเองก็ไปถึงจุดหมายปลายทางได้ เพราะการคมนาคมของลอมบาร์เดียทั้งนั้นไม่ใช่เหรอคะ 

 ใช่แล้วละครับ! ถูกต้องแล้วครับ! 

คลังก์ เดวอน พยักหน้าอย่างกระตือรือร้น

 แต่กลับไม่มีใครรู้ถึงความพยายามของพวกเราเลยสักคน! ทำไมล่ะครับ! 

 ดูเหมือนในการประชุมตระกูลใต้บังคับบัญชา จะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นสินะคะเนี่ย 

 เฮ้อ…บอกคุณหนูที่ยังเด็กไปก็คงไม่ได้อะไรขึ้นมาก็จริง แต่ในบรรดาตระกูลใต้บังคับบัญชาทุกตระกูล พวกเราตระกูลเดวอนเป็นตระกูลที่ถูกเมินเฉยมากที่สุดเลยครับ… 

ไหล่ของคลังก์ เดวอนผู้มีร่างกายสูงใหญ่ตกลู่ลงด้วยความหดหู่ใจ ดูแล้วช่างน่าสงสารเหลือเกิน

 ทั้งหมดนี่เป็นเพราะผลลัพธ์ที่ได้มันไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าน่ะสิครับ คนอื่นๆ ไม่สร้างอาคารบ้านช่อง ก็หาเงินจำนวนมหาศาลได้จากทางกลุ่มการค้า ทุกคนต่างก็มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอันกันหมด 

เสียงหดหู่ของคลังก์ เดวอนเริ่มค่อยๆ แผ่วลงอย่างหมดกำลังใจ

 สิ่งที่พวกเราทำได้มากที่สุดก็แค่คอยช่วยสนับสนุนตระกูลอื่นๆ เท่านั้นเอง ช่วยไม่ได้สินะครับ 

ท่าทางในการประชุมตระกูลใต้บังคับบัญชาจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นจริงๆ

ในฐานะที่เธอมีเรื่องอยากจะคุยกับคลังก์ เดวอนอยู่พอดี นี่ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีแล้วเหมือนกัน

แกรก!เธอวางแก้วไวน์ที่ถือไว้ในมือลงบนโต๊ะ

 ท่านเจ้าตระกูลเดวอนคะ 

คลังก์ เดวอนเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเธอ

ท่าทางเขาคงจะรู้สึกเสียใจมากจริงๆ เธอมองใบหน้าที่ดูเศร้าสลดนั้นพลางเอ่ยขึ้นว่า

 ไม่ชอบที่ได้แต่ทำเรื่องคอยสนับสนุนตระกูลอื่นๆ ใช่มั้ยคะ 

 เฮ้อ ถึงยังไงนั่นก็เป็นงานของพวกเราตระกูลเดวอนนี่ครับ แต่พูดตามตรงก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ แหละครับ 

 ถ้าอย่างนั้นลองเปลี่ยนมันดูเป็นยังไงล่ะคะ 

 …ครับ 

นัยน์ตาของคลังก์ เดวอนสั่นระริก

 เพื่อตระกูลเดวอนเพียงผู้เดียว และยังเป็นกิจการที่มีเพียงแค่ตระกูลเดวอนเท่านั้นที่สามารถทำได้ ไม่คิดอยากร่วมมือกับข้า สร้างมันขึ้นมาหรือคะ 

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท