เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 4 บทที่ 147.1

เล่ม 4 บทที่ 147.1

ตอนที่ 147

ราโมนา

คนคนนั้นที่เธอรู้จักในฐานะคนรักของเฟเรสเมื่อชีวิตก่อน

ราโมนาคนนั้นที่มักจะโผล่หน้ามาพร้อมเฟเรสอยู่เสมอในงานทางการทุกงาน

คนคนนั้นอยู่ที่นี่

 นางมีตำแหน่งเป็นคนดูแลสาขาของกลุ่มการค้าโมนัคค่ะ แต่เรื่องเกี่ยวกับไม้ทรีบ้า ดูเหมือนผู้หญิงคนนั้นจะเป็นคนจัดการทุกเรื่องค่ะ 

เป็นชื่อที่คิดไว้อยู่แล้วว่ายังไงสักวันก็คงต้องได้ยินเข้าหู แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกันเธอถึงได้รู้สึกตกใจเล็กน้อย

ไม่สิ เธอเองก็รู้อยู่ว่าคนคนนั้นจบการศึกษาจากอะคาเดมีพร้อมกับเฟเรส แต่ไม่รู้เลยว่านางทำงานให้กับกลุ่มการค้าโมนัคด้วย

ทำเอามึนไปหมดจนคิดอะไรไม่ออก

 ท่านฟีเรนเทีย? 

ไวโอเล็ตเรียกเธออย่างระมัดระวัง

 ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะคะ 

 เปล่า ไม่มีอะไรค่ะ  เธอยิ้มให้ไวโอเล็ตถึงแม้จะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจไปบ้าง

 ก็แค่สงสัยนิดหน่อยถึงตัวตนของคนที่ไวโอเล็ตถึงขนาดประเมินไว้สูงแบบนั้น 

 พูดตามตรงก็เป็นคนมีความสามารถมากจนอยากดึงตัวมาทำงานกับร้านค้าเพลเลสเลยละค่ะ หากเป็นคนตั้งใจทำงานและกระตือรือร้นขนาดนั้น ไม่ว่างานใดก็คงสามารถวางใจให้รับผิดชอบได้นี่คะ 

ขณะที่พูดไวโอเล็ตก็พยักหน้าหงึกหงักท่าทางนั่นทำให้ใจเธอยิ่งรู้สึกแปลกๆ

ผู้หญิงคนนั้นถึงกับคว้าใจของไวโอเล็ตที่ได้ชื่อว่าเข้มงวดเป็นที่หนึ่งไม่มีสองได้เลยเหรอเนี่ย

ไวโอเล็ตคงจะคิดว่าเธอสนใจในตัวราโมนา ถึงได้เริ่มสรรเสริญชื่นชมด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย

 …มีครั้งหนึ่งค่ะ ข้าไปร่วมงานไม่ได้ก็จริง แต่มั่นใจมากค่ะว่าให้ผู้ช่วยไปแทนก็ต้องชนะการประมูลได้อย่างง่ายดายแน่ๆ เพราะช่วงบ่ายของวันก่อนการประมูล ทางกลุ่มการค้าโมนัคจะต้องไปร่วมการประมูลในเขตแดนดีแมคที่อยู่ห่างออกไปไกลน่ะค่ะ แต่หัวหน้าสาขาราโมนากลับโผล่หน้ามาร่วมงานประมูลตอนเช้าค่ะ บางทีนางคงจะควบม้าเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่เลยทีเดียว 

 เป็นคนขยันอย่างที่ไวโอเล็ตบอกจริงๆ เลยนะคะ 

 คุณราโมนาเองก็ยังอยู่ในเขตแดนไอบันค่ะ แบบนี้อาจจะบังเอิญพบหน้ากันก็ได้นะคะเนี่ย 

ไม้ทรีบ้าที่กลุ่มการค้าโมนัคกว้านซื้อเอาไว้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถูกเก็บไว้ในโกดังแถบชานเมืองของเขตแดนไอบัน และยังเหลือเวลาอีกนานกว่าจะจัดการส่งพวกมันทั้งหมดไปยังเขตแดนอังเกนัส

เพราะฉะนั้นก็คงต้องอยู่ในไอบันอยู่แล้วเธอคิดแบบนั้นในขณะที่มองไวโอเล็ตแล้วส่งยิ้มให้

 ถ้าได้พบหน้ากันสักครั้งอย่างที่ไวโอเล็ตบอก ก็คงจะดีนะคะเนี่ย 

และเธอก็เข้าใจได้ในทันที

ภาพด้านหลังของเฟเรสที่เดินออกไปจากคฤหาสน์ตามลำพัง ไม่พาใครติดตามไปด้วยแม้แต่คนเดียวที่เธอได้เห็นนั่น มันเป็นเพราะเหตุใด

* * *

เฟเรสสวมเสื้อผ้าธรรมดาทั่วไปดูไม่ดึงดูดสายตา พร้อมกับสวมเสื้อคลุมทับอีกชั้น คลุมฮู้ดลงมาปิดบังใบหน้าจนมิด ขณะที่เดินออกไปจากคฤหาสน์

จากนั้นก็หันไปตรวจเช็กรอบๆ ให้มั่นใจว่าไม่มีใครตามเขามาราวกับติดเป็นนิสัย เขาเดินเลี้ยวไปบนถนน เลี้ยวแล้วเลี้ยวอีก จนกระทั่งเข้าไปปะปนอยู่กับฝูงชนในตลาด

มันเป็นตรอกของตลาดเก่าที่พวกชนชั้นสูงไม่ค่อยจะย่างกรายเข้ามาเท่าไหร่

เฟเรสเดินก้มหน้าท่ามกลางผู้คนมากมาย ก่อนจะเดินขึ้นไปบนอาคารสองชั้นขนาดเล็ก

สิ้นสุดปลายบันไดเป็นประตูบานหนึ่งที่ติดป้ายชื่อดูไม่เตะตาเช่นเดียวกับชุดของเขา

[กลุ่มการค้าโมนัค]

เฟเรสเปิดประตูเดินเข้าไปข้างในอย่างคุ้นเคย แล้วจึงค่อยถอดฮู้ดออก

 เจ้าชาย 

ใครคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเฟเรส

 ไม่ได้พบกันนานเลยนะ ราโมนา 

สาวงามเจ้าของนัยน์ตาสีฟ้าสว่างและเรือนผมสีไวน์แดงเป็นประกายเงางาม ราโมนายิ้มสดใสต้อนรับเฟเรส

เพียงครู่เดียวใบหน้าขาวเนียนน่ามองของหญิงสาวก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ

ราโมนามองภาพตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจกด้วยหางตา แล้วก็รู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาหน่อยๆ

นางเคืองตัวเองที่ไม่อาจเก็บซ่อนความรู้สึกในใจเอาไว้ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

และตั้งแต่ได้ยินข่าวว่าเจ้าชายจะเสด็จมาด้วยตัวเอง นางก็นอนไม่หลับสักงีบจนใต้ตาดำคล้ำไปหมด ไหนจะผมหยักศกไม่เป็นทรงนี่อีก ไม่ถูกใจนางสักเรื่อง

เรื่องพวกนี้ปกตินางไม่แม้แต่จะใส่ใจด้วยซ้ำแต่พอยืนอยู่หน้าเขาทีไร นางก็เอาแต่ใส่ใจเรื่องพวกนั้นอยู่เรื่อย

ราโมนากลืนเสียงถอนหายใจแผ่วเบาลงไป แล้วเอ่ยเสียงสดใสแทน

 หม่อมฉันเตรียมน้ำชากับขนมเอาไว้ให้เพคะ เจ้าชาย พระองค์ชอบของหวานไม่ใช่เหรอคะ 

แต่เฟเรสกลับส่ายหน้าปฏิเสธ

 อีกครู่ข้าก็ต้องไปแล้ว ไม่เป็นไร ฟังรายงานก่อนดีกว่า 

 อา… 

ราโมนามองเค้กช็อกโกแลตที่นางซื้อมาเพื่อเฟเรสโดยเฉพาะด้วยความเศร้าหมอง ก่อนจะพยักหน้าลง

และหยิบเอากองเอกสารบางๆ ที่เตรียมไว้แล้วออกมาจากลิ้นชัก ก่อนจะส่งให้เฟเรส

 เช่นนั้นหม่อมฉันจะรายงานให้ทราบระหว่างทอดพระเนตรรายงานนี่ไปด้วยนะเพคะ 

รายงานไม่ได้กินเวลานานอะไรนัก

เพราะที่ผ่านมาก็ได้รับรายงานผ่านทางจดหมายอยู่เป็นประจำ ทั้งการเลือกเฉพาะเรื่องที่สำคัญไม่เวิ่นเว้อก็เป็นวิธีการของราโมนาด้วย

หลังจากนางรายงานจบ เฟเรสก็ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาไปพักใหญ่

เขาเพียงแค่ยืนพิงขอบหน้าต่าง อ่านรายงานที่ราโมนาเขียนขึ้นอย่างช้าๆ เท่านั้น

และเสียงพลิกกระดาษหน้าสุดท้ายก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงของเฟเรส

 ลำบากเจ้าแล้ว ราโมนา 

 ขอบพระทัย…เพคะ 

ใบหน้าของราโมนาขึ้นสีแดงระเรื่ออีกครั้ง

ที่ผ่านมานางต้องลำบากทำงานมากมายต่างๆ นานา แต่แค่คำพูดประโยคเดียวแค่นี้ ก็รู้สึกเหมือนได้รับรางวัลปลอมประโลมหัวใจแล้ว

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท