เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 4 บทที่ 151.1

เล่ม 4 บทที่ 151.1

ตอนที่ 151

เจ้าหน้าที่ระดับ 1 ทอมสัน และเจ้าหน้าที่ระดับ 2 ไรอัน เป็นเจ้าหน้าที่ในจำนวน 12 คนที่ถูกส่งตัวจากพระราชวังให้ออกเดินทางมายังเขตแดนเหนือ และเป็นแรงงานที่เหลืออยู่ข้างกายเจ้าชายลำดับที่สอง โดยไม่ได้ถูกส่งตัวไปทำงานที่เขตแดนอื่น

ในตอนแรกที่ถูกส่งตัวมา เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ต่างก็สงสารพวกเขากันทั้งนั้น

แต่ในตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ต่างก็พอใจเป็นอย่างมากที่ได้เดินทางมายังเขตแดนเหนือ

เหตุผลนั่นมีแค่เรื่องเดียว เป็นเพราะเจ้าชายลำดับที่สองเฟเรสการจัดการงานของพระองค์มีประสิทธิภาพและแม่นยำมาก จนพวกเขารู้สึกได้ถึงพื้นฐานการศึกษาที่จบจากอะคาเดมีด้วยอันดับท็อปขึ้นมาเลยทีเดียว

พระองค์ไม่เคยทำเรื่องผิดพลาดเลยแม้แต่สักครั้งการได้อยู่ข้างกายเฝ้ามองอยู่เช่นนี้ มันทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงอย่างทอมสันและไรอันรู้สึกสบายใจและโล่งใจ

วันนี้เฟเรสก็ตื่นนอนตั้งแต่ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น และกำลังจัดการงานต่างๆ ด้วยความรวดเร็วจนน่าทึ่งเหมือนทุกวัน

 ต่อไป 

 เจ้าชาย พักสักครู่หนึ่งก่อนเป็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ 

 ทอมสัน 

 พ่ะย่ะค่ะเจ้าชาย 

 งานมันว่างมากจนมีเวลาให้ได้พักผ่อนงั้นหรือ 

 มะ ไม่พ่ะย่ะค่ะ 

ทอมสันเหงื่อซึมไปทั่วแผ่นหลัง แต่แล้วในตอนที่เขาส่งเอกสารที่ถือเอาไว้ในมือให้แก่เฟเรส

 เดี๋ยว  จู่ๆ เฟเรสก็เงยหน้าขึ้นมองเวลาก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

 ป่านนี้แล้วหรือเนี่ย พักสักหน่อย แล้วค่อยออกไปที่ลานก่อสร้างก็แล้วกัน 

เป็นเรื่องแปลกก็อย่างที่เฟเรสพูดไว้ก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยหยุดพักเลยสักครั้ง

 ได้เวลาแขกมาแล้ว 

ก่อนที่เฟเรสจะทันได้พูดจบประโยค เสียงเคาะประตูก๊อก ก๊อก ก็ดังขึ้นมา

 เจ้าชาย เจ้าตระกูลไอบันขอเข้าเฝ้า… 

 ขอคุยด้วยสักครู่ได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ 

ก่อนที่ไรอันซึ่งปลีกตัวออกมาด้านนอกจะทันได้แจ้งถึงการมาเยือนของแขกจบประโยค เจ้าตระกูลไอบันก็แทรกตัวเข้ามาในห้อง และพูดจาด้วยใบหน้าบึ้งตึง

เฟเรสพยักหน้าลงหนึ่งครั้งแทนคำตอบ

ทอมสันกับไรอันจึงรีบปลีกตัวออกไปจากห้อง ภายในห้องจึงเหลือเพียงแค่สองคน

 เชิญกล่าวมาได้เลยครับ เจ้าตระกูลไอบัน 

ทันทีที่เฟเรสเอ่ยปากอนุญาต เจ้าตระกูลไอบันก็เอ่ยด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะท่าทางเหมือนกับอดกลั้นเอาไว้จนถึงขีดสุดแล้ว

 เลิกก้าวก่ายอำนาจของกระหม่อมเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะเจ้าชาย 

เทียบกับเจ้าตระกูลแล้ว เสียงของเฟเรสกลับนิ่งสงบมาก

 ก้าวก่ายอำนาจ? 

 เรื่องที่พระองค์เมินเฉยกระหม่อมซึ่งเป็นเจ้าตระกูลไอบัน แล้วดึงดันแจกจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับพวกเจ้าเมืองในแต่ละเขตแดนของทางเหนืออยู่ฝ่ายเดียวพ่ะย่ะค่ะ 

แต่เฟเรสกลับเอียงคอเล็กน้อยแทนคำตอบ

เจ้าตระกูลไอบันหรี่ตาลง ขมวดคิ้วแน่นเป็นปมยามเห็นท่าทางเช่นนั้นของเฟเรส

 นี่พระองค์กำลังตั้งใจหลบเลี่ยง ไม่ทำตามที่กระหม่อมบอกหรือพ่ะย่ะค่ะ 

 เปล่า ก็แค่ไม่ค่อยเข้าใจคำว่า ‘อยู่ฝ่ายเดียว’ เท่าไหร่น่ะครับ 

 ถ้าไม่ได้ทำเอาเองฝ่ายเดียว จะเรียกว่าอะไรได้อีกล่ะพ่ะย่ะค่ะ! 

เจ้าตระกูลไอบันตวาดเสียงดัง ขณะเดียวกันก็เดินตรงเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าโต๊ะหนังสือของเฟเรส

 กระหม่อมได้กล่าวเอาไว้แล้วอย่างชัดเจนพ่ะย่ะค่ะ! เขตแดนเหนือไม่ขอรับเงินช่วยเหลือจากราชวงศ์ เรื่องของพวกเรา พวกเราจะจัดการกันเอง! แต่ทั้งๆ ที่กระหม่อมกล่าวไว้แล้วเช่นนั้น เจ้าชายก็ยังดึงดันแจกจ่ายเงินช่วยเหลือให้บรรดาเจ้าเมืองทั้งหลายอยู่ฝ่ายเดียวไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ! 

 ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงความคิดที่จะไม่รับเงินช่วยเหลือของราชวงศ์สินะครับเนี่ย 

 แน่นอนพ่ะย่ะค่ะ 

 ถ้าอย่างนั้น… ก็คงช่วยไม่ได้สินะครับ  เฟเรสพยักหน้า ก่อนจะวางปากกาขนนกในมือลงและค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นอย่างช้าๆ

ต่อให้เจ้าตระกูลไอบันจะมีร่างกายสูงใหญ่แค่ไหนเมื่อเทียบกับอายุอานามของเจ้าตัว ก็ยังเทียบกับเฟเรสไม่ได้อยู่ดี กลายเป็นเจ้าตระกูลไอบันที่มีระดับสายตาอยู่ต่ำกว่าเฟเรสที่หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จนต้องเงยหน้าขึ้นมองเฟเรสแทน

 เจโรม ไอบัน 

ทันทีที่เฟเรสเอ่ยขานนามเต็มของตนเสียงทุ้มต่ำ เจ้าตระกูลไอบันก็ผวาเฮือกไปเล็กน้อยเขาถูกจิตสังหารของเด็กหนุ่มกดข่มทับลงมา

 ข้าให้โอกาสเจ้าแล้ว โอกาสที่จะทำงานในฐานะเจ้าตระกูลไอบันซึ่งเป็นตระกูลตัวแทนเขตเหนือ ในฐานะบุคคลหลักที่ต้องรับผิดชอบเหตุดินถล่มครั้งนี้  เฟเรสหยิบเอาเอกสารปึกหนึ่งออกมาจากลิ้นชัก

 แต่ดูเหมือนเจ้าจะไม่สมควรได้รับโอกาสนั่น 

เอกสารปึกหนึ่งถูกเฟเรสโยนออกไป มันตกลงตรงหน้าเจ้าตระกูลไอบันเสียงดังตุบ

 นี่คือสิ่งแรกที่พวกเจ้าเมืองทั้งหลายลงมือทำ หลังจากได้รับเงินช่วยเหลือที่ข้าส่งไปให้พวกเขา 

นัยน์ตาของเจ้าตระกูลไอบันสั่นไหวยามกวาดสายตาไล่อ่านเนื้อหาภายในเอกสาร

 อาหาร ยา และแรงงานที่จำเป็นในการฟื้นฟูบ้านเมือง ทั้งหมดนั่นเป็นสาธารณูปโภคที่จำเป็นต้องได้รับการแจกจ่ายในทันทีอย่างเร่งด่วน แต่เจ้าเมืองพวกนั้นและพลเมืองทั้งหลายต่างก็ได้แต่เฝ้ารอ ไม่อาจรับความช่วยเหลือใดๆ ได้เลย เพราะเจ้ายังไงล่ะ เจ้าตระกูลไอบัน 

นัยน์ตาสีแดงของเฟเรสจ้องเขม็งไปยังเจ้าตระกูลไอบัน มันส่องประกายวาบขึ้นมา

 แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคงเฝ้ารอ เชื่อในคำพูดของไอบันที่บอกว่าจะรับผิดชอบฟาร์มเพาะปลูกก็ถูกดินถล่มจนเสบียงอาหารลดลงเรื่อยๆ ยาก็ขาดแคลนจนคนบาดเจ็บพากันล้มตาย แต่ก็ยังคงเฝ้ารออยู่อย่างนั้น โดยที่ไม่รู้เลยว่า ไอบันไม่มีความสามารถมากพอจะรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดได้ 

เฟเรสเดินอ้อมโต๊ะหนังสือออกมายืนเผชิญหน้ากับเจ้าตระกูลไอบัน

 เพราะอย่างนั้นข้าถึงได้ต้องเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง เพราะอย่างนั้นข้าถึงได้ให้โอกาสเจ้า โอกาสที่จะรับผิดชอบเรื่องดินถล่ม เหมือนอย่างที่เจ้าการันตีไว้กับทุกคน แต่เจ้ามันหมดหวังแล้ว 

นัยน์ตาของเฟเรสยามหลุบมองเจ้าตระกูลไอบันแฝงเอาไว้ด้วยความเหยียดหยาม

 เจโรม ไอบัน เมื่อเรื่องนี้จบลง ข้าจะกราบทูลฝ่าบาทให้ปลดเจ้าออกจากตำแหน่งเจ้าตระกูล เพราะเจโรม ไอบันไม่มีความสามารถมากพอจะเป็นตัวแทนเขตแดนเหนือได้อีกต่อไป 

 เรื่องเช่นนั้นจะทำได้ยัง… 

 คิดดูใหม่อีกครั้งสิ ข้าเป็นใคร 

เจ้าตระกูลไอบันปิดปากที่อ้าออกจะประท้วงลงทันที

เจ้าชายรับราชโองการจากองค์จักรพรรดิ พระองค์มีหน้าที่รายงานขั้นตอนการทำงานและผลลัพธ์ที่ได้ทุกเรื่องต่อฝ่าบาทโดยตรง

หากเป็นเช่นนั้น มีโอกาสสูงมากที่ผู้รับผิดชอบจะไม่ใช่ตัวเจ้าตระกูลไอบันอย่างเจโรม ไอบันเพียงผู้เดียว แต่ตระกูลไอบันทั้งตระกูลจะต้องร่วมรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี่ด้วยกัน

หากพลาดไปแล้วละก็ ไอบันอาจจะต้องเสียสิทธิ์ในการดำรงตำแหน่งตัวแทนเขตแดนเหนือไปก็เป็นได้

 เลือกให้ดี เจ้าตระกูลไอบัน จะถอยจากตำแหน่งเจ้าตระกูล ยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดนี่เป็นความผิดพลาดของเจโรม ไอบันเพียงคนเดียว หรือจะให้ตระกูลไอบันทั้งหมดต้องรับผิดชอบไปกับเจ้าด้วย 

เฟเรสเอ่ยว่าอย่างเย็นชา

ในตอนนั้นเอง

ครืนนนน โครม!

รู้สึกได้ถึงผืนดินที่สั่นสะเทือน พร้อมกับเสียงดังสนั่นราวกับมีอะไรบางอย่างที่ใหญ่โตร่วงถล่มลงมาดังขึ้น

เฟเรสและเจ้าตระกูลไอบันเงยหน้าขึ้น หันไปมองสถานที่ที่เป็นที่มาของเสียงนั่นกันอย่างพร้อมเพรียง

 …ดินถล่ม? 

เฟเรสขมวดคิ้วแน่นจนหน้านิ่ว ด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ ว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้น

* * *

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท