เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 4 บทที่ 161.2

เล่ม 4 บทที่ 161.2

เล่ม 4 บทที่ 161.2

ชานตั้น เซอเชาว์ ไม่ใช่เล่นๆ เลย

แคลอฮันลอบกลืนน้ำลายแห้งหนืดลงคอด้วยความรู้สึกกังวลในใจ

ก่อนหน้านี้เขาเคยประเมินอีกฝ่ายต่ำเกินไป เพราะชื่อตำแหน่งอดีตหัวหน้ากองกำลังอัศวิน คงเป็นแค่คนที่เคยแต่จับดาบแต่ชายที่เขาได้พบด้วยตัวเองคนนี้ เป็นดั่งหมียักษ์ดุร้ายตัวใหญ่

ร่างกายสูงใหญ่ พฤติกรรมการแสดงออกดูจะเป็นพวกทึ่มทื่อ แต่ที่จริงแล้วกลับมีสัญชาตญาณเฉียบคมดั่งนักล่าผู้แข็งแกร่ง

 เพราะฉะนั้นก็รับข้อเสนอของข้าเถอะ ท่านชายลอมบาร์เดีย อย่าให้ข้าต้องไปขวางทางเจ้าเลย 

ขอแค่ตอบรับข้อเรียกร้อง ก็จะไม่เข้าไปขัดขวาง

คำหลอกล่อเสียงหวานกำลังเกลี้ยกล่อมว่าอย่าให้ต้องเป็นศัตรูกันเลย

แคลอฮันมองหน้าชานตั้น เซอเชาว์ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าตกลง แล้วลุกขึ้นจากที่นั่งยื่นมือออกไปเพื่อจับมือพลางเอ่ยขึ้นว่า

 เอาตามนั้นก็แล้วกันครับ ส่วนเรื่องค่าผ่านทางข้าจะส่งรายละเอียดไปให้ที่คฤหาสน์โดยเร็วที่สุด 

มือของชานตั้น เซอเชาว์ที่กำลังจับมือของแคลอฮันด้วยความพอใจหยุดนิ่งไปทันที

 …ค่าผ่านทาง? 

 คิดที่จะแล่นเรือผ่านกันฟรีๆ หรือครับ ไม่ต้องห่วงนะครับ เซอเชาว์เองก็เป็นเพื่อนบ้านกัน ข้าจะให้ราคาเป็นกันเอง ย่อมเยาแน่นอนครับ 

นัยน์ตาคมของชานตั้น เซอเชาว์จ้องแคลอฮันเขม็งแต่แคลอฮันเองก็ไม่คิดที่จะหลบสายตาคู่นั้น

ชานตั้น เซอเชาว์ ช่างคล้ายคลึงกับรูลลัก ลอมบาร์เดียผู้เป็นบิดาของเขาเสียจริง

กับคนแข็งแกร่งประเภทนี้ จะทำตัวอ่อนให้เห็นไม่ได้เด็ดขาดต้องเงยหน้าคอตั้งถึงจะแค่นิดเดียวก็ยังดี แล้วเผชิญหน้ากันตรงๆ ทำเช่นนั้นถึงจะรอดพ้นกรงเล็บนั่นไปได้

โล่งอกที่นัยน์ตาของชานตั้น เซอเชาว์ที่กำลังมองแคลอฮันอยู่นั้น กลับแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มแล้วอีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นว่า

 เจ้าเมืองเชซายูพูดเช่นนั้นแล้ว ก็ต้องเชื่อใจสิ เข้าใจแล้วครับ เช่นนั้นข้าจะรอการติดต่อมาก็แล้วกัน 

ชานตั้น เซอเชาว์เดินออกไปจากห้องทำงาน

หลังจากเหลืออยู่ตัวคนเดียวในห้อง แคลอฮันก็ทรุดกายนั่งลงบนโซฟามันทั้งแบบนั้น

 ฮู่ว… 

หัวใจเต้นเสียงดังโครมครามลมหายใจหนักหน่วงถูกพ่นออกมาด้วยความเหนื่อยล้า

ความรู้สึกราวกับเพิ่งปกป้องท่าเรือเชซายูเอาไว้จากคมเขี้ยวของสัตว์ป่าดุร้ายได้สำเร็จ

และในตอนนั้นเองก็พลันนึกถึงคำพูดของอีกฝ่ายยามสนทนากันเมื่อครู่ขึ้นมา

 และข้าก็ไม่อาจทนมองผลผลิตที่ชาวนาของเซอเชาว์แลกมาด้วยเลือดเนื้อและหยาดเหงื่อ ต้องถูกขายไปในราคาถูกจนแทบไร้ค่าเช่นนั้นอีกต่อไปแล้วครับ 

สับสนไปหมด

 …หรือจะไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรนัก 

แคลอฮันยกมือขึ้นลูบใบหน้าคมเข้มขณะที่พึมพำเสียงแผ่วเบาด้วยความไม่เข้าใจ

* * *

ถึงแม้จะเรียกว่าเป็นการรับประทานมื้อเย็นอันแสนเรียบง่าย แต่อย่างไรวันเกิดของเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียก็ย่อมไม่มีทางผ่านพ้นไปเงียบๆ ได้อยู่แล้ว

ต่อให้มีเพียงแค่บุตรหลานสายตรงของเจ้าตระกูล และบรรดาตระกูลใต้บังคับบัญชามารวมตัวกันเท่านั้น แต่โถงจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่ประจำคฤหาสน์ลอมบาร์เดียก็ยังแน่นขนัดไปทั่วทุกมุม

ตอนนี้ทุกคนต่างก็รับประทานอาหารกันเสร็จแล้ว จึงถึงเวลาสำหรับเดินเล่นสนทนาอย่างผ่อนคลาย

ข้างกายรูลลักเองก็ห้อมล้อมไปด้วยบรรดาเจ้าตระกูลใต้บังคับบัญชา รวมถึงชานาเนสกับเบเจอร์ก็ด้วย ทุกคนกำลังนั่งล้อมวงสนทนากันหลายเรื่อง

 ทางเหนือเองก็มั่นคงดีแล้ว ราคาสินแร่… 

 ลอมบาร์เดียเองก็น่าจะถือโอกาสนี้ลงทุนในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ตะวันตกเพิ่มขึ้น… 

รูลลักฟังบนสนทนาเรื่อยเปื่อยแบบฟังเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาเสียหมด เขายกแก้วเหล้าขึ้นหมุนเบาๆ

เรื่องที่ผัดวันไปเรื่อย อย่างไรก็ต้องถึงขีดจำกัดในสักวัน

ตอนนี้เวลาในการเลือกตัวผู้สืบทอดกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

รูลลักหันไปมองชานาเนส เบเจอร์ และที่นั่งว่างของแคลอฮันอย่างเชื่องช้า

ชานาเนสนั้นสามารถเป็นเจ้าตระกูลที่ยอดเยี่ยมได้อย่างไม่ต้องกังขา

อาจจะมีคำพูดนินทาลับหลังเพราะเป็นผู้หญิง แต่อย่างไรก็ใช้นามสกุลลอมบาร์เดีย อีกทั้งเด็กแฝดเองก็สืบทอดนามสกุลลอมบาร์เดียต่อเช่นกัน ตามกฎมนเทียรบาลของอาณาจักรแล้ว ถือว่าไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น

หากเจ้าตัวไม่ยืนกรานหลายหนว่า ‘ข้าไม่คิดจะเป็นเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียคนถัดไป’ แล้วละก็ ชานาเนสจะเป็นผู้สืบทอดที่สมบูรณ์แบบที่สุด

ส่วนเบเจอร์ ‘ปล่อยไว้เดี๋ยวก็รู้’

กิจการท่องเที่ยวทางตะวันตกของอังเกนัสเป็นแผนการที่ยังไม่แน่นอน

อย่างที่เบเจอร์บอกนั่นแหละ กิจการนั่นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับอนาคตทั้งสิ้น เอาแน่เอานอนอันใดไม่ได้

สายตาของรูลลักเบือนไปมองที่นั่งว่างเปล่าของแคลอฮันอีกครั้ง

เขาไม่เคยนึกเลยว่าวันเช่นนี้จะมาถึง แต่ระยะหลังมานี่ในใจของรูลลักเริ่มเอนเอียงไปทางบุตรชายคนสุดท้องอย่างแคลอฮันมากกว่าฝ่ายใด

นับตั้งแต่บุตรชายเติบใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ได้ทราบว่าเป็นคนมีความจำดีแค่ไหน และในระหว่างที่แคลอฮันได้บริหารจัดการกิจการร้านขายเสื้อผ้าแคลอฮัน เจ้าตัวก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า หัวสมองนั่นมันไม่ได้เป็นพวกหนอนหนังสือธรรมดาทั่วไปที่รู้แต่ทฤษฎีในหนังสือ

อีกอย่างล่าสุดมานี้ก็ยังก่อสร้างท่าเรือขึ้นในเขตแดนเชซายู แสดงให้ทุกคนประจักษ์แจ้งถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมในฐานะเจ้าเมือง

แต่เหตุผลที่สำคัญที่สุดมันไม่ใช่ทั้งมันสมองของแคลอฮัน ไม่ใช่ทั้งประสบการณ์ในฐานะเจ้าเมือง

ทว่าสิ่งนั้นคือ

 ท่านปู่คะ  เสียงใสกังวานปลุกรูลลักให้ตื่นจากภวังค์

 ท่านปู่ สุขสันต์วันเกิดนะคะ! 

ฟีเรนเทีย หลานสาวของเขาคนนี้

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท