เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 4 บทที่ 162.1

เล่ม 4 บทที่ 162.1

เล่ม 4 บทที่ 162.1

ตอนที่ 162

 ดูเหมือนพ่อจะมาสายสินะคะ 

ปกติท่านพ่อไม่ใช่คนที่จะมาสายในงานสำคัญอย่างวันเกิดท่านปู่แท้ๆ ไม่ใช่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอกใช่มั้ย

 คงจะหลบฝนอยู่ที่ไหนนั่นแหละ ไม่ต้องห่วงหรอก เทีย 

ลาลาเน่ตบไหล่เธอเบาๆ พลางเอ่ยปลอบ

 ฝน? 

เธอเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

 หลังจากที่เทียเกิดอุบัติเหตุเมื่อคราวก่อน ท่านปู่ก็ออกคำสั่งไว้ไม่ใช่เหรอ 

 คนของลอมบาร์เดียทุกคน ถ้าหากฝนหรือหิมะตกลงมาหนัก จะต้องหยุดรถม้าหลบเลี่ยงมันทันที 

สองแฝดเลื่อนจานผลไม้กับขนมหวานมาให้ตรงหน้าเธอ

รู้ได้ยังไงเนี่ยว่าเธอชอบกินอะไรบ้างทั้งหมดนั่นมีแต่ของที่เธอชอบทั้งนั้นเลย

 ใช่แล้ว คงจะเป็นแบบนั้น 

เธอใช้ส้อมจิ้มผลไม้ขึ้นมาหนึ่งชิ้น เคี้ยวมันไปพลางหันไปมองทางฝั่งที่นั่งสูงสุดในงาน

ข้างกายท่านปู่มีผู้คนมากมายรายล้อม แต่ไม่มีใครกำลังสนทนากับท่านปู่จริงๆ เลยสักคน

ทั้งๆ ที่เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนมารวมตัวกันอวยพรวันเกิดของท่านปู่แท้ๆ แต่ภาพของท่านปู่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนเกาะโดดเดี่ยวท่ามกลางทะเลคลั่ง ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่

 จะไปไหนน่ะเทีย 

พอเธอลุกจากที่นั่ง คิลลีวูที่กำลังเทนมลงในถ้วยชาของเธอ แล้วตักน้ำผึ้งใส่ลงไป ก็เอ่ยถามขึ้นมา

 พอดีมีของจะมอบให้ท่านปู่หน่อยน่ะ เดี๋ยวมานะ 

เธอหยิบกระเป๋าที่เตรียมมาด้วยขึ้นมาถือไว้ แล้วเดินตรงไปหยุดอยู่ข้างกายท่านปู่

 ท่านปู่คะ 

แต่ท่านปู่กลับไม่ได้ยินเสียงของเธอ คล้ายกับกำลังครุ่นคิดเรื่องอะไรบางอย่างอยู่

เธอจงใจพูดเสียงดังขึ้นอีกหน่อย

 ท่านปู่ สุขสันต์วันเกิดนะคะ! 

 อืม อ๊ะ ขอบใจนะ เทีย 

ในตอนนั้นเอง นัยน์ตาสีน้ำตาลอบอุ่นถึงค่อยหันมามองหน้าเธอ

เธอนั่งลงบนที่นั่งข้างกายท่านปู่ เอื้อมมือไปกุมมือของท่านเอาไว้ แล้วเอ่ยขึ้นว่า

 ต่อไปก็ขอให้จัดงานวันเกิดอีกร้อยรอบอย่างคนมีสุขภาพดีนะคะ ท่านปู่ 

 ฮ่าฮ่าฮ่า เด็กคนนี้นี่  ท่านปู่เองก็หัวเราะชอบใจในการออดอ้อนของเธอและเอาแต่ลูบหัวเธอไม่หยุด

 ข้าทราบว่าห้ามให้ของขวัญวันเกิด แต่สิ่งนี้มันต่างไปเล็กน้อย เพราะฉะนั้นช่วยรับเอาไว้ทีนะคะ 

เธอหยิบเอาซองสีแดงออกมาจากกระเป๋าถือแล้วส่งมันให้ท่านปู่

 นี่อะไรหรือ เทีย 

 บัตรเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงของร้านค้าเพลเลส ที่จะจัดขึ้นริมแม่น้ำในเมืองหลวงอีกหนึ่งสัปดาห์ให้หลังค่ะ ท่านปู่ 

 โอ้ว จัดงานเลี้ยงริมแม่น้ำหรือ 

ท่านปู่เปิดซองหยิบเอาบัตรเชิญออกมาดูด้วยนัยน์ตาแฝงความใคร่รู้

 ช่วงนี้อากาศดีมากไม่ใช่เหรอคะ น่าเสียดายที่จัดได้เฉพาะฤดูกาลนี้เท่านั้น ข้าก็เลยเตรียมการไว้เป็นพิเศษเลยค่ะ 

 เตรียมการ? หมายความว่างานเลี้ยงนี่เทียเป็นคนเตรียมงานอย่างนั้นหรือ 

พอจะสังเกตเห็นได้ว่า บรรดาตระกูลใต้บังคับบัญชารอบๆ กับคนของลอมบาร์เดียต่างก็กำลังเอียงหูลอบฟังบทสนทนาของพวกเราอยู่

เพราะคำพูดที่เธอบอกว่ามีส่วนร่วมในงานของร้านค้าเพลเลส ทำให้ทุกคนต่างเริ่มหยุดบทสนทนาของตัวเองกันทีละคนสองคน

แล้วยังไงล่ะ ตอนนี้มันก็ถึงเวลาที่เธอจะเริ่มค่อยๆ ถอดบทบาท ‘ลูกศิษย์ของเครย์ลีบัน’ ออกได้แล้ว

เธอพยักหน้าลงพลางเอ่ยตอบ

 ค่ะ ท่านปู่ ซองบัตรเชิญนี่ข้าก็เป็นคนเลือกเองเลยนะคะ ลองดูสิคะ เป็นสีแดงด้วย 

 ฮ่าฮ่า อย่างนั้นนี่เอง 

 ที่จริงแล้วมันไม่ใช่งานเลี้ยงธรรมดาค่ะ แต่เป็นงานเปิดตัวกิจการใหม่ของร้านค้าเพลเลส และกิจการใหม่ในครั้งนี้ข้าก็มีส่วนช่วยคิดด้วย เพราะฉะนั้นถ้าท่านปู่มาร่วมงาน ข้าคงจะดีใจมากๆ เลยค่ะ 

 โอ้ว อย่างนั้นเองหรือเนี่ย ได้สิ ถ้าอย่างนั้นปู่คนนี้ก็ต้องไปร่วมงานด้วยอยู่แล้วละ! 

 ว้าว ถ้าท่านปู่มาละก็ คนอื่นๆ ต้องตะลึงจนเบิกตาโตแน่เลยค่ะ! 

งานเลี้ยงย่อมมีราคาต่างกันไปตามแขกที่มาร่วมงาน

หากเจ้าตระกูลลอมบาร์เดียมาร่วมงานด้วยตัวเองแล้วละก็ ความสำคัญของงานเลี้ยงกับอิทธิพลของงานจะมีน้ำหนักมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว

แต่จู่ๆ ก็ดันมีเสียงกระแนะกระแหนดังแทรกความสำราญใจขึ้นมา

 อย่างมากก็คงแค่ช่วยเลือกดอกไม้ประดับงานเท่านั้นนั่นแหละ 

เบเจอร์เมาเหล้าเสียจนใบหน้าแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์

ว่ายังไงนะ ไอ้ขี้เมานี่

เบเจอร์เหลือบมองเธอด้วยหางตา ก่อนจะพูดเสียงดังใส่หน้าท่านปู่

 ท่านพ่อ! วันนี้ท่านพ่อเองก็ทราบไม่ใช่หรือครับ! ว่าข้าได้เงินค่าก่อสร้างจากอังเกนัสมาเท่าไหร่! งานเลี้ยงวันนี้เองก็ควรจะจัดเพื่อข้ามากกว่าไม่ใช่หรือครับ ฮ่าฮ่า! 

เห็นช่วงนี้เซรัลสวมปลอกคอจูงสายไปไหนมาไหนแล้ว นึกว่าจะสงบเสงี่ยมลงไปบ้างแล้วเสียอีก

สันดานอย่างไรก็แก้กันไม่หาย สุดท้ายพอเหล้าเข้าปากก็พูดพล่อยๆ เหมือนเคย

 เบเจอร์ เจ้าคงจะดื่มหนักเกินไปแล้ว 

ท่านปู่เองก็ทนมองต่อไม่ไหว จึงเอ่ยเสียงทุ้มต่ำด้วยใบหน้าไม่พอใจ

เธออยากจะหยิบเอาผ้าเช็ดปากที่วางกองทิ้งไว้บนโต๊ะขึ้นมาอุดปากเน่าๆ นั่นอย่างที่ใจคิด แล้วสั่งให้พวกข้ารับใช้มาลากตัวออกไปเสียจริง

พยายามเกลี้ยกล่อมตัวเองให้คิดถึงหน้าตาเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่กำลังจับตามองอยู่ ขณะเดียวกันก็สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อสงบสติอารมณ์

ทะเลาะกับเบเจอร์ไป ก็มีแต่จะโดนน้ำลายกระเด็นใส่หน้าเปล่าๆ ต้องอดทนเข้าไว้…

 ถึงจะเป็นตระกูลอังเกนัสที่กำลังขาดแคลนเงินทุน แต่เพียงแค่ข้าเรียกร้องไปก็จัดการจ่ายให้ทันทีไม่ใช่หรือครับ! ลูกผู้ชายมันก็ต้องแข็งแกร่งเหมือนข้าถึงจะถูก! 

เอาแต่พูดปาวๆ ฝ่ายเดียวเลยนะ

คำพูดของเบเจอร์ไปกระตุกเส้นความอดทนในใจของเธอจนมันขาดผึงเข้าจนได้

เธอเอ่ยยิ้มๆ

 ใครมาได้ยินเข้าจะคิดว่าอังเกนัสมอบเงินเปล่าที่ไม่จำเป็นต้องให้ก็ได้กับพวกเราลอมบาร์เดียนะคะทั้งๆ ที่กว่าจะจ่ายก็ล่าช้าไปมาก แถมยังจ่ายคืนมาไม่ถึงครึ่งแท้ๆ แต่นี่กลับโอ้อวดเอาเครดิตเข้าตัวขนาดนั้น 

 หุบปาก! เย่อหยิ่งไม่รู้จักเจียมตัว… 

เบเจอร์จ้องหน้าเธอด้วยความไม่พอใจอย่างเปิดเผย แต่เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าของท่านปู่ที่บึ้งตึงก็หยุดชะงักแล้วจึงค่อยพูดต่อราวกับต้องการสั่งสอนเธอ

 รู้แต่หนึ่งไม่รู้สอง การพัฒนาตะวันตกมันไม่ได้จบลงแค่นี้หรอกนะ ถ้ากิจการท่องเที่ยวในครั้งนี้เป็นไปได้สวยละก็ ใครๆ ก็จะต้องชมกลุ่มก่อสร้างลอมบาร์เดียแน่ๆ แค่เงินทุนก่อสร้างครึ่งเดียวยังถือว่าพวกเราได้ประโยชน์มากโข 

จะว่ายังไงดีล่ะ

คงไม่มีการก่อสร้างครั้งต่อไปหรอก

เบเจอร์เดาะลิ้นเสียงดังจิ๊จ๊ะ เอาแต่พูดพล่ามไม่หยุด

 ครอบครัวเดียวกันมันก็ต้องช่วยเหลือกันและกันถึงจะดี 

เธอเอียงคอแสร้งทำเป็นงุนงงกับคำพูดของเบเจอร์ แล้วเอ่ยตอบกลับไป

 แปลกจังเลยนะคะ อังเกนัสกลายเป็นตระกูลใต้บังคับบัญชาของลอมบาร์เดียตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอคะ ครอบครัวเดียวกันอย่างนั้นเหรอ 

 ฮ่าฮ่า… 

ลูกน้องใต้บังคับบัญชาของตระกูลหลายคนหัวเราะเสียงค่อย

เพราะมันเป็นมุกที่ตลกพอควร

ไม่ว่าจะดูจากขนาดของตระกูล ตำแหน่งหรืออิทธิพลที่มี หรือกระทั่งทรัพย์สินในครอบครอง

หากอังเกนัสจะกลายมาเป็นครอบครัวเดียวกับลอมบาร์เดียอย่างที่เบเจอร์กล่าวมาจริงๆ ทางฝ่ายนั้นมีแต่จะต้องเข้ามาสยบอยู่ใต้เท้าพวกเราเท่านั้น

 

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท