Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ – ตอนที่ 1902 เดินจากไป

ตอนที่ 1902 เดินจากไป

แสงอันเย็นเยือกวิ่งผ่านไปพร้อมเลือดที่สาดกระเซ็น

ตอนนี้ลำคอของหนึ่งในยอดผู้พิทักษ์ถูกเปิดเป็นแผลกว้างพร้อมเลือดที่ไหนออกมาอย่างไม่มีหยุด

ดูท่าแล้วเขาคงไม่อาจรอดชีวิตไปได้อีกแล้ว

แค่ดาบเดียวนี้มันกลับทะลวงปราการของสี่ยอดผู้พิทักษ์ลงได้

ภายในดงปิตินั้นถูกความเงียบงันเข้ากลืนกิน สายตาของทุกผู้คนต่างจับจ้องไปยังเงาร่างนั้น

เด็กคนนี้เหตุใดจึงแข็งแกร่งได้ปานนี้?

ยังเป็นแค่หนุ่มน้อยแต่กลับมีพลังฝีมือที่เหนือล้ำ ทำไมคนระดับนี้จึงไม่เคยมีชื่อเสียงมาก่อนเลยในเมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่นกัน?

แค่ดาบเดียวก็สังหารหนึ่งในสี่ยอดผู้พิทักษ์ลงได้ พลังระดับนี้มันควรถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในยอดคนของรุ่นหนุ่มสาวในเมืองจักรพรรดิเก้ามั่นแล้ว

ต่อให้เป็นหรงซีเยว่แห่งหอยอดดอกก็คงไม่มีทางเก่งกาจได้ปานนี้หรอกใช่ไหม?

แล้วเจ้าเด็กคนนี้มันมาจากที่ใดกัน?

“ไสหัวไป!”

เย่หยวนเปิดปากพูดขึ้นพร้อมก้าวเท้าออกไปด้านหน้า

นั้นทำให้คนทั้งสามตรงหน้าต้องสั่นเทาร่างถอยไปด้านหลังอย่างไม่อาจควบคุมได้

คนทั้งสามนั้นถอยหลังไปอย่างไม่อาจห้ามตัวเองได้จนเกือบถึงหน้าประตูของดงปิติแล้วเรียบร้อย

พวกเขาถอยหลังจนไม่อาจที่จะถอยได้แล้ว!

ถอยไปมากกว่านี้เย่หยวนก็คงได้เดินออกดงปิติไป

ถึงเวลานั้นเมื่อไม่มีค่ายกลคุ้มกันแล้วมันคงยิ่งเป็นเรื่องยากเย็นที่จะหยุดเย่หยวนไว้ได้

สีหน้าของคนทั้งสามเปลี่ยนสีไปมาก่อนจะหันไปมองหน้ากันด้วยสายตาสั่นๆ ด้วยท่าทางของผู้ที่ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด

“ฆ่ามัน!”

ยอดผู้พิทักษ์ทั้งสามใช้พลังที่มีออกมาทั้งหมดทั้งสิ้นและพุ่งตัวออกไปด้านหน้าอีกครั้ง

“ดาบเก้าขั้วแสง!”

“ดาบกวางลมชาด!”

“ดาบวิญญาณอรุณ!”

แสงของดาบนี้ส่องสว่างจ้าภายในโถงโล่งๆ นี้เต็มเปี่ยมไปด้วยคลื่นดาบอันบ้าคลั่ง

และเย่หยวนก็ยืนอยู่ท่ามกลางความบ้าคลั่งนี้

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

ในวินาทีชั่วพริบตานี้คนทั้งสี่ได้แลกดาบกันไปนับไม่ถ้วน

เหล่าคนรอบๆ ต่างแทบลืมหายใจมองดูภาพตรงหน้าอย่างที่สายตาไม่อาจจับได้ทันว่าดาบของทั้งสี่คนนั้นปะทะกันไปมากเท่าใดแล้ว

พลังของสี่ยอดผู้พิทักษ์นั้นฝังลึกลงในจิตใจของลูกค้าทุกคนในที่แห่งนี้จนไม่มีใครกล้าที่จะก่อเรื่องใดๆ

แต่เย่หยวน นภาสวรรค์ห้าดาวคนนี้กลับสามารถต่อสู้กับคนทั้งสามนี้ได้อย่างไม่เสียเปรียบแม้แต่น้อย เรื่องนี้มันทำให้ทุกผู้คนตกตะลึงอย่างมาก

คนทั้งสามนี้คือนภาสวรรค์แปดดาว แต่ละคนนั้นมีพลังบ่มเพาะสูงกว่าเย่หยวนถึงสามดาว

แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสามนั้นกลับไม่อาจชิงความได้เปรียบมาได้แม้แต่น้อย

“ดาบตัดผ่ามิติ!”

ฉัวะ!

เมื่อแสงดาบนั้นปรากฏขึ้นคนทั้งหลายที่มองดูก็นิ่งงันไปทันที

นภาสวรรค์แปดดาวตายลง!

“นี่มัน… แข็งแกร่งจนเกินไปแล้ว!”

“ผสานแรวคิด! แนวคิดแห่งห้วงมิติ! นี่มันยอดอัจฉริยะไร้เปรียบชัดๆ!

“เจ้าเด็กคนนี้มันมาจากไหนกันแน่? คนเช่นนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อนเลยในเมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่นเรา!”

ในพริบตาเดียวสองจากสี่ยอดผู้พิทักษ์ก็ได้ตายตกลงไปทำให้ทุกผู้คนตื่นตกใจอย่างที่ไม่อาจจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้

และเพลงดาบที่เย่หยวนแสดงออกมานี้มันก็แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในแนวคิดอย่างสูงส่งจนมันกลายเป็นความงดงาม

ตอนนี้พวกเขาทั้งหลายได้รู้อย่างแท้จริงแล้วว่าเย่หยวนนั้นเก่งกาจ

ยอดผู้พิทักษ์อีกสองคนที่เหลือนั้นได้แต่มองดูเย่หยวนด้วยความหวาดกลัวสุดขั้วหัวใจ

ดาบเมื่อสักครู่นี้ไม่ว่าเย่หยวนจะฟันมันใส่ใครพวกเขาก็คงไม่อาจรับมันไว้ได้

เย่หยวนดึงตัวเจียงไห่ถังเดินออกไปยังประตูอีกครั้งหนึ่ง

แล้วมีหรือที่ทั้งสองคนจะยังกล้าไปขัดขวางใดๆ? ตอนนี้พวกเขาแหวกทางเปิดให้เย่หยวนเดินอย่างไม่รู้ตัว

สภาพของเจียงไห่ถังตอนนี้เหมือนคนเสียสติ แค่ระยะทางไม่กี่ช่วงเท้าที่เดินออกมานี้มันทำให้นางรู้สึกราวกับว่าตัวเองกำลังฝันไป

นางนั้นเดินตามเย่หยวนออกมาอย่างว่าง่ายจนถึงหน้าประตูทางออก

ที่ด้านหน้านี้คือประตูทางออกจากดงปิติ แค่ไม่กี่ก้าวเท่านั้น

แต่จู่ๆ ช่องว่างมิติตรงหน้านั้นก็แตกแยกออกมาเผยให้เห็นเงาร่างหนึ่ง

ชายวัยกลางคนในชุดสีเทาอ่อนเดินออกมามองดูเย่หยวนอย่างเย็นเยือก ก่อนจะหันหน้าไปหายอดผู้พิทักษ์ทั้งสองคน

นั่นทำให้หนึ่งในสองคนต้องพูดขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก “ท-ท่านฝางคุน!”

“ไม่มีปัญญาจะจัดการกับนภาสวรรค์ห้าดาวคนเดียว กลับไปเจ้าต้องรับโทษ!” ฝางคุนบอก

นั่นทำให้ยอดผู้พิทักษ์คนนั้นหน้าถอดสีไปทันที “น-นายท่าน เรา…”

ฝางคุนไม่คิดสนใจคำแก้ตัวและพูดขัดขึ้นทันที “ยังจะมีหน้ามาพูดอ้าง? เจ้าไม่คิดยอมรับผิด?”

“ข้า… ขอน้อมรับผิด!” ยอดผู้พิทักษ์ผู้นั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าซีดเผือด

ผู้คนรอบๆ ตอนนี้ทุกคนต่างแสดงสีหน้าท่าทางอึดอัดออกมาตามๆ กัน

พวกเขารู้และเห็นอย่างชัดเจนว่าเรื่องราวในวันนี้มันมิใช่ความผิดของยอดผู้พิทักษ์เลย

แต่ฝางคุนนั้นเป็นคนที่ไม่คิดสนใจใดๆ นอกจากผลลัพธ์เท่านั้น

ฝางคุนนั้นเป็นถึงยอดนภาสวรรค์เก้าดาวขั้นสุด พลังฝีมือของเขานั้นย่อมเหนือล้ำกว่าสี่ยอดผู้พิทักษ์นี้อย่างมากมาย

ในเมืองหลวงจักรพรรดิเก้ามั่นนี้หากเทพถ่องแท้ไม่ลงมาจัดการเรื่องเอง ตัวเขาก็คงสามารถจัดการทุกผู้คนได้อย่างง่ายดาย

เขาที่เฝ้าดูแลดงปิติมาหลายต่อหลายปีนั้นไม่เคยทำงานผิดพลาดมาก่อน เป็นดั่งเสาหลักที่คอยปักค้ำจุนดงปิติแห่งนี้ให้มั่นคง

ต่อให้ผู้ที่ก่อเรื่องจะเป็นนภาสวรรค์เก้าดาว ตัวเขาเองก็สามารถจัดการมันได้อย่างไม่ยากเย็น

“เท่านี้เรื่องก็คงไม่อาจดำเนินต่อไปได้แล้ว ถึงขั้นทำให้ท่านฝางคุนออกมารับหน้าเองเช่นนี้ เรื่องวันนี้คงจบลงเท่านี้”

“หึ ท่านฝางคุนนั้นมีพลังฝีมือเหนือล้ำ เจ้าเด็กคนนี้มันก็ประมาทจนเกินไป น่าเสียดายที่มีพลังฝีมือมากขนาดนี้กลับต้องมาตายลงง่ายๆ เช่นนี้”

“อ่า ด้วยพลังฝีมือของเขานี้พวกเขาคิดอยากฆ่าสังหารเปิดทางจริงๆ คงสามารถหนีไปได้นานแล้ว แต่นี่เขากลับค่อยเดินออกไปยังทางออกจนสุดท้ายต้องมาเจอทางตัน!”

คนทั้งหลายนั้นเป็นแขกประจำดงปิติก็ไม่น้อย แน่นอนว่าพวกเขาย่อมรู้ถึงชื่อเสียงความเก่งกาจของฝางคุน

ไม่มีใครนั้นกล้าจะมาก่อเรื่องที่ดงปิติมันก็เพราะว่าพวกเขาทั้งหลายรู้ดีว่าผู้ดูแลดงปิตินี้มันคือฝางคุน

ฝางคุนถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปมองเย่หยวนและกำลังจะเปิดปากพูดแต่เป็นเย่หยวนก็กลับชิงพูดตัดหน้าขึ้นมาก่อน “ไสหัวไป!”

ฝางคุนผงะไปทันทีที่ได้ยินก่อนจะหัวเราะเย้ยขึ้น “ช่างเป็นเด็กน้อยที่ป่าเถื่อน เจ้าคงไม่คิดว่าข้าเป็นเหมือนขยะพวกนี้หรอกใช่ไหม?”

เย่หยวนจ้องมองดูที่อีกฝ่าย “เจ้าก็ไม่ได้แตกต่างจากพวกมัน หากยังไม่คิดไสหัวไป เจ้าเองก็ต้องตายลงเช่นกัน”

พูดไปเย่หยวนก็ดึงตัวเจียงไห่ถังเดินออกไปอีกครั้ง

ฝางคุนหัวเราะลั่นออกมา “เจ้าคนโง่เขลา ข้าอยากรู้เสียจริงๆ ว่าเจ้าจะสังหารข้าลงอย่างไร!”

แต่ในวินาทีนั้นเองที่เกิดลายสีฟ้าลอยขึ้นมาจากร่างของเย่หยวนเข้าปิดพื้นที่รอบๆ ไว้จนสิ้น

มิติลายพระเจ้า!

ตอนนี้ฝางคุนนั้นอยู่ไม่ห่างจากตัวเย่หยวนมากทำให้ลายสีฟ้าทั้งหลายนี้ไม่ต้องเดินทางไปไกลใดๆ และสามารถสร้างมิติลายพระเจ้าขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว

ฝางคุนนั้นสะดุ้งตกใจรู้สึกได้ถึงความผิดปกติในมิตินี้จนต้องหันหน้ากลับพยายามหนีออกไป

แต่ทว่ามันก็สายเกินไปแล้ว!

ฝางคุนนั้นเบิกตามองภาพตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว

เพราะตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าตนไม่อาจเคลื่อนย้ายมิติไปจากที่ตรงนี้ได้!

ร่างกายของเขานั้นถูกขังไว้ในลูกมิตินี้

ปัง!

และจู่ๆ ฝางคุนก็หันไปพยายามจะโจมตีที่กำแพงของมิติ

แต่ทว่ามิติสีฟ้าครามนี้มันกลับไม่ขยับเคลื่อนแม้แต่น้อย

ลายสีฟ้าทั้งหน้านั้นมันยิ่งมีแต่จะรวมกันหนาแน่นมากขึ้นและมากขึ้นจนปิดพื้นที่ทั้งหมดจนสิ้น

“ป-ปล่อยข้าไป! ให้ตายสิ ปล่อยข้า!” ฝางคุนร้องออกมาด้วยความสิ้นหวัง

ร่างของเย่หยวนปรากฏขึ้นมาในห้วงมิตินี้ด้วยดวงตาที่เย็นเยือก

ฝางคุนมองดูเย่หยวนด้วยร่างกายที่สั่นเทา

ดวงตาทั้งสองนั้นมันทำให้จิตใจของเขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาจากส่วนลึก

เย่หยวนมองดูที่อีกฝ่ายก่อนจะพูดขึ้น “ข้าได้ให้โอกาสเจ้าไปแล้วแต่เจ้ากลับไม่คิดรักษามันไว้ เช่นนั้นจงตายไปเสีย”

เย่หยวนชี้นิ้วออกมาพุ่งทะลุผ่านหัวใจของฝางคุนจนทำให้เขาสิ้นใจลงทันที

ฟู่ว!

มิติลายพระเจ้าคลายตัวออกเผยให้เห็นศพของฝางคุนที่ร่วงออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรงใดๆ ทำให้ความเงียบงันเข้าปกคลุมทุกสิ่งอย่าง

ผู้ดูแลแห่งดงปิติ นภาสวรรค์เก้าดาว ท่านฝางคุน กลับตายลงอย่างง่ายดายเช่นนี้?

ทุกคนต่างหันไปมองหน้ากันอย่างไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นอะไรกันแน่

“ไปกัน!”

เย่หยวนดึงตัวเจียงไห่ถังเดินออกไปจากดงปิติจนหายลับไป

สองยอดผู้พิทักษ์ที่เหลืออยู่ได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยความตื่นตะลึงอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต

เพราะเรื่องราวตรงหน้าพวกเขานี้มันสุดเหนือล้ำจนเกินกว่าจะเชื่อ

เดิมทีพวกเขาต่างคาดคิดว่ามันคงกลายเป็นยอดการต่อสู้ฟ้าถล่มดินทลาย ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องราวมันจะจบลงด้วยความตายของฝางคุนอย่างง่ายดายเช่นนี้

……………………..

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Unrivaled Medicine God จอมเทพโอสถ

Status: Ongoing
จักรพรรดิโอสถแห่งยุคได้ถูกก่อกบฏโดยผู้ทรยศ
ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา…แผ่นดินไร้ซึ่งนาม ฉิงหยุนซี และผู้ได้รับ แพรไหมหมื่นปี ก่อนที่จะสิ้นชีพลง….
กาลเวลาผ่านไป…เขาได้กลับมาอีกครั้ง ขณะที่ร่างกายเจ้าของคนเก่ากำลังเดินเล่นอยู่ใน สำนัก…
ข้าจะทลายสวรรค์ให้สิ้น…ด้วยโอสถในมือข้า!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท