เล่ม 5 บทที่ 184.1
ตอนที่ 184
เธอเดินออกมาจากห้องทำงานของท่านปู่พร้อมกับเจ้าตระกูลบราวน์
ข้างนอกมีคนกลุ่มหนึ่งกำลังรอพวกเราอยู่
แคทเธอรีนกับราโมนานั่นเอง
“ท่านพ่อ!”
ราโมนาพุ่งเข้ามากอดเจ้าตระกูลบราวน์เอาไว้แน่น
“ราโมนา”
เจ้าตระกูลบราวน์ยกมือข้างหนึ่งที่เหลืออยู่ขึ้นมาลูบแผ่นหลังของบุตรสาวเบาๆ อย่างอ่อนโยน
“ดูเหมือนจะได้กลับมาพบกันเสียทีนะคะ”
แคทเธอรีนใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาพลางเอ่ยตอบคำพูดของเธอ
“ครั้งสุดท้ายที่ได้พบกันก็เมื่อตอนที่ราโมนาเข้าศึกษาที่อะคาเดมี…”
แยกห่างจากกันมานานขนาดนั้นเลยนี่นะ
จักรพรรดินีราวีนีเป็นคนที่มีนิสัยโหดเหี้ยมไม่ต่างจากเจ้าตระกูลอังเกนัสรุ่นก่อนโน้นผู้สั่งจัดการตระกูลบราวน์ทั้งตระกูล
บางทีนั่นอาจจะเป็นการเลือกที่ฉลาดแล้วก็ได้
เจ้าตระกูลบราวน์ถูกลดฐานะกลายเป็นแค่สามัญชน และทำงานขับรถม้าอยู่ในเมืองหลวงอย่างเปิดเผย
ถ้าจักรพรรดินีทราบว่าบุตรสาวของเขาเองก็เปลี่ยนฐานะของตัวเอง และได้เข้าไปเป็นสหายของเฟเรสที่อะคาเดมีแล้วละก็
มั่นใจได้เลยว่าการพบปะในวันนี้จะไม่มีวันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
“เพียงพริบตาก็เติบโตเพียงนี้แล้ว ต่อให้โดยสารรถม้าของข้าในฐานะแขก ก็คงจะจำเจ้าไม่ได้”
เจ้าตระกูลบราวน์หยอกเย้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น
“ทำไมหน้าตาซูบไปมากแบบนี้ล่ะคะ”
“ข้าไม่เป็นอันใด”
นัยน์ตาของสองพ่อลูกเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาเสียแล้ว
ใบหน้าอ่อนโยนยามมองกันและกันด้วยรอยยิ้มนั่น ช่างเป็นพ่อลูกที่หน้าตาถอดแบบกันมาไม่มีผิดเพี้ยน
เธอก้าวถอยห่างออกมาจากกลุ่มคนจากตระกูลบราวน์หนึ่งก้าว ก่อนจะเอ่ยเรียกโยฮันพ่อบ้านประจำตัวท่านปู่
“ครับ คุณหนู”
“แขกของท่านปู่กับข้าน่ะค่ะ ช่วยเตรียมที่พักในคฤหาสน์ให้พวกเขาทีนะคะ ขอเป็นที่ที่ไม่ค่อยมีสายตาของพวกคนงาน จะได้ให้พวกเขาพักผ่อนกันได้อย่างผ่อนคลายหน่อย”
“ครับ ข้าจะจัดเตรียมตามนั้นครับคุณหนู”
ไม่จำเป็นต้องให้เธออธิบายรายละเอียด โยฮันก็เข้าใจคำสั่งของเธอทั้งหมดได้ทันที
และโยฮันผู้รู้เกี่ยวกับคฤหาสน์ลอมบาร์เดียหลังนี้ดีกว่าเธอในฐานะพ่อบ้านผู้ดูแลคฤหาสน์ ก็ทำงานได้อย่างรวดเร็วจริงๆ
ที่พักสำหรับคนทั้งสามจากตระกูลบราวน์ถูกจัดเตรียมเสร็จเรียบร้อยเพียงพริบตา
สถานที่ที่เขาจัดเตรียมไว้เพื่อครอบครัวนี้ ตั้งอยู่ชั้นสูงสุดของคฤหาสน์หลังใหญ่ ทำเลที่ตั้งดีเยี่ยมไร้ซึ่งคนรบกวน
“ต้องขออภัยด้วยนะคะ แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ท่านเจ้าตระกูลบราวน์ห้ามออกไปด้านนอก จะต้องพักอยู่แต่ที่นี่เท่านั้นค่ะ”
เจ้าตระกูลบราวน์เบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำสั่งของเธอ
“เพื่อที่จะฟื้นฟูฐานะของตระกูลบราวน์กลับมาได้อย่างประสบความสำเร็จ เรื่องที่สำคัญที่สุดคือเก็บทุกอย่างไว้เป็นความลับจนกว่าจะถึงเวลาค่ะ อีกอย่าง”
เธอมองสภาพของเจ้าตระกูลบราวน์ด้วยนัยน์ตาเรียบเฉย ทว่าปากพูดออกไปอย่างตรงไปตรงมาด้วยความสัตย์จริง
“เจ้าตระกูลบราวน์จะออกไปเผชิญหน้าพวกชนชั้นสูงทั้งแบบนี้ คงจะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ จำเป็นที่จะต้องเตรียมการอีกมากค่ะ”
“ระ…หรือครับ…ไม่สิ งั้นหรือ”
เจ้าตระกูลบราวน์ตั้งใจจะใช้คำพูดสุภาพกับเธอเหมือนอย่างที่เคยชินเป็นนิสัย แล้วก็รีบเปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว
ทั้งยังแอบลูบเสื้อผ้าตัวเก่าที่เจ้าตัวสวมใส่อยู่ราวกับรู้สึกอับอายขึ้นมา
ถ้าให้พูดกันตรงๆ เจ้าตระกูลบราวน์ในตอนนี้มีสภาพไม่ต่างอะไรจากสามัญชนจริงๆ นั่นแหละ
ถึงจะดูดีกว่าตอนแรกที่พบหน้าขึ้นมาบ้าง แต่ก็ยังยืนหลังค่อม วิธีการพูดจาก็ยังมัวแต่ถ่อมตัวอยู่ได้
ปัญหาคือ เรื่องนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 40 ปีก่อน สมัยที่เจ้าตระกูลบราวน์ยังเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ
ช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตในฐานะสามัญชนจึงยาวนานกว่าช่วงเวลาที่เติบโตในฐานะชนชั้นสูง จึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่เขาจะวางตัวในฐานะชนชั้นสูงไม่ค่อยถูก
“ข้าจะเลือกคนที่ไว้ใจได้ให้มาสอนให้เองค่ะ คงต้องลำบากไปอีกสักพักนะคะ แล้วก็แคทเธอรีน”
“คะ ท่านฟีเรนเทีย”
“ระหว่างที่อยู่ที่นี่ไม่กี่วันนี้ ยังไงก็ช่วยสอนเรื่องต่างๆ ให้ท่านเจ้าตระกูลบราวน์กับคุณหนูได้รู้ไว้ทีนะคะ”
จะว่าโชคดีก็ได้ที่ยังมีอาจารย์ผู้แสนยอดเยี่ยมอย่างแคทเธอรีน ที่ต่อให้มีเงินก็ไม่อาจว่าจ้างได้อยู่ด้วยกันตรงนี้
“ส่วนเฟเรส ข้าจะคุยกับเขาให้เองค่ะ”
พอชื่อเฟเรสดังออกมาจากปากเธอ ราโมนาก็ผงะไปเล็กน้อย
แต่เธอก็แค่กล่าวลาแสร้งทำเป็นไม่เห็นปฏิกิริยานั่น แล้วเดินกลับออกมาด้านนอก
พ่อบ้านโยฮันซึ่งช่วยนำทางให้มาถึงตรงนี้ ยังคงรอเธออยู่หน้าประตู
“คงมีเรื่องที่ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่มาก ยังไงช่วยหาคนปากหนักเก็บความลับอยู่มาให้พวกเขาสักคนนะคะ”
“ครับ คุณหนู”
ในตอนนั้นเอง เสียงหัวเราะแผ่วเบาก็ดังเล็ดออกมาจากในห้อง
มันเป็นเสียงของครอบครัวแสนสุข
เธอฝากฝังกับโยฮันเพิ่มเติม
“ตั้งแต่ของกินยันเสื้อผ้าที่สวมใส่ ช่วยดูแลไม่ให้มีสิ่งใดขาดเหลือทีนะคะ”
ผู้คนที่ต้องลำบากมาเนิ่นนาน
อย่างน้อยที่นี่พวกเขาก็ยังมีเวลาหลายวัน ให้ได้พูดคุยเรื่องราวต่างๆ ที่ที่ผ่านมาไม่อาจพูดคุยกันได้บ้าง
โดยไม่ต้องกังวลว่าจะโดนใครจับได้
ไม่ต้องกังวลว่าจู่ๆ จะมีใครบุกเข้ามาคิดลอบทำร้ายกันหรือเปล่า
“ได้ครับ คุณหนูฟีเรนเทีย”
เธอหันหลังให้พ่อบ้านโยฮันที่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดถึงได้มองเธอด้วยนัยน์ตาอบอุ่น ก่อนจะสาวเท้าเดินจากไป
ในเมื่อการทดสอบของท่านปู่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ตั้งแต่นี้ก็จะไม่มีเวลาว่างให้เธอเที่ยวเล่นอีกต่อไปแล้ว
* * *