เล่ม 5 บทที่ 187.2
“ย่า!”
คิลลีวูเป็นฝ่ายเริ่มการโจมตีแรกก่อน
ดาบของเขาทั้งรวดเร็ว ทั้งยังคมกริบ มันมุ่งเป้าตรงไปที่สีข้างของเฟเรส
เคร้ง! เฟเรสป้องกันการโจมตีของคิลลีวูได้อย่างง่ายดาย
แต่เมโลนเล็งจังหวะนี้เอาไว้อยู่แล้ว
เขากระโจนก้าวตรงไปก้าวใหญ่ ในขณะเดียวกันก็แกว่งดาบสวิงออกกว้าง
มุ่งเล็งเป้าโจมตีไปยังด้านหน้าของเฟเรสที่ไร้ซึ่งการป้องกัน เพราะต้องรับการโจมตีจากดาบของคิลลีวูที่โจมตีเข้ามาทางด้านข้าง
เคร้ง!
เสียงดาบกระทบกันดังก้องไปทั่ว
ในตอนที่เมโลนได้แต่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ ดาบของคิลลีวู เมโลน และเฟเรสก็กลายเป็นพัวพันกันสามเล่มไปเสียแล้ว
เฟเรสเพียงแค่ก้าวถอยหลัง แล้วพลิกกายหลบ ก็สามารถขวางดาบของทั้งคู่ที่พุ่งเป้าโจมตีเข้ามากันคนละทิศทางได้อย่างง่ายดาย
“กรอด!”
แรงสั่นสะเทือนเพียงแค่ชั่วเสี้ยววินาทีกลับทำให้ปวดร้าวไปทั้งข้อมือ เสียงครางด้วยความเจ็บปวดดังเล็ดลอดออกจากปากของคิลลีวู
ในตอนนั้นเอง
ฟึบ!
สายลมถูกตัดขาด ดาบหนักหน่วงฟาดฟันลงมาอย่างรุนแรงจนทำให้สะท้านไปทั่วแผ่นหลังด้วยความหวาดกลัว
“ฮึบ!”
เฟเรสคลายพันธะที่ผูกรั้งอยู่กับดาบของสองแฝดออก แล้วเอนกายโค้งถอยหลังทันที
เรือนผมสีแดงพลิ้วสะบัดโผล่พรวดเข้ามายังพื้นที่ว่างเปล่าที่เฟเรสเพิ่งเอนกายหลบปลายดาบแหลมคมได้อย่างเฉียดฉิว
ราโมนากระชับดาบในมือที่เพิ่งฟาดฟันลงไปอย่างเลือดเย็นอีกครั้ง
และเริ่มกระโจนเข้าแทงดาบไปทางเฟเรสไม่ยั้ง
ฟิ้ว ฟิ้ว!
เสียงที่ดังขึ้นจากดาบของราโมนานั้นรวดเร็วราวกับลูกธนูที่ถูกยิงออกจากคันศร
‘นั่นมัน!’
คิลลีวูและเมโลนตระหนักขึ้นมาได้อย่างพร้อมเพรียง
วิชาดาบที่ราโมนาใช้เป็นหนึ่งในวิชาดาบประจำอาณาจักร
สองแฝดกระชับดาบแน่น แล้วบุกเข้าร่วมโจมตี
ฟึบ! ฟิ้ว!
ดาบทั้งสามเล่มมุ่งเป้าโจมตีไปที่เฟเรสพร้อมกัน
ในที่สุดปลายดาบของเมโลนก็แฉลบเข้ากับแขนของเฟเรสได้สำเร็จ
ฉึก!
เสียงแผ่วเบาดังขึ้นพร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ไหลรินลงมาจากบาดแผล
ดาบของคิลลีวูเองก็ยกขึ้นหมายจะจ้วงแทงลงบนขาของเฟเรส
แต่ในวินาทีที่คมดาบนั้นกำลังจะแทงผ่านผิวหนัง ร่างกายของเฟเรสก็พลิกตัวกลับอย่างรวดเร็ว
‘โอกาสนี้แหละ’
สองแฝดคิดขึ้นมาพร้อมกัน
และเพื่อที่จะแทงดาบสุดท้ายลงไปได้รุนแรงยิ่งกว่าเดิม ร่างกายของพวกเขาจึงสูญเสียการทรงตัวไปโดยธรรมชาติ
แต่ในวินาทีนั้น จู่ๆ ร่างกายของเฟเรสก็พลันหายวับไปจากตรงบริเวณนั้น
“เฮือก!”
ภาพของเฟเรสที่หายตัวไปจากสายตาอย่างกะทันหัน ทำให้สองแฝดรีบพลิกตัวกลับ แต่มันก็สายไปแล้ว
เฟเรสหลุดออกจากรัศมีการโจมตีที่คิลลีวูกับเมโลนสร้างขึ้นได้สำเร็จ
“หน็อย!”
ทั้งสองคนเค้นกำลังที่เหลือออกมาเพื่อไล่ตามเฟเรส พวกเขาฝืนพลิกตัวหมุนกลับอีกครั้ง แต่ร่างกายที่สูญเสียการทรงตัวไปแล้ว ย่อมไม่มีทางเค้นแรงออกมาได้มากพอ
สุดท้ายเมื่อกลับมาทรงตัวได้สำเร็จอย่างหมิ่นเหม่ พวกเขาก็ได้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกของผู้พ่ายแพ้
หลังจากจงใจไล่ต้อนคู่ต่อสู้ไปด้านหนึ่ง อีกฝ่ายก็หายตัวไปโดยที่พวกเขาไม่อาจลงมือทำอะไรได้เลย
พวกเขากำลังวิ่งเต้นอยู่บนสนามที่เฟเรสเป็นผู้ชักนำ
เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เฟเรสก็กำลังแสยะยิ้มมองพวกเขาด้วยความภาคภูมิใจอยู่ไกลๆ โน่น
ผลแพ้ชนะถูกตัดสินกันเรียบร้อย
ทว่า
“กะ…เกินไปแล้ว!”
เมโลนตะโกนเสียงดังออกไปโดยไม่รู้ตัว
เฟเรสกำลังยืนนิ่ง ไม่อาจขยับกายไปได้อย่างที่ต้องการ
“คะ…คุณหนูบราวน์…!”
ดาบของราโมนาปักอยู่บนพื้น
โดยที่มันเสียบทะลุชายเสื้อคลุมของเฟเรสจนตรึงชายหนุ่มเอาไว้กับพื้นดิน
อันที่จริงเรื่องแค่นี้เฟเรสก็แค่ใช้แรกกระชากออกครั้งเดียวก็จบ แต่ในการประลองของจริง เพียงแค่ช่องว่างแค่นั้นก็สามารถสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว
บางครั้งอาจจะเป็นชีวิตและความตาย
โอกาสที่ราโมนาสร้างขึ้นมานี่ หากมีใครฉกฉวยมันใช้ดาบแทงออกไปสักคน เฟเรสก็จะตกอยู่ในสภาวะที่ไม่อาจโจมตีตอบโต้กลับไปได้
“…แพ้แล้วเพคะ”
แต่คำประกาศยอมจำนนกลับดังออกมาจากราโมนา
เพราะปลายดาบของเฟเรสเองก็กำลังชี้จ่ออยู่หน้าลำคอของนาง
วินาทีที่ไม่อาจขยับกายได้ เฟเรสก็ตัดสินใจที่จะจัดการราโมนาผู้สูญเสียดาบของตัวเองไปแล้วเป็นอันดับแรก
“ถ้าตกอยู่ในสนามรบของจริงขึ้นมา ราโมนา สองคนนั่นคงจะได้โอกาสในการบุกเข้าโจมตีจนจัดการได้ในคราวเดียวด้วยการสละชีวิตของเจ้า ลำบากเจ้าแล้ว”
เฟเรสกล่าวสั้นๆ ในขณะที่เก็บดาบที่ชี้อยู่ตรงหน้าราโมนากลับคืนมา
ทันทีที่การประลองจบลง สองแฝดก็ตะโกนโห่ร้องเชียร์วิ่งเข้าไปหาราโมนา
“สุดยอดไปเลย! ทำได้ยังไงน่ะ!”
“ใช่แล้ว!ทั้งๆ ที่ชักดาบออกมาช้ากว่าพวกข้าแท้ๆ !”
“พลิกกายหลบแบบนั้นได้ยังไงเหรอ ดูเหมือนเจ้าจะเคลื่อนไหวเร็วกว่าพวกเราสองเท่าได้ในพริบตาเลยด้วย!”
“ทั้งๆ ที่ก็ใช้วิชาดาบของอาณาจักรเหมือนกับพวกเราชัดๆ !”
“แต่มันต่างกันสุดๆ เลย!”
ในตอนนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นขวางสองแฝดเอาไว้
“ทั้งสองคนถอยหลังไปให้หมดเลยนะ คุณหนูบราวน์ตกใจหมดแล้วไม่ใช่หรือไง”
เทียนั่นเอง
เป็นอย่างที่เธอพูดจริงๆ ราโมนาที่เมื่อครู่นี้ยังฟาดฟันดาบลงมาอย่างหนักหน่วงไร้ซึ่งความลังเล ในตอนนี้กลับมีใบหน้าขึ้นสีแดงก่ำด้วยความเขินอายเสียแล้ว
“แต่ว่า! เรื่องนี้เทียไม่รู้อะไรน่ะสิถึงได้พูดแบบนั้น! ทั้งๆ ที่ก็ใช้วิชาดาบอาณาจักรเหมือนกันชัดๆ แต่กลับมีแค่นางที่ต่างออกไป!”
“กล้ามเนื้อก็เล็กกว่าพวกเรา แรงก็น้อยกว่า!ต้องช้ากว่าพวกเราสิถึงจะถูกต้อง!”
“เหรอ รู้สึกต่างกันขนาดนั้นเลย?”
เทียลอบถามอย่างมีเลศนัย
“แน่นอนสิ!การเคลื่อนไหวนั่นขนาดพวกรุ่นพี่ที่มีประสบการณ์โชกโชน ไม่สิ ขนาดกับหัวหน้าพวกเราก็ยังไม่เคยเห็นเลยนะ!”
เมโลนตอบด้วยความตื่นเต้น
“ชั่วขณะข้าเผลอเข้าใจผิดไปว่า มีแต่นางที่ใช้วิชาดาบแบบอื่น ไม่ใช่วิชาดาบของอาณาจักรเลยด้วย!”
“ไม่ใช่วิชาดาบของอาณาจักร แต่เป็นวิชาอื่น…”
เทียพยักหน้าลงเงียบๆ ในขณะที่รับฟังคำชมทั้งหลายแหล่ของสองแฝด
และหันไปมองราโมนาพลางส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มเป็นพิเศษให้
“ว่าแล้วเชียว เป็นแบบนี้นี่เอง ถ้าเอาไปใช้ให้ดีละก็ คงจะมีประโยชน์มากทีเดียว”
ในขณะที่พึมพำอะไรบางอย่างที่คนอื่นๆ ไม่อาจรู้ความหมายได้