เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 4 บทที่ 167.2

เล่ม 4 บทที่ 167.2

เล่ม 4 บทที่ 167.2

ใบหน้าของโยบาเนสที่ยังคงยิ้มแย้มไม่สร่าง ทำเอาจักรพรรดินีรู้สึกขนลุกชัน

“ว่ายังไงล่ะ ถ้าช่วยให้อาสทาน่าได้แต่งงานกับบุตรหลานของตระกูลลอมบาร์เดีย ก็ถือว่าไม่ใช่การค้าที่อังเกนัสเสียผลประโยชน์อะไรมากเสียหน่อย”

จักรพรรดินีราวีนีพยายามกล่อมตัวเองให้ตั้งสติ ขณะเดียวกันก็เริ่มคิดคำนวณอยู่ในใจ

สถานการณ์ทางการเงินของอังเกนัสไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังมีสินเดิมของลาลาเน่ ลอมบาร์เดียที่เซรัลให้สัญญาไว้ และผลประโยชน์ทั้งหลายที่จักรพรรดินีจะได้รับผ่านการแต่งงานในครั้งนี้อีกมากมาย

ราวีนีจึงพยักหน้าตกลง

“ได้เพคะ ฝ่าบาท”

“เยี่ยมมาก” โยบาเนสยิ้มด้วยความพอใจ

“พรุ่งนี้เปลี่ยนเหมืองแร่นั่นให้เป็นชื่อของกลุ่มการค้าเรดเสียล่ะ ข้าอยากจะเริ่มลงมือขุดทันที”

จักรพรรดิโยบาเนสรู้สึกตื่นเต้นคันไม้คันมือเป็นอย่างยิ่ง

กระทั่งตัวตนของจักรพรรดินีที่ยังคงนั่งอยู่ข้างกาย ก็ยังอยู่นอกเหนือความสนใจของพระองค์ในตอนนี้ไปเสียแล้ว

* * *

“กลับมาแล้วหรือครับ ท่านเจ้าตระกูล”

พ่อบ้านโยฮันออกมารอต้อนรับรูลลักที่เดินทางกลับจากพระราชวังเหมือนทุกครา เขารู้สึกได้ทันทีว่ามีอะไรบางอย่างผิดแปลกไปจากปกติ

บรรยากาศรอบกายรูลลักยามก้าวลงจากรถม้าดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่งผิดไปจากที่เขาคิดเสียที่ไหนกัน

“เรียกตัวเบเจอร์มาพบข้า”

รูลลักออกคำสั่งสั้น ๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในห้องทำงานเพียงลำพัง

“เรียกข้าหรือครับ ท่านพ่อ” ไม่นานหลังจากนั้น เบเจอร์ก็เดินตามเข้ามาในห้องทำงาน

คล้ายกับพอจะคาดการณ์ได้อยู่แล้วว่ารูลลักเรียกมาพบด้วยธุระเรื่องใด เบเจอร์จึงเอาแต่ยืนนิ่ง ไม่นั่งลงบนเก้าอี้

“เบเจอร์”

“ครับ ท่านพ่อ”

“ยกเลิกการแต่งงานระหว่างลาลาเน่กับเจ้าชายลำดับที่หนึ่งเสีย”

“ทำเช่นนั้นไม่ได้หรอกครับ”

“นี่เจ้าคิดจะขัดคำสั่งข้าอย่างนั้นหรือ” แววตาของรูลลักส่องประกายคมกริบ

แต่เบเจอร์ก็ยังคงยืนกรานเสียงแข็ง

“ลาลาเน่เป็นบุตรสาวข้าครับ”

“ใช่ แต่เดิมทีการแต่งงานของคนในตระกูลจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้าตระกูล คงไม่ได้ลืมหรอกใช่มั้ยว่า การแต่งงานของเจ้ากับเซรัลเองก็เกิดขึ้นจากความต้องการของอดีตจักรพรรดิ”

ถ้าให้รูลลักเลือกล่ะก็ จะไม่มีวันเกิดเรื่องให้เบเจอร์ต้องผูกสัมพันธ์กับอังเกนัสเด็ดขาด

“…….ข้าก็แค่เลือกทางเลือกที่ดีที่สุดแทนลาลาเน่เท่านั้นเองครับ การได้เป็นสมาชิกของราชวงศ์ย่อมเป็นโอกาสที่ดีอย่างแน่นอนครับ”

“โอกาสที่ดี?” รูลลักทุบโต๊ะหนังสือเสียงดังปัง

“พูดให้ถูกเบเจอร์ ไม่ใช่โอกาสสำหรับลาลาเน่ แต่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเจ้าเองน่ะสิ!”

“เรื่องนั้น…….!”

“เจ้าเองก็รู้ดีไม่ใช่หรือไงว่าอาสทาน่าเป็นผู้ชายแบบไหน!แล้วยังจะบอกว่านั่นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดต่อบุตรสาวของเจ้าอีกงั้นหรือ!”

รูลลักโมโหหนักยิ่งกว่าตอนไหน ๆ

จนถึงตอนนี้เบเจอร์ได้ก่อเรื่องผิดพลาดเล็กใหญ่ซ้ำแล้วซ้ำเล่ามาหลายต่อหลายหน

แต่ไม่เคยมีครั้งใดที่รูลลักจะโกรธหนักขนาดนี้

“การที่ข้ายอมหลับตามองข้ามความผิดของเจ้าตลอดเวลาที่ผ่านมา เป็นเพราะเจ้าเป็นสายเลือดของข้า เป็นสายเลือดของลอมบาร์เดีย แต่ต่อให้เป็นเจ้าก็เถอะ การเสียสละบุตรสาวของตัวเอง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนนั้น ข้าไม่มีทางให้อภัยเด็ดขาด นี่เป็นคำเตือนครั้งสุดท้าย เบเจอร์”

แผ่นหลังสั่นสะท้านเมื่อได้รับสายตากราดเกรี้ยวจากรูลลักแต่เบเจอร์ก็กัดฟันแน่น หมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงาน

เรื่องนี้จักรพรรดินีเคยเตือนเขาเอาไว้แล้วว่าบิดาจะต้องคัดค้านอย่างหนักแน่นอน

แต่ขอแค่เบเจอร์อดทนต่อไป พระองค์ให้คำมั่นสัญญาแล้วว่า จะจัดการให้ลาลาเน่ได้แต่งงานกับเจ้าชายลำดับที่หนึ่งให้สำเร็จจนได้

“นี่เป็นคำเตือนครั้งสุดท้าย เบเจอร์”

คำกล่าวของบิดายังคงดังก้องอยู่ในหูราวกับเสียงฟ้าร้องคำราม แต่เบเจอร์ก็พยายามที่จะสลัดความกลัวนั่นทิ้งไป

* * *

ณ ห้องทำงานของร้านค้าเพลเลส

เครย์ลีบันกับไวโอเล็ตรายงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เธอเอ่ยถามทั้งสองคนที่กำลังจัดเก็บเอกสารกันอยู่

“ตารางเดินเรือสำราญครั้งหน้าเมื่อไหร่นะคะ”

“อีก 3 วันให้หลังจะออกเดินทางจากท่าเรือเชซายูครับ” เครย์ลีบันเอ่ยตอบ

อา ทำไมต้องเป็นแบบนี้นะ

“แล้วถัดจากนั้นล่ะคะ”

คราวนี้เป็นไวโอเล็ตที่เอ่ยตอบแทน

“เรือที่สร้างขึ้นใหม่กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการขั้นตอนสุดท้ายค่ะ กำหนดเดินทางที่ตั้งไว้คืออีกสิบวันให้หลัง”

สิบวันอย่างนั้นเหรอระยะเวลาประมาณนั้น ไม่รู้ว่าจะมากพอหรือเปล่า

“ทำไมหรือคะ ท่านฟีเรนเทีย”

“พอดีอาจจะต้องพาแขกพิเศษขึ้นเรือโดยสารไปด้วยน่ะค่ะ รายละเอียดเอาไว้ข้าจะอธิบายให้ฟังทีหลังนะคะ”

หลังจากยิ้มให้ไวโอเล็ตกับเครย์ลีบันที่มองเธอด้วยความสงสัย เธอก็รีบปลีกตัวออกมาจากร้านค้าเพลเลสอย่างรวดเร็ว

วันนี้มีกำหนดการพิเศษรอเธออยู่ต้องรีบกลับไปลอมบาร์เดียให้เร็วที่สุด

เมื่อเดินทางกลับมาถึงคฤหาสน์ ใครคนหนึ่งที่รอเธออยู่ก่อนแล้วก็กล่าวต้อนรับเธอด้วยความยินดี

“มาแล้วหรือครับ ท่านฟีเรนเทีย” อาบีน็อกซ์สวมเสื้อผ้าดูหล่อเหลามากทีเดียว

เธอมองหน้าอาบีน็อกซ์ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น

“พร้อมแล้วใช่มั้ยคะ ท่านอาบีน็อกซ์” อาบีน็อกซ์ยิ้ม แล้วพยักหน้าตอบคำถามเธอ

“แหวนล่ะคะ”

“อยู่นี่ครับ”

อาบีน็อกซ์ตบลงบนกระเป๋าเสื้อบริเวณหน้าอก ในขณะที่เอ่ยตอบอย่างมั่นใจ

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท