เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 5 บทที่ 198.2

เล่ม 5 บทที่ 198.2

เล่ม 5 บทที่ 198.2

ผ่านไปไม่นาน เฟเรสและสามสหายก็มาถึงบริเวณทุ่งหญ้าที่มีคนมากมายยืนล้อมวงกันอยู่

พอเห็นว่าเจ้าชายลำดับที่สองหรือคู่หมั้นของฟีเรนเทีย ลอมบาร์เดีย อย่างเขามาถึง พวกนั้นก็กระซิบกระซาบ ในขณะที่ช่วยกันหลีกทางให้เขาแทรกตัวเดินเข้าไปอยู่ด้านหน้า

“ดูเหมือนจะเตรียมตัวประลองพร้อมแล้วสินะ”

ริกนีเต้ผิวปากด้วยความลุ้นระทึก

ปกติแล้วไม่มีใครเขายอมประลองกันในวันเดียวกับที่ถูกท้า โดยไม่นัดหมายเลือกวันอื่นกันแบบนี้หรอก เรียกได้ว่าแทบไม่เคยมีการประลองที่เริ่มต้นในทันทีโดยไร้ซึ่งการเตรียมตัวล่วงหน้าหลายชั่วโมงเกิดขึ้นเสียเท่าไหร่

“ดูเหมือนฝ่าบาทเองก็ไม่คิดที่จะห้ามปรามเลยนะ”

ไม่สิ ต้องบอกว่าห้ามไม่ได้มากกว่า

เพราะคำพูดจาบจ้วงที่เจ้าชายลำดับที่หนึ่งพ่นออกมานั่น มันหยาบคายเกินไป

จักรพรรดิโยบาเนสจับจองที่นั่งด้านหน้าสุด พระองค์กำลังเฝ้ามองการประลองตรงหน้า

ข้างกายมีเจ้าตระกูลอย่างรูลลัก ลอมบาร์เดีย และแคลอฮัน ลอมบาร์เดีย นั่งอยู่ด้วย

พวกเขาจะเป็นพยานว่าการประลองครั้งนี้เป็นการประลองที่ยิ่งใหญ่และมีเกียรติมากเพียงใด

“กลืนไม่เข้าคายไม่ออกละสิ”

ในเมื่อเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นแผนที่วางเอาไว้ มันก็ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนอยู่แล้ว

ริกนีเต้พึมพำเสียงแผ่วขณะที่ลอบมองบรรดาชนชั้นสูงที่มารวมตัวกันอยู่บริเวณนี้ สลับกับอัศวินทั้งสองคนที่ยืนถือดาบเผชิญหน้ากัน ก่อนจะหันไปมองอาสทาน่าที่ยังคงยืนเชิดหน้าด้วยความมั่นอกมั่นใจทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเสียเลย

“เป็นคนที่น่ากลัวมากจริงๆ คู่หมั้นของเจ้าชายน่ะ เรื่องทั้งหมดนี่เป็นผลงานของคนคนนี้คนเดียวเลยหรือเนี่ย”

เฟเรสหันหน้ากลับมามองริกนีเต้ช้าๆ หลังจากได้ยินประโยคดังกล่าว เขาเอ่ยราวกับจะบอกว่านี่เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว

“เพราะเป็นเทียยังไงล่ะ”

หลังจากนั้นก็หันหน้ากลับไปมองลานประลองอีกครั้งด้วยนัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง

ในนัยน์ตาส่องประกายระยิบระยับคู่นั้นเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ที่มีต่อหญิงคนรักอย่างเหลือล้น

“สองคนนี้นี่เหมือนกันสุดๆ”

ริกนีเต้ขนลุกจนไหล่สั่นขึ้นมาเล็กน้อย

* * *

“ได้ประลองดาบกับคนของตระกูลบราวน์เช่นนี้ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง”

ลอร์ดสโลนกล่าวสั้นๆ ในขณะที่มองสบตาราโมนา

ไม่ได้แค่พูดออกไปเฉยๆ

ไม่ใช่แค่เพียงลอร์ดสโลนคนเดียวเท่านั้น แต่กระทั่งเหล่าอัศวินจากกองกำลังอัศวินที่ได้ยินข่าวแล้ววิ่งตรงมารวมตัวกันอยู่ตรงนี้ ทุกคนต่างก็กำลังทำหน้าแบบเดียวกันทั้งสิ้น

“…ขอบคุณค่ะ”

ราโมนาพยายามเก็บซ่อนความรู้สึกซับซ้อนเอาไว้ในใจ ก่อนจะเอ่ยตอบ

ในตอนนั้นเอง จักรพรรดิโยบาเนสก็ลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยใบหน้านิ่งขรึม

การประลองที่ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ก็ไม่มีประโยชน์อันใดกับโยบาเนสเลยแม้แต่น้อย

ทั้งยังอยากจะโยนอาสทาน่าที่ก่อเรื่องวุ่นวายพวกนี้ขึ้นมาทิ้งไปที่ไหนสักแห่งเสียเดี๋ยวนี้ด้วยซ้ำ

แต่จักรพรรดิโยบาเนสก็เพียงแค่กล่าวสั้นๆ ไปทางลอร์ดสโลนกับราโมนาเท่านั้น

“ถ้าเตรียมตัวกันพร้อมแล้ว ก็เริ่มเลยเถอะ”

รับสั่งขององค์จักรพรรดิทำให้อัศวินทั้งสองโค้งศีรษะทักทายกันและกัน

ชิ้ง

ดาบสองเล่มเผยโฉมออกมาให้เห็นพร้อมกับเสียงเสียดสีของโลหะแหลมคม

บรรดาชนชั้นสูงที่แทบจะไม่มีโอกาสได้เห็นการประลองโดยใช้ดาบจริงของพวกอัศวินต่างก็กำมือชื้นเหงื่อเอาไว้แน่น ในขณะที่ตั้งสมาธิจับจ้องอยู่กับภาพตรงหน้า

ตึก ตึก

ราโมนากับลอร์ดสโลนต่างก็เริ่มเคลื่อนกายอย่างช้าๆ และยกดาบขึ้นชี้เข้าหาอีกฝ่าย

ทุกย่างก้าวทั้งหนักหน่วงและระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะในแต่ละก้าวๆ เดิมพันด้วยศักดิ์ศรีและการตัดสินชัยชนะ

ในตอนนั้นเอง ลอร์ดสโลนก็เป็นฝ่ายขยับกายลงมือก่อน

มันเป็นการเคลื่อนไหวที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าไม่คิดที่จะลากการประลองให้กินเวลายืดเยื้อไปกว่านี้

หนึ่งก้าว สองก้าว

ขยับเท้าก้าวเพียงไม่กี่ก้าว ระยะห่างระหว่างคนทั้งคู่ก็แคบลงทันตา

“ฮ่า!”

ลอร์ดสโลนตะเบ็งเสียงเรียกพละกำลังขณะที่ฟาดฟันดาบไปทางราโมนา

มันอาจจะดูเรียบง่าย แต่มันก็เล็งเข้าที่จุดบอดได้อย่างสมบูรณ์แบบสมกับที่เป็นอัศวินมากประสบการณ์คนหนึ่ง

ทว่าดาบของราโมนาสามารถยกขึ้นขวางดาบของลอร์ดสโลนได้อย่างง่ายดาย

การโจมตีถัดมาของราโมนาเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน

เคร้ง!

เพียงพริบตาดาบของลอร์ดสโลนก็ถูกดาบของราโมนาปัดทิ้ง ปลายดาบแหลมคมนั่นมุ่งเป้าไปที่ลำคอของลอร์ดสโลนทันที

ฟึบ!

ลอร์ดสโลนผู้มากประสบการณ์เองก็ไม่ได้มีทีท่าตื่นตระหนก เขาหลบดาบของราโมนาได้พ้น

สกิลแบบนี้เขาคุ้นเคยดีอยู่แล้ว เพราะการเปลี่ยนพละกำลังของคู่ต่อสู้ให้กลายเป็นการโจมตีถัดไปของตัวเอง หลังจากป้องกันได้สำเร็จ มันเป็นสกิลในวิชาดาบประจำอาณาจักรที่ถูกยกเอามาใช้อยู่เสมอ

แต่สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้นทันทีหลังจากนั้น

เคร้ง!

เสียงกรีดโลหะแหลมคมดังสนั่น ดาบของราโมนาก็พุ่งเข้ามาหมายจะฟาดฟันลอร์ดสโลนอีกครั้งโดยไม่มีจังหวะให้หยุดพัก

“…ฮ่า!”

ลอร์ดสโลนแทบหยุดหายใจ เขารีบม้วนตัวกระโดดถอยไปข้างหลังทันที

เพราะอย่างนั้นถึงได้หลุดจากการโจมตีของราโมนาได้ แต่รอยย่นบนหน้าผากมีแต่จะยิ่งลึกขึ้นไปมากกว่าเดิม

ไม่เข้าใจเลยสักนิด

ทั้งๆ ที่สกิลของเขาก็สามารถขวางดาบนั่นเอาไว้ได้แล้วชัดๆ

แล้วเพราะเหตุใดจู่ๆ ดาบของราโมนาถึงได้เคลื่อนไหวราวกับเมินเฉยทุกกฎที่ควรจะเป็นเสียได้

“โอ๊ะ…?”

ปฏิกิริยาแบบเดียวกันดังขึ้นจากเหล่ากองกำลังอัศวินส่วนพระองค์ที่ยืนเฝ้าดูการประลองเช่นกัน

“เมื่อครู่นี้มัน…”

กระทั่งชนชั้นสูงที่ใช้ดาบเป็นและมาร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าแบบเดียวกันหมด

ทั้งๆ ที่มันเป็นการประลองที่มองยังไงลอร์ดสโลนก็เป็นฝ่ายได้เปรียบชัดๆ แต่เพียงพริบตาดาบของราโมนากลับพลิกกระดานได้อย่างสมบูรณ์แบบ

“ฮ่า!”

ทันทีที่ทรงตัวได้ ลอร์ดสโลนก็บุกกระโจนเข้าโจมตีอีกครั้ง

เคร้ง! เคร้ง! เคร้ง!

เสียงดาบสองเล่มกระทบกันดังก้องไปทั่วลานหญ้า

โดยเฉพาะราโมนา นางต้องกัดฟันแน่น หยัดกายยืนต้านแรงดาบอันแสนหนักหน่วงที่ลอร์ดสโลนฟาดฟันลงมาอย่างรุนแรง

อย่างไรความแตกต่างทางด้านร่างกายและประสบการณ์ก็เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้

ราโมนาเริ่มกลายเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อนถอยหลังไปทีละนิด

“อ๊า…”

เสียงอุทานด้วยความเสียดายดังไปทั่วบริเวณ

ขณะเดียวกัน บนใบหน้าของอาสทาน่าก็ปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมา

เพราะมั่นใจได้ว่าชัยชนะในการประลองครั้งนี้จะต้องตกเป็นของเขาอย่างแน่นอน

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท