เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล] – เล่ม 5 บทที่ 201.2

เล่ม 5 บทที่ 201.2

เล่ม 5 บทที่ 201.2

รูลลักขยับยิ้มภายใต้เครายาว ก่อนจะให้คำปรึกษาด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย

“ฝ่าบาท กระหม่อมผู้ชราคนนี้ขออนุญาตกล่าวด้วยความเป็นห่วง กระหม่อมคิดว่าพระองค์อาจจะต้องระวังตัวสักระยะพ่ะย่ะค่ะ”

“ระวังตัวหรือครับ”

“พ่ะย่ะค่ะ อย่างเช่นไม่ดื่มหรือเสวยของนอกวังจักรพรรดิ หรือพวกของที่ถูกส่งมาจากวังจักรพรรดินี”

“วังจักรพรรดินี?”

คิ้วข้างหนึ่งของโยบาเนสกระตุกขึ้น

“ไม่พูดเกินไปหน่อยหรือครับ”

โยบาเนสะกดเสียงต่ำราวกับโมโห แต่ก็ไม่อาจข่มอีกฝ่ายต่อไปได้นานนัก

นัยน์ตาของเขาสั่นไหว หน้ามุ่ยบึ้งตึง ทว่าความสงสัยกลับเข้าครอบงำจิตใจ และได้หยั่งรากลึกลงไปอย่างรวดเร็วเสียแล้ว

“กระหม่อมเพียงแค่ให้คำแนะนำเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”

รูลลักยอมถอยให้อย่างง่ายดาย

“เช่นนั้นกระหม่อมขอดื่มแก้วนี้ให้พระองค์แทนคำขอโทษก็แล้วกันพ่ะย่ะค่ะ”

แต่รอยยิ้มที่แต่งแต้มอยู่บนริมฝีปากหลังแก้วเหล้าของรูลลักกลับดูยิ่งเหี้ยมเกรียมยิ่งกว่าเดิม

การทำลายหนทางก้าวเดินของพวกอังเกนัส ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เป็นเรื่องน่าสนุกอยู่เสมอไม่เคยสร่าง

* * *

“ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือครับว่าจะต้องเป็นแบบนั้น”

เครย์ลีบันพูดพลางชี้ไปยังพลุสัญญาณสีแดงที่ถูกยิงขึ้นเหนือป่า

“นั่นครั้งที่สี่แล้วนะครับ”

“นี่เพิ่งเริ่มการแข่งขันไปได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงเองนะคะ ทำไมถึงเป็นแบบนั้นกันล่ะ”

“บางทีอาจจะตกใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ จนเผลอยิงพลุสัญญาณก็ได้ครับ อาจจะไปเจอพวกกระต่ายตัวเล็กตัวน้อย”

เครย์ลีบันดันแว่นตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะแสยะยิ้ม

“ในป่าวิกลจริตมีหมอกหนาเต็มไปหมด มอนสเตอร์เองก็อาศัยอยู่มาก แต่นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นยามเดินเข้าไปใกล้ใจกลางป่าลึกไม่ใช่หรือครับ”

“นั่นสิคะ บริเวณที่พลุสัญญาณถูกยิงจะเรียกว่าชายป่ายังได้เลยนะคะ”

นี่แต่ละคนขี้ขลาดกันเกินไปหน่อยหรือเปล่าเนี่ย

พวกอัศวินตระกูลลอมบาร์เดียกำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่พลุสัญญาณถูกยิงขึ้นเหนือท้องฟ้า

“ถ้ากลัวขนาดนั้นก็น่าจะยอมแพ้ แล้วเดินออกมาด้วยสองขาของตัวเองสิ ทำไมต้องทำให้คนบ้านข้าลำบากด้วย”

“นั่นก็จริงครับ แต่ว่า…”

เครย์ลีบันพูดพลางเหม่อมองผ่านบริเวณชายป่าวิกลจริตเข้าไป

“เสียงดังแบบนั้น อาจจะไปปลุกอะไรบางอย่างให้ตื่นขึ้นมาก็ได้นะครับนั่น อีกอย่าง กลิ่นเลือดของมอนสเตอร์ที่ถูกล่าก็ยิ่งจะไปกระตุ้นให้ความหิวกระจายมากขึ้นด้วยครับ”

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสายลมเย็นที่พัดผ่านเข้ามาพอดีหรือเปล่า เสียงของเครย์ลีบันยามกล่าวเช่นนั้นถึงได้ดูเย็นชากว่าปกติ

ในตอนนั้นเอง

ปัง! ปัง! ปัง!

ข้างใต้นั่น

พลุสัญญาณถูกยิงขึ้นพร้อมกันสามครั้งจากบริเวณชายป่าเหมือนเคย แต่บริเวณนั้นค่อนข้างไกลจากทางเข้าออกอยู่พอสมควร

“โอ้ว ดูเหมือนทางด้านนั้นจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นนะครับเนี่ย”

นัยน์ตาของเครย์ลีบันส่องประกายระยิบระยับ

* * *

กลุ่มของอาสทาน่ากำลังเดินเรื่อยไปตามชายป่า

“แฮก! แฮก!”

ไร้ซึ่งบทสนทนาใดๆ มีเพียงเสียงลมหายใจหอบแฮกดังขึ้นเป็นระยะ

แปลกชะมัด

ถึงพวกเขาจะเดินกันมาหลายชั่วโมงแล้วก็เถอะ แต่ที่นี่ไม่ใช่ภูเขาสูงชันที่เดินได้ลำบากขนาดนั้นเสียหน่อย ไม่มีทางเลยที่จะเหนื่อยจนหอบแฮกได้ขนาดนี้

“เพราะพลังเวทหรือไงกัน”

ใครบางคนพึมพำขึ้นมาท่ามกลางเสียงหอบหายใจ

ใช่ ใช่แล้ว

ทั้งหมดนี่เป็นเพราะพลังเวท

เพราะอย่างนั้นร่างกายถึงได้หนักอึ้งราวกับชุ่มน้ำไปทั้งตัว หัวก็หนักจนคิดอะไรไม่ออก ไม่ผิดแน่

สวบ

เสียงประหลาดดังขึ้นจากพุ่มไม้ใกล้ๆ

“อ๊ากกกก! หนวกหู!”

เบเลซักยังคงเดินนำอยู่หน้าสุดของกลุ่ม ชายหนุ่มคำรามเสียงกราดเกรี้ยว ยกดาบขึ้นฟันพุ่มไม้อย่างแรง

แต่บริเวณนั้นกลับไม่มีสิ่งใดเลย

เบเลซักเองก็รู้ดี

รู้อยู่แล้วว่าพุ่มไม้รอบๆ บริเวณที่กลุ่มของพวกเขาเดินไปเรื่อยเปื่อยอย่างไร้เหตุผลมาได้หนึ่งชั่วโมงแล้วนั่น มันขยับตามพวกเขามาไม่หยุด

เคยทั้งตกใจจนรีบวิ่งหนี บางครั้งก็รวบรวมความกล้าฟาดฟันลงไปบนพุ่มไม้

แต่ทุกครั้งข้างหลังพุ่มไม้พวกนั้นก็ไม่เคยมีสิ่งใดเลย

“ดูเหมือนว่า…”

เบเลซักหันหลังกลับไปพูดกับอาสทาน่า

“ดูเหมือนทุกคนจะประสาทหลอนจนได้ยินเสียงกันไปเองพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าในป่าวิกลจริตมีพลังเวทไหลเวียนอย่างหนาแน่น อาจจะเป็นเพราะสิ่งนั้นก็ได้พ่ะย่ะค่ะ”

“ประสาทหลอนงั้นหรือ…”

ใบหน้าของทุกคนซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว

“เจ้าชาย ยอมแพ้เท่านี้แล้วกลับออกไปกันเป็นอย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”

บุตรชายคนโตจากตระกูลเมมเบรทเอ่ยถามอาสทาน่า

“ใช่พ่ะย่ะค่ะ เจ้าชาย”

บุตรชายคนที่สามจากตระกูลเวเลติโรนเองก็คิดแบบเดียวกัน

“หะ…หากพระองค์ออกคำสั่ง กระหม่อมจะยิงพลุสัญญาณทันทีพ่ะย่ะค่ะ”

กระทั่งชูพลุสัญญาณสีแดงที่กำไว้ในมือแน่นให้เห็นด้วย

“บ้าไปแล้วหรือไง ไม่ได้”

แต่อาสทาน่าก็เอาแต่ส่ายหน้าดึงดันไม่ยอมท่าเดียว

ต่อหน้าฝ่าบาท เขาจะถอนตัวไม่ได้เด็ดขาด

จักรพรรดินีราวีนีเองก็เน้นย้ำเอาไว้ตั้งหลายครั้ง

ในตอนนั้นเอง

สวบ

คราวนี้เสียงดังขึ้นจากพุ่มไม้ที่อยู่ห่างไปด้านหลังเล็กน้อย

คราวนี้เบเลซักไม่ได้ชักดาบขึ้นมาฟัน

เพราะคิดว่ายังไงก็คงเป็นแค่อาการประสาทหลอนไปเอง

แต่สีหน้าของทุกคนกลับดูแปลกพิกล

“อ๊ะ อ๊ะ…”

ทุกคนต่างก็ชี้นิ้วไปยังด้านหลังของเบเลซัก

โฮกกกก!

ในตอนนั้นเองถึงได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นจากด้านหลังของตัวเอง

นี่มันไม่ใช่อาการประสาทหลอนแล้ว

เบเลซักสะดุ้งตกใจ รีบหันไปมองด้านหลัง เด็กหนุ่มกรีดร้องเสียงดังลั่น

“มะ…มอนสเตอร์!”

ผิวหนังสีเขียวเต็มไปด้วยเกล็ดทั่วตัว คมเขี้ยวยาวแหลมคมยื่นออกมานอกปาก แขนยาว และร่างกายใหญ่โตเกินปกติ

“ฮึก…”

ทั้งกลุ่มตัวแข็งทื่อยืนนิ่งอยู่กับที่ไม่กล้าขยับไปไหน

ตึง! ตึง!

มอนสเตอร์ค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ทีละก้าวๆ แต่ไม่มีใครขยับกายได้เลยแม้แต่คนเดียว

“ทำอะไร…สักอย่างสิ!”

มีแต่อาสทาน่าที่ตะโกนใส่เบเลซัก แล้วดันหลังเขาไปข้างหน้า

“พะ…พลุสัญญาณ…”

แต่แล้วในวินาทีที่บุตรชายคนที่สามจากตระกูลเวเลติโรนตั้งใจจะดึงเชือกพลุสัญญาณ

ปัง!

เสียงคล้ายพลุสัญญาณถูกยิงออกไปก็ดังขึ้น พร้อมกับหัวของมอนสเตอร์ที่ถูกระเบิดออก

ตุบ ครืนนนน!

ร่างกายที่สูญเสียศีรษะล้มตึงลงไปกองอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง

และภาพที่ได้เห็นก็คือ เฟเรสที่เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีเขียวของมอนสเตอร์นั่นเอง

“อยู่ที่นี่นี่เอง”

เฟเรสพูดในขณะที่สายตาจับจ้องไปที่อาสทาน่า

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล [นิยายแปล]

Status: Ongoing

เกิดใหม่ชาตินี้ ฉันจะเป็นเจ้าตระกูล 이번 생은 가주가 되겠습니다 I shall master this family 김로아 คิมโรอา เขียน หนทางการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลของหญิงสาวผู้กลับมาชาติมาเกิดใหม่ถึงสองครั้งสองครา เมื่อ ฟีเรนเทีย ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้มาเกิดใหม่ในตระกูลลอมบาร์เดียที่ยิ่งใหญ่แห่งอาณาจักรแลมบลู ในฐานะหลานสาวของเจ้าตระกูลที่เกิดจากมารดาสามัญชนทำให้โดนรังเกียจจากคนในตระกูล เมื่อพ่อและปู่ขอเธอตายจากไป เธอถูกขับไล่ออกจากตระกูล สองปีหลังจากนั้น ตระกูลลอมบาร์เดียก็ล่มสลาย แต่แล้ว เมื่อเธอประสบอุบัติเหตุอีกครั้งและมีโอกาสได้ย้อนกลับมาเมื่อตอน 7 ขวบ ครั้งนี้เธอจึงตั้งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงอนาคตและตั้งใจจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลคนถัดไปให้ได้ หนทางแห่งการขึ้นเป็นเจ้าตระกูลจะลำบากยากเย็นเพียงไหน มาเอาใจช่วย ฟีเรนเทียได้ใน “ชาตินี้ข้าจะเป็นเจ้าตระกูล”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท