ตอนที่89 ข่าวร้อนประเด็นดัง
ฉีเล่ยกลับเข้ามาที่ห้องพักอาจารย์อีกครั้ง โดยมีอาจารย์ซงเป็นแกนหลัก บรรดาอาจารย์กลุ่มหนึ่งรายล้อมกันเป็นวงกลมเพื่อฟังเขานินทาอะไรสักอย่าง
ทันทีที่ฉีเล่ยก้าวเท้าเข้ามาในห้อง สุ้มเสียงสนทนาดังลั่นก่อนหน้าพลันเงียบลงทันที แต่ละคนปิดปากเงียบเหลือบมองมาทางเขาอยู่เป็นครั้งคราว
บรรยากาศแบบนี้ต่อให้เป็นคนโง่ยังรู้ว่า ใครคือคนที่บรรดาอาจารย์พวกนี้กำลังนินทาอยู่
ฉีเล่ยเองก็ไม่ได้สนใจอะไร เพียงแค่นั่งลงบนเก้าอี้ตั้งหน้าตั้งตาจัดทำแผนการเรียนในคาบต่อไป
ความเงียบงันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ที่ฉีเล่ยเหยียบย่างเข้ามาในห้อง และยังเป็นเช่นนี้อยู่เป็นเวลานาน ปฏิกิริยาของทุกคนที่มีต่อฉีเล่ยดูค่อนข้างยำเกรงไม่กล้ารบกวน กระทั่งตาแก่ซงเองก็ยังไม่กล้าปะทะกับเขาเลย
ทุกคนล้วนทราบดีว่าฉีเล่ยเองก็มีภูมิหลังที่แข็งแกร่งในระดับหนึ่งเช่นกัน ส่วนที่ว่าภูมิหลังของเขามีใครคอยสนับสนุนอยู่นั้นกลับไม่มีใครรู้แน่ เรื่องนี้ยังมีข้อมูลไม่ชัดเจนนัก แต่ที่แน่นอนแล้วก็คือ แม้กระทั่งอาจารย์ผู้มีความ‘อาวุโสที่สุด’อย่างตาแก่ซงยังไม่กล้าขัดแย้งใดๆอีกเลย
มหาวิทยาลัยแพทย์ปักกิ่งไม่ได้ให้ความสำคัญกับการแพทย์แผนจีนมากนัก ดังนั้นค่าบำรุงที่จะจัดสรรทรัพยากรในสาขานี้จึงมีจำกัด น้อยนิดชนิดที่ว่าห้องพักอาจารย์ยังมีคอมพิวเตอร์ให้ใช้เพียงแค่สองเครื่อง และหนึ่งในนั้นก็เป็นของตาแก่ซง ขณะที่อีกเครื่องอาจารย์ทุกคนต้องแบ่งกันใช้
หลังจากเงียบนิ่งไปพักหนึ่ง อาจารย์เหล่านี้ก็ทนต่อความกดดันไม่ไหวและเลิกสนใจฉีเล่ยไปเอง พวกเขามุงอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเพื่อเข้าเว็บไซต์อัปเดตข่าวสาร
เนื่องจากฉีเล่ยไม่ค่อยสนิทสนมกับพวกเขาเท่าไหร่นัก จึงนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวเองและก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ เพื่อจัดเตรียมการเรียนการสอนอย่างมีความสุข
ทันใดนั้นเอง จู่ๆก็มีอาจารย์คนหนึ่งร้องอุทานขึ้นเสียงดังลั่น
“มาแล้ว! มาแล้ว! รูปแฟนของอาจารย์หลี่จากสาขาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน! ในที่สุดก็ถูกเปิดเผยออกมาแล้ว!”
เป็นเสมียนสาวเสี่ยวเกอซึ่งนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง
โดยมีตาแก่ซงเป็นแกนนำเช่นเคย พร้อมกับบรรดาอาจารย์อีกสองสามคนที่พากันแห่เข้ามามุงดูอีกครั้ง มีหรือที่คนพวกนี้จะทนต่ออาการคันเพราะความอยากรู้อยากเห็นได้? ถ้าไม่ได้สอดรู้สอดเห็นสักวันคงจะนอนไม่หลับแน่!
“มีคนถ่ายรูปคู่ระหว่างอาจารย์หลี่กับแฟนนักศึกษาหนุ่มได้ แล้วนำมาอัพโหลดลงในบอร์ดสนทนาของมหาวิทยาลัย โพสต์นี้กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก!”
“ไอ้หนุ่มไวไฟนั้นเป็นใครกัน? ถึงสามารารถทำให้น้ำแข็งอย่างเธอละลายได้?”
ภายในใจของอาจารย์พวกนี้คิดว่า ผู้ชายบนโลกนี้มันหายากหาเย็นนักรึไง? ถึงต้องไปเลือกควงแขนลูกศิษย์ตัวเอง?
“มันก็ไม่แน่ บางทีนักศึกษาหนุ่มคนนี้อาจจะเป็นทายาทเศรษฐีก็ได้นะ?”
“เป็นไปได้…คงถูกที่บ้านตามใจจนเสียคน ไม่สนเรื่องศีลธรรมอะไรทั้งนั้น ถึงขนาดคบกับอาจารย์ของตัวเอง ไอ้เด็กเวรไร้ยางอาย!”
อาจารย์ที่ร้องตะโกนเสียงดังคนนี้เห็นได้ชัดว่า เขาเองก็แอบชอบหลี่ถงซีเช่นกัน
“เสี่ยวเกอ ทำไมรูปถึงยังโหลดไม่ขึ้นสักที? เห้อออ…ทางมหาวิทยาลัยแอบตัดความเร็วเน็ตของเราอีกแล้วใช่ไหม?”
“ไม่น่าใช่นะคะ เพราะเซิร์ฟเวอร์ที่มหาวิทยาลัยของเราเป็นมันเก่ามาก ยิ่งมีคนกดเข้าไปดูมากเท่าไหร่ความเร็วในการโหลดก็ยิ่งช้าลงค่ะ อ๊ะ! เปิดได้แล้ว!”
“ไหน! ไหน! ขอดูหน้าไอ้เด็กเวรนี่หน่อย!”
“เอ๊ะ? แปลกจัง? ทำไมเด็กคนนี้หน้าคุ้นๆ?”
“ชุดสูทสีน้ำเงิน… ทำไมดูคล้ายกับ…อาจารย์ฉีเลยล่ะ?”
ทันใดนั้นเอง ทุกคนต่างก็หันขวับไปจ้องมองฉีเล่ยกันเป็นตาเดียวอย่างไม่ได้นัดหมาย
ฉีเล่ยยิ้มตอบเพียงว่า
“ใช่ครับ ไอ้เด็กเวรนั่นคือผมเอง”
“….”
ในห้องพักอาจารย์ ทุกคนถึงกับอ้าปากค้างขากรรไกรแทบร่วงกราว
บอร์ดสนทนาของมหาวิทยาลัยแพทย์ปักกิ่ง เป็นแหล่งรวมของนักศึกษาและคณะอาจารย์ทุกคณะสาขา รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลในเครืออีกด้วย เป็นสังคมบนโลกอินเตอร์เน็ตที่ทุกคนชอบเข้ามาแวะเวียนเยี่ยมชม และอัปเดตข่าวสารที่เกิดขึ้น บอร์ดสนทนาดังกล่าวจะมีโพสต์ใหม่ๆ อัปเดตสดใหม่ตลอดทั้งวันกว่าพันโพสต์ ส่วนจำนวนผู้เข้าชมนั้นก็หลายหมื่น
หลี่ถงซีเป็นอาจารย์ที่สวยที่สุดในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ และได้รับสมญานามว่า‘คู่สตรีงามเพลิงน้ำแข็ง’ โดยพ่วงกับอาจารย์สาวสวยอีกคนที่ชื่อว่า หลินชูวโม่ ตามชื่อที่ทุกคนเรียกเลย สาวงามคนหนึ่งเย็นชาดั่งน้ำแข็ง ส่วนอีกคนร้อนแรงดั่งเพลิง
ส่วนซูเสี่ยวหยานน่ะเหรอ? ถึงเธอจะเป็นอาจารย์สาวที่สวยมากคนหนึ่ง แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบกันจริงๆ ยังไม่สามารถทัดเทียมทั้งสองคนนี้ได้อยู่ดี
หลังจากโพสต์ออกไปไม่ถึงชั่วโมง จำนวนผู้ชมที่กดเข้ามาก็พุ่งทะยานไปมากกว่าหลายพันคน มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกว่าร้อยครั้ง และตัวเลขยังคงพุ่งสูงอย่างต่อเนื่อง
โพสต์นี้ถูกแชร์ไปทั่วทุกกลุ่มของมหาวิทยาลัยโดยผ่านQQและWechat ข่าวนี้กลายเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในสังคมมหาวิทยาลัย
ในช่วงสองวันมานี้ ทั่วทุกมุมของมหาวิทยาลัย ผู้คนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องของฉีเล่ยกันอย่างแพร่หลาย
“นี่ๆ เธอรู้รึยัง? มีคนโพสต์รูปคู่ของอาจารย์หลี่กับแฟนของเธอ?”
“ก็ต้องเห็นแล้วสิ! หนุ่มหล่อในชุดสูทสีน้ำเงิน…หล่อจนใจฉันแทบละลายเลย!”
“เขายังนั่งรถBMWด้วยนะ แถมอาจารย์หลี่ยังเป็นคนขับให้อีก ฉันคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องเป็นทายาทเศรษฐีอะไรแบบนี้แน่เลย! หรือไม่ก็อาจจะมีภูมิหลังอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นจะสามารถพิชิตใจอาจารย์หลี่ได้ยังไงล่ะ?”
“แล้วเธอคิดว่าไง? นักศึกษาหนุ่มมีเงินซื้อBMWเปย์สาว? ก็ต้องรวยอยู่แล้วสิ!”
“เอ…แต่รถคนนี้ไม่ใช่ว่าอาจารย์หลี่ขับมาเป็นปีแล้วเหรอ?”
“นี่พวกเธอไม่สงสัยกันเลยรึไง? อาจารย์หลี่เป็นแค่อาจารย์คนหนึ่งเท่านั้นนะ! เธอจะมีเงินซื้อรถBMWได้ยังไง?”
“ก็จริงนะ เงินเดือนของพวกอาจารย์ในมหาวิทยาลัยจะสูงขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
“จุ๊จุ๊…ถ้าฉันบอกแล้วเงียบไว้เลยนะพวกเธอ! ฉันได้ข่าวจากวงในเขาว่า รถBMWของอาจารย์หลี่เป็นของขวัญที่ผู้ชายในรูปซื้อให้!”
ข่าวลือได้แพร่กระจายออกไปต่างๆนานา มีทั้งเรื่องราวแปลกๆมากมายที่ห่างไกลเกินความจริงกระจายไปทั่วทุกมุม ในเวลานี้ไม่ว่าฉีเล่ยจะไปไหน เขาก็ได้ยินแต่ข่าวซุบซิบเรื่องของตน บางอย่างผู้คนก็เล่นเติมไข่ใส่สีลงไปจนเจ้าตัวที่ได้ยินไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ท่ามกลางเสียงซุบซิบเหล่านี้ ก็ยังมีข้อเท็จจริงถูกเปิดเผยออกมาบ้าง
โดยมีโพสต์จากนักศึกษาสาขาแพทย์แผนจีนคนหนึ่งชี้แจงว่า ภาพคู่ที่รั่วไหลออกมา แท้ที่จริงแล้วแฟนหนุ่มของหลี่ถงซีไม่ใช่นักศึกษา แต่เป็นอาจารย์ที่สอนอยู่ในสาขาแพทย์แผนจีนที่เขาเรียนอยู่
เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ก็ยังมีนักศึกษาอีกหลายต่อหลายคนแห่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ทั้งยังช่วยเสริมว่า พวกเขาเคยเข้าเรียนคลาสของอาจารย์หนุ่มคนนี้อีกด้วย
แต่ก็อย่างว่า กลุ่มสังคมของสาขาแพทย์แผนจีนนั้นยังเล็กเกินไป น้อยคนนักที่จะเข้ามาสนใจกับโพสต์ของพวกนักศึกษาสาขาเล็กๆแบบนี้ ดังนั้นโพสต์ดังกล่าวจึงถูกปัดตกไปอย่างรวดเร็ว
นักศึกษาโดยส่วนใหญ่ยังคงเชื่อว่า ชายหนุ่มในภาพจะต้องเป็นนักศึกษาเหมือนกับพวกเขา และนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะยกเรื่องนี้มาเป็นประเด็น
ความสัมพันธ์ต้องห้ามระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ นี่มันเรื่องใหญ่ประจำเดือนเลยไม่ใช่เหรอ?
กลุ่มแชทสาธารณะต่างพูดคุยกันเรื่องนี้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ ส่วนเรื่องนี้จะมีข้อเท็จจริงแค่ไหนกลับไม่มีใครสนใจกันเลย
ที่สำคัญกว่านั้น ความเป็นจริงที่ว่านักศึกษาหนุ่มวัยใสสามารถสานสัมพันธ์กับอาจารย์สาวสวยได้แบบนี้ นี่มันความใฝ่ฝันของบรรดาหนุ่มๆชัดๆ พวกเขาเหล่านี้จับจ้องภาพคู่ผ่านหน้าจอพลางเฝ้าอิจฉาอย่างบอกไม่ถูก
ส่วนพวกสาวๆเองก็รู้สึกใจสั่นเหลือเกิน ความรักต้องห้ามระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ที่ก้าวข้ามคำว่า‘ศีลธรรม’ไปแล้ว นี่มันเป็นความโรแมนติกอย่างไม่ต้องสงสัย
หัวข้อดังกล่าวร้อนแรงเกินฉุดไว้อยู่แล้ว นี่ถือเป็นปัญหาใหญ่หลวงสำหรับฉีเล่ย เพื่อเลี่ยงความสงสัย เขาไม่กล้าเดินไปรอหลี่ถงซีใต้อาคารสาขาโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันในวันนี้ เพราะกลัวว่าเขาจะโดนเหล่าแฟนคลับของหลี่ถงซี ถ่มน้ำลายใส่จนท่วมตายก่อน
ฉีเล่ยโทรบอกหลี่ถงซีทันทีว่า ให้เธอขับรถมารับเขานอกมหาวิทยาลัยแทนหลังสอนเสร็จ โดยไปเจอกันที่ทางแยกฝั่งตะวันตกของมหาวิทยาลัย
หลังจากโทรคุยกันเสร็จสิ้น ฉีเล่ยก็เดินก้มหน้าก้มตาจ้ำอ้าวออกไปจากมหาวิทยาลัยโดยเร็ว ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เขาถึงขั้นเปลี่ยนชุด ไม่กล้าสวมสูทสีน้ำเงินตัวนั้นอีกเลย
ขณะที่กำลังก้มหน้าก้มตาหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คน ฉีเล่ยไม่ทันได้ระวังตัวจึงเดินชนเข้ากับร่างของใครบางคน สัมผัสแรกที่รับรู้ได้คือความอ่อนนุ่มที่มาพร้อมกับกลิ่นหอมหวานของน้ำหอม
ฉีเล่ยตกใจอย่างมาก เร่งถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองและพบว่าคนที่เขาเดินชนนั้นเป็นสาวสวนคนหนึ่ง