เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] – ตอนที่ 116 ม้าที่ไม่รู้ตัวว่าหน้ายาว

ตอนที่ 116 ม้าที่ไม่รู้ตัวว่าหน้ายาว

ตอนที่ 116 ม้าที่ไม่รู้ตัวว่าหน้ายาว

วันที่หนึ่งก็คือวันที่ใช้สำหรับอวยพรวันปีใหม่ ช่วงกลางดึกก็ต่อด้วยการจุดประทัด จากนั้นก็เข้านอนพักผ่อนให้เร็วหน่อย

การฉลองปีใหม่แม้ว่าจะครึกครื้น แต่ก็ทำให้เหนื่อยได้เหมือนกัน!

วันที่สองเป็นวันที่เหล่าภรรยาจะกลับไปอวยพรวันปีใหม่ที่บ้านเกิดตัวเอง

คุณแม่เย่บอกไว้ก่อนแล้วว่าไม่ให้เย่ฉูฉู่กลับไป รอจนกว่าการตั้งครรภ์จะผ่านช่วงอันตรายแล้วค่อยว่ากันใหม่ ทั้งสองบ้านใกล้กันขนาดนี้แล้วทำไมต้องกลับไปในช่วงฤดูที่หิมะตกเต็มพื้นอากาศหนาวเหน็บแบบนี้ด้วย?

เย่ฉูฉู่เองก็ไม่ได้ยืนกรานเพราะมีลูกอยู่ในครรภ์ ถึงอย่างไรสภาพอากาศแบบนี้ก็เดินทางไม่สะดวก รอให้อากาศดี ถึงเวลานั้นค่อยกลับไปก็ได้เหมือนกัน

เป็นเพราะไม่ได้กลับไปที่บ้านเกิด ดังนั้นเธอจึงอยู่ในบ้านคอยต้อนรับแขก

ตอนที่ใกล้จะถึงช่วงเที่ยงวันแล้ว ครอบครัวของพี่สาวใหญ่จ้าวและพี่สาวห้าจ้าวก็ได้กลับมาอวยพรปีใหม่ที่บ้าน

พี่เขยห้าขับรถมา ซึ่งทั้งสองครอบครัวก็มาด้วยกัน จึงสะดวกเป็นอย่างมาก

 คุณพ่อคุณแม่สวัสดีวันปีใหม่ครับ/ค่ะ!  พี่สาวใหญ่จ้าวและพี่เขยใหญ่แย้มยิ้ม

 สวัสดีปีใหม่ครับ/ค่ะ คุณพ่อคุณแม่!  พี่สาวห้าจ้าวและฉินหวยเหรินพี่เขยห้าก็อวยพรด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

 คุณตาคุณยายสวัสดีปีใหม่ครับ/ค่ะ!  หลานชายหลานสาวพูดพร้อมกัน

บรรยากาศคึกคักเช่นนี้ ทำให้คุณพ่อจ้าวและคุณแม่จ้าวมีความสุขเป็นอย่างมาก จึงพูดรัวเร็วว่า  สวัสดีปีใหม่เช่นกันนะ เร็ว เข้ามาในบ้าน ข้างนอกหนาวแย่เลย! 

ทุกคนเข้ามาในบ้าน พี่รองจ้าว พี่สามจ้าว พี่สี่จ้าว รวมถึงเหล่าพี่สะใภ้ก็พาลูก ๆ เดินออกมา เพื่อกล่าวทักทายกัน

พวกเด็ก ๆ นั่งอยู่ในบ้านไม่ไหวแล้ว จึงวิ่งออกไปเล่นสเก็ตกับปั้นหิมะในลานบ้าน

 หนาวไหม?  คุณแม่จ้าวนำถังสุ่ยมาเสิร์ฟให้ทุกคน

 ฉันกับลูกนั่งอยู่ในรถ ไม่หนาวหรอกค่ะ  พี่จ้าวห้ากล่าว  พี่สาวใหญ่กับพี่เขยน่าจะหนาวนะ 

รถที่พี่เขยห้าขับเป็นรถบรรทุก ที่นั่งคนขับและข้างคนขับนั่งได้แค่ผู้ใหญ่สองคน จากนั้นก็อุ้มลูกไว้อีกหนึ่งคน ครอบครัวพวกเขามีกันสามคนจึงนั่งได้พอดี

แต่พี่สาวใหญ่จ้าวกับพี่เขยใหญ่รวมถึงพวกหลานชายหลานสาวอีกสี่คนได้นั่งอยู่ด้านหลัง

พี่สาวใหญ่จ้าวพูดเคล้ารอยยิ้ม  ไม่หนาวเลย บนรถมีม่านผ้าฝ้าย แถมยังใส่ชุดหลายชั้นด้วย 

สามีของพี่สาวใหญ่จ้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม  ที่สำคัญคือรวดเร็วด้วย ยังไม่ทันรู้สึกหนาวก็ถึงแล้ว มีรถก็สะดวกแบบนี้แหละ 

 สะดวกมันก็สะดวกอยู่หรอก แต่ก็เปลืองเงินอยู่เหมือนกัน  ฉินหวยเหรินพี่เขยห้ากล่าว  ถ้าไม่ใช่เพราะทำงานนี้ คงไม่ซื้อเจ้านี่มาหรอก หนึ่งปีหมดเงินไปกับค่าน้ำมันไม่รู้ตั้งเท่าไร แถมยังมีเงินค่าซ่อมบำรุงนั่นอีก 

ไม่เช่นนั้นจะพูดว่าฉินหวยเหรินพี่เขยของพี่สาวห้าคนนี้มีอนาคตได้อย่างไร เพราะครึ่งปีหลังเขาก็ซื้อรถออกไปทำงานเองได้แล้ว

รถบรรทุกคันนี้เป็นของเขาเอง แน่นอนว่าไม่ใช่รถใหม่ แต่เป็นรถมือสองที่เขาถอยออกมา เนื่องจากเป็นรถมือสอง คุณภาพย่อมไม่ดีเท่าไรนัก แต่ก็ยังมีข้อดีอยู่หนึ่งข้อ นั่นคือราคาถูกกว่ารถมือหนึ่งไม่น้อยเลย

ฐานะทางบ้านในตอนนี้ สามารถซื้อรถมือสองแบบนี้ได้ก็ถือว่าไม่เลว ไม่กล้าขออะไรมากไปกว่านั้นแล้ว

 นั่นสิ เงินค่าซ่อมบำรุงคงไม่น้อยเลย  พี่เขยใหญ่พยักหน้า เขามองอีกครั้งพลางถาม  เหวินเทากับน้องสะใภ้ล่ะ? 

 พวกเรามาแล้วครับ  จ้าวเหวินเทาเดินประคองภรรยาออกมาด้วยรอยยิ้ม

สองสามีภรรยาคู่นี้ก็ออกมาทักทายพี่สาวและพี่เขยเช่นกัน

พี่สาวใหญ่จ้าวและพี่สาวห้าจ้าวที่กำลังคุยกับพวกสะใภ้รองและคนอื่น ๆ ก็หันไปคุยกับเย่ฉูฉู่ ประเด็นหลักก็คือถามไถ่อาการของเย่ฉูฉู่ภรรยาของน้องชายคนนี้

เย่ฉูฉู่ย่อมต้องพูดว่าสบายดีอยู่แล้ว ครั้นพี่สาวทั้งสองเห็นสีหน้าของภรรยาน้องชายก็พบว่าผิวขาวของอีกฝ่ายมีสีแดงระเรื่อ ดวงตาก็เป็นประกาย จึงทราบว่าชีวิตของสองสามีภรรยาคู่นี้คงดีไม่น้อยเลย

พี่เขยใหญ่ถามน้องภรรยาคนเล็ก  เหวินเทา รถสามล้อเครื่องยนต์ของนายคันนั้นเป็นไงบ้าง เปลืองน้ำมันไหม? 

จ้าวเหวินเทากล่าวด้วยรอยยิ้ม  เปลืองหรือเปล่าผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่สามของภรรยาผมเป็นคนดูแลน่ะ 

 ปีนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ของนั้นที่พวกนายซื้อเมื่อปีที่แล้วยังไงก็ต้องขายได้ดีมากอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวเรื่องเงินค่าน้ำมันเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นหรอก  ฉินหวยเหรินพี่เขยห้ากล่าว

ตอนนี้เขานำเข้าและส่งออกสินค้าเองแล้ว จึงทราบเกี่ยวกับกำไรของสิ่งเหล่านี้เป็นอย่างดี สามารถนำมาเทียบกับเขาในปีนี้ได้

ได้เงินมาเป็นกอบเป็นกำเป็นแน่นอน

พี่เขยใหญ่กล่าวด้วยรอยยิ้ม  น้องเขยห้าเป็นคนมีเงินก็ต้องมีอำนาจ หลังจากนี้นายมีเรื่องอะไรก็ไปหาเขานะ ถ้าเขาไม่ช่วยก็แปลว่าเขาพูดไม่จริง! 

 พี่เขยใหญ่เองก็ไม่ได้แย่นะ  ฉินหวยเหรินกล่าวด้วยรอยยิ้ม  ตอนนี้พี่เขยใหญ่ได้เลื่อนขั้นแล้วไม่ใช่เหรอ? 

 ฉันเทียบนายไม่ได้หรอก ฉันมีลูกตั้งสี่คน ภาระหนักอึ้งเชียวล่ะ  พี่เขยใหญ่ส่ายหน้าเคล้ารอยยิ้ม

แต่ชีวิตในปีนี้ของเขาก็ดีเยี่ยมเลย เพราะเขาได้เลื่อนตำแหน่ง ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการของสำนักงานทรัพยากรน้ำแล้ว

ก่อนหน้านี้ต้องขุดบ่อน้ำ แม้ว่าจะได้เงินไม่น้อย แต่ก็เหนื่อยจริง ๆ ส่วนตอนนี้ไม่ต้องเหนื่อยขนาดนั้นแล้ว เงินเดือนก็ไม่น้อยด้วย

ดังนั้นแม้ว่าจะสู้น้องเขยฉินหวยเหรินที่ซื้อรถบรรทุกออกไปทำงานเองไม่ได้ แต่พี่เขยใหญ่ก็พึงพอใจกับผลลัพธ์ในตอนนี้

พูดถึงเรื่องลูก คุณแม่จ้าวก็ถามลูกสาวเป็นการส่วนตัว  ปีนี้โหรวโหรวก็อายุไม่น้อยแล้ว ในท้องมีข่าวดีบ้างรึยัง? 

พี่สาวห้าจ้าวยิ้มพลางกล่าว  แม่คะ พวกเรายังไม่รีบ แม่จะรีบไปทำไมเนี่ย? 

 ปีนี้ฉินหวยเหรินก็อายุไม่น้อยแล้วนะ ก็ควรจะมีลูกชายสักคน แม่รู้ว่าคนหนุ่มสาวแบบพวกลูกต่างก็ใช้วิธีหลีกเลี่ยงกัน แต่ถ้าควรจะมีก็ต้องมีนะ ไม่งั้นแม่สามีคนนั้นของแกคงได้หยิบเรื่องนี้มาทำให้แกเสื่อมเสีย  คุณแม่จ้าวกล่าว

มีอยู่ครั้งหนึ่งนางไปที่โรงพยาบาลแล้วพบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งไปขอของคุมกำเนิดกับหมอ ดังนั้นนางจึงทราบว่าหนุ่มสาวเหล่านี้ถ้าไม่อยากให้กำเนิดก็สามารถหลีกเลี่ยงได้

แต่ตอนนี้หลานสาวก็โตแล้ว สามารถเตรียมตัวคลอดลูกชายได้แล้ว

พี่สาวห้าจ้าวกล่าวอย่างจนปัญญา  แม่คะ นี่ไม่ใช่ปัญหาของฉันเลย แต่เป็นหวยเหรินค่ะ เขาบอกว่าตอนนี้เขายุ่งเกินไป คงดูแลฉันไม่ได้ ถ้าฉันท้องขึ้นมากลัวว่าหนูต้องอยู่คนเดียว ดังนั้นเขาจึงบอกให้รอจนกว่างานของเขาจะมั่นคง ถึงตอนที่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนฉันมากขึ้นค่อยตั้งครรภ์ตอนนั้นค่ะ 

แม้คุณแม่จ้าวจะรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ตอนแรกเลือกลูกเขยได้ไม่เลว การแต่งงานของลูกสาวคนที่ห้าเกิดขึ้นก็เป็นเพราะลูกเขยใหญ่เป็นคนแนะนำให้ ตอนนั้นนางเองก็ดูอย่างจริงจังแล้ว จึงให้แต่งงานด้วยความพึงพอใจ ผลลัพธ์คือแต่งไม่ผิดคนจริง ๆ

 แกเองก็อย่าอ่อนแอแบบนั้นสิ ถึงตอนนั้นก็หาใครสักคนไปช่วยก็สิ้นเรื่องไม่ใช่เหรอ? แม่ว่าป้ารองของแกก็ไม่เลวนะ ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรทำอยู่ด้วย  คุณแม่จ้าวกล่าว

 ป้ารองของฉันเหรอคะ ครั้งก่อนฉันเห็นหล่อนมางานแต่งของเหวินเทาด้วย  พี่สาวห้าจ้าวกล่าว

 ใช่ หล่อนมานั่งกับแม่ที่นี่ด้วย ชีวิตก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ได้ยินมาว่าไม่ใช่ง่าย ๆ เลย ถ้าแกท้อง ก็ให้ป้าไปหาแกได้ ให้ป้าเขาเข้าเมืองไปช่วยแกสิ  คุณแม่จ้าวกล่าว

เรื่องช่วยเหลือย่อมไม่ได้ช่วยกันเปล่า ๆ อยู่แล้ว รอจนกระทั่งพี่สาวห้าจ้าวช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ไม่ว่าจะอยู่หรือไป ก็ยังต้องจ่ายเงิน

แต่ความสัมพันธ์เครือญาติไม่ต้องพูดให้ชัดเจนแบบนั้น รู้ในใจก็พอแล้ว

พี่สาวห้าจ้าวกล่าวด้วยรอยยิ้ม  ก็ได้ค่ะ รอกลับไปแล้วฉันจะลองคุยกับหวยเหรินดูนะคะ 

คุณแม่จ้าวพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็ถามเรื่องทางบ้านแม่สามีของลูกสาว

บ้านแม่สามีของพี่สาวใหญ่จ้าวไม่ต้องกังวล เพราะไม่มีที่ติเลย

แต่บ้านแม่สามีของลูกสาวคนที่ห้าคนนั้นเรื่องเยอะจริง ๆ โดยเฉพาะตอนนี้ยิ่งเห็นว่าลูกชายตัวเองซื้อรถออกไปทำงานเองแล้ว คิดเหรอว่าจะหยุด?

แน่นอนว่าก็ต้องมีเรื่องอยู่แล้ว

พี่สาวห้าจ้าวแค่นยิ้ม  เห็นว่าอยากให้หวยเหรินส่งเงินให้ใช้ทุกเดือนเดือนละห้าสิบหยวนน่ะค่ะ! 

คุณแม่จ้าวพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา  เป็นม้าที่ไม่รู้ตัวว่าหน้ายาว(1)จริง ๆ แล้วหวยเหรินว่าไงล่ะ? 

………………………………………………………………………………………………………………………

ม้าที่ไม่รู้ตัวว่าหน้ายาว(马不知脸长) – เป็นสำนวน แปลว่าไม่เห็นข้อบกพร่องของตัวเอง

สารจากผู้แปล

บ้านแม่สามีพี่สาวห้าก็คือหาเรื่องลูกชายกับข่มสะใภ้ชัด ๆ พี่สาวห้าอย่าไปยอมค่ะ

ไหหม่า(海馬)

 

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

Status: Ongoing

ผู้แต่ง : 南方荔枝 ผู้แปล : ไหหม่า(海馬) & ซินซิน (新欣) เย่ฉู่ฉู่บุตรสาวเสนาบดีกังฉินเกือบถูกรังแกในระหว่างทางที่โดนเนรเทศ​ แต่ได้ว่าที่ท่านอ๋องผู้หนึ่งมาช่วยนางไว้​และเก็บนางไว้ข้างกาย​ ในระหว่างการชิงอำนาจเพื่อปกป้องพระราชโอรสองค์เล็กของจักรพรรดิองค์ก่อน​ ว่าที่ท่านอ๋องผู้นี้ก็สิ้นชีพเพราะยาพิษประหลาด​ ครั้นพิธีศพถูกจัดขึ้น​ เย่ฉู่ฉู่ก็ได้โขกศีรษะกับโลงศพของเขาตายตกตามกันไป​ แต่นางกลับได้มาเกิดใหม่ในประเทศจีนยุค​ 1970 ในร่างของเจ้าของร่างผู้ได้ชื่อว่าเป็น​แม่เสือตามคำกล่าวของจ้าวเหวินเทาผู้เป็นสามี จากภรรยาผู้ดุร้ายกลายเป็นภรรยาผู้อ่อนโยน​ เย่ฉู่ฉู่จะใช้ชีวิตในร่างนี้ให้มีแต่ความสุขอย่างไรดี? -Highlight : เรื่องนี้นางเอกไม่ได้ทะลุมิติมาในยุค​ 70​ เพียงคนเดียว​ แต่สามีในชาติก่อนที่ตายไปเมื่อก่อนหน้านี้ก็ได้มาเกิดใหม่เป็นสามีในชาติปัจจุบัน​ด้วยเช่นกัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท