เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零] – ตอนที่ 276 การประนีประนอม

ตอนที่ 276 การประนีประนอม

ตอนที่ 276 การประนีประนอม

ตอนที่ 276 การประนีประนอม

 ตระกูลฉวี่คงไม่ถึงขั้นไม่ยอมควักเงินจ่ายแม้แต่เฟินเดียวหรอกมั้ง? นี่เป็นการแต่งงานไม่ใช่การสร้างศัตรู ยังไงก็ต้องคงมองหน้ากันไม่ติด  เย่ฉูฉู่กล่าว

 ตระกูลฉวี่คงมีเงินไม่มากเท่าไรหรอก  จ้าวเหวินเทากล่าว  สร้างบ้านให้เจ้ารองฉวี่แล้ว แทบจะเป็นการขนสมบัติของพวกเขาออกมาจนหมดเลย 

เย่ฉูฉู่กล่าว  ไม่ใช่ว่าค้างจ่ายเหรอ? 

 ก็ค้างจ่ายนั่นแหละ แต่ก็แค่ส่วนหนึ่ง ที่ดินไม่ได้ค้างจ่าย ค่าจ้างก็ไม่ได้ค้างจ่าย แต่ก็จ่ายให้อีกทีหลังฤดูใบไม้ร่วง ถ้าฝ่ายหญิงต้องการสินสอดเยอะ ๆ ผมคิดว่าตระกูลฉวี่คงทำเรื่องเหลืออดจริง ๆ แล้วล่ะ  จ้าวเหวินเทากล่าว

 บ้านของพวกเขาก็เลี้ยงกระต่ายด้วยไม่ใช่เหรอ? ที่ดินก็เยอะมาก ปีที่แล้วไม่มีเงินเก็บสักนิดเลยเหรอ?  เย่ฉูฉู่ไม่ค่อยเข้าใจฐานะทางบ้านของตระกูลฉวี่ เธอรู้แค่ว่าบ้านของพวกเขาดูเหมือนจะมีที่ดินเยอะมาก

จ้าวเหวินเทากล่าว  คุณคงไม่รู้ ร่างกายของย่าเจ้ารองฉวี่ไม่ค่อยแข็งแรง กินยาทั้งปี นี่ก็กินมาหลายปีแล้วด้วย สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในการใช้ชีวิตก็คือโรคภัยไข้เจ็บ ถ้าในบ้านมีคนป่วย ก็ยากที่จะลืมตาอ้าปาก 

เย่ฉูฉู่ทราบว่าเจ้ารองฉวี่มีย่าอีกหนึ่งคน ดวงตามองไม่เห็น จำเป็นต้องมีคนช่วยประคองจึงจะเดินได้ กินยาตลอดทั้งปี บ้านของพวกเขาไม่มีกลิ่นอื่นเลย นอกจากกลิ่นยาจีน

 ดูเหมือนว่า เฮ่อซงจือคงจนปัญญาที่จะขอสินสอดให้ฝ่ายหญิงแล้วล่ะ  เย่ฉูฉู่ถอนหายใจ

เธอพูดไว้ไม่ผิดเลย ผ่านไปไม่กี่วันตระกูลฉวี่ก็ไหว้วานให้เฮ่อซงจือไปบอกทางฝ่ายหญิง บอกว่าจะแต่งงานสิ้นเดือนนี้ สาเหตุก็เป็นเพราะต้องการแรงงานคนมาถางวัชพืช

นี่ย่อมต้องหมายถึงฝ่ายหญิงอยู่แล้ว เพราะท้องใหญ่อย่างเห็นชัด ไม่สามารถแบกท้องโตไปแต่งงานได้ แต่ฝ่ายหญิงไม่สามารถออกตัวในเรื่องการแต่งงานก่อนได้ ต้องให้ฝ่ายชายเป็นคนออกตัวก่อนถึงจะดี นี่จึงเป็นเหตุผลที่ตระกูลฉวี่พูดถึงเรื่องแต่งงาน

ตระกูลฉวี่ไม่ได้พูดถึงเรื่องตั้งครรภ์ บ้านฝ่ายหญิงก็ไม่ได้พูดอะไร เฮ่อซงจือจึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น หล่อนไปถามทางฝั่งหญิงแล้ว ฝั่งหญิงต้องการสองข้อ คือต้องสร้างบ้าน ส่วนสินสอดต้องการเสื้อผ้าสองชุด ต่างหูทอง แหวนทอง สร้อยข้อมือทอง นอกจากนี้ยังขอรถจักรยานหนึ่งคันและนาฬิกาอีกหนึ่งเรือนด้วย

มีข้อเรียกร้องที่สูงเช่นนี้ก็ต้องมีการเจรจาต่อรอง แม้ว่าจะเป็นสินสอด แต่โดยพื้นฐานแล้วก็ไม่ได้แตกต่างกัน ครั้นตระกูลฉวี่ได้ยินข้อเรียกร้องของฝ่ายหญิง จึงตอบตกลงแค่เสื้อสองชุดและสร้างบ้าน แต่สร้างบ้านยังต้องรออีกสองปี

แบบนี้ถือเป็นการหั่นมากกว่าครึ่ง ฝ่ายหญิงย่อมไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ตระกูลฉวี่ก็ไม่ได้รีบร้อน ถึงอย่างไรในท้องของหล่อนก็มีหลานของพวกเราอยู่แล้ว อย่างไรหล่อนก็ต้องตอบตกลง

เฮ่อซงจือโมโหทุกครั้งที่นำคำพูดไปบอกอีกฝ่าย

 หลังจากนี้ฉันจะไม่เป็นแม่สื่ออีกแล้ว โมโหแทบตายอยู่แล้วเนี่ย!  เฮ่อซงจือมาระบายความทุกข์ทรมานกับเย่ฉูฉู่

เย่ฉูฉู่ก็เห็นอกเห็นใจหล่อน  ตระกูลฉวี่ก็เกินไปหน่อยนะ ไม่ว่าจะพูดยังไง อีกฝ่ายก็เลี้ยงดูลูกสาวจนโตขนาดนั้นแล้ว อย่างน้อย ๆ ก็ต้องให้ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่สักนิด แสดงออกให้เห็นสักหน่อยสิ 

 ก็ใช่น่ะสิ  เฮ่อซงจือพูดด้วยความตื่นเต้น  ใช่ พวกเขาไม่กลัวว่าฝ่ายหญิงปฏิเสธ แต่หลังจากนี้ก็ยังต้องใช้ชีวิตต่อไปนะ ทำตัวแข็งกระด้างเกินไปหลังจากนี้จะมองหน้ากันยังไง? 

 เจ้ารองฉวี่ว่ายังไงบ้าง? 

เย่ฉูฉู่รู้สึกสงสัยมาก เรื่องตั้งแต่ต้นจนจบคนที่สร้างเรื่องก็คือเจ้ารองฉวี่ เขาจะแสดงทัศนคติอย่างไร

 เขาเหรอ?  เฮ่อซงจือบุ้ยปาก  ผู้ชายแบบนี้ ไม่มีมโนธรรมเอาซะเลย! 

 อะไรนะ? เขาเองก็ไม่ยอมไกล่เกลี่ยให้เหรอ?  เย่ฉูฉู่ประหลาดใจมาก  ตอนแรกพวกเขาก็คุยกันอย่างดีเลยนะ 

เฮ่อซงจือถอนหายใจ  แล้วไงล่ะ? คุยกันดีกว่านี้แต่ถ้าไม่มีเงินก็ทำอะไรไม่ได้ 

 แล้วเจ้ารองฉวี่ว่ายังไงบ้าง? 

 เจ้ารองฉวี่บอกว่าแต่งงานไปก่อน หลังจากนี้ค่อยทยอยซื้อให้ฝ่ายหญิง เธอคิดว่าหลังจากแต่งงานแล้วค่อยซื้อให้จะเรียกว่าสินสอดเหรอ?  เฮ่อซงจือพูดด้วยความหงุดหงิด  ไม่เคยเห็นใครเป็นแบบนี้มาก่อนเลย! 

เย่ฉูฉู่ยิ้มด้วยรอยยิ้มขมขื่น  ตระกูลฉวี่ไม่มีเงินจริง ๆ เหรอ? 

 ไม่มีเงินก็ยืมสิ เงินแค่ 100-200 หยวนยังไงก็หายืมได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะพูดยังไงก็คงไม่เหลือหน้าแล้ว ตระกูลฉวี่นั่นแม้แต่หน้าก็ไม่อยากมีกันแล้ว!  เฮ่อซงจือโกรธจนหายใจฟึดฟัด  นี่ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันจะไม่สนใจแล้ว พวกเขาอยากจะทำอะไรก็เชิญเลย! 

เย่ฉูฉู่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร

เฮ่อซงจือพูดต่อไปว่า  น้องสาวของไห่เยี่ยนทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ? นี่ไม่เท่ากับต้อนตัวเองให้จนมุมเหรอ? 

 หล่อนเป็นยังไงบ้าง? 

 จะเป็นยังไงได้ล่ะ จะมีชีวิตที่ดีได้เหรอ ตั้งท้องแล้วเธอก็รู้ว่าทรมานขนาดไหน แถมยังมาเจอผู้ชายแบบนี้อีก จะมีความสุขเหรอ?  เฮ่อซงจือกล่าว  ตอนแรกฉันคิดว่าหล่อนจะแกร่งกว่าพี่สาวตัวเอง ตอนนี้ดูเหมือนว่ายังสู้พี่สาวไม่ได้เลยด้วยซ้ำ! ถ้าไม่ใช่เพราะยัยนั่น…จะอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากแบบนี้เหรอ? 

 หล่อนอายุยังน้อย จะคิดมากมายขนาดนั้นได้ยังไงกัน เรื่องนี้ก็ต้องทำต่อไปให้ดี ๆ เธอก็พยายามโน้มน้าวใจตระกูลฉวี่หน่อย อย่างน้อย ๆ ก็ให้เงินสักนิด แต่งงานกันแล้ว ถึงยังไงก็มีหลานอยู่ในท้องแล้วนะ 

เย่ฉูฉู่ตระหนักได้อย่างลึกซึ้ง เรื่องนี้ยิ่งยื้อนานวันเท่าไรฝ่ายหญิงก็ยิ่งเสียเปรียบมากเท่านั้น

เฮ่อซงจือพยักหน้า  ฉันรู้ ฉันจะไปโน้มน้าวใจอีกสักครั้งแล้วกัน 

เรื่องนี้ยื้อกันไปยื้อกันมากันอยู่หลายครั้งในที่สุดก็สรุปได้ ตระกูลฉวี่ตอบตกลงที่จะเย็บชุดให้ฝ่ายหญิงสองชุด นอกจากนี้ของอย่างอื่นจะถูกแปลงเป็นเงินอีกสี่ร้อยหยวน ส่วนบ้านยังต้องรออีกสองปีถึงจะสร้างได้ ฝ่ายหญิงตอบตกลงแล้ว ถ้าไม่ตอบตกลงก็คงไม่ได้ เพราะหลานในท้องไม่อนุญาตน่ะสิ

ทั้งสองฝ่ายตอบตกลงแล้ว วันแต่งงานได้ถูกกำหนดอย่างรวดเร็ว พวกเขารีบแต่งงานกันในวันที่หนึ่งเดือนพฤษภาคม

งานแต่งถูกจัดขึ้นมา จุดประสงค์ก็เพื่อเก็บเงิน ต้องทราบก่อนว่าถ้าไม่จัดงานแต่งก็จะไม่ได้เงิน งานแต่งเรียบง่ายมาก ตระกูลฉวี่ขี้งกขนาดนั้น ไม่มีทางที่จะจัดปลาตัวใหญ่หรือมีเนื้อหมูจำนวนมากอยู่แล้ว ว่ากันว่าแม้แต่ผักครึ่งหนึ่งก็ยังไม่ได้รับประทานเลย

คนในหมู่บ้านที่สนิทกับตระกูลฉวี่ ให้เงินมา 1-2 หยวน คนที่มีความสัมพันธ์แบบปกติก็ใส่ให้ 5-6 หมาว พูดได้ว่าการจัดงานของตระกูลฉวี่ในครั้งนี้ไม่ขาดทุน

ในวันแต่งงานของเจ้ารองฉวี่ เย่ฉูฉู่ก็กำลังเป็นพยานให้กับเสี่ยวไป๋หยางที่ลุกขึ้นนั่งเองได้แล้ว

ผ่านไปอีกไม่กี่วันเสี่ยวไป๋หยางก็จะอายุหกเดือนแล้ว ว่ากันว่าสามพลิกหกนั่งแปดคลาน หมายความว่าเด็กจะพลิกคว่ำตอนสามเดือน นั่งตอนหกเดือน และคลานตอนแปดเดือน ตอนนี้แม้ว่าเสี่ยวไป๋หยางจะอายุยังไม่ถึงหกเดือน แต่ก็สามารถลุกขึ้นมานั่งได้แล้ว ทั้งยังนั่งได้มั่นคงมากด้วย เพียงแต่นั่งได้ไม่นานเท่าไรนัก

เย่ฉูฉู่ปรบมือด้วยความดีใจ  ว้าว เสี่ยวไป๋หยางนั่งเป็นแล้ว เก่งจริง ๆ เลย! 

ลูกลิงก็นั่งปรบมือและส่งเสียงร้องเจี๊ยก ๆ อยู่ทางนั้น

เสี่ยวไป๋หยางยิ้มขณะปรบมือ หัวเล็ก ๆ โยกนิดหน่อย ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูทำให้เย่ฉูฉู่ถึงกับใจละลาย

ตกตอนค่ำจ้าวเหวินเทาก็ทราบว่าลูกชายนั่งได้แล้ว เขาจึงยกลูกชายลอยขึ้นกลางอากาศอยู่หลายครั้ง ทำให้เสี่ยวไป๋หยางมีความสุขมาก

 ลูกชายของพ่อสุดยอดจริง ๆ ยังไม่ถึงหกเดือนก็นั่งได้แล้ว มา เรียกพ่อกับแม่สักคำซิลูก!  จ้าวเหวินเทากอดลูกชายขณะพูดอย่างมีความสุข

เสี่ยวไป๋หยางเรียนรู้ด้วยการส่งเสียงอ้อแอ้ ๆ

 วันก่อนฉันได้ยินเขาพูดว่า ‘ผัก’ ด้วยนะ  เย่ฉูฉู่กล่าว  แต่ก็ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ยินลูกพูดอีกเลย 

 เด็กเล็กพูดได้ตอนหนึ่งขวบกว่า ๆ มั้ง?  จ้าวเหวินเทากล่าว

 ดูเหมือนว่าจะใช่นะคะ แต่ก็มีคนที่พูดได้เร็วเหมือนกัน เสี่ยวไป๋หยางอายุแค่ไม่กี่เดือนก็ส่งเสียง แอ้ ๆ ๆ แล้ว ฉันคิดว่าเขาคงพูดได้เร็วกว่ากำหนดแหละค่ะ  เย่ฉูฉู่ยกอาหารมาจัดเตรียมเพื่อเตรียมรับประทานอาหาร

ตอนนี้เจ้ารองฉวี่ก็มาหาที่บ้าน

 พี่หกจ้าว กลับมาแล้วเหรอ!  เจ้ารองฉวี่เดินเข้ามาพร้อมกับทักทาย

เย่ฉูฉู่หันไปมองก็แอบประหลาดใจ เธอพบว่าเจ้ารองฉวี่สวมใส่ด้วยชุดจงซานจวงตัวใหม่ครึ่งตัว ส่วนกางเกงถูกรีดจนเรียบ รองเท้าก็เป็นรองเท้าหนังด้วย!

เจ้ารองฉวี่ถูกมองก็แอบรู้สึกเขินนิดหน่อย  พี่สะใภ้ พวกพี่ยังไม่กินข้าวกันเหรอ 

จ้าวเหวินเทาพูดด้วยรอยยิ้ม  ได้ยินว่าวันนี้เป็นวันแต่งงานของนาย ดึกดื่นป่านนี้แล้วนายยังไม่เข้าห้องหอ วิ่งมาทำอะไรที่นี่เนี่ย? 

เจ้ารองฉวี่พูดด้วยความเขินอาย  ช่วงเช้าตรู่ของเมื่อคืนเข้าห้องหอไปแล้ว วันนี้เป็นงานเลี้ยง ตอนค่ำเชิญคนมากินข้าวด้วยกัน ผมก็เลยตั้งใจมาชวนพี่หกจ้าวไปดื่มเหล้าฉลองด้วยกันน่ะ 

…………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

เป็นแม่สื่อนี่งานเหนื่อยงานหนักเหมือนกันนะคะ ถ้าจับคู่ให้แล้วไม่ดีก็คือรับเละคนเดียวเลย

เสี่ยวไป๋หยางเริ่มโตแล้ว เดี๋ยวอีกหน่อยก็พูดได้แล้ว เก่งจริง ๆ เลยลูก

ไหหม่า(海馬)

 

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

Status: Ongoing

ผู้แต่ง : 南方荔枝 ผู้แปล : ไหหม่า(海馬) & ซินซิน (新欣) เย่ฉู่ฉู่บุตรสาวเสนาบดีกังฉินเกือบถูกรังแกในระหว่างทางที่โดนเนรเทศ​ แต่ได้ว่าที่ท่านอ๋องผู้หนึ่งมาช่วยนางไว้​และเก็บนางไว้ข้างกาย​ ในระหว่างการชิงอำนาจเพื่อปกป้องพระราชโอรสองค์เล็กของจักรพรรดิองค์ก่อน​ ว่าที่ท่านอ๋องผู้นี้ก็สิ้นชีพเพราะยาพิษประหลาด​ ครั้นพิธีศพถูกจัดขึ้น​ เย่ฉู่ฉู่ก็ได้โขกศีรษะกับโลงศพของเขาตายตกตามกันไป​ แต่นางกลับได้มาเกิดใหม่ในประเทศจีนยุค​ 1970 ในร่างของเจ้าของร่างผู้ได้ชื่อว่าเป็น​แม่เสือตามคำกล่าวของจ้าวเหวินเทาผู้เป็นสามี จากภรรยาผู้ดุร้ายกลายเป็นภรรยาผู้อ่อนโยน​ เย่ฉู่ฉู่จะใช้ชีวิตในร่างนี้ให้มีแต่ความสุขอย่างไรดี? -Highlight : เรื่องนี้นางเอกไม่ได้ทะลุมิติมาในยุค​ 70​ เพียงคนเดียว​ แต่สามีในชาติก่อนที่ตายไปเมื่อก่อนหน้านี้ก็ได้มาเกิดใหม่เป็นสามีในชาติปัจจุบัน​ด้วยเช่นกัน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท