ตอนที่ 354 โมโหสุดขีด
ตอนที่ 354 โมโหสุดขีด
เย่ฉูฉู่เพิ่งตระหนักได้ว่าที่ชีวิตภายในบ้านสุขสบาย ก็เป็นเพราะมีสามีคอยปกป้องจากภายนอก
“ลำบากคุณแล้ว” เย่ฉูฉู่ลูบใบหน้าของสามีพลางกล่าว
“งั้นคุณจะชดเชยให้ผมยังไงล่ะ?” จ้าวเหวินเทารีบยื่นหน้าเข้ามา
บรรยากาศจริงจังจึงเปลี่ยนรูปแบบไปในทันที
ทางฝั่งพี่สะใภ้สี่จ้าวก็กำลังคุยกับพี่สี่จ้าว และยังมีแม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวอีกหนึ่งคน
“ได้เงินมาเท่าไรล่ะ?” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวถามด้วยความรีบร้อน
พี่สี่จ้าวได้นอนพักตลอดทั้งบ่ายและเพิ่งจะตื่นเช่นกัน
“ได้เงิน? ผมเกือบจะทิ้งชีวิตไว้ที่นั่นอยู่แล้ว ยังจะได้เงินอะไรล่ะ!” พี่สี่จ้าวพูดอย่างไม่สบอารมณ์
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวพูดด้วยความประหลาดใจ “ทิ้งชีวิตไว้ เธอพูดจาเหลวไหลอะไรกัน เธอก็ปกติดีอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
พี่สะใภ้สี่จ้าวก็รีบถามเช่นกัน “เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น? พวกคุณก็กลับมากันทั้งหมดไม่ใช่เหรอ?”
“ก็กลับมากันทั้งหมดนั่นแหละ แต่ดันถูกดักปล้นระหว่างทาง” พี่สี่จ้าวเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังแบบง่าย ๆ หนึ่งรอบ “ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าหกกับเพื่อนคนนั้นของเจ้าหกสู้คนเป็น พวกเราคงได้ตายอยู่ที่นั่นไปแล้ว คุณคงไม่รู้ พวกมันคิดจะขโมยรถด้วยนะ!”
“แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรไม่ใช่เหรอ พูดซะน่ากลัวเลย!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวไม่เห็นด้วย
พี่สะใภ้สี่จ้าวถึงกับทนไม่ไหว “แม่ นี่มันอันตรายมากเลยนะ แม่ยังบอกว่าไม่เป็นอะไรอีก!”
“แต่ก็ไม่ได้เป็นอะไรนี่!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวตอบ “ปีหน้าน้องชายของแกก็อยากจะเลี้ยงกระต่ายด้วย แต่ไม่มีเงินทุน พวกเธอได้เงินมาพอดีก็ช่วยน้องมันหน่อยแล้วกัน ต่อให้ไม่ออกเงิน แต่พวกเธอก็มีกระต่ายไม่ใช่เหรอ แบ่งไปให้เขาสักสามสี่ตัวสิ”
พี่สะใภ้สี่จ้าวรีบตอบ “ครั้งก่อนก็ให้มันไปแล้วไม่ใช่เหรอ? เลี้ยงจนถึงตอนนี้ก็น่าจะได้สามสี่รังแล้วมั้ง?”
“ก็แหม…เลี้ยงไม่รอดน่ะสิ” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวพูดด้วยท่าทางอึดอัดใจ
“กินไปแล้วสินะ?” พี่สี่จ้าวพูดเสียงเรียบ “ให้ไปตั้งหลายครั้งแล้ว แต่ก็เลี้ยงไม่รอดสักครั้ง จะเลี้ยงตัวเองได้ยังไง?”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวไม่ยอม “ดูเธอพูดเข้าสิ จินเป่าไม่ได้ประสบการณ์เลี้ยงกระต่าย เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ พอมันตายก็ต้องกินสิ คงไม่มีใครเขาซื้อโลงฝังมันหรอก แบบนั้นคงสิ้นเปลืองแย่”
“แม่ ก่อนหน้านี้ก็ให้ไปตั้งหลายสิบตัวแล้วนะ เลี้ยงไม่รอดสักตัวเลยเหรอ?” พี่สะใภ้สี่จ้าวก็โกรธเช่นกัน “พวกเรามีกระต่ายแค่ไม่กี่ตัวเอง เห็นพวกเราเลี้ยงง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวถึงกับโมโห “นังเด็กบ้า นั่นน้องแกนะ! อนาคตเขาต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ของแกยามแก่เฒ่า ขอกระต่ายแกแค่ไม่กี่ตัวแล้วจะทำไม? ไม่ได้ขออย่างอื่นสักหน่อย พวกแกไปซื้อขายข้าวสาร เรื่องดี ๆ แบบนี้กลับไม่บอกน้องแกสักคำ ฉันก็ยังไม่บ่นพวกแกเรื่องนี้เลยนะ! คนอื่นเค้าก็บอกอยู่ว่าญาติพี่น้องก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ดูแกทำสิ ตัวเองไปหาช่องทางร่ำรวยแล้ว แต่กลับมองดูน้องชายตัวเองยากจน! มโนธรรมของแกโยนให้หมากินหมดแล้วเหรอ? สมน้ำหน้าที่แกไม่มีลูกชาย พวกแกเป็นแบบนี้มีลูกชายสิถึงจะแปลก แม้แต่สวรรค์ก็ไม่โปรดปราน”
ปากเหี่ยว ๆ ของแม่พี่สะใภ้สี่จ้าวบ่นฉอด ๆ เลือกที่จะทิ่มแทงไปยังจุดอ่อนของพี่สะใภ้สี่จ้าวโดยเฉพาะ
พี่สี่จ้าวที่เป็นคนไม่แยแสก็ทนฟังไม่ไหวแล้ว จึงส่งเสียงตวาดดังขึ้นจมูก “หุบปาก!”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวชะงัก ตะโกนกลับไปด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิม “แกจะทำไม?”
“นี่เป็นบ้านของผม ถ้าคุณอยากอยู่ก็อยู่ แต่ถ้าไม่อยากอยู่ก็ออกไป!” พี่สี่จ้าวโกรธจริง ๆ แล้ว ทั้งยังเขวี้ยงชามใส่น้ำไปที่กำแพง “ผมไม่มีลูกชายแต่ก็ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาเลี้ยงดู คุณจะมาพูดทำบ้าอะไรวะ!”
“เจ้าสี่จ้าว นี่คุณพูดอะไรเนี่ย!” พี่สะใภ้สี่จ้าวเห็นสามีทะเลาะกับแม่ของตนเอง ก็รีบเข้าข้างแม่ของตัวเองทันที
“ผมบอกไปแล้วนะ หลังจากนี้ถ้าน้องชายบ้านคุณยังคิดจะมาเอากระต่ายอีก ผมจะตีขามันให้หักเลย ถ้าคุณไม่อยากจะอยู่กับผมแล้ว คุณก็ไปซะ!” พี่สี่จ้าวถลึงตาพลางกล่าว “ผมออกไปหาเงินข้างนอกจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด กลับมาทั้งแม่ทั้งคุณก็เอาแต่สนใจเงินที่ผมหามาได้ พวกคุณสองแม่ลูกยังเป็นคนกันอยู่หรือเปล่าวะ!”
“โอ๊ยคุณพระคุณเจ้า! ลูกเขยทุบตีแม่ยายแล้ว เจ้าข้าเอ๊ยรีบมาดูเร็ว!” แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวเริ่มโอดครวญขึ้นมา
พี่สี่จ้าวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ลุกขึ้นยืนและกระโดดลงมาจากเตียง คุณแม่จ้าวเป็นคนใช้ชีวิตเป็น ต่อให้นางจนกว่านี้ก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้พวกลูก ๆ ได้กินอิ่มและได้กินของดี ๆ ดังนั้นพี่น้องตระกูลจ้าวจึงมีร่างกายแข็งแรง ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด จ้าวเหวินเทามีร่างกายแข็งแรงที่สุด แต่พี่สี่จ้าวก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเขา การเคลื่อนไหวของเขาสร้างแรงกดดันมหาศาล ทำเอาแม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวถึงกับตกใจจนสะดุ้งโหยง
พี่สี่จ้าวเดินออกไปหยิบพลั่วเหล็กขึ้นมาหนึ่งด้าม ก่อนจะเดินกลับเข้ามาในห้อง “แม่งเอ๊ย มึงพูดเองนะว่ากูทุบตีมึง มาสิ วันนี้ถ้ากูไม่ได้ทุบมึงอย่ามาเรียกกูแซ่จ้าว!” จากนั้นเขาก็ใช้พลั่วเหล็กเหวี่ยงออกไป
“แม่!” พี่สะใภ้สี่จ้าวตะโกนแผดเสียงด้วยความตกใจ
“พ่อ!” พวกเด็ก ๆ ก็ตกใจจนร้องไห้เสียงดังลั่น
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวตกใจยิ่งกว่า นางหมุนตัวและวิ่งหนี
พลั่วเหล็กของพี่สี่จ้าวจึงเจาะไปที่บนกำแพงจนฝุ่นกระเด็นออกมา พี่สะใภ้สี่จ้าวตกใจจนเกิดอาการเหม่อลอย หล่อนใช้ชีวิตอยู่กับพี่สี่จ้าวมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่สี่จ้าวอาละวาด
“พ่อของลูก คุณอย่าทำแบบนี้!” พี่สะใภ้สี่จ้าวรีบเข้ามาจับมือพี่สี่จ้าว
พี่สี่จ้าวสะบัดมือเหวี่ยงหล่อนไปข้าง ๆ ถือพลั่วเหล็กและวิ่งออกไป ระหว่างที่วิ่งก็ตะโกนก่นด่าไปว่า “แม่ง วันนี้กูจะทุบมึง ถ้าได้ทุบมึงให้ตายต่อให้ไปนอนในคุกกูก็ยอม มาบ้านกูทุกครั้งก็เอาแต่ขอเงินขอกระต่าย มึงเห็นเจ้าสี่จ้าวอย่างกูเป็นคนอ่อนแอที่ถูกใครรังแกได้ง่าย ๆ งั้นสิ! วันนี้ถ้าไม่ได้เห็นเลือดก็อย่ามาเรียกกูแซ่จ้าว!”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวเพิ่งได้เห็นเนื้อแท้ที่แท้จริงของลูกเขยคนนี้ นางถึงกลับกลิ้งกลุก ๆ ก่อนจะตะกุยตะกายขึ้นมาจากพื้น ส่งเสียงร้องไห้พลางวิ่งหนีออกไป
สิ่งนี้ย่อมทำให้เพื่อนบ้านถึงกับตื่นตระหนก ตอนที่เห็นสภาพของพี่สี่จ้าวก็พากันตกตะลึง นี่คือพี่สี่จ้าวเหรอ? ทุกคนต่างก็รีบเข้ามาดึงเขาไว้
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”
“นั่นสิ อยู่ดี ๆ ทำไมถึงได้ลงไม้ลงมือล่ะ?”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวเห็นว่ามีคนเยอะขนาดนี้ ความกล้าหาญก็เพิ่มขึ้น นางขยี้เส้นผมจนยุ่งเหยิง นั่งลงบนพื้นและส่งเสียงร้องไห้ “ฉันไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว ฉันถูกลูกเขยทุบตี! ฉันไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกแล้ว!”
พี่สี่จ้าวเหวี่ยงพลั่วออกไปด้วยความโกรธ พลั่วกระแทกลงบนพื้นข้าง ๆ แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวจนเกิดเสียงดัง แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวจึงรีบหุบปากทันที ส่วนพี่สี่จ้าวก็อ้าปากก่นด่าว่า “มีคนแก่แบบนี้ด้วยเหรอ วัน ๆ เป็นห่วงแต่ของเล็ก ๆ น้อย ๆ ของลูกสาวตัวเอง! กูกับน้องชายออกไปขนข้าวสารจนเกือบจะตายอยู่ข้างนอก กลับมาถึงไม่คิดจะถามสารทุกข์สุขดิบ มีแต่อ้าปากขอเงิน พอบอกไม่มีเงินก็จะเอากระต่าย กูเป็นหนี้บุญคุณมึงเหรอ พอกูไม่ให้ก็มาสาปแช่งไม่ให้กูมีลูกชาย แม่งเอ๊ย กูไม่มีลูกชายแล้วมึงจะทำไม!”
ครั้นทุกคนได้ยินก็เข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แม่ของสะใภ้สี่จ้าวคนนี้ไม่ว่าจะเป็นคนในหมู่บ้านหรือนอกหมู่บ้านต่างก็รู้ดีว่านิสัยเป็นอย่างไร นางเป็นคนลำเอียงรักลูกชายแบบหัวปักหัวปำ เกลียดลูกสาวเสียจนอยากจะขายลูกสาวเพื่อมาเติมเต็มให้ลูกชาย นอกจากนี้ลูกชายของนางก็เอาแต่กินไม่รู้จักทำมาหากิน เพียงแต่คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้พี่สี่จ้าวจะโต้ตอบรุนแรงขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้พี่สี่จ้าวไม่แม้แต่จะปริปากด้วยซ้ำ
แต่เมื่อมาคิด ๆ ดูแล้วก็พอจะเข้าใจได้ สาปแช่งคนอื่นไม่ให้มีลูกชาย เป็นใครก็รับไม่ได้กันทั้งนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพี่สี่จ้าวที่มีลูกสาวติดกันถึงสามคน!
“แม่!” พี่สะใภ้สี่จ้าววิ่งออกมาเห็นแม่ของตัวเองนั่งอยู่ตรงนั้น ทั้งยังมีพลั่วถูกโยนอยู่ข้าง ๆ จึงรีบวิ่งเข้าไปหาด้วยความตกใจ “แม่ เป็นอะไรหรือเปล่า!”
แม่ของพี่สะใภ้สี่จ้าวกลับผลักหล่อนออกไป ทั้งทุบตีและใช้เท้าถีบ “นังลูกเวร ฉันจะมีแกไว้ทำซากอะไร ตอนที่เกิดแกออกมาฉันน่าจะบีบคอแกให้ตาย ๆ ไปซะ! แกก็เอาแต่เข้าข้างผัวตัวเอง แกไม่มีพ่อไม่มีแม่เหรอ! นังลูกเนรคุณ!!!”
พี่สะใภ้สี่จ้าวทำแค่เพียงร้องไห้ ไม่ได้หลบหลีก แต่ก็มีผู้หญิงสองสามคนเข้ามาแยกพวกหล่อนออกจากกันพร้อมกับกล่าวโน้มน้าวใจ
………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เป็นไงคะ เจอฤทธิ์ลูกเขยคนนี้ที่ปกติจะเงียบ ๆ ไม่สู้ใคร เวลาเอาจริงขึ้นมานี่น่ากลัวใช่ไหมคะ
มันก็น่าโมโหแทนพี่สี่แหละค่ะ เกือบตายอยู่ข้างนอก แต่พอกลับมาแม่ยายดันเอาแต่ขอเงินขอกระต่าย
ไหหม่า(海馬)