ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 31 ที่นี่กลายเป็นตลาดขายส่งไปแล้วหรือ

ตอนที่ 31 ที่นี่กลายเป็นตลาดขายส่งไปแล้วหรือ

 แร่เก้าอัสนีเยือกแข็ง, แร่ดาราสวรรค์, ผลึกราชามังกร 

ไฉ่ซวนอ่านชื่อรายการหินแร่ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ทำให้ทุกคนจ้องลูกตาแทบถลนออกมา

มู่เฉียนซีมุมปากกระตุก เหตุใดนางถึงรู้สึกเหมือนได้เข้ามายังตลาดขายส่ง ไม่ใช่ตลาดประมูล

ด้วยแร่ล้ำค่ามากมาย สามารถนำมาหลอมเป็นอาวุธวิญญาณได้หลายอย่าง

บ้านประมูลอันดับหนึ่งทำเช่นนี้เหมือนโละของขายไม่มีผิด นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ?

ผู้คนที่มาประมูลวันนี้ต่างตกอกตกใจกันไม่เบา ไม่เพียงแต่มียาเหย้าจี้ระดับต่ำที่เทียบเท่ายาระดับสองมาให้ประมูล ยังจะทำการประมูลขายของเป็นชุดอีก

ไฉ่ซวนกล่าว  ราคาต่ำสุดหนึ่งล้าน ทุกท่านสามารถเพิ่มราคาได้ 

ไฉ่ซวนเพิ่งพูดจบ มู่เฉียนซีพลันกล่าว  สิบล้าน ข้าต้องการ 

ทุกคนมองหน้ากัน คุณชายชั้นห้าใจใหญ่มาก เพิ่งเสียไปสิบล้านเหรียญ ตอนนี้ยังจะเสนอราคาอีกสิบล้าน นี่มันกำลังเกิดเหตุอันใด ?

ซวนหยวนหลี่ซางกำมือแน่นเพราะไม่มีเงิน ทั้งที่เขาอยากได้ ปากก็จำต้องปิดเงียบไว้

ด้านล่างเงียบกริบ มู่เฉียนซียกยิ้มมุมปาก ของที่นางต้องการ ใครก็แย่งไปไม่ได้!

ในแคว้นจื่อเยี่ย นอกเสียจากฮ่องเต้จะเปิดท้องพระคลังออกมา คนอื่น ๆ ไม่มีทางสู้ได้ หากมาต่อกรเรื่องทรัพย์สินเงินทองกับตระกูลมู่ คงมีแต่สูญเสียแน่นอน

ไฉ่ซวนยิ้ม  หินแร่ทั้งหลายเหล่านี้เป็นของคุณชายชั้นห้าที่ประมูลได้เช่นกัน 

สิบล้านถือว่าเป็นราคาสูงลิบลิ่วแล้ว แต่ถ้าทั้งชุดอย่างที่บ้านประมูลนำออกมานี้ เพียงแค่สิบล้านไม่สามารถซื้อได้เยอะเท่านี้ หรือต่อให้มีร้อยล้านก็ไม่สามารถซื้อเยอะได้ขนาดนี้อยู่ดี

มู่เฉียนซีมีความสุขดีแท้ นางคิดว่าคนที่นำชุดหินแร่นี้มาประมูล หัวสมองคงเป็นตะคริวแน่ ๆ เลย

 รายการประมูลต่อไป…  ไฉ่ซวนนำใบรายการยาวออกมา

มู่เฉียนซีพึมพำ  ในเมื่อสมุนไพรวิญญาณผ่านไป แร่หินผ่านไป เช่นนั้นถัดไปก็คงเป็นเคล็ดวิชาใช่หรือไม่ ? 

มู่เฉียนซีเดาถูก ไฉ่ซวนพูดต่อว่า…  ตำราค่ายกลแสงศักดิ์สิทธิ์, จารึกลับพระราชวังทองคำ, บันทึกเพลิงโอสถ 

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตำราฝึกวิทยายุทธ์ชั้นสูง ไฉ่ซวนยังไม่ทันอ่านหมดก็ถูกมู่เฉียนซีเอ่ยขัดจังหวะเสียก่อน

 ไฉ่ซวนคนสวย รายชื่อยาวไปไม่ต้องอ่านแล้ว ทุกคนปวดใจหากเห็นเจ้าเหนื่อย สิบล้าน ข้าเอา 

 เอ่อ…  ไฉ่ซวนยิ้มน้อย ๆ

ทว่าคนอื่น ๆ เกิดอารมณ์โกรธขึ้นมา สามสิบล้านติดแล้ว เงินยังไม่หมดอีกหรือ นี่ไม่คิดจะทิ้งโอกาสให้พวกเขาเลยหรืออย่างไร ?!

พวกเขาคิดว่าของพวกนี้ต้องเป็นของเด็กร่ำรวยนี่แน่ ไม่เช่นนั้นใครกันจะโง่ทำการค้าที่ขาดทุน

ไฉ่ซวนเอ่ยถาม  ยังมีใครเพิ่มราคาอีกหรือไม่ ? 

ใครจะเพิ่ม ? หากต้องเพิ่มอีกนับสิบล้านเพื่อสู้ ต่อให้พวกเขาเอาออกมาช่วยกันยังไม่มีเงินจ่ายเพียงพอเลย

ไฉ่ซวนเอ่ยเสียงแผ่วเบาเมื่อเห็นดวงตาที่เบิกกว้างของหลาย ๆ คน  เอาล่ะ ตำราวิชายุทธ์พวกนี้ เป็นของคุณชายน้อย 

ไฉ่ซวนพูดต่อ  ต่อไปเป็นการประมูลครั้งสุดท้าย ประมูลสูตรการปรุงยาระดับสองขั้นขึ้นไป เริ่มต้นหนึ่งล้าน 

ระดับสอง ระดับสาม ที่แคว้นจื่อเยี่ยไม่มีปรากฏมานาน นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ถูกนำมาประมูล

แม้แต่มู่เฉียนซีเองก็ยังถึงกับตกตะลึง เหมือนว่านางต้องการจะหลับแล้วมีคนมาส่งหมอนให้ถึงศีรษะ ดวงตัวนางเองช่างดีเสียจริง ๆ

นางอยากเรียนปรุงยา แต่ยังไม่มีสูตรยาขั้นสูงเลย โอกาสนี้ประจวบเหมาะยิ่งนัก

ตระกูลมู่อยู่ได้เพราะอาศัยความมั่งคั่ง แต่เนื่องจากเป็นเพียงตระกูลเล็กไร้อำนาจ ต่อให้มีทรัพย์สินเงินทองมากมายเพียงใด ใช่ว่าจะสามารถซื้อสิ่งใดก็ได้

ไม่คิดว่าการประมูลรอบที่สี่จะมีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้

 สิบล้าน ข้าเอา  มู่เฉียนซีกล่าวตามเคย

 ซี้ดดดด! 

ภายใต้สายตาของทุกคน ไฉ่ซวนได้ประกาศผู้เป็นเจ้าของสูตรปรุงยา ในที่สุดการประมูลที่อกสั่นขวัญแขวนในครั้งนี้ก็ได้สิ้นสุดลง

เมื่อพวกเขาได้ฟังน้ำเสียงประกาศสิ้นสุดการประมูลที่เหมือนอยู่ในความฝัน เหล่าคนที่มีอำนาจและมีชื่อเสียงในจื่อเยี่ยได้เห็นการประมูลที่แปลกประหลาดแบบนี้เป็นครั้งแรก

น่าเสียดายที่มีเงินทองไม่มากพอ พวกเขาถึงไม่ได้อะไรกลับไปมากนัก

แต่ครั้งนี้คนที่ได้ผลประโยชน์มากที่สุดเป็นผู้ใดไปไม่ได้ …มู่เฉียนซี

— ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! —

เสียงเคาะประตูดังขึ้นมา

 เข้ามา 

ไฉ่ซวนเดินเข้ามา กล่าวด้วยรอยยิ้ม  คุณชาย ในแหวนนี้ได้เก็บสิ่งของที่คุณชายประมูลได้ไว้แล้ว ส่วนเงินที่เหลือจากการประมูลจะเก็บไว้ที่ป้ายม่วงทองนี้ 

มู่เฉียนซีตกใจ  เจ้า… ไม่ได้คิดผิดไปใช่หรือเปล่า ข้าจำได้ว่าข้าขายยาเหย้าจี้ไปได้สามสิบกว่าล้านเหรียญทองคำ ข้าเพิ่งประมูลของไปสี่รอบก็คือใช้ไปประมาณสี่สิบกว่าล้าน เหตุใดจึงเหลือเงินมากขนาดนี้ ? 

ไฉ่ซวนกล่าว  คุณชาย ของประมูลที่ท่านให้ราคาไม่ใช่เหรียญทองคำ แต่เป็นเหรียญเงิน ดังนั้นเงินที่จ่ายจึงไม่ได้เยอะเลย 

 อะไรกัน เป็นไปได้อย่างไร ? 

 ตอนเปิดประมูลไฉ่ซวนบอกว่าเริ่มที่หนึ่งล้าน แต่เริ่มที่หนึ่งล้านเหรียญเงิน มิใช่เหรียญทองคำ หรือว่าแขกทุกท่านเข้าใจผิดกันไปแล้ว  ไฉ่ซวนทำหน้าใสซื่อบริสุทธิ์

ถ้าหากแขกที่มาร่วมงานประมูลในครั้งนี้ได้ยินละก็ คงจะกระอักเลือดตายด้วยความเสียดายเป็นแน่

หากรู้แต่แรกว่าเริ่มต้นที่หนึ่งล้านเหรียญเงิน พวกเขาคงแข่งขันกันน่าดู

สิบล้านเหรียญทองคำพวกเขาไม่มี แต่ถ้าเป็นเหรียญเงินคงมี

มู่เฉียนซีรู้สึกเหมือนขนมเปี๊ยะก้อนยักษ์ตกลงมาใส่นางแบบไม่คาดคิด มันตกลงที่ศีรษะของนาง ทุกคนคิดว่าในเมื่อประมูลยาเหย้าจี้ใช้เหรียญทองคำ ดังนั้นของสิ่งอื่นก็คงใช้เหรียญทองคำเหมือนกัน

สวรรค์โปรด! แม้แต่นางเองก็ยังหลงเข้าใจผิด ทั้งที่นางก็ไม่รู้ ทว่าโชคเข้าข้างนางยิ่งนักที่นางเอ่ยวาจาประมูลไปเพียงว่า ‘ลิบล้าน’ มิใช่ ‘สิบล้านเหรียญทองคำ’

ดวงดี! ดวงดีโดยแท้…

แต่สิ่งของล้ำค่าเช่นนี้ขายราคาเพียงแค่สิบล้านเหรียญเงิน เจ้าของสินค้าผู้นำมาเข้าประมูลเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ?!

มู่เฉียนซีถาม  แม่นางไฉ่ซวน เจ้าแน่ใจไหม ? มันขาดทุนมากเลยนะ 

ไฉ่ซวนยิ้ม  คุณชาย ท่านที่นำของมาประมูลได้สั่งไว้ว่าให้พวกเราแค่ดูแลการประมูลเท่านั้น เมื่อคุณชายจ่ายเงิน ของพวกนี้ก็เป็นของของคุณชาย เป็นการจ่ายเพื่อซื้อของธรรมดา ๆ คุณชายไม่จำเป็นต้องใส่ใจ 

มู่เฉียนซียิ้ม พูดอย่างลำพอง  แม่นางไฉ่ซวนพูดได้ถูก ในเมื่อข้าจ่ายเงิน ของเหล่านี้ก็เป็นของข้า จะคิดมากให้ปวดเศียรเวียนเกล้าไปทำไมกัน ? ของอยู่ในกระเป๋าสามารถนำมาใช้ได้ก็ดีแล้ว 

 ไม่ทราบว่าคุณชายมีอะไรให้รับใช้อีกหรือไม่ ?  ไฉ่ซวนถาม

มู่เฉียนซี  รบกวนบ้านประมูลช่วยนำเงินที่อยู่ในป้ายสามล้าน เปลี่ยนเป็นเหรียญทองคำให้ข้าที 

 เอ่อ…  สีหน้าคาดไม่ถึงฉาบเคลือบใบหน้าไฉ่ซวน ดวงตามองมาที่มู่เฉียนซี

เปลี่ยนเป็นเหรียญทองคำจะพกพาลำบาก ส่วนใหญ่พกเป็นบัตรทองจะสะดวกกว่า

มู่เฉียนซีตอบออกไป  เปลี่ยนมาเถอะ ข้าต้องใช้เหรียญทองโยนใส่คน คงต้องรบกวนแม่นางไฉ่ซวนแล้ว 

การนำเงินสามล้านเหรียญทองคำโยนใส่คน ถึงแม่จะเป็นผู้ฝึกตนระดับสูงก็อาจจะโดนฝังทั้งเป็นได้ การใช้เหรียญทองคำโยนใส่คนคงมีแต่คุณชายท่านนี้ที่ (กล้า) ทำ

ไฉ่ซวนยิ้ม นางกล่าวก่อนจะเดินออกไป  คุณชาย ท่านช่างเยี่ยมจริงเชียว …ข้าจะรีบให้คนนำไปแลกให้ทันที 

เวลานี้เอง หมอไป๋ก็เดินเข้ามาพูดกับมู่เฉียนซี  เด็กน้อย… เอ่อ คุณชาย นายน้อยของเราเชิญไปพบ 

นายน้อยไหนกัน ? คงหมายถึงนายน้อยของบ้านประมูลอันดับหนึ่งกระมัง

มู่เฉียนซีเอ่ยขึ้น  ได้ 

ชั้นหกของบ้านประมูลอันดับหนึ่งตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ วิจิตรประณีตทว่าเรียบง่าย

หมอไป๋เปิดประตูเข้าไป มู่เฉียนซีก็เห็นว่ามีชายผู้หนึ่งนั่งอยู่ข้างใน เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวยาว ใบหน้าเนียนขาวราวหยกขาวดูสูงส่งระคนสง่างาม

แววตาที่เหมือนจิ้งจอกคู่นั้นเผยรอยยิ้มอ่อน ๆ ออกมา ทว่าไม่ได้ยิ้มมาจากภายใน

น่าหลานอวี้ไม่ได้ส่งเสียง มู่เฉียนซีเอ่ยขึ้นก่อน

 ครั้งนี้ที่มาบ้านประมูล ข้าได้รับสิ่งของมากมาย ต้องขอบคุณนายน้อยน่าหลาน 

.

 

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Status: Ongoing

นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัส จนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท