ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 82 พรสวรรค์เช่นนี้

ตอนที่ 82 พรสวรรค์เช่นนี้

— บูม! —

พลังอันรุนแรงทั้งสองเข้าปะทะกัน จังหวะนี้มู่เฉียนซีกระโจนออกมา เห็นได้ชัดว่านางที่มียาลูกกลอนอย่างเพียงพอ ฟื้นตัวได้ไวกว่าซวนหยวนหลี่ซาง นางฉวยโอกาสในตอนที่ซวนหยวนหลี่ซางยังไม่ทันรู้ตัวเข้าจู่โจม

มู่เฉียนซีตะเบ็งเสียงเยือกเย็น  ห่าฝนบุบผา! 

ธาตุวารีที่ยังคงหลงเหลือในกาอาศ กลั่นตัวราวกับเป็นลูกธนูคมกริบอีกครั้งหนึ่ง

— ฉึก! ฉึก! ฉึก! —

ลูกธนูดั่งสายฝนล่องลอยเต็มท้องนภา พุ่งไปทางซวนหยวนหลี่ซาง!

ด้วยการโจมตีถี่ดั่งสายฝนโปรย ต่อให้ซวนหยวนหลี่ซางใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อต้านไว้ ก็จะเป็นเหตุให้สิ้นเปลืองพลังวิญญาณอย่างไม่อาจจะฟื้นคืนดังเดิมได้ การป้องกันถูกทำลายลง

— ฟึ่บ! —

ธนูหลายดอกพุ่งเข้าปักร่างซวนหยวนหลี่ซาง โลหิตสด ๆ มากมายไหลออกจากบาดแผล ซวนหยวนหลี่ซางพลันใบหน้าเปลี่ยนเป็นขาวซีด

 ผนึกมังกรวารี! 

มู่เฉียนซีมิคิดหยุดการโจมตีไว้เพียงเท่านี้ ยังมีต่ออีกกระบวนพุ่งออกไป บรรดาผู้ชมปากอ้าตาค้าง กระซิบกระซาบกัน  ยังจะมีมาอีกกระบวน! 

— ปัง! —

ร่างซวนหยวนหลี่ซาง ถูกผนึกมังกรวารีซัดกระเด็นไปที่ขอบด้านหน้าเวทีประลองยุทธ์ ฉับพลันทันใดนั้นเวทีด้านล่างของตัวเขาแตกออกเสียแล้ว

 พรวด!  ซวนหยวนหลี่ซางกระอักเลือดกบปาก หน้าซีดเผือดแทบไร้สีเลือด

มู่เฉียนซียิ้มบาง ทว่าน้ำเสียงนางพึงพอใจ  เสียใจด้วยองค์รัชทายาท ท่านแพ้ 

เกิดความโกลาหลในบรรดาผู้คน สนามประลองจินอู๋ถางเกิดความวุ่นวายขึ้นในทันใด

 อะไร ? องค์รัชทายาทพ่ายแพ้รึ ? แย่ ๆ ๆ! ข้าเอาข้าวของทั้งบ้านไปพนันไว้ฝั่งเขา บัดซบเอ๊ย! 

 มู่เฉียนซีบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ? นางสู้ข้ามระดับ สามารถเอาชนะองค์รัชทายาทได้ 

 เหลือเชื่อเกินไปแล้ว… 

ทันใดนั้นมีเสียงกึกก้องลอยมา

 ไม่ ข้ายังไม่แพ้ ใครบอกข้าแพ้ ?!  องค์รัชทายาทที่บาดเจ็บอยู่ ระเบิดเสียงอันน่ากลัวทว่าทรงพลังออกมา

 จอมภูตระดับหนึ่ง องค์รัชทายาทบรรลุแล้ว! 

 ข้าจะแพ้ได้อย่างไร มู่เฉียนซีเจ้าอย่าเพิ่งได้ใจไปนักเลย  ซวนหยวนหลี่ซางมองมู่เฉียนซีด้วยดวงตาสงบเยือกเย็น ใบหน้างดงามของเขาฉายความเหี้ยมโหดชัดเจน

พลังของซวนหยวนหลี่ซางไม่เหมือนตอนที่บรรลุระดับขั้นจอมภูตเมื่อครู่ เกรงว่าตอนนี้จะห่างจากจอมภูตระดับสองแค่เพียงนิดเดียวเท่านั้น

นี่มันไม่ใช่การบรรลุ แต่เป็นการใช้ยาปลดล็อกเลยต่างหาก

ซวนหยวนหลี่ซางบังคับตนเองให้พัฒนาความแข็งแกร่งขึ้น เขานั้นเป็นผู้ที่แข็งแกร่งมาแต่เดิม ใช่ว่าจะรับมือง่ายเหมือนอย่างโอวหยางสือหลง

สถานการณ์ในสนามประลองเกิดการพลิกผัน ซวนหยวนหลี่ซางคอยสะกดมู่เฉียนซีไว้ เขากล่าวขึ้นอย่างหนักแน่น  ระบำจักรพรรดิวายุ! 

เมื่อได้พัฒนาเป็นจอมภูตอีกขั้น การโจมตีด้วยระบำจักรพรรดิวายุรุนแรงขึ้นกว่าเดิมสามถึงสี่เท่าเป็นแน่ เกรงว่าความกดดันในตอนนี้จะหันหน้าไปหาฝั่งของมู่เฉียนซีแทน

บรรดาผู้ชมตึงเครียดอย่างมิอาจหาใดเปรียบได้ ไม่รู้ว่าต่อไปผู้นำตระกูลมู่จะรับมืออย่างไร ?

หากจะใช้มังกรวารีสะท้านฟ้าโจมตีสวนกลับเหมือนคราวก่อน คงไม่ได้เป็นแน่แท้ ความแตกต่างของพลังมากเกินไปจนเห็นได้ชัด ผู้นำตระกูลมู่จะต้องเจ็บหนักแน่นอน แต่ที่ทำให้คนทั่วไปตกตะลึงก็คือ มู่เฉียนซีกลับยืนอยู่บนเวทีประลองโดยไม่ขยับตัวแม้แต่น้อย

นางคงไม่ได้กลัวจนนิ่งอึ้งตะลึงเอ๋อไปหรอกนะ!

 พี่ใหญ่!  สีหน้าเยวี่ยเจ๋อซีดเผือด เขาบีบแก้วดินเผาที่อยู่ในมือจนแตก

 ซีเอ๋อร์!  เสียงนั้นส่งออกมาด้วยความร้อนใจดั่งไฟสุมในทรวง เจ้าของเสียงคือหญิงงดงามประหนึ่งนางฟ้านางสวรรค์… มู่หรูเหยียน

 โล่วิญญาณวารี! 

ก่อนที่ลมพายุนั่นจะม้วนตัวมาถึง โล่วิญญาณของนางผ่อนบรรเทาแรงลมนั้นลง

— แควก! —

ทว่าแขนเสื้อของนางฉีกขาด! เผยให้เห็นผิวขาวดุจดั่งหิมะเหมันตฤดู รอยขูดขีดที่มีเลือดซึมปะปนปรากฏอยู่หลายรอย

ทันใดนั้น ร่างมู่เฉียนซีเคลื่อนไหวรวดเร็วดั่งผีสางที่หายตัวได้ตามใจ หาช่องหลบจากพายุที่หมุนกระหน่ำนั้นได้ และพุ่งตัวออกไป

 องค์รัชทายาทหลี่ซางที่รัก ต่อไปทีข้าบ้างล่ะนะ  มู่เฉียนซีกล่าวพลางแย้มยิ้ม สิ้นวาจา เข็มยาพุ่งออกจากมือนางไป

ซวนหยวนหลี่ซางรู้สึกได้ถึงแรงพิฆาตที่พุ่งเข้ามา เขาสามารถจับกุมเข็มที่แหลมเล็กไว้ได้เข็มหนึ่งจึงกล่าวขึ้นด้วยเสียงเย็นชา  มู่เฉียนซี เจ้า… เจ้าโดนต้อนให้จนมุมแล้วหรืออย่างไรถึงได้ใช้อาวุธลับล้าสมัยมาลอบโจมตีข้า 

— เคร๊ง! —

ลมพัดกระโชกเข้ามา ป้องกันเข็มยาเข็มนั้นไว้ได้!

 พรวด! 

เข็มที่แยกกระจายออกมานั้นพุ่งเข้าไปในผิวหนังของเขา ทันใดนั้นทั่วทั้งร่างซวนหยวนหลี่ซางเหมือนโดนควบคุม เป็นอัมพาตและล้มลงบนพื้น

มู่เฉียนซีเดินมาด้านหน้าซวนหยวนหลี่ซางก่อนจะกล่าวขึ้น  องค์รัชทายาท เสียใจด้วยอีกรอบ ท่านแพ้แล้ว 

ดวงตาของซวนหยวนหลี่ซางฉายแววปวดร้าว จิตใจแตกสลายใบหน้าเศร้าหมอง  มู่เฉียนซีเจ้าวางยาข้า เจ้าแหกกฎ! 

มู่เฉียนซียิ้มเยือกเย็น  องค์รัชทายาท เช่นนั้นที่ท่านใช้ยาต้องห้าม มันไม่ผิดกฎรึ ? หากให้ทางสนามประลองจินอู๋ถางตรวจสอบ ท่านว่าเป็นท่านหรือข้าที่จะโดนจับได้ก่อนกันล่ะ 

มู่เฉียนซีนางไม่สนใจ ตัวนางเองมีวิธีที่จะทำให้นักปรุงยาของแคว้นจื่อเยี่ยไม่สามารถตรวจจับยาพิษของนางได้

 เจ้า… เจ้า… 

 พรวด! 

ซวนหยวนหลี่ซางถูกเพลิงพิโรธโจมตีหัวใจ กระอักเลือดสดออกมาอีกระลอก สุดท้ายสลบเหมือดคาสนามประลอง

มู่เฉียนซีเบ้ปาก กล่าวขึ้น  พวกเจ้าซวนหยวนราชนิกุล ร่างกายช่างไร้เรี่ยวแรงนัก แต่ละคนกระอักเลือดแล้วก็สลบไป ฮิ ๆ อ่อนหัดนัก อ่อนหัดแท้ ๆ 

เงาสีฟ้าลอยเข้ามา ทันใดนั้นก็ได้เอาชุดคลุมของเขามาคลุมไว้ที่แขนของมู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีเดิมทีเป็นผู้ที่มีชีวิตอยู่ในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด แขนเสื้อฉีกขาดเปิดออกเช่นนี้ไร้ปัญหา นางรู้สึกว่าจริง ๆ แล้วการที่ได้เปิดแขนหรือต้นขาไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องกังวลอะไรมากมาย ทว่าเยวี่ยเจ๋อ… เขาเป็นคนยุคโบราณ แน่นอนเขารับไม่ได้ที่มีหญิงสาวน่ารักน่าหยิกทว่าแขนเสื้อขาดคนหนึ่งมายืนท่ามกลางผู้คนเช่นนี้

มู่เฉียนซีกล่าวขึ้น  องค์รัชทายาท ถึงแม้ว่าท่านจะสลบไปแล้ว แต่ว่าสัญญาในครั้งนี้ยังคงอยู่ ต่อให้ท่านสลบก็หนีไปไหนไม่พ้น 

 เยวี่ยเจ๋อ เจ้าอ่านบัญชีขององค์รัชทายาทแล้วกัน  มู่เฉียนซีกล่าวพลางสะบัดมือ

มุมปากเยวี่ยเจ๋อพลันกระตุก ตั้งแต่ได้ตามติดพี่ใหญ่มา เรื่องที่ต้องคอยอ่านบัญชีกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว พี่ใหญ่ของเขานอกจากจะเก่งเรื่องการปรุงยา ความสามารถในการทวงหนี้นางก็ดีไม่แพ้กัน

เยวี่ยเจ๋อนำกระดาษออกมาแผ่นหนึ่ง  มู่หรูเหยียน หลานสาวของผู้อาวุโสแห่งตระกูลมู่ นับตั้งแต่เกิดมาก็ใช้ยาจินอวี่ซูหวงจือขั้นสองในการวางรากฐานเติบโต ในเดือนหนึ่ง…

ตั้งแต่นางเกิดมาจนอายุได้สิบแปดปี ต้องใช้ทั้งสมุนไพรวิญญาณและยาลูกกลอน หมดเงินทองแล้วนับเป็นหลายท้องพระคลังหลวง… 

เยวี่ยเจ๋อเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวต่อ  ทั้งหมดเป็นเงินสิบล้านตำลึงทอง องค์รัชทายาทขอให้ท่านจงนำเงินจำนวนนี้มาคืนให้ครบภายในหนึ่งเดือน หากเกินไปหนึ่งวันคิดดอกเบี้ยเดือนละหมื่นตำลึง 

 หมดเพียงเท่านี้ พี่ใหญ่ ท่านกลับไปก่อนเถิด!  ตอนนี้น้ำเสียงเยวี่ยเจ๋อมีความแข็งกร้าวปนอยู่บ้างเล็กน้อย

แม้ว่ามู่เฉียนซีสตรีผู้เป็นพี่ใหญ่ของเขานั้นจะกินยาลูกกลอนรักษาแผลไป แต่บาดแผลพวกนั้นต้องรีบจัดการอย่างเร่งด่วน เช่นนั้นเขาจึงอ่านให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้จนจบ

เงาของทั้งสองอันตรธานหายไป แม้ฝูงชนยังคงตกอยู่ในความวุ่นวาย

 โอ้! ที่แท้มู่หรูเหยียนผู้มีพรสวรรค์ใช้เงินดันพลังให้สำเร็จนี่เอง 

 ถุย! นี่นับว่าเป็นพรสวรรค์อะไรกัน ? หากลองให้ข้าได้สมุนไพรวิญญาณมากมายเช่นนั้นบ้างสิ ข้าก็ได้เป็นผู้มีพรสรรค์เช่นกันนั่นแหละ 

 เหอะ!… 

 องค์รัชทายาท ท่านไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่ ?  มู่หรูเหยียนลุกลี้ลุกลน วิ่งไปดูซวนหยวนหลี่ซาง

 ดู! นั่นแม่นางมู่หรูเหยียน 

 นางก็มาดูการประลองด้วยรึ ? หึ ๆ ๆ ไม่น่าเชื่อว่าตำแหน่งสตรีอัจริยะอันดับสองของนางจะได้มาเช่นนี้ 

 หน้าตาสวยเหมือนนางฟ้านางสวรรค์แท้ ๆ เหตุใดข้ารู้สึกว่านางช่างหน้าไม่อายนัก 

บรรดาผู้คนต่างไม่พอใจระคนริษยา พวกเขากล่าวถึงมู่หรูเหยียนในทางลบ

เกรงว่าฉายาผู้มีพรสวรรค์จนเป็นถึงสตรีอัจริยะอันดับสองของแคว้นจื่อเยี่ย คงได้กลายเป็นเรื่องขบขันไปในชั่วข้ามคืนวันนี้

 ฮือ ๆ ๆ! 

มู่หรูเหยียนได้ยินคำกล่าวว่าร้ายเหล่านั้น สะอึกสะอื้นร่ำไห้อย่างน่าเวทนา นางมองบรรดาผู้คนรอบด้านด้วยใบหน้าอับจนหนทาง ไร้ซึ่งผู้ช่วยเหลือ ไร้ซึ่งผู้สนใจใยดี

มู่หรูเหยียนจะเป็นอย่างไรต่อไป เยวี่ยเจ๋อและมู่เฉียนซีมิสนใจ พวกเขากลับจวนไปรักษาตัวก่อนแล้ว

เยวี่ยเจ๋อ เขาเพิ่งจะออกมากับมู่เฉียนซีไม่ทันไร ทันใดนั้นรังสีอำมหิตไม่ทราบแหล่งที่มาคืบคลานเข้ามาอย่างรู้สึกได้รอบกาย

มู่เฉียนซีถูกพาเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดที่แข็งทื่อและเย็นยะเยือก มีเสียงหนึ่งกล่าวขึ้น ทำเอาเยวี่ยเจ๋อเสียวสันหลังวาบ

 บาดเจ็บรึ…? 

เสียงโหดเหี้ยมอำมหิตแฝงความกระหายเลือดแผ่กลิ่นอายแห่งความต้องการสังหารกล่าวขึ้น

.

 

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Status: Ongoing

นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัส จนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท