หากตระกูลอวิ๋นกับตระกูลโอวหยางรู้ว่าซวนหยวนจือมีความแข็งแกร่งถึงราชายอดยุทธ์ระดับเก้าแล้วละก็ คงจะมิกล้าแย่งประมูลยาจักรพรรดิหวงหลัวตานระดับเจ็ดเป็นแน่
ถึงอย่างไรซวนหยวนจือเลือกที่จะปกปิดความลับนี้เอาไว้ซึ่งเขาปกปิดดีมาก แม้แต่คนฉลาดปราดเปรื่องอย่างพวกเขาก็มิอาจเดาได้ว่าความแข็งแกร่งของฮ่องเต้จะมากเยี่ยงนี้ เวลานี้ซวนหยวนจือรู้สึกเหมือนกรรมตามสนองก็มิปาน
ซวนหยวนหลี่ซางได้รับสัญญาณจากเสด็จพ่อของตน จากนั้นตะโกนราคาอีกครั้ง สามสิบสองล้าน!
โอวหยางจูไม่ยอมแพ้ ขานราคาไล่ตามไปติด ๆ สามสิบสามล้าน!
สามสิบสี่ล้าน! เสียงอวิ๋นซินหรานขานราคาสู้ เขาเองก็ใช่ว่าจะยอมง่าย ๆ
การแย่งชิงกันสามตระกูลระหว่างฮ่องเต้แห่งแคว้นจื่อเยี่ยกับอีกสองตระกูลขุนนางเป็นไปอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ นี่ก็มิต่างกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่งเลย มันบันเทิงใจดีจนมู่เฉียนซีกล่าวขึ้นเบา ๆ เหอะ ๆ ตื่นเต้นดีจริง ตระกูลอวิ๋นเป็นตระกูลขุนนางตระกูลหนึ่งที่ร่ำรวยได้ถึงเพียงนี้เชียวรึ ? ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยเห็นตระกูลอวิ๋นอยู่ในสายตา ดูเหมือนว่าแคว้นจื่อเยี่ยเป็นแคว้นเสือซุ่มมังกรซ่อนตัว ช่างมิง่ายต่อการรับมือเลย
จะเป็นไรไป เจ้ามีข้าทั้งคน อย่าลืมสิว่าเจ้าคือว่าที่พระชายาของข้า จิ่วเยี่ยดึงร่างนางเข้ามากระซิบข้างหูเบา ๆ
มู่เฉียนซีกล่าวว่า พวกเขาไม่น่ากลัวพอที่จะทำให้ข้าตกใจหรอก
การต่อสู้แย่งชิงประมูลยาด้านล่างนั้นยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด ราชวงศ์ซวนหยวน ตระกูลโอวหยาง และตระกูลอวิ๋นต่างเสนอราคาสูงลิ่วไม่มีใครยอมใคร
และผู้ที่นั่งข้าง ๆ ตระกูลโอวหยางในขณะนี้คือผู้เป็นศิษย์พี่ ท่านผู้เฒ่าสามแห่งสำนักจี๋หั่วซึ่งเป็นหนึ่งในสำนักใหญ่ของแคว้นจื่อเยี่ย ท่านผู้เฒ่าสามกล่าว ใบหน้าแสดงอารมณ์โกรธ ซวนหยวนหลี่ซางบัดซบนี่จะจบหรือไม่จบ เหอะ! คิดว่าอีกสิบปีข้างหน้าตนเองจะบรรลุเป็นราชาแห่งภูตระดับเก้าได้เช่นนั้นรึ ฝันไปเถอะ!
โอวหยางจือยิ้ม กล่าวสำทับ จริงแท้! ในช่วงห้าสิบปีนี้ศิษย์พี่เป็นผู้แรกที่บรรลุเป็นราชาแห่งภูตระดับหนึ่ง อีกไม่นานศิษย์พี่ก็บรรลุถึงระดับเก้า ยาจักรพรรดิหวงหลัวตานนี้ ตระกูลโอวหยางจะแย่งประมูลมาให้ได้
โอวหยางจูแทบโก่งคอตะโกนขึ้นอีกครั้ง
แปดสิบล้าน!
แม้สำนักจี๋หั่วจะไม่ได้ติดอับดับสำนักที่แข็งแกร่งมากพอ ทว่ามีปรมาจารย์หลายท่านในสำนักนี้ที่ราชวงศ์ซวนหยวนมิอาจเทียบได้ บุตรสาวและบุตรชายของตนที่มีพรสวรรค์ในด้านการฝึกฝนต่างก็ถูกท่านผู้เฒ่าสามรับไปเป็นศิษย์ของสำนัก ตลอดเวลาที่ผ่านมา นิกายจี๋หั่วสนับสนุนตระกูลโอวหยาง ตระกูลโอวหยางจึงรุ่งเรืองมากในแคว้นจื่อเยี่ย
ครั้งนี้หากศิษย์ของท่านผู้เฒ่าสามได้รับยาจักรพรรดิหวงหลัวตานเขาคงรู้สึกดีไม่น้อย หากถึงตอนนั้น แม้ตระกูลโอวหยางจะอยากแทนที่ราชวงศ์ซวนหยวนก็มิใช่เรื่องยาก ดังนั้นครั้งนี้ต่อให้โอวหยางจูจะฉีกหน้าองค์ชาย เขาก็จะต้องแข่งราคาชิงเอายาจักรพรรดิหวงหลัวตานมาครอบครอง
ภายในห้องรับรองของตระกูลอวิ๋น ท่านผู้เฒ่าชุดขาวกล่าวขึ้น หากได้ยาจักรพรรดิหวงหลัวตานมา ข้าจะนำมาศึกษาให้ดีเชียว บางทีสำนักตานจี้ของเราอาจจะหลอมยาจักรพรรดิหวงหลัวตานออกมาได้บ้าง ถึงตอนนั้นแล้วการเลื่อนขั้นขึ้นเป็นนิกายอันดับหนึ่งก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม
อวิ๋นซินหรานยิ้ม กล่าวขึ้น ท่านอาจารย์ ศิษย์จะต้องนำยาจักรพรรดิหวงหลัวตานมาให้ท่านอาจารย์ให้จงได้ขอรับ
การแข่งขันแย่งชิงยาในการประมูลครานี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
ร้อยล้าน! ซวนหยวนหลี่ซางเสนอราคาสูงเสียดฟ้า
เมื่อรู้ว่าราคาจวนจะถึงสองร้อยล้านแล้ว ตระกูลโอวหยางก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
บัดซบ! ตกลงมู่เฉียนซีให้เงินราชวงศ์ซวนหยวนเท่าไหร่กัน ?
จี้ข่าย ศิษย์ของท่านผู้เฒ่าสามแห่งสำนักจี๋หั่วกล่าวสำทับด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธ ใช่ ช่างบัดซบยิ่งนัก! ไม่คิดเลยว่าตระกูลมู่จะมาขัดเช่นนี้
โอวหยางจู ศิษย์พี่ หากไม่ใช่เพราะทรัพย์สินเงินทองของตระกูลมู่ ราชวงศ์ซวนหยวนจะเอาเงินทองที่ไหนมาประมูลแข่งเช่นนี้ได้เล่า
จี้ข่ายยังคงกล่าวอย่างหงุดหงิด หน้าผากเริ่มผุดให้เห็นเม็ดเหงื่อ การประมูลสิ้นสุดเมื่อไหร่ข้าไม่ปล่อยตระกูลมู่ไว้แน่
เมื่อโอวหยางจือได้ยินเช่นนี้ สีหน้าดีใจพลันปรากฏจนปกปิดไม่มิด ‘มู่เฉียนซีเจ้าไม่รอดแน่ มาทำให้สำนักจี๋หั่วไม่พอใจเช่นนี้ ข้าจะรอดูว่าพวกเจ้าจะทำเช่นไรต่อไปในอนาคต!’
ตระกูลโอวหยางไม่มีเงินมากพอถึงเพียงนั้นจึงจำใจต้องถอย ทว่าตระกูลอวิ๋นยังคงสู้ต่อ สำนักตานจี้เป็นสำนักปรุงยามั่งคั่งสำนักหนึ่ง มีเงินทองมากกว่าตระกูลโอวหยางไม่ใช่เรื่องแปลก
อวิ๋นซินหรานยังคงแข่งราคาจนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
สองร้อยยี่สิบล้าน!
สองร้อยสามสิบล้าน!
สองร้อยสี่สิบล้าน! องค์รัชทายาทกล่าวแข่งราคาอย่างลำพองตน คิดว่ามีสมบัติอันเล็กน้อยของซวนหยวนจือกอปรกับสมบัติอันมากมายของตระกูลมู่คอยสนับสนุน ซวนหยวนหลี่ซางจึงกล้าแข่งราคาประมูลได้สูงเช่นนี้
ในฐานะที่เป็นพระราชโอรสของฮ่องเต้ นี่เป็นครั้งแรกที่ซวนหยวนหลี่ซางมีความสุขกับการใช้เงินโดยที่ไม่ต้องกังวล ทว่านี่ทำให้รู้สึกอิจฉามู่เฉียนซีมากขึ้นเรื่อย ๆ
เขาแอบคิดในใจ ‘ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก หากมู่เฉียนซีเป็นว่าที่พระชายาของข้าก็คงจะดีไม่น้อย คิดไม่ถึงเลยว่านางจะได้เป็นว่าที่พระชายาของจิ่วเยี่ย ซวนหยวนจิ่วเยี่ยได้ว่าที่พระชายาเช่นนี้ มีหวังต้องทำปู้ยี้ปู้ยำทรัพย์สินเงินทองนี้เป็นแน่’
เวลานี้ ภายในห้องรับรองตระกูลอวิ๋นเงียบสงบลง จู่ ๆ อวิ๋นซินหรานกล่าวขึ้นมา ท่านอาจารย์
ท่านผู้เฒ่าโบกมือเบา ๆ ไร้หนทางแล้ว เราทุ่มได้มากสุดก็เท่านี้ ราชวงศ์ซวนหยวนแข่งราคาเพิ่มสูงเสียดฟ้า พวกเขาไปอู้ฟู่มาจากที่ใดกัน ?
เป็นเพราะตระกูลมู่ อวิ๋นซินหรานกล่าวพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเล่าเรื่องที่ซวนหยวนจือขายโอรสให้ตระกูลมู่กับท่านอาจารย์ฟังจนท่านอาจารย์นิ่งเงียบไป
ซวนหยวนจือน่ารังเกียจยิ่งนัก ถึงกับใช้อุบายไร้ยางอาย แต่พวกเราไม่ได้ไร้ยางอายเฉกเช่นเขา ดูท่าครานี้เราคงต้องยอม ว่าแต่ตระกูลมู่ร่ำรวยเงินทองดีแท้!
ในที่สุดตอนนี้ตระกูลโอวหยางและตระกูลขุนนางอย่างตระกูลอวิ๋นก็ต้องยอมพ่ายแพ้ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ซวนหยวนจือและซวนหยวนหลี่ซางกำลังคิดว่ายาจักรพรรดิหวงหลัวตานเม็ดนี้ต้องตกเป็นของพวกเขา ทันใดนั้นเสียงของคุณชายผู้หนึ่งดังขึ้น
หืม การประมูลที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้ คุณชายอย่างข้าจะพลาดได้อย่างไรกันเล่า ข้าจะเสนอราคาบัดเดี๋ยวนี้
อา… เท่าไหร่ดี… เอาเป็นสองร้อยสี่สิบสองล้านก็แล้วกัน
เสียงของคุณชายผู้นี้ไพเราะเสนาะหู ชวนให้หลงใหลยิ่งนัก!
— ปัง! —
ซวนหยวนหลี่ซางโกรธจนทุบโต๊ะตรงหน้าดังสนั่น เจ้าคุณชายบ้านี่มันต้องจงใจแกล้งเขาเป็นแน่!
สวรรค์! คุณชายผู้โชคดีผู้นั้นกลับมาแล้ว ผู้ประมูลหลายคนที่ได้มาประมูลครั้งก่อนต่างก็จำเสียงของมู่เฉียนซีได้
ว่าแต่ ตกลงแล้วคุณชายผู้นั้นเป็นใครกันแน่ ?
ครั้งก่อนก็ปรากฏตัวอย่างปริศนาและหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย คิดไม่ถึงเลยว่าครั้งนี้จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ดูเหมือนว่าในแคว้นจื่อเยี่ยจะไม่เคยมีคุณชายที่กร่างและเย่อหยิ่งเช่นคุณชายปริศนาผู้นั้นมาก่อน
ซวนหยวนหลี่ซางแทบอดกลั้นความโกรธเอาไว้ไม่ได้ เขาอยากจะคิดบัญชีกับคุณชายผู้นี้เต็มทน คราก่อนแย่งชิงเขาไปไม่น้อย ครานี้ยังจะมาแย่งชิงอีก! แต่ถึงอย่างไรซวนหยวนจือยังคงสงบกว่าบุตรชาย เขากล่าวอย่างใจเย็น เพิ่มราคาขึ้นอีก ถึงอย่างไรเราก็มีเงินทองเพียงพอ
พ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ …สองร้อยหกสิบล้าน!
มู่เฉียนซีไม่เลิกรา นางเพิ่มราคาขึ้นต่อ สองร้อยหกสิบล้านหนึ่งแสน…
ทุกคนในบ้านประมูลได้ยินเช่นนี้ก็เบิกตากว้างจนดวงตาแทบถลนออกมานอกเบ้า คุณชายผู้นี้จงใจเป็นแน่! เพิ่มราคาทีละนิดเช่นนี้มีแต่จงใจอย่างเดียวเท่านั้น
เพิ่มทีละนิดประหนึ่งอยากยั่วเย้าให้กรุ่นโกรธ ซวนหยวนหลี่ซางติดกับ เขายิ่งทวีความโกรธขึ้นเรื่อย ๆ แม้แต่ซวนหยวนจือในเวลานี้ก็มิอาจยับยั้งโทสะเอาไว้ได้ ไฟโกรธลุกโชนในดวงตาของสองกษัตริย์บิดากับบุตรชาย
หลังจากการประมูลสิ้นสุดต้องสืบให้ได้ว่ามันผู้นั้นเป็นใครถึงกล้ามายั่วยุราชวงศ์ซวนหยวน รนหาที่ตายแล้ว! เจตนาสังหารบุรุษผู้นั้นชัดเจนขึ้นภายในดวงตาซวนหยวนจือ
แล้ว… ยาจักรพรรดิหวงหลัวตาน… ซวนหยวนหลี่ซางเอ่ยถาม สีหน้าไม่แน่ใจ
ประมูลต่อ เพิ่มราคาขึ้นอีก ไม่ว่าอย่างไรเราต้องเอายาจักรพรรดิหวงหลัวตานมาให้ได้
สองร้อยเจ็ดสิบล้าน!
มู่เฉียนซียิ้มพึงพอใจ กล่าวขึ้น อา… องค์รัชทายาทร่ำรวยยิ่งนัก เพิ่มราคาสูงเสียดฟ้าเชียว ข้าน้อยยากจนจึงทำได้เพียงเพิ่มราคาได้เพียงทีละเล็กละน้อยเท่านั้นเอง