บุตรอสูรบรรพกาล – ตอนที่ 63 ลูกแมงมุม

ตอนที่ 63 ลูกแมงมุม

ตอนที่ 63

ลูกแมงมุม

ไม่ทราบเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่ไป๋จูเหวินก็ถูกมัดเสียจนดูราวกับรังไหมแทบไม่ต่างจากน้าไก่ฟ้าที่โดนมารดามันมัดเมื่อครั้งอดีต เพียงแต่ดวงตาของไป๋จูเหวินพิเศษกว่าน้าไก่ฟ้าอยู่มาก ต่อให้มันถูกมัดเอาไว้ก็ยังเห็นว่าภายนอกเกิดอะไรขึ้น

กร้วม กร้วม ที่นอกรังไหมเห็นได้ชัดเลยว่าอสูรแมงมุมนำตนมาตรงส่วนลึกสุดของถ้ำ แต่ถึงอย่างนั้นอสูรแมงมุมก็ไม่มีท่าทีจะทำร้ายไป๋จูเหวินเลย มันเพียงปล่อยรังไหมเอาไว้มุมหนึ่งของห้อง ก่อนจะเดินไปกินผนังหยกราวกับกำลังแทะขนมไม่มีผิด

กร้วม! มิน่าเล่าตามทางถึงไม่มีเศษหยกเลย เพราะอสูรแมงมุมกำลังกินเนื้อหยกอย่างเอร้ดอร่อยนั่นเอง ดูจากภายนอกแล้วอสูรแมงมุมไม่ได้มีร่างกายเป็นหยกอย่างที่เห็นภายนอก แต่มันเป็นอสูรธาตุทองที่สามารถดูดกลืนสิ่งที่มันกินมาเป็นเกราะป้องกันตัวเองได้ ภายใต้เนื้อหยกที่เห็นภายนอกก็คงมีอสูรแมงมุมธรรมดาอยู่แน่นอน

 …. ไป๋จูเหวินที่โดนจับมากลับไม่ได้รับความสนใจอย่างสิ้นเชิง ไม่ทราบว่าพลังของตนไม่สามารถส่งผ่านใยแมงมุมออกไปได้หรืออย่างไร แต่ตนเองไม่ได้ถูกกินก็ถือว่าดีมากแล้ว

กึก… คิดยังไม่ทันจบ อยู่ดีๆอสูรแมงมุมหยกก็ราวกับรู้สึกตัว มันหันมามองทางรังไหมราวกับพึ่งจำได้ว่าตนจับผู้บุกรุกมา มันค่อยๆเดินมาทางรังไหมช้าๆก่อนจะใช้ขาข้างหนึ่งยกรังไหมขึ้นมาอยู่ตรงใบหน้าของตน

ครืด อยู่ๆอสูรแมงมุมหยกก็เอาใบหน้าของมันมาถูรังไหมช้าๆราวกับกำลังจะออดอ้อนรังไหมอย่างไรอย่างนั้น ท่าทางพลังของไป๋จูเหวินจะยังได้ผลแม้จะอยู่ในรังไหม เพียงแต่อาจจะได้ผลช้าไปหน่อยเท่านั้น

 เจ้านี่มันอะไรกัน ทำไมมันน่ารักเช่นนี้ อสูรแมงมุมหยกว่าพลางจ้องมองรังไหมด้วยสายตารักใคร่ นี่มันลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่ามันจับผู้บุกรุกมาเอง

แควก! อสูรแมงมุมหยกกรีดรังไหมออกจนไป๋จูเหวินร่วงลงมาบนพื้น ทำให้ไป๋จูเหวินรีบยืนขึ้นชี้กระบี่ไปทางอสูรแมงมุมทันที

 ……… เห็นไป๋จูเหวินขี้กระบี่มายังตนเอง ดวงตาทั้ง 8 ของอสูรแมงมุมละห้อยลงทันที ท่าทางมันจะโดนมนตร์สะกดของไป๋จูเหวินเข้าไปแล้วจริงๆ ทำให้ไป๋จูเหวินเก็บกระบี่เข้ามิติของตนเองไปพลางถอนหายใจออกมา

 เจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึง… อสูรแมงมุมว่าพลางเดินเข้ามาหาไป๋จูเหวินพลางมองไป๋จูเหวินด้วยท่าทีสนอกสนใจ

 ข้าชื่อไป๋จูเหวิน เจ้าล่ะ ไป๋จูเหวินเห็นท่าทีของอสูรแมงมุมหยกเปลี่ยนไปแล้ว เลยวางใจลงพลางเริ่มพูดคุยเช่นเดียวกับอสูรภายในเขตอสูร

 ข้า..ไม่มีชื่อหรอก อสูรแมงมุมตอบพลางเอียงคอเล็กน้อย เสียงของมันฟังดูราวกับเด็กสาวต่างจากรูปลักษณ์ใหญ่โตของมันคนละเรื่อง

 เจ้าอายุเท่าไหร่ ไป๋จูเหวินถามเพราะเสียงของอสูรแมงมุมหยกค่อนข้างเด้กทีเดียว

 ไม่รู้ คำตอบของอสูรแมงมุมหยกทำให้ไป๋จูเหวินขมวดคิ้ว

 งั้น ตอนเจ้าเกิดมา เจ้าทำอะไรบ้าง ไป๋จูเหวินลองถามดู แม้ในเขตอสูรจะมีแต่อสูร แต่ก็มีการนับเวลาตามวันเช่นเดียวกับมนุษย์

 ข้า…อยู่ในดิน…..แล้วข้าก็กินดินแต่มันไม่อร่อย อสูรแมงมุมหยกว่าพลางทำท่านึกอดีต

 แล้วข้าก็รู้สึกเหมือนมีอะไรน่าอร่อย ข้าก็เลยมาที่นี่แล้วก็กินดินของที่นี่ มันอร่อยกว่าดินตอนข้าเกิดมากเลย อสูรแมงมุมว่าพลางมองไปทางกำแพงหยกที่นางกินอยู่จนถึงเมื่อครู่ หากนางบอกว่านางเกิดในดิน การนับเวลาก็คงยาก บางทีนางอาจจะเป็นอสูรที่พึ่งเกิดก็ได้ แต่นางที่พึ่งเกิดกลับมีพลังระดับทองขั้นสูงเช่นนี้ เผ่าของนางย่อมไม่ธรรมดาแน่ๆ

 งั้นเจ้าก็เป็นเด็กพึ่งเกิดสินะ ไป๋จูเหวินว่าพลางยื่นมือไปลูบหัวเจ้าแมงมุมหยกเบาๆ ท่าทางเจ้านี่จะไม่เคยได้เรียนรู้อะไรเลย อาจจะเกิดมาแล้วก็เริ่มกินเพื่อประทังชีวิตเท่านั้นก็ได้ หรือว่านี้จะเป้นสัญชาตญาณของพวกอสูรประเภทแมงมุมกระมัง

 จริงสิ เจ้าเองก็ลองกินดูเถอะ ดินที่นี่อร่อยมากเลย อสูรแมงมุมว่าพลางใช้ขาของมันคว้านเอาเนื้อหยกออกมาก้อนหนึ่ง

 ไม่…ข้าไม่ได้กินดินเหมือนเจ้า ไป๋จูเหวินตอบออกไปตามตรง ขืนมัวเกรงใจละก็เวลาอยู่ในเขตอสูรคงโดนพวกอสูรยัดของแปลกๆให้กินตลอดแน่ๆ

 น่าเสียดาย มันออกจะอร่อยมากแท้ๆ อสูรแมงมุมหยกว่าพลางเอาก้อนหยกเข้าปาก มันเคี้ยวก้อนหยกราวกับขนมก่อนจะกลืนเข้าไปอย่างรวดเร็ว สีหน้าของอสูรแมงมุมหยกยามกินหยกเข้าไปราวกับเด็กสาวที่กำลังกินของหวานไม่มีผิด น่าเสียดายที่มันไม่เคยเห็นมารดาทำหน้าแบบนี้เพราะตั้งแต่จำความได้มารดาไม่เคยกินอะไรเลย

 …. อยู่ๆไป๋จูเหวินก็สัมผัสได้ว่ามีอะไรบางอย่างเข้ามาในถ้ำหยก พอสัมผัสได้ชัดว่าคนที่เข้ามาคือใครไป๋จูเหวินก็มีสีหน้าลำบากใจทันที

 อสูรแมงมุม ไป๋จูเหวินเรียกอสูรแมงมุมที่อยู่ตรงหน้าพลางมองไปทางเข้าของถ้ำหยก

 เพื่อนของข้ากำลังจะเข้ามาในนี้ เจ้าอย่าทำอะไรเขาได้ไหม ไป๋จูเหวินถามพลางมองดวงตาทั้ง 8 ข้างของอสูรแมงมุมหยก

 อื้อ อสูรแมงมุมหยกตอบรับอย่างว่าง่าย พลางมองไปที่ทางเข้าถ้ำ

 อ๊ะ ใยของข้าขยับด้วย นั่นเป็นเพื่อนเจ้าเหรอ อสูรแมงมุมถามหลังจากสัมผัสจากใยของตนเองที่วางเอาไว้ระหว่างถ้ำ

 ใช่ ไป๋จูเหวินว่าพลางยิ้มเจื่อนๆ คนที่มาคือหยงเวย คนที่ไป๋จูเหวินช่วยเอาไว้นั่นเอง แต่มันกลับมาเพียงคนเดียวไม่ดาเจ้าสำนักหรือคนอื่นๆมาด้วยมันอาจจะเป็นห่วงไป๋จูเหวินที่โดนจับไปแทนตนเองจนยอมกลับไปที่สำนักไม่ไหวก็ได้

 ไป๋จูเหวินเจ้าอยู่ที่ไหน เสียงของหยงเวยดังมาจากทางเข้าถ้ำ ทำให้ไป๋จูเหวินเดินออกมาหน้าอสูรแมงมุมเพื่อเผื่ออีกฝ่ายจะใจร้อน

ฟุบ! ร่างของหยงเวยพุ่งเข้ามาในถ้ำแมงมุมอย่างรวดเร็ว ทันทีที่มันเห็นไป๋จูเหวินมันก็ยกดาบของมันขึ้นฟันใส่อสูรแมงมุมหยกที่อยู่ด้านหลังทันทรี

ครืดด เนื้อหยกโดนดาบของหยงเวยปาดเข้าอย่างจังจนเกิดรอยแตก แต่ดาบของมันกลับไม่สามารถเจาะผิวหนังจริงๆของอสูรแมงมุมหยกได้ แถมพอถอนดาบออกไปเนื้อหยกรอบๆยังซ่อมแซมตนเองเสียอีก

 หยงเวย เจ้าใจเย็น…. 

ครืดดด ยังไม่ทันได้พูดอะไรหยงเวยก็ฟันดาบใส่อสูรแมงมุมอีกครั้ง น่าเสียดายดาบของหยงเวยยังไม่พอที่จะทำร้ายอสูรแมงมุมหยกตนนี้

 โอ้ย แมงมุมหยกร้องออกมาพลางมองขาของตนที่โดนดาบกรีดเล็กน้อย มันทำหน้าโมโหก่อนจะใช้ใยแมงมุมจับหยงเวยเอาไว้แล้วทุ่มใส่กำแพงที่มันกินค้างเอาไว้ก่อนหน้านี้

ตูม!! ร่างของหยงเวยกระแทกกำแพงจนกำแพงพังลงมาทับร่างของหยงเวย ทำเอาหยงเวยร้องออกมาอย่างเจ็บปวด แต่ร่างของผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณไม่ตายด้วยเรื่องแค่นี้หรอก

 อ๊ะ..ขอโทษ อสูรแมงมุมว่าพลางทำหน้าสำนึกผิดราวกับเด็กๆ

 หนอย… หยงเวยคำรามพลางลุกขึ้นมาจากกองหยก แต่คราวนี้ไป๋จูเหวินคงไม่ปล่อยให้หยงเวยทำอะไรอีกแล้ว

กึก… ใยแมงมุมของไป๋จูเหวินล็อคร่างของหยงเวยเอาไว้แน่นจนขยับไม่ได้ ก่อนที่ไป๋จูเหวินจะถอนหายใจออกมา

 ไม่มีอะไรแล้ว มันไม่ได้คิดจะทำร้ายเราหรอก ไป๋จูเหวินลูบหัวอสูรแมงมุมหยกเบาๆให้หยงเวยได้เห็นว่าอสูรแมงมุมไม่ได้ดุร้าย แถมว่ากันตามตรงเหมือนนางจะกินพวกดินพวกหินเป็นอาหารเพราะฉะนั้นต่อให้ไม่ใช่ไป๋จูเหวินก็ไม่โดนกินหรอกมั้ง…

 เจ้าจะไว้ใจอสูรได้อย่างไร หยงเวยว่าพลางหยายามดิ้นออกจากใยแมงมุมของไป๋จูเหวิน แต่เพราะมันไม่ทราบว่าไป๋จูเหวินใช้ใยแมงมุมได้มันเลยเข้าใจว่าใยแมงมุมเป็นของอสูรแมงมุมตรงหน้ามากกว่า

 ข้าไว้ใจได้นะ อสูรแมงมุมว่าพลางทำแก้มป่องราวกับไม่ชอบที่หยงเวยมาหาว่านางไว้ใจไม่ได้

 ข้าไม่เชื่อเจ้า หยงเวยยังคงพยายามดิ้นออกจากใยแมงมุม แต่ก็ทำไม่ได้ ใยแมงมุมของไป๋จูเหวินเหนียวและแข็งแรงกว่าของอสูรแมงมุมหยกเสียอีก

 ข้าบอกว่าข้าเชื่อใจได้ไง อสูรแมงมุมเถียงกลับด้วยท่าทีโมโห แต่เพราะไป๋จูเหวินบอกว่าห้ามทำอะไรนางเลยได้แต่กระทืบเท้าอยู่กับที่

 ข้าไม่เชื่อใจอสูรที่พึ่งเหวี่ยงข้าใส่กำแพงหรอก หยงเวยว่าพลางกัดฟันแน่น

 ระ เรื่องนั้น….มู่ อยู่ๆอสูรแมงมุมก็เถียงไม่ออกเสียอย่างนั้น นางหันหน้าหนีพลางเดินมายืนข้างหลังไป๋จูเหวิน

 เอาน่า เจ้าตอนนี้ก็สู้นางไม่ได้ แถมนางก็ไม่ทำอะไรพวกเราด้วย ไป๋จูเหวินว่าพลางปล่อยหยงเวยออกมาจากใยแมงมุม

 ….ไม่ต้องย้ำก็ได้น่า หยงเวยพูดด้วยท่าทีมีน้ำโห ใช่สิตอนนี้มันอ่อนแอกว่าไป๋จูเหวินและอสูรแมงมุม แต่ไม่นานมันจะฝึกให้หนักและเอาชนะพวกมันให้ได้

 แล้วจะเอายังไงกับมัน หยงเวยถามโดยยังไม่ปล่อยดาบลง ถ้าไป๋จูเหวินช่วยบางทีอาจจะพอเอาชนะอสูรแมงมุมก็ได้

 ก็ ปล่อยนางเอาไว้แบบนี้ล่ะ นางไม่ทำร้ายใครหรอก ไป๋จูเหวินว่าพลางมองแมงมุมหยก นางกินแต่กินคงไม่ไปจับใครมากินหรอก ขอแค่ไม่เข้ามาในถ้ำของนางก็ไม่มีใครเป็นอะไร

 เจ้าแน่ใจนะว่ามันจะไม่ออกไปทำลายเมือง หยงเวยถามด้วยท่าทีสงสัย

 คิดว่านะ ไป๋จูเหวินยิ้มเจื่อนๆ ความเร็วในการกินของอสูรแมงมุมหยกค่อนข้างไวทีเดียว บางทีอีก 5 หรือ 6 ปีผาหยกทั้งลูกอาจจะหายไปเลยก็ได้

 พวกเจ้าจะไปแล้วเหรอ อสูรแมงมุมถามพลางมองไป๋จูเหวินที่ทำท่าจะออกไปจากถ้ำด้วยสีหน้าละห้อย

 ใช่ พวกข้าต้องไปบอกเจ้าสำนักว่าข้าปรอดภัยดี ไม่อย่างนั้นพวกเขาตะเป็นห่วง ไป๋จูเหวินตอบ แต่จริงๆแล้วไป๋จูเหวินกังวลว่าหากตนไม่กลับไปเจ้าสำนักจะส่งเรื่องไปทางกลุ่มนักล่าอสูรให้มาล่าอสูรแมงมุมแน่ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นนักล่าอสูรที่มีพลังแข็งแกร่งต่องสามารถกำจัดอสูรแมงมุมได้แน่ๆ ไป๋จูเหวินที่มีมารดาเป็นแมงมุมอดที่จะเป็นห่วงอสูรแมงมุมขึ้นมาไม่ได้

 งั้น ข้าไปด้วย อสูรแมงมุมหยกว่าพลางเดินตามไป๋จูเหวินมา แต่นางก็หันไปมองถ้ำหยกด้วยท่าทีเสียดาย แต่นางก็ส่ายหัวพลางตามไป๋จูเหวินมาด้วยท่าทีหงอยๆ แต่หากนางไม่กินหยกในถ้ำต่อไปบางทีอาจจะเป็นผลดีกับเมืองผาหยกก็เป็นได้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลเรื่องผาหยกจะถล่มลงมาล่ะนะ

 เดี๋ยวสิ เจ้าจะให้อสูรแมงมุมตัวเท่าบ้านแบบนี้เข้าเมืองหรือไง หยงเวยถามพลางมองอสูรแมงมุมอย่างไม่ไว้ใจ

 จริงสิ เจ้าแปลงกายเป็นมนุษย์ได้หรือเปล่า ไป๋จูเหวินถามพลางมองไปทางอสูรแมงมุมหยก

 ได้ อสูรแมงมุมว่าพลางกลายร่างเป็นมนุษย์ตามที่บอก ร่างมนุษย์ของนางเป็นเด็กสาวตัวสูงเพียงเอวของไป๋จูเหวินเท่านั้น ท่าทางมันจะเป็นอสูรที่พึ่งเกิดไม่นานจริงๆ

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 63 ลูกแมงมุม

 

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล

Status: Ongoing

ตุบ! เสียงบางอย่างตกลงมาจากที่สูงทำเอาภายใต้ช่องเขาแห่งนี้เกิดเสียงสะท้อนเลื่อนลั่นไปรอบบริเวณ แต่ถึงจะสร้างเสียงดังเพียงใดก็ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอยู่บริเวณนี้ทั้งสิ้น

วูบ… ร่างสีขาวหมดจดร่างหนึ่งปรากฏยังตำแหน่งที่เสียงดังนั้นปรากฏ แม้จะไม่มีมนุษย์แต่สถานที่แห่งนี้กลับเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรตนหนึ่ง มันมีเรือนร่างแปลกพิสดาร ทั่วร่างเป็นสีขาวหม่นหมองทั้งร่าง รูปร่างของมันจะว่าเหมือนแมงมุมหรือก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเหมือนมังกรหรือก็ไม่ชัดเจน ทุกคนต่างเรียกขานมันว่าฝันร้ายสีขาว มันเป็นตัวตนที่สร้างความหวาดกลัวให้ทั้งมนุษย์และอสูรด้วยกัน

แกร๊ก ทันทีที่ขาหนึ่งของมันก้าวมาถึงตำแหน่งเสียง ดวงตาทั้ง 8 ของมันก็จดจ้องไปยังร่างของเด็กชายที่ตกลงมาจากหน้าผาด้วยท่าทีประหลาดใจ เหตุใดมนุษย์ถึงไม่ตายหลังจากตกลงมาลึกขนาดนี้ ที่ๆมันอาศัยอยู่ถูกเรียกว่าผาไร้ก้น เพราะหากมองจากด้านบนจะไม่สามารถเห็นก้นเหวได้เลย แม้แต่มองจากก้นผาก็แทบจะเห็นท้องฟ้าเป็นเส้นด้ายเส้นบางๆเท่านั้น เพราะก้นผาแห่งนี้อยู่ลึกอย่างมาก

ขณะสงสัยอยู่ๆอสูรที่มีร่างกายสีขาวก็เริ่มอ้าปากของมันออกช้าๆ เขี้ยวราวกับแมงมุมของมันอ้าออกเผยให้เห็นปากอันกว้างใหญ่ที่หากจะกินเด็กชายตรงหน้าคงกระทำได้ด้วยการกลืนมันทั้งตัวในคำเดียวเท่านั้น แต่ขณะจะกินเด็กชายลงไปทั้งตัว ปากของมันพลันหยุดชะงัก ก่อนจะค่อยๆหุบกลับเช่นเดิม ดวงตาของมันเพ่งมองเด็กชายที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย ร่างของมันแตกหักยับเยินราวกับตุ๊กตาดินที่ถูกบี้เละเทะ แขนขางองุ้ม ลำตัวแดงบ้างม่วงบ้าง แต่มันกลับยังหายใจอยู่ ด้วยร่างกายที่ยับเยินเช่นนี้มันกลับสามารถประคองชีวิตของมันเอาไว้ได้

 หรือจะเป็นโชคชะตากัน.. อสูรแมงมุมพูดออกมาพลางมองใบหน้าของเด็กชาย ทำไมมันถึงตกลงมาในที่แห่งนี้ได้ ทำไมมันถึงไม่ตาย แล้วทำไมมันถึงไม่คิดจะกินมันกัน…..

แม้แต่ตัวมันยังไม่สามารถหาคำตอบออกมาได้ . . . .

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท