บุตรอสูรบรรพกาล – ตอนที่ 101 ควบคุม

ตอนที่ 101 ควบคุม

ตอนที่ 101

ควบคุม

 …… หยงเวยลืมตาขึ้นมองภาพตรงหน้าช้าๆพลางลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วเพราะภาพความทรงจำล่าสุดคือภาพของอสูรกวางที่เข้ามาโจมตีตนเองจนสลบ แต่เมื่อมองไปรอบๆมันกลับพบว่าตนเองมาอยู่ในบ้านเก่าของมันเสียแล้ว แถมจมูกของมันยังได้กลิ่นบางอย่างลอยมาอีกต่างหาก

 หยงเวย เจ้าตื่นแล้วเหรอ เสียงของอสูรจิ้งจอกดังมาจากมุมหนึ่งของบ้าน ทำเอาหยงเวยสะดุ้งโหยง มันรีบคว้ามือไปที่ข้างตัวแต่ก็ไม่พบดาบมรกตของมันแต่อย่างไร

ตุบ! มือของชายคนหนึ่งกดร่างของหยงเวยเอาไว้ไม่ให้มันขัดขืน ชายคนนั้นคืออสูรกวางนั่นเอง

 อย่าแม้แต่จะคิด อสูรกวางว่าพลางกดคอของหยงเวยเอาไว้แน่นไม่ให้มันขยับไปไหนได้ แถมดาบมรกตนายหญิงของมันก็เก็บเอาไว้แล้ว

 ปล่อยเขาเถอะ อสูรจิ้งจอกว่าพลางมองอสูรกวางด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ทำให้มันได้แต่ยอมปล่อยแต่โดยดี

 เจ้าสลบไปตั้งครึ่งวันคงหิวแล้ว แม่ทำของโปรดของเจ้าเอาไว้ให้ อสูรจิ้งจอกพูดพลางเปิดฝาหม้อออกช้าๆ แต่ก่อนอสูรจิ้งจอกเคยเป็นหมอสมุนไพรมาก่อนเลยเอาสมุนไพรมาตุ๋นไก่ป่าให้ลูกชายกินบ่อยๆ

 อย่าใช้คำว่าแม่กับข้า หยงเวยว่าพลางกำหมัดแน่น แต่เพราะอสูรกวางนั่งอยู่ข้างๆมันจึงไม่อาจเข้าไปโจมตีได้ ยามนี้มันโกรธแค้นจนตัวสั่นแถมพลังมารในร่างยังคุ้มคลั่งราวกับกำลังจะออกมาอาลาวาดนอกร่างของมันให้ได้

 …. อสูรจิ้งจอกนิ่งไปพลางยื่นถ้วยที่มีไก่ตุ๋นสมุนไพรอยู่ภายในจนเต็มให้กับหยงเวย พอโดนบอกว่าห้ามใช้คำว่าแม่กับมัน อสูรจิ้งจอกก็มีน้ำตาซึมออกมา

 กินซะ อยู่ๆอสูรกวางที่อยู่ข้างๆก็สั่งให้หยงเวยกินอาหารซะ ทำเอาหยงเวยกัดฟันกรอด มันยังจำภาพบิดาของมันที่โดนขวานสับคอตายได้ติดตา ส่วนศพของมารดาแม้แต่มันยังหาไม่พบ ก่อนหน้าชาวบ้านจะจับอสูรจิ้งจอกหยงเวยได้ยินว่าอสูรจิ้งจอกฆ่ามารดาของมันเพื่อแปลกกายเป็นมารดาของมันเข้ามาปะปนกับคนในหมู่บ้าน สำหรับหยงเวยตอนนี้ภาพมารดาตรงหน้าที่กำลังยื่นชามไก่ตุ๋นสมุนไพรมาให้นั้นสร้างเพียงความโกรธแค้นมากขึ้นเท่านั้น

 ข้าบอกให้เจ้ากิน อสูรกวางคำรามพลางกดคอของหยงเวยลงไปที่ถ้วยไก่ตุ๋น

 หยุด อสูรจิ้งจอกดุเสียงดังก่อนจะจ้องมองอสูรกวางด้วยท่าทีไม่พอใจ ถึงอย่างไรหยงเวยก็เหมือนบุตรชายของนาง ต่อให้มันมุ่งร้ายเหมายจะฆ่านาง แต่นางก็ไม่อาจทนมองมันโดนทำร้ายเช่นนี้ได้

 …… อสูรกวางยอมถอยอย่างง่ายดายเพราะสังคมอสูรผู้แข็งเกร่งกว่าคือที่สุด

 หยงเวย เจ้าทานเถอะนะ อสูรจิ้งจอกว่าพลางจ้องมองหน้าบุตรชายด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

 ….. แม้อสูรกวางจะปล่อยมือไปแล้ว แต่จิตสังหารที่มันปล่อยออกมาก็ยังไม่หยุด ทำให้หยงเวยยอมตักไก่ตุ๋นเข้าปากแต่โดยดี

 นี่มัน…. หยงเวยเบิกตากว้างพลางมองไก่ตุ่นในชามอย่างประหลาดใจ รสชาติเช่นนี้ไม่ใช่ว่าเป้นไก่ตุ่นที่มารดามันทำให้ตั้งแต่เด็กหรืออย่างไร

 หยงเวย เจ้าฟังแม่สักหน่อยได้ไหม อสูรจิ้งจอกว่าพลางนั่งลงตรงข้ามหยงเวย เห็นได้ชัดเลยว่าหยงเวยยังจำอาหารฝีมือนางได้ เพราะท่าทีคุกคามของมันลดลงทันทีเมื่อตักอาหารเข้าปาก

 ข้า… หยงเวยก้มหน้าลงช้าๆพลางพยายามคิดหาสาเหตุว่าทำไมอสูรจิ้งจอกที่ควรจะเป็นคนฆ่ามารดาของมันเพื่อแปลงกายเป็นนางถึงสามารถปรุงอาหารออกมาได้เหมือนที่มารดาทำสมัยก่อนไม่มีผิด

 หยงเวย แม่ไม่ใช่อสูรที่ฆ่ามารดาของเจ้า แต่ข้าเป็นอสูรมาแต่แรกแล้ว อสูรจิ้งจอกว่าพลางยิ้มเศร้าๆออกมา

 อสูรกับมนุษย์ไม่มีทางมีลูกด้วยกันได้ แถมข้าก็ไม่ใช่อสูรด้วย หยงเวยว่าพลางมองอสูรจิ้งจอกอย่างจับผิด

 เรื่องนั้น เพราะเจ้าเป็นเด้กที่ข้ารับเลี้ยงมา.. อสูรจิ้งจอกว่าพลางเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทีละน้อยๆ หลังจากฟังเรื่องราวอย่างช้าๆ หยงเวยก็มีท่าทีดุดันลดลงทีละน้อย

 เรื่องมันก็เป็นแบบนี่ละ อสูรจิ้งจอกว่าพลางยิ้มออกมา ในที่สุกนางก็สามารถเล่าเรื่องให้บุตรชาของนางได้เสียที

 ถ้าหากเจ้ายังแค้นแม่อยู่…. อสูรจิ้งจอกว่าพลางนำดาบมรกตออกมาจากมิติของนาง ก่อนจะวางมันลงตรงหน้าหยงเวย ราวกับจะบอกให้มันใช้ดาบเล่นนี้สังหารนางซะ

เห็นอีกฝ่ายยื่นอาวุธพร้อมเปิดคอให้ตนสังหารเช่นนี้หยงเวยที่แค้นมาตลอดกลับมีท่าทีลังเล เพราะหากฟังจากที่นางเล่ามา เช่นนั้นนางก็ไม่ได้ทำอะไรผิด แน่นอนว่านางฆ่าคนในหมู่บ้านแต่ก็เพราะคนในหมู่บ้านสังหารพ่อของมัน หากเป็นมันเองก็คงทำเช่นนั้น แต่…คนในหมู่บ้านเองก็เพราะหวาดกลัวอสูรจึงทำแบบนั้นลงไป ตัวมันก็เข้าใจเช่นกันเพราะหลังจากนั้นมันก็แค้นอสูรอยู่นานทีเดียว

คลืดดด…หยงเวยไม่ได้หยิบกาบมรกตขึ้นมา มันเพียงลุกขึ้นแล้วเปิดประตูเดินออกไปเท่านั้น

 แกมันอ่อนแอ เสียงมารในหัวของหยงเวยพูดด้วยน้ำเสียงดูถูก แต่หยงเวยกลับไม่ฟัง มันวิ่งออกไปสุดแรงก่อนจะมาหยุดที่ลำธารแห่งหนึ่งที่ห่างจากบ้านของมันพอสมควร ลำธารแห่งนี้มีขนาดเล็กมากแถมยังเป็นน้ำแข็งไปเสียครึ่งอีก แต่พอเห็นสายน้ำก็ทำให้หยงเวยสมองโล่งลงบ้าง

 อะไรกัน ความแค้นที่เจ้ามีมันหายไปได้ง่ายดายเช่นนี้เลยหรือไง มารในสมองของหยงเวยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

 ก็แล้วจะให้ข้าทำยังไงล่ะ ในเมื่อนางเป็นมารดาของข้ามาตั้งแต่แรก หยงเวยว่าพลางกำหมัดแน่น แม้แต่ตัวมันเองยังไม่ทราบจะทำเช่นไรดี เพราะความแค้นที่มันสั่งสมเอาไว้กลับกลายเป็นเพียงความเข้าใจผิดเท่านั้น

 ก็ฆ่านางซะ ถึงอย่างไรนางก็เป็นอสูร มารพูดพลางหัวเราะด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย

 ไม่ หยงเวยตอบเสียงเรียบพลางนั่งลงที่ข้างลำธาร

 ข้าฆ่านางไม่ได้แล้ว หยงเวยพูดพลางมองสายน้ำในลำธารอย่างเหม่อมลอย ในเมื่อนางคือมารดาที่เลี้ยงดูมันมาตั้งแต่เกิด แถมยังไม่ใช่คนลงมือสังหารบิดาของมันอีกต่างหาก แล้วมันจะเหลือเหตุผลอะไรที่จะฆ่านางกัน

 เจ้าเชื่อในสิ่งที่นางพูดงั้นเหรอ มารในหัวของหยงเวยถามราวกับเสียงกระซิบที่ข้างหู

 จริงๆแล้วนางอาจจะสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อหลอกเจ้าเท่านั้น ได้ยินเช่นนั้นหยงเวยก็หรี่ตาลง

 ข้าสู้องครักษณ์ของนางยังไม่ได้ แล้วนางจะหลอกข้าไปทำไม หยงเวยว่าพลางถอนหายใจออกมา ความจริงข้อนี้มันก็ลองคิดดูแล้ว แต่นางไม่มีความจำเป็นที่จะต้องหลอกมันเลย หากอยากฆ่านางเพียงสั่งอสูรกวางลงมือก็เพียงพอแล้ว

 นั่นเพราะเจ้ามันอ่อนแอยังไงล่ะ มารส่งเสียงก้องกังวาลในหัวของหยงเวยทำเอาร่างของหยงเวยเกร็งแน่นไปทั้งตัว อยู่ๆพลังมารในร่างของมันก็คุ้มคลั่งออกมาจนมันแทบจะควบคุมไม่ไหว

 น่าเบื่อจริงๆ เจ้าสร้างข้าขึ้นมาด้วยความแค้น คิดจะดับไฟแค้นก็ดับง่ายๆเช่นนี้หรือ ข้าไม่ยอมหรอก มารในหัวของหยงเวยว่าพลางบังคับร่างของหยงเวยด้วยตนเอง ทำให้หยงเวยลุกขึ้นยืนพลางมองกลับไปที่บ้านของมัน

 หากเจ้าไม่แค้นนาง ข้านี่ละจะทำให้เจ้าแค้นเอง ข้าจะใช้ร่างของเจ้าฆ่านางซะ แล้วเจ้าก้จะแค้นข้า นี่ล่ะความแค้นที่สมบูรณ์แบบ เพราะเจ้าไม่มีวันล้างแค้นข้าได้ หยงเวยที่โดนพลังมารควบคุมหัวเราะออกมาพร้อมก้าวเดินไปที่บ้านของมันอย่างช้าๆ

 ไม่ ข้าจะไม่ให้เจ้าทำ หยงเวยพดพลางพยายามควบคุมพลังมารของตนเอาไว้

 อย่าได้ขัดขืนเลย เจ้าพลาดตั้งแต่รับข้าเข้ามาแล้ว มารในหัวของหยงเวยหัวเราะพลางพามันก้าวเดินไปยังบ้านหลังเก่าของมันอย่างเชื่องช้า ยามนี้ตัวหยงเวยปลดปล่อยพลังมารออกมาจนทำเอาหิมะรอบข้างละลายจนหมด

คลืดดดด…..หยงเวยเปิดประตูบ้านช้าๆพลางมองดาบมรกตที่ยังคงวางอยู่บนพื้น มันค่อยๆเดินไปที่ดาบช้าๆพลางหยิบดาบขึ้นมาอย่างใจเย็น

ตูม! ยังไม่ทันได้ทำอะไร อยู่ๆเท้าของอสูรกวางก็เตะเข้าที่อกของมันอย่างแรงจนร่างของมันกระเด็นออกไปนอนคลุกหิมะข้างนอก

ฟุบ…ร่างของอสูรกวางลอยลงมาที่ด้านหลังหยงเวยก่อนจะกดมันลงกับหิมะจนเคลื่อนไหวไม่ได้อีกครั้ง

 นายหญิง ดูเหมือนบุตรชายของท่านจะถูกพลังมารควบคุมเสียแล้ว อสูรกวางว่าพลางง้างมือขึ้น ก่อนจะใช้ดัชนีแทงลงมาที่หลังของหยงเวย

 อากกก หยงเวยร้องออกมาเมื่อนิ้วของอสูรกวางแทงใส่หลังของมัน แต่เมื่อความเจ็บปวดทุเลาลงหยงเวยก็พบว่ามันสามารถขยับร่างกายตนเองได้อีกครั้งโดยไม่โดนพลังมารบังคับอีกเลย

 เจ้าหนู เจ้าเลือกเดินทางผิดเสียแล้ว อสูรกวางพูดพลางลุกขึ้นมาจากร่างของหยงเวย แต่ยามนี้ใบหน้ามันกลับยิ้มออกมา

 แต่หน้าที่ทำให้เจ้ากลับมาในเส้นทางที่ถูกต้องก็คือหน้าที่ของมารดา อสูรกวางว่าพลางมองไปทางอสูรจิ้งจอกที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตู แม้ระดับพลังของอสูรกวางจะต่ำต้อยกว่า แต่ประสบการณ์ของอสูรกวางนั้นมีมากกว่านางหลายเท่า ก่อนจะเดินทางมายังเขตอสูรของนาง มันเคยออกเดินทางมาทั่วแดนและฝึกฝนมาเป็นเวลานับพันปี ทำให้ตัวมันรู้เรื่องราวต่างๆไม่น้อย

 นายหญิง ให้ข้าเป็นคนสอนบุตรของท่านได้หรือไม่ อสูรกวางว่าพลางมองหยงเวยที่นอนอยู่บนพื้น มันมีพลังมารที่ดีทีเดียว เพียงแต่ไม่ทราบวิธีควบคุมและวิธีใช้ ตัวอสูรกวางเคยเจอมารตนหนึ่งในอดีตและเคยเดินทางร่วมกับมันอยู่พักใหญ่ ทำให้มันพอจะทราบวิธีควบคุมพลังมารอยู่บ้าง

 ข้าเองก็เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่อง แต่จะให่บุตรชายโดนมารครอบงำอยู่แบบนี้ก็ไม่ได้ ท่านช่วยจัดการเข้าหน่อยก็แล้วกัน อสูรจิ้งจอกว่าพลางมองหยงเวยด้วยสายตาเอ็นดู

.

.

.

อีกด้านหนึ่งที่เมืองร้อยแปดอสูร ร่างของแมงมุมหยกสีเขียวก็ปรากฏที่หน้าประตูของวังมังกร ก่อนที่นางจะคืนร่างกลับเป็นเด็กสาวท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูในพริบตาต่อมา หลังจากแปลงกายแล้วนางก็เดินตามชายหนุ่มและหญิงสาวเข้าไปในวังมังกรอย่างร่าเริง

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 101 ควบคุม

 

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล

Status: Ongoing

ตุบ! เสียงบางอย่างตกลงมาจากที่สูงทำเอาภายใต้ช่องเขาแห่งนี้เกิดเสียงสะท้อนเลื่อนลั่นไปรอบบริเวณ แต่ถึงจะสร้างเสียงดังเพียงใดก็ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอยู่บริเวณนี้ทั้งสิ้น

วูบ… ร่างสีขาวหมดจดร่างหนึ่งปรากฏยังตำแหน่งที่เสียงดังนั้นปรากฏ แม้จะไม่มีมนุษย์แต่สถานที่แห่งนี้กลับเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรตนหนึ่ง มันมีเรือนร่างแปลกพิสดาร ทั่วร่างเป็นสีขาวหม่นหมองทั้งร่าง รูปร่างของมันจะว่าเหมือนแมงมุมหรือก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเหมือนมังกรหรือก็ไม่ชัดเจน ทุกคนต่างเรียกขานมันว่าฝันร้ายสีขาว มันเป็นตัวตนที่สร้างความหวาดกลัวให้ทั้งมนุษย์และอสูรด้วยกัน

แกร๊ก ทันทีที่ขาหนึ่งของมันก้าวมาถึงตำแหน่งเสียง ดวงตาทั้ง 8 ของมันก็จดจ้องไปยังร่างของเด็กชายที่ตกลงมาจากหน้าผาด้วยท่าทีประหลาดใจ เหตุใดมนุษย์ถึงไม่ตายหลังจากตกลงมาลึกขนาดนี้ ที่ๆมันอาศัยอยู่ถูกเรียกว่าผาไร้ก้น เพราะหากมองจากด้านบนจะไม่สามารถเห็นก้นเหวได้เลย แม้แต่มองจากก้นผาก็แทบจะเห็นท้องฟ้าเป็นเส้นด้ายเส้นบางๆเท่านั้น เพราะก้นผาแห่งนี้อยู่ลึกอย่างมาก

ขณะสงสัยอยู่ๆอสูรที่มีร่างกายสีขาวก็เริ่มอ้าปากของมันออกช้าๆ เขี้ยวราวกับแมงมุมของมันอ้าออกเผยให้เห็นปากอันกว้างใหญ่ที่หากจะกินเด็กชายตรงหน้าคงกระทำได้ด้วยการกลืนมันทั้งตัวในคำเดียวเท่านั้น แต่ขณะจะกินเด็กชายลงไปทั้งตัว ปากของมันพลันหยุดชะงัก ก่อนจะค่อยๆหุบกลับเช่นเดิม ดวงตาของมันเพ่งมองเด็กชายที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย ร่างของมันแตกหักยับเยินราวกับตุ๊กตาดินที่ถูกบี้เละเทะ แขนขางองุ้ม ลำตัวแดงบ้างม่วงบ้าง แต่มันกลับยังหายใจอยู่ ด้วยร่างกายที่ยับเยินเช่นนี้มันกลับสามารถประคองชีวิตของมันเอาไว้ได้

 หรือจะเป็นโชคชะตากัน.. อสูรแมงมุมพูดออกมาพลางมองใบหน้าของเด็กชาย ทำไมมันถึงตกลงมาในที่แห่งนี้ได้ ทำไมมันถึงไม่ตาย แล้วทำไมมันถึงไม่คิดจะกินมันกัน…..

แม้แต่ตัวมันยังไม่สามารถหาคำตอบออกมาได้ . . . .

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท