บุตรอสูรบรรพกาล – ตอนที่ 117 การต่อสู้ของกลุ่มผู้ฝึกอสูร

ตอนที่ 117 การต่อสู้ของกลุ่มผู้ฝึกอสูร

ตอนที่ 117

การต่อสู้ของกลุ่มผู้ฝึกอสูร

เคร๊ง…เคร๊ง…. เสียงปะทะกันยังดังอย่างต่อเนื่องตรงใจกลางลานประลองอย่างหนักหน่วงและรวดเร็ว เนื่องเพราะแต่ละคนต่างเป็นศิษย์ของยอดฝีมือ ศิษย์แต่ละคนจึงมีฝีมือสูงกันทั้งสิ้น ทำให้การต่อสู้ส่วนใหญ่ดุเดือดเลือดพร่านราวกับจะจ้องเอาชีวิตกันจริงๆก็ไม่ปาน แถมแต่ละคนยังใช้อาวุธประจำตัวกันหมด ทำเอาการชุมนุมครั้งนี้แทบจะเป็นงานรวบรวมอาวุธวิเศษเลยก็ว่าได้

 อากกก เสียงร้องของชายคนหนึ่งดังขึ้นหลังจากโดนธนูปักเข้าที่ไหล่ แม้ภาพจะดูน่ากลัวแต่ก่อนประลองทั้งสองฝ่ายตกลงยอมรับเรื่องการใช้อาวุธอยู่แล้ว แถมระยะห่างเพียงไม่กี่สิบเมตรก็ดูเหมือนจะทำให้ฝ่ายผู้ใช้ธนูเสียเปรียบอีกต่างหาก แต่ด้วยทักษะการใช้ธนูที่ทำได้แม้แต่การสู้ประชิดตัวก็ทำให้ชายผู้ใช้ธนูชนะไปอย่างฉิวเฉียด

เคร๊ง!!! แม้เกือบทุกการประลองจะสูสีคู่คี่กันหมด แต่ก็มีบางครั้งที่จบลงในพริบตาเช่นกัน โดยเฉพาะการประลองของศิษย์เซียนดาบที่ใช้เพียงกระบวนท่าเดียวฟันจนอาวุธของอีกฝ่ายปลิวไปด้านหลัง

 ต่อไปเป็นตาของเจ้าแล้ว หัวหน้าถังพูดพลางมองมายังบุตรสาวของตน

 ค่ะ… ถังซินลุกขึ้นพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ ราวกับโชคชะตากลั่นแกล้ง เพราะเอดันจับฉลากได้คู่ประลองคนแรกเป็นศิษย์ของเซียนหมัดที่พึ่งเจอกันก่อนมาถึงที่ชุมนุมนี่เอง แถมยังจบเรื่องได้ไม่ค่อยดีอีกต่างหาก

 ท่าทางรอบแรกจะชนะได้ง่ายๆซะแล้วสิ ศิษย์ของเซียนหมัดว่าพลางเดินออกมายืนตรงหน้าถังซิน ระดับพลังวิญญาณของถังซินต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด และ กำลังกายเองก็ห่างชั้นกันเสียยิ่งกว่าพลังวิญญาณเสียอีก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวิชาของกลุ่มผู้ฝึกอสูร พวกมันแทบจะไม่มีวิชาต่อสู้เสียด้วยซ้ำ

 ช้าก่อน ขระจะเริ่มการประลอง อยู่ๆเฒ่าประทับสวรรค์ก็หยุดการประลองเสียกลางคัน

 ท่านผู้เฒ่า ไม่ทราบมีเรื่องอะไร ศิษย์ของเซียนหมัดถามพลางประสานมือให้กับเฒ่าประทับสวรรค์

 ถังซิน เข้าเป็นคนของกลุ่มผู้ฝึกอสูรใช่หรือไม่ เฒ่าประทับสวรรค์ถามพลางมองมาทางถังซิน

 เจ้าค่ะ ถังซินตอบด้วยท่าทีนอบน้อม ไม่นึกเลยว่าเฒ่าประทับสวรรค์จำชื่อนางได้

 แล้วเหตุใดเจ้าไม่นำอสูรของเจ้ามาด้วย ได้ยินเช่นนั้นดวงตาของถังซินก็เบิกกว้าง ตามปกติแล้วการประลองตัวต่อตัวจะไม่มีการใช้อสูรเลี้ยงเข้ามาช่วยแต่อย่างไร ทำให้กลุ่มผู้ฝึกอสูรค่อนข้างเสียเปรียบมาตลอด

 ท่านผู้เฒ่า หากนางเอาอสูรลงมาร่วมประลองด้วย ไม่เท่ากับเอาเปรียบข้าหรืออย่างไร ศิษย์ของเซียนหมัดถามพลางมองไปที่ด้านหลังของถังซิน อสูรของกลุ่มผู้ฝึกอสุรนั้นมีจำนวนมาก หากนางเอาอสูรทั้งหมดมารุมทำร้ายมันก็ไม่แย่หรอกหรือ แถมในกลุ่มอสูรเหล่านั้นยังมีอสูรที่แข็งแกร่งจนมันยังสู้ตัวต่อตัวไม่ไหวอีกต่างหาก

 กลุ่มผู้ฝึกอสูรฝึกฝนการเลี้ยงอสูร ส่วนพวกเจ้าก็ฝึกฝนวิชายุทธ การประลองให้เท่าเทียมกันก็ย่อมต้องให้แต่ละฝ่ายใช้อาวุธที่ตนเองถนัด ไม่เช่นนั้นเซียนกระบี่ก็ห้ามใช้กระบี่เซียนดาบก็ห้ามใช้ดาบอย่างนั้นหรือ เฒ่าประทับสวรรค์ถามพลางจับเคราของมันช้าๆ

 เพียงแต่ อสูรที่เจ้าจะเอามาร่วมสู้ได้นั้นมีแค่ 3 ตนและระดับพลังก็ห้ามมากกว่าตัวเจ้าเองด้วย ได้ยินที่เฒ่าประทับสวรรค์พูด ถังซินก็มีสีหน้าโล่งขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด

 ขอบพระคุรท่านผู้เฒ่า ถังซินว่าพลางเรียกไม้เท้าของนางออกมา ที่ปลายไม้เท้าของนางปรากฏกระดิ่งลูกหนึ่งห้อยเอาไว้ ทำให้ยามนางขยับไม้เท้าจะเกิดเสียงของกระดิ่งดังขึ้นมาเสมอ

กริ้ง… เสียงกระดิ่งที่ปลายไม้เท้าดังขึ้นครั้งหนึ่ง อสูร 3 ตนก็กระโดดลงมาจากในฝูงอสูรในทันทีราวกับรู้หน้าที่ของมันอยู่แล้ว โดยทั้ง 3 ตนประกอบไปด้วย วัวกระทิง 1 ตัว กบ 1 ตัว และ นก 1 ตัวซึ่งทั้ง 3 ตัวเป็นอสูรระดับหยกที่มีสติปัญญากันทั้งสิ้น

 วันนี้จะได้ล้างแค้นให้คุณหนูแล้ว เสียงราวกับหญิงวัยกลางคนดังมาจากปากของกบที่มีขนาดตัวใหญ่พอจะให้ถังซินขึ้นไปนั่งได้สบาย

 เจ้านั้นมันคนที่มาต่อว่าคุณหนูสินะ นกนางแอ่นที่เกาะอยุ่บนไหล่ของถังซินถามพลางจ้องมองศิษย์ของเซียนหมัดอย่างโกรธแค้น วันนั้นมันเฝ้าอสุรอยู่นอกร้าน ทำให้ไม่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แต่ได้ข่าวว่ามันทำร้ายคุณหนูด้วยทำให้ตัวมันโกรธอีกฝั่งไม่น้อย

 เหอะ…ถ้าแค่อสูรกระจอกพวกนี้ละก็ ศิษย์ของเซียนหมัดว่าพลางตั้งท่าจู่โจมในทันที

 ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มสู้ได้ เฒ่าประทับสวรรค์ว่าพลางบอกให้ทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อสู้ได้ พริบตานั้นร่างของศิษย์เซียนหมัดพุ่งเข้าจู่โจมถังซินก่อนทันที

ซ่า!! กระสุนน้ำลูกหนึ่งพุ่งเข้าใส่ร่างของศิษย์เซียนหมักอย่างจัง มันคือกระสุนน้ำจากอสูรกบนั่นเอง

กริ้ง..เสียงกระดิ่งของถังซินดังขึ้นครั้งหนึ่ง ร่างของนกนางแอ่นก็โฉบวาบเข้าใส่ร่างของศิษย์เซียนหมัดอย่างรวดเร็ว ปีกของมันเฉือนร่างของศิษย์เซียนหมัดราวกับเอามีดกรีด แต่เพราะผิวหนังของศิษย์เซียนหมัดแข็งแกร่งเกินไปคมของปีกนางแอ่นจึงเฉือนได้ไม่ลึกเท่าไหร่

กริ้ง..เสียงกระดิ่งดังขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้ตัวถังซินเองกลับเป็นฝ่ายเริ่มเข้าไปโจมตีใส่ศิษย์เซียนหมัดที่ชะงักเพราะการโจมตีของเหล่าอสูรเอง

ผั๊ว! กระบองของนางหวดเข้าใส่ร่างของศิษย์เซียนหมัดอย่างรวดเร็ว แต่กำลังโจมตีก็ยังไม่พออู่ดีเพียงแต่ท่ากระบองของนางกลับรวดเร็วและแยบยลไม่น้อย ทำให้ศิษย์เซียนหมัดเซถอยไปด้านหลัง

กริ้ง ซ่า.. เสียงกระดิ่งดังพร้อมกับลูกบอลน้ำที่โจมตีเข้าใส่ศิษย์เซียนหมัดราวกับมันเป็นเครื่องส่งสัญญาณให้กับเหล่าอสูรของนางไม่มีผิด ความจริงถังซินสามารถควบคุมเหล่าอสุรให้ต่อสู้พร้อมกันได้มากกว่า 10 ตน แต่เพราะเฒ่าประทับสวรรค์ยอมให้นางใช้อสูรได้เพียง 3 ตนเท่านั้น วิชาของนางเลยแสดงออกมาได้ไม่เต็มที่

 หนอย ศิษย์ของเซียนหมัดกัดฟันแน่น ก่อนจะเกร็งแขนของมันต่อยมาทางถังซิน วิชาหมัดของเซียนหมัดนั้นขึ้นชื่อเรื่องความรุนแรง หากถังซินโดนโจมตีเข้าอย่างจังมีหวังได้สลบตั้งแต่หมัดแรกแน่ๆ

ฟุบ… ลิ้นของอสูรกบพุ่งเข้ามามัดข้อมือของศิษย์เซียนหมัดเอาไว้ ทำให้หมัดของมันไปไม่ถึงตัวถังซิน

กริ้ง…เสียงกระดิ่งที่เริ่มทำให้ศิษย์เซียนหมัดปวดหัวยังคงดังต่อไป พร้อมการโจมตีของนกนางแอ่นที่โฉบเข้าออกเพื่อรบกวนการเคลื่อนไหวของศิษย์เซียนหมัด เมื่อใช้ร่วมกับวิชากระบองของถังซินการเคลื่อนไหวของเซียรหมัดก็ยิ่งช้าลงๆ ยามนี้แค่จะปล่อยหมัดแต่ละครั้งยังยากลำบาก แถมพอปล่อยออกไปไม่โดนอสูรกบขวางเอาไว้ถังซินก็หลบได้อยู่ดี

 มอออ ขณะกำลังรุมโจมตีศิษย์เซียนหมัดอยู่นั้น กระทิงที่ยังไม่ได้เข้าโจมตีเลยแม้แต่ครั้งเดียวก็ส่งเสียงร้องออกมา พริบตานั้นศิษย์เซียนหมัดพึ่งจะได้หันไปมองว่าเจ้ากระทิงกำลังทำอะไร

เปรี้ยง!! เขาและศีรษะที่ลุกเป็นไฟของกระทิงพุ่งเข้าอัดร่างของศิษย์เซียนหมัดอย่างจัง โชคดีทัมันเอาแขนมากันเขาของกระทิงเอาไว้ได้ก่อนไม่อย่างนั้นมันมีหวังโดนเขาคู่นี้แทงอย่างแน่นอน

 อากกก ศิษย์เซียนหมัดร้องอกมาเมื่อโดนไฟเผาแขนจนเกิดรอยไหม้ มันพยายามดันกระทิงกลับแต่แรงของมันกลับมหาศาลเกินกว่าแรงของอสูรระดับหยกทั่วไป

ฟุบ! ลิ้นของอสูรกบพุ่งเข้ามาพันแขนอีกข้างของศิษย์เซียนหมัดเอาไว้ ทำให้มันต้องใช้แขนเพียงข้างเดียวต้านรับแรงของกระทิงเอาไว้ให้ได้

ตูม!! ขณะศิษย์เซียนหมัดพยายามต้านแรงของกระทิง ร่างของอสูรกบที่เหมือนจะพยายามรั้งแขนของมันเอาไว้ก็กระโดดวูบเข้ามากระแทงร่างของมันอย่างแรงจนมันเสียหลัก

ตูม! ทันทีที่มันเสียหลักจนต้านแรงของกระทิงเอาไว้ไม่ได้ กระทิงก็เอาหัวตัวเองงัดร่างของศิษย์เซียนหมัดขึ้นแล้วส่งแรงกระแทกโยนร่างของมันลอยไปอีกฝั่งของลานประลอง

 โอ้ นี่เหรอวิชาควบคุมอสูรของกลุ่มผู้ฝึกอสูร เหล่าผู้ชมโดยรอบต่างตื่นตาตื่นใจไม่น้อยกับภาพตรงหน้า นี่ขนาดเป็นแค่ทักษะของบุตรสาวเท่านั้น ตัวหัวหน้าถังที่เป็นหัวหน้ากลุ่มจะขนาดไหนกัน

 เป็นวิธีการที่น่าสนใจมากเลยนะขอรับ ไป๋จูเหวินว่าพลางกระพริบตาถี่ๆมองการต่อสู้ตรงหน้า แม้มันจะสนิทสนมกับอสูรมาก แต่หากเป็นเรื่องการต่อสู้ร่วมกัน ถังซินคงทำได้ดีกว่าเป็นแน่

 แน่นอน หากไม่สามารถซื้อใจอสูรได้ คงไม่สามารถทำเช่นนั้นได้แน่ๆ หัวหน้าถังว่าพลางยิ้มอย่างอบอุ่น บุตรสาวของมันนั้นเป็นที่รักของอสูร แม้จะเป็นอสุรระดับสูงก็ยังยอมเชื่อฟังนางได้ไม่ยาก ชื่อเสียงการปราบพยศอสูรของนางโด่งดังยิ่งกว่าหน่วย 6 ของกลุ่มนักล่าอสูรเสียอีก

เพียงแต่… แม้แต่ถังซินก็ไม่สามารถทำให้หงเยว่ยอมเป็นอสุรเลี้ยงได้ ไม่ว่าจะคนในหน่วย 6 ของกลุ่มนักล่าอสูรหรือคนของกลุ่มผู้ฝึกอสูรก็ไม่สามารถเยียวยาหัวใจของอสูรแมงมุมตัวโปรดของอดีตท่านอาวุโส 6 ได้ เรื่องที่นางตกลงยอมเป็นอสูรเลี้ยงของไป๋จูเหวินทำให้หัวหน้าถังประหลาดใจมากทีเดียว

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 117 การต่อสู้ข…

 

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล

Status: Ongoing

ตุบ! เสียงบางอย่างตกลงมาจากที่สูงทำเอาภายใต้ช่องเขาแห่งนี้เกิดเสียงสะท้อนเลื่อนลั่นไปรอบบริเวณ แต่ถึงจะสร้างเสียงดังเพียงใดก็ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอยู่บริเวณนี้ทั้งสิ้น

วูบ… ร่างสีขาวหมดจดร่างหนึ่งปรากฏยังตำแหน่งที่เสียงดังนั้นปรากฏ แม้จะไม่มีมนุษย์แต่สถานที่แห่งนี้กลับเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรตนหนึ่ง มันมีเรือนร่างแปลกพิสดาร ทั่วร่างเป็นสีขาวหม่นหมองทั้งร่าง รูปร่างของมันจะว่าเหมือนแมงมุมหรือก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเหมือนมังกรหรือก็ไม่ชัดเจน ทุกคนต่างเรียกขานมันว่าฝันร้ายสีขาว มันเป็นตัวตนที่สร้างความหวาดกลัวให้ทั้งมนุษย์และอสูรด้วยกัน

แกร๊ก ทันทีที่ขาหนึ่งของมันก้าวมาถึงตำแหน่งเสียง ดวงตาทั้ง 8 ของมันก็จดจ้องไปยังร่างของเด็กชายที่ตกลงมาจากหน้าผาด้วยท่าทีประหลาดใจ เหตุใดมนุษย์ถึงไม่ตายหลังจากตกลงมาลึกขนาดนี้ ที่ๆมันอาศัยอยู่ถูกเรียกว่าผาไร้ก้น เพราะหากมองจากด้านบนจะไม่สามารถเห็นก้นเหวได้เลย แม้แต่มองจากก้นผาก็แทบจะเห็นท้องฟ้าเป็นเส้นด้ายเส้นบางๆเท่านั้น เพราะก้นผาแห่งนี้อยู่ลึกอย่างมาก

ขณะสงสัยอยู่ๆอสูรที่มีร่างกายสีขาวก็เริ่มอ้าปากของมันออกช้าๆ เขี้ยวราวกับแมงมุมของมันอ้าออกเผยให้เห็นปากอันกว้างใหญ่ที่หากจะกินเด็กชายตรงหน้าคงกระทำได้ด้วยการกลืนมันทั้งตัวในคำเดียวเท่านั้น แต่ขณะจะกินเด็กชายลงไปทั้งตัว ปากของมันพลันหยุดชะงัก ก่อนจะค่อยๆหุบกลับเช่นเดิม ดวงตาของมันเพ่งมองเด็กชายที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย ร่างของมันแตกหักยับเยินราวกับตุ๊กตาดินที่ถูกบี้เละเทะ แขนขางองุ้ม ลำตัวแดงบ้างม่วงบ้าง แต่มันกลับยังหายใจอยู่ ด้วยร่างกายที่ยับเยินเช่นนี้มันกลับสามารถประคองชีวิตของมันเอาไว้ได้

 หรือจะเป็นโชคชะตากัน.. อสูรแมงมุมพูดออกมาพลางมองใบหน้าของเด็กชาย ทำไมมันถึงตกลงมาในที่แห่งนี้ได้ ทำไมมันถึงไม่ตาย แล้วทำไมมันถึงไม่คิดจะกินมันกัน…..

แม้แต่ตัวมันยังไม่สามารถหาคำตอบออกมาได้ . . . .

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท