บุตรอสูรบรรพกาล – ตอนที่ 131 แต่งเข้า

ตอนที่ 131 แต่งเข้า

ตอนที่ 131

แต่งเข้า

 เหม่ยฮวา ทางนี้ๆ หลังจากทานอาหารกันเสร็จ ทั้งเฉินตงและเหม่ยฮวาต่างก็กลับมาทำงานกันตามปกติ แม้จะเป็นร้านอาหารเล็กๆแต่ฝีมือของเฉินตงก็ไม่ได้กระจอกเลย ทำให้เหล่าลุกค้าต่างไหลมาเทมาไม่ขาดสาย เรียกได้ว่าช่วงกลางวันแทบจะไม่มีเวลาว่างเลย

 ให้พี่ช่วยนะ เหม่ยหลินว่าพลางเดินเข้าไปรับจานจากเหม่ยฮวา เมนูอาหารมีไม่มาก แถมโต๊ะก็น้อยทำให้สามารถจำตำแหน่งโต๊ะได้ไม่ยาก ทำให้เหม่ยหลินสามารถช่วยงานเหม่ยฮวาได้ในทันที

 เหม่ยฮวา วันนี้มีคนมาช่วยด้วยงั้นเหรอ ชายคนหนึ่งถามพลางมองไปทางเหม่ยหลินที่กำลังต้อนรับลุกค้าอีกโต๊ะอยู่

 ใช่แล้ว เหม่ยฮวายิ้มกว้างพลางมองเหม่ยหลินด้วยท่าทีดีใจ เหม่ยหลินแทบจะเป็นที่สนใจในทันทีเพราะรูปร่างภายนอกที่ทั้งสวยและงดงาม แถมนางยังเป็นมิตรคุยกับลูกค้าได้อย่างอ่อนหวานอีกต่างหาก

 วันนี้มันอะไรกัน…. ขณะกำลังวุ่นวายกับการต้อนรับลูกค้า อยู่ๆชายคนหนึ่งก็เข้ามาในร้านของเหม่ยฮวาพลางมองสภาพในร้านด้วยท่าทีตกใจ ปกติแล้วจะมีแค่เหม่ยฮวากับมารดาของนางเท่านั้นที่คอยบริการลูกค้า แต่วันนี้ร้านอาหารกลับเปลี่ยนไปราวกับจะกลายเป็นร้านขายดอกไม้ก็ไม่ปาน นอกจากสาวงามประจำเมืองทั้งสองแล้วยังปรากฏสาวงามเพิ่มขึ้นมาอีก 3 คน แถมยังมีเด็กสาวท่าทางน่ารักน่าชังอีก 1 คนเพิ่มเข้ามาอีกต่างหาก ทำเอาผู้มาใหม่ต่างเบิกตากว่างกับการเปลี่ยนแปลงไม่น้อย

 เชิญทางนี้เจ้าค่ะ หงเยว่ว่าพลางเดินเข้าไปต้อนรับลุกค้าใหม่อย่างอ่อนหวาน ด้วยการช่วยเหลือของเหม่ยหลินและเหล่าอสูรทำให้งานในวันนี้เบาลงมากทีเดียว

 เหม่ยฮวา หลังจากผ่านช่วงกลางวันมาแล้ว ลูกค้าที่เข้ามาแน่นร้านก้เริ่มเบาตาลง ทำให้เหม่ยหลินเริ่มมีโอกาสจะได้คุยกับเหม่ยฮวาบ้าง

 คะ ท่านพี่ เหม่ยฮวาตอบรับด้วยท่าทีอายๆ ท่าทางนางจะยังไม่ชินกับคำว่าท่านพี่เท่าไหร่

 ข้ารู้มาว่าวันก่อนมีคนมาขอเจ้าแต่งงานงั้นเหรอ ได้ยินคำถามของเหม่ยหลิน เหม่ยฮวาก็พลันหน้าแดงขึ้นมาทันที แต่พักหนึ่งก็หมองคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด

 เจ้าค่ะ..วันก่อนมีลูกค้าประจำคนหนึ่งมาขอข้าแต่งงาน เหม่ยฮวาว่าพลางก้มหน้าลง ท่าทางนางจะลำบากใจจริงๆ

 เทียนเหวินเป็นคนไม่ดีงั้นเหรอ เหม่ยหลินถามออกไปพลางจ้องมองท่าทีของน้องสาวอย่างตั้งใจ

 ท่านพี่รู้จักพี่เทียนเหวินด้วยเหรอ เหม่ยฮวามีท่าทีตกใจ แต่จะว่าไปคราวก่อนที่นางเห็นเหม่ยหลินนางก็เห็นเหม่ยหลินมากับเทียนเหวินไม่ใช่หรือ

 จ่ะ…พี่ได้ข่าวว่าเจ้าปฏิเสธมันไปใช่หรือไม่ เหม่ยหลินถามด้วยท่าทีสนใจ

 เจ้าค่ะ… เหม่ยฮวาตอบสั้นๆพลางก้มหน้าลงมากกว่าเดิม

 ทำไม่ล่ะ สำหรับข้าแล้วเทียนเหวินก็ไม่ใช่คนไม่ดีนี่นา เหม่ยหลินว่าพลางยิ้มบางๆ แม้นางเองก็เคยปฏิเสธการหมั้นหมายจากมันมารอบหนึ่งแล้วก็ตาม

 ข้าแต่งกับพี่เทียนเหวินไม่ได้หรอก เหม่ยฮวาว่าพลางส่ายหน้าไปมา

 ทำไม่ล่ะ เทียนเหวินไม่ดีตรงไหนงั้นเหรอ เหม่ยหลินถามอย่างสงสัย ในสายตาของเหม่ยฮวาเทียนเหวินเป็นอย่างไรกัน

 ถ้าเรื่องไม่ดีก็….พี่เทียนเหวินเป็นคนสุรุ่นสุร่ายมากเลยล่ะ เหม่ยฮวาว่าพลางนึกภาพเทียนเหวินที่เข้ามาในร้านของตน

 วันๆนึกพี่เทียนเหวินใช้เหรียญทองไปหลายสิบเหรียญ ถึงจะดีเพราะร้านของเราได้กำไรก็เถอะ แต่ถ้าสามีข้าใช้เงินแบบนั้นข้าคงหาเงินไม่ทันแน่ๆ เหม่ยฮวาตอบพลางนึกถึงช่วงที่เทียนเหวินเข้ามาในร้าน มันสั่งอาหารมากมายแถมบ้างครั้งยังเลี้ยงคนในร้านอีกต่างหาก

 ไม่หรอก ข้าไม่คิดว่าเงิน 10 หรือ 20 เหรียญทองจะทำให้ครอบครัวของเทียนเหวินลำบากได้หรอก เหม่ยหลินหัวเราะ ต่อให้เทียนเหวินเอาเงินออกมาโยนเล่นทีละหมื่นเหรียญทอง คลังของราชวงก์ก็ไม่สะเทือนแต่อย่างไร

 ไม่ได้หรอก ถึงจะมีเงินมากมายแต่หากไม่ประหยัดก็จะจนในสักวันนะเจ้าคะ เหม่ยฮวาพูดด้วยท่าทีจริงจัง จะว่าสมแล้วที่เป็นลูกสาวของคนทำมาหากินก็คงได้

 แถมพี่เทียนเหวินวันๆยังเอาแต่มาที้ราน ไม่ยอมทำมาหากิน แบบนี้ใช้ไม่ได้หรอก เหม่ยฮวาว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ

 นะ นั่นสินะ…. เหม่ยหลินพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เรื่องนี้นางเองก็อยากทราบเหมือนกัน ว่าทำไมเทียนเหวินถึงเป็นองค์ชายที่มีเวลาว่างเสียเหลือเกิน แม้จะมีเวลาที่มันกลับวังไปบ้างแต่ก็ออกมาเที่ยวเล่นต่ออย่างรวดเร็ว นางเลยไม่มั่นใจว่ามันได้ทำงานหรือเปล่า

 แถมช่วงนี้พี่เทียนเหวินก็ไม่ยอมมาที่ร้านด้วย… เหม่ยฮวาพูดด้วยสีหน้าหมองหม่นลงเล็กน้อย ตั้งแต่นางปฏิเสธมันไป มันก็มีท่าทีเสียใจอย่างมาก แม้จะทราบว่าเทียนเหวินคงไม่กล้าสู้หน้านาง แต่นางก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเทียนเหวินเป็นตายร้ายดีอย่างไร

 อะไรกันเจ้าเองก็คิดถึงมันงั้นเหรอ เหม่ยหลินว่าพลางยิ้มออกมา

 ก็…ถึงจะมีข้อเสียบ้าง แต่พี่เทียนเหวินก็เป็นคนดีนะเจ้าคะ เหม่ยฮวาหน้าแดงขึ้นเล็กน้อย ความจริงนางก็ไม่ได้เกรียดเทียนเหวินนักหรอก ตรงกันข้ามนางออกจะชอบมันเสียด้วยซ้ำ แม้จะเป็นแค่ลูกค้าแต่เวลาเหม่ยฮวามีเรื่องไม่สบายใจ เทียนเหวินมักจะเป็นคนสังเกตเห็นเสมอ และหาทางแก้ให้ทุกครั้ง ยิ่งพอรู้ว่าเทียนเหวินอยากแต่งงานกับตนเอง เหม่ยฮวาก็แอบดีใจอยู่หลายส่วน เพียงแต่ที่นางปฏิเสธไปไม่ใช่เพราะเหตุผลข้างต้นแต่อย่างไร

 ไม่ใช่ว่าเจ้าเองก็อยากแต่งงานกับมันหรือไงกัน คราวนี้ไม่ใช่เหม่ยหลินที่ถามออกมากลับเป็นหยวนหยวนที่แอบฟังอยู่นานแล้วต่างหาก

 เรื่องนั้น…ไม่ได้หรอก เหม่ยฮวาตอบพลางส่ายหน้า

 ไม่ได้….ไม่ได้แปลว่าไม่หยากนะ หยวนหยวนยิ้มพลางเดินเข้าไปโอบลำคอของเหม่ยฮวาอย่างเอ็นดู พอมองเห็นเหม่ยฮวาแล้วทำเอานึกถึงตอนเหม่ยหลินอายุเท่าๆเหม่ยฮวาเลย พี่น้องคู่นี้หน้าตาคล้ายกันมากทีเดียว

 ถ้าหากเจ้าไม่อยากแต่ง เจ้าก็พูดมาตรงๆเลยว่าทำไมถึงไม่อยากแต่ง หยวนหยวนถามด้วยท่าทีหยอกเย้าราวกับกำลังแกล้งเหม่ยฮวาอยู่ แต่พอให้พูดว่าไม่อยากจะแต่งกับเทียนเหวินตัวเหม่ยฮวากลับพูดไม่ออก

 ข้าแต่งไม่ได้…พี่เทียนเหวินเป็นพ่อค้า หากข้าแต่งเข้าบ้านไปข้าคงมาช่วยงานท่านพ่อไม่ได้ ร้านของเรามีกันแค่ 3 คนข้าทิ้งพวกท่านไปไม่ได้ เหม่ยฮวาว่าพลางส่ายหน้าอีกครั้ง เหตุผลจริงๆของนางนั้นมีเพียงข้อเดียว นั่นคือนางไม่อยากทิ้งครอบครัวไป นางรักท่านพ่อและท่านแม่ของนางมาก

 ถ้าหากข้าจะเป็นเขยแต่งเข้าล่ะ อยู่ๆที่หน้าประตูก็ปรากฏร่างของเทียนเหวินที่โดนไป๋จูเหวินลากเข้ามาแอบฟังอยู่พักใหญ่แล้ว การที่เหม่ยหลินถามเหม่ยฮวานั้นไม่ใช่เพราะนางอยากรู้เพียงอย่างเดียว

 ถ้าข้ามาอยู่ที่ครอบครัวเจ้าแทน เจ้าก็ไม่ต้องจากพ่อแม่ของเจ้าไปแล้วไงล่ะ เทียนเหวินว่าพลางเดินเข้ามาหาเหม่ยหลิน ตัวมันได้ฟังที่เหม่ยหลินบ่นใส่ก็ราวกับร่างตกลงไปในเหวลึกไปแล้ว แต่พอรู้ว่าจริงๆเหม่ยหลินไม่ได้ปฏิเสธมันเพราะไม่ได้รักมันก็ทำให้มันดีใจอย่างมาก หากเหตุผลที่นางไม่ยอมรับคำขอแต่งงานเป็นเพราะไม่อยากจากพ่อแม่ไป งั้นมันก็จะเป็นฝ่ายมาอยู่กับนางเอง

 เทียนเหวิน เจ้าพูดอะไรออกมา เหม่ยหลินที่อยู่ด้านหลังเบิกตากว้าง แม้จะฟังดูเป็นเรื่องไม่หนักหนาที่เทียนเหวินจะตบแต่งเข้าบ้านภรรยา แต่หากทราบว่าตำแหน่งที่แท้จริงของมันคือองค์ชายลำดับที่ 4 เรื่องนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แถมองค์ชายลำดับที่ 1 อย่างอู๋หมิงกำลังออกเดินทางฝึกฝนวิชา ไม่มีท่าทีจะรับสืบทอดบัลลังก์ ทำให้ตำแหน่งรัชทายาทยังไม่แน่นอน แม้จะเป็นองค์ชายเสเพล แต่การชิงตำแหน่งรัชทายาทใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

 หากมันทำให้ข้าได้แต่งงานกับเจ้า ไม่ว่าจะเป็นอะไรข้าก็ยอมสละ เทียนเหวินพูดพลางเดินเข้ามายืนต่อหน้าเหม่ยฮวาด้วยท่าทีจริงจัง

 อะแฮ่ม… อยู่ๆที่ด้านหลังของเหม่ยฮวาก็ปรากฏร่างของเฉินตงบิดาของนางขึ้นมาพร้อมเสียงกระแอมที่ดังจนขาของเทียนเหวินต้องหยุดชะงัก

 อย่าทำเหมือนข้ายอมรับเรื่องนี้แล้วสิ เฉินตงว่าพลางกอดอกด้วยท่าทีเอาเรื่อง

 ระ เรื่องนั้น… เทียนเหวินยิ้มเก้อๆพลางถอยออกไปสองสามก้าวในทันที

 เหม่ยฮวาพึ่งอายุ 15 เจ้าเองก็ยังเด็กนักเทียนเหวิน มารดาของเหม่ยหลินว่าพลางเดินเข้ามาหาเทียนเหวินด้วยท่าทีเอ็นดู

 เอาไว้เหม่ยฮวาอายุมากกว่านี้ก่อนเจ้าค่อยมาขอนางก็แล้วกัน มารดาของเหม่ยฮวาว่าพลางยิ้มบางๆ ตัวนางรู้เรื่องที่เทียนเหวินเป็นคนไปพาเหม่ยหลินกลับมาหานางทำให้คะแนนของเทียนเหวินมีมากทีเดียว แม้สามีนางจะมีท่าทีไม่ยอมแต่นางคงต้องช่วยเทียนเหวินเสียหน่อย

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 131 แต่งเข้า

 

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล

Status: Ongoing

ตุบ! เสียงบางอย่างตกลงมาจากที่สูงทำเอาภายใต้ช่องเขาแห่งนี้เกิดเสียงสะท้อนเลื่อนลั่นไปรอบบริเวณ แต่ถึงจะสร้างเสียงดังเพียงใดก็ไม่มีมนุษย์หน้าไหนอยู่บริเวณนี้ทั้งสิ้น

วูบ… ร่างสีขาวหมดจดร่างหนึ่งปรากฏยังตำแหน่งที่เสียงดังนั้นปรากฏ แม้จะไม่มีมนุษย์แต่สถานที่แห่งนี้กลับเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรตนหนึ่ง มันมีเรือนร่างแปลกพิสดาร ทั่วร่างเป็นสีขาวหม่นหมองทั้งร่าง รูปร่างของมันจะว่าเหมือนแมงมุมหรือก็ไม่ใช่ จะบอกว่าเหมือนมังกรหรือก็ไม่ชัดเจน ทุกคนต่างเรียกขานมันว่าฝันร้ายสีขาว มันเป็นตัวตนที่สร้างความหวาดกลัวให้ทั้งมนุษย์และอสูรด้วยกัน

แกร๊ก ทันทีที่ขาหนึ่งของมันก้าวมาถึงตำแหน่งเสียง ดวงตาทั้ง 8 ของมันก็จดจ้องไปยังร่างของเด็กชายที่ตกลงมาจากหน้าผาด้วยท่าทีประหลาดใจ เหตุใดมนุษย์ถึงไม่ตายหลังจากตกลงมาลึกขนาดนี้ ที่ๆมันอาศัยอยู่ถูกเรียกว่าผาไร้ก้น เพราะหากมองจากด้านบนจะไม่สามารถเห็นก้นเหวได้เลย แม้แต่มองจากก้นผาก็แทบจะเห็นท้องฟ้าเป็นเส้นด้ายเส้นบางๆเท่านั้น เพราะก้นผาแห่งนี้อยู่ลึกอย่างมาก

ขณะสงสัยอยู่ๆอสูรที่มีร่างกายสีขาวก็เริ่มอ้าปากของมันออกช้าๆ เขี้ยวราวกับแมงมุมของมันอ้าออกเผยให้เห็นปากอันกว้างใหญ่ที่หากจะกินเด็กชายตรงหน้าคงกระทำได้ด้วยการกลืนมันทั้งตัวในคำเดียวเท่านั้น แต่ขณะจะกินเด็กชายลงไปทั้งตัว ปากของมันพลันหยุดชะงัก ก่อนจะค่อยๆหุบกลับเช่นเดิม ดวงตาของมันเพ่งมองเด็กชายที่นอนสลบอยู่บนพื้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย ร่างของมันแตกหักยับเยินราวกับตุ๊กตาดินที่ถูกบี้เละเทะ แขนขางองุ้ม ลำตัวแดงบ้างม่วงบ้าง แต่มันกลับยังหายใจอยู่ ด้วยร่างกายที่ยับเยินเช่นนี้มันกลับสามารถประคองชีวิตของมันเอาไว้ได้

 หรือจะเป็นโชคชะตากัน.. อสูรแมงมุมพูดออกมาพลางมองใบหน้าของเด็กชาย ทำไมมันถึงตกลงมาในที่แห่งนี้ได้ ทำไมมันถึงไม่ตาย แล้วทำไมมันถึงไม่คิดจะกินมันกัน…..

แม้แต่ตัวมันยังไม่สามารถหาคำตอบออกมาได้ . . . .

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท