ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) – บทที่ 40 การกลับมา (1)

บทที่ 40 การกลับมา (1)

บทที่ 40 การกลับมา (1)

ณ ศาลาหยกพิสุทธิ์

คนงานในร้านคนหนึ่งกำลังงีบหลับด้วยความเบื่อหน่าย

ในตอนนั้นถังเจิ้นเดินเข้ามาจากด้านนอก เมื่อเห็นภาพที่คนงานผู้นั้นงีบหลับเขาก็หน้าคว่ำทันที จากนั้นเอ่ยขึ้นเสียงเข้ม  ทั้งเกียจคร้าน ไม่มีความกระตือรือร้น หากระจกส่องหน้าตนเองหน่อยเป็นอย่างไร? หากเจ้าไม่อยากทำงานก็ไสหัวออกไป! 

ชายชราสะบัดแขนเสื้อก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน

คนงานผู้นั้นตะลึงงัน หันไปมองเพื่อนคนงานที่อยู่ด้านข้างก่อนพูดขึ้น  หัวหน้าเป็นอะไรไป? เหตุใดจึงอารมณ์ร้ายนัก? 

คนงานอีกคนเหลือบตามองเขา  นายน้อยสี่เดินทางไปยังเทือกเขาสีเลือด เมื่อสองวันก่อนเป็นวันครบหนึ่งร้อยวัน 

 แล้วอย่างไร? 

 เจ้าโง่  อีกฝ่ายตบหัวคนงานผู้นั้น  เทือกเขาสีเลือดเป็นสถานที่ที่อันตรายยิ่งนัก สองวันแล้วนายนายน้อยยังไม่กลับมาก็ยากที่จะรู้ว่าเป็นหรือตาย! แล้วเจ้าคิดว่าหัวหน้าผู้จัดการร้านยังจะอารมณ์ดีได้อีกหรือ? หัดมีไหวพริบเสียบ้าง ถ้าเจ้าไม่อยากเจอปัญหาก็ตั้งใจทำงานเสีย 

คนงานผู้นั้นจึงรีบขจัดความเกียจคร้านของตนเสียราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน เริ่มตั้งใจทำงานในทันที

อารมณ์ของถังเจิ้นไม่ดีอย่างที่คนงานกล่าวจริง ๆ

ชายชรารอฟังข่าวจากซูเฉินมาตั้งแต่เมื่อวาน

ทว่าเคราะห์ร้าย คนที่ตระกูลซูส่งไปรอรับซูเฉินรอมาแล้วถึงสองวันโดยไร้ร่องรอยของซูเฉิน

ยิ่งซูเฉินกลับมาช้าเท่าไหร่ โอกาสที่เขาจะรอดชีวิตกลับมาก็ลดน้อยลงเท่านั้น

เวลาเพียงสองวันก็เพียงพอจะทำให้ใจคนบ้าคลั่งได้แล้ว

 เฮ้อ เจ้าเด็กนั่นคงไม่ได้เอาชีวิตไปทิ้งที่นั่นแล้วใช่หรือไม่? ถุย นี่ข้าพูดอะไรออกมา เจ้าหนูนั่นฉลาดนัก ไม่มีทางเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเขาแน่  ถังเจิ้นพูดปลอบตนอง

 หัวหน้าผู้จัดการร้าน ด้านนอกมีแขกผู้หนึ่งกล่าวว่ามีสินค้าล้ำค่ามากมาย ต้องการพูดคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวด้านในขอรับ  มีเสียงคนงานดังขึ้นจากด้านนอก

สินค้าล้ำค่าและพูดคุยเป็นการส่วนตัวคือศัพท์เฉพาะ หมายถึงมีสินค้าราคาสูงมากที่ไม่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปมาขาย จึงจำเป็นต้องทำการซื้อขายเป็นการส่วนตัวเพื่อปกปิดตัวตน

ถังเจิ้นอยากบอกคนงานว่าวันนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะทำการซื้อขาย ทว่าสุดท้ายก็กดความวุ่นวายในใจตนไว้แล้วกล่าวว่า  เชิญแขกเข้ามา 

หลังจากนั้นไม่นาน คนงานก็นำคนผู้นั้นเข้ามา

คนผู้นั้นสวมชุดผ้าเนื้อหยาบ บนร่างมีหนังสัตว์อสูรคลุม ที่หัวสวมหมวกไม้ไผ่ปิดลงต่ำ ปิดบังใบหน้าไว้เพื่อไม่ให้ผู้ใดเห็น บนหลังแบกถุงที่ใหญ่มากถุงหนึ่ง ใหญ่จนสามารถใส่คนลงไปสองคนได้

เห็นดังนั้น ถังเจิ้นจึงผายมือเชิญแขกอย่างสุภาพ  แขกผู้มีเกียรติเชิญนั่ง วันนี้ท่านจะมาขายสิ่งใด? 

แขกผู้นั้นตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหบต่ำ  หนังสัตว์อสูร 

เมื่อถังเจิ้นได้ยินน้ำเสียงนี้ เขาก็ดูสับสนมึนงง เขามองหน้าแขกผู้มีเกียรติด้วยความสงสัย  มีเพียงหนังสัตว์อสูรหรือ? 

 ยังมีกระดูกสัตว์อสูรและสมุนไพรทำยาด้วย  แขกผู้นั้นตอบสั้น ๆ

นัยน์ตาถังเจิ้นเริ่มเปล่งประกาย

เขาจ้องแขกผู้นั้นนิ่ง  ท่านนำของเหล่านี้มาจากที่ใด? 

 จากเทือกเขาสีเลือด 

 นานเท่าไหร่? 

 หนึ่งร้อยวันที่ผ่านมา 

ถังเจิ้นผุดลุกขึ้นทันที  แขกผู้มีเกียรติต้องการขายในราคาเท่าใด? 

 ราคาใดก็ได้ที่หัวหน้าผู้จัดการร้านถังเห็นสมควร 

น้ำเสียงของเขากลับเป็นปกติในประโยคสุดท้าย

ถังเจิ้นจำน้ำเสียงนี้ได้ในทันที ชายชราจับหมวกไม้ไผ่ของแขกผู้นี้เอียงไปด้านหลัง เผยให้เห็นใบหน้าอันแสนคุ้นเคยของซูเฉิน

 เจ้าหนูนี่ กล้าหลอกข้างั้นหรือ!  ถังเจิ้นตีซูเฉินเข้าให้ ความกังวลในหัวใจคลายลง

ในตอนที่เขากำลังหัวเราะเสียงดังนั่นเอง ซูเฉินก็ส่งเสียง  ชู่  ใส่เขา เตือนอีกฝ่ายว่าอย่าส่งเสียงดังนัก

ซูเฉินหัวเราะเสียงต่ำ  ข้าจะกล้าหลอกหัวหน้าผู้จัดการร้านได้อย่างไร? ข้าจำเป็นต้องทำแบบนี้ต่างหาก 

ถังเจิ้นชะงักไป  ท่านหมายความว่าอย่างไร? 

 อย่างที่ข้าว่าไป ข้ามีของล้ำค่ามากมายมาขายท่านและต้องการพูดคุยเป็นการส่วนตัว  ซูเฉินยิ้มบาง

จากนั้นเขาจึงวางถุงผ้าลงตรงหน้าถังเจิ้นแล้วนำของออกมาให้ถังเจิ้นดู

ถังเจิ้นตกตะลึงไปในทันที

 นี่คือหนังแมวป่าเงาลวง เขี้ยวของหมียักษ์เขี้ยวยื่น… ส่วนนี่คือหนังของเจ้าเกล็ดทะมึน สวรรค์ นี่มันหนังพยัคฆ์สีรุ้งสองหางใช่หรือไม่? น่าเสียดายที่สภาพไม่ค่อยสมบูรณ์ แต่น่าจะพอเอามาทำชุดคลุมหรือเสื้อได้…… สวรรค์โปรด หนังสัตว์อสูรมากมายจริง ๆ แถมยังเป็นอสูรร้ายทั้งหมดเลยด้วย นี่ท่านไปปล้นร้านของตระกูลอื่นมาหรือ?  ถังเจิ้นไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ตนเห็น

ทว่าจากนั้นชายชราก็เข้าใจ เขามองไปทางซูเฉินก่อนจะพูดขึ้นช้า ๆ ทีละคำ  ท่านสังหารเจ้าพวกนี้ด้วยตนเองทั้งหมดเลยหรือ? 

ซูเฉินพยักหน้า  ในถุงนี้มีหนังอสูรร้ายทั้งหมดอยู่สามสิบเจ็ดชิ้น แล้วยังมีหนังและกระดูกจากอสูรชั้นต่ำธรรมดาที่ข้าไม่สามารถขนกลับมาได้อีก ข้าเก็บพวกมันไว้ในถ้ำ ท่านสามารถส่งคนไปเอาของวันหลังได้ 

 ท่านทำได้อย่างไร?  ถังเจิ้นมองซูเฉินด้วยสีหน้ามึนงง

อสูรร้ายพวกนี้มีพลังเทียบเท่าได้กับผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดด่านก่อเกิดลมปราณ ไม่ใช่สัตว์อสูรที่สามารถสังหารได้อย่างง่ายดาย ทว่าซูเฉินกลับสังหารและนำของกลับมาได้มากมายขนาดนี้ ถึงตอนนี้ดวงตาของเขาจะสามารถมองเห็นไม่ได้มืดบอดอีกต่อไป แต่เรื่องแบบนี้อย่างไรก็เป็นไปไม่ได้ไม่ใช่หรือ?

 เป็นความลับที่ข้าต้องการเก็บไว้ไม่ให้ผู้ใดรู้  ซูเฉินหัวเราะเสียงเบา

ถังเจิ้นเข้าใจเรื่องราวในทันที  ท่านไม่อยากให้คนในตระกูลซูรู้ว่าแท้จริงแล้วท่านได้ประโยชน์กลับมามากมายหรือ? 

 ข้าไม่อยากให้มีคนรู้เรื่องมากนักยกเว้นท่าน  ซูเฉินกล่าว ก่อนจะยื่นมือออกมา กระแสลมหมุนเริ่มก่อร่างขึ้นเป็นเกลียวอยู่บนฝ่ามือของเขา

ตัวกระแสลมหมุนนั้นไม่ใช่สิ่งวิเศษอันใด หากสามารถควบคุมพลังต้นกำเนิดได้ ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้

สิ่งที่วิเศษคือความหมายเบื้องหลังกระแสลมหมุนต่างหาก

กระทั่งถงเจินที่ไม่ใช่ผู้ฝึกตนยังสามารถเข้าใจได้ในทันที เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปีติยินดี  ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดแล้ว! 

ซูเฉินพยักหน้า  เรื่องนี้ก็เป็นความลับเช่นเดียวกัน 

 นายหญิง…… มีบุตรชายที่ดีจริง ๆ  ชายชรารู้สึกหวานอมขมกลืน เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยปากถามขึ้น  ท่านจะบอกท่านแม่ของท่านหรือไม่? 

ซูเฉินส่ายหน้า  รอบตัวท่านแม่มีคนมากเกินไป อาจมีคนของซูเค่อจี่หรือหยานหวู่ชวงอยู่ก็เป็นได้ หากข่าวนี้แพร่ออกไปคงไม่ดี ตอนนี้ยังไม่ต้องบอกนางน่าจะดีที่สุด 

ถังเจิ้นถอนหายใจออกมา วางมือตนบนไหล่ของซูเฉิน  ท่านแม่ท่านเป็นห่วงท่านมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รู้เลยว่าบุตรชายของตนได้เติบโตขึ้นแล้ว 

 ในสายตาของข้า นี่เพิ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นต่างหาก  ซูเฉินตอบ

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ซูเฉินชำระล้างร่างกายเสร็จแล้วเปลี่ยนเป็นชุดสะอาดสะอ้าน ท่าทางหยาบคายดั่งคนที่อาศัยอยู่ในพงไพรเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นความสง่างามแบบที่เขาเคยเป็น

เด็กหนุ่มนั่งลงบนที่นั่งของตน จิบชาที่ถังเจิ้นชงให้ หลังจากลำบากมากว่าร้อยวัน ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าการกลับมายังแดนมนุษย์ที่อุดมสมบูรณ์เช่นนี้ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองต่อสิ่งที่เขาเคยมองว่าไร้ค่ามาเป็นมีคุณค่ากับตนมากกว่าเก่า

 แล้วท่านคิดจะทำอย่างไรต่อไป?  ถังเจิ้นถาม

 จัดการเรื่องตรงนี้ให้จบเสียก่อน จากนั้นข้าถึงจะกลับตระกูลซูอย่างเป็นทางการ  ซูเฉินตอบ

 การซื้อขายสำเร็จแล้ว นายน้อยต้องการให้ข้าจ่ายเป็นทองคำบริสุทธิ์หรือเป็นหินพลังต้นกำเนิด? 

มูลค่าของทองคำบริสุทธิ์กับหินพลังต้นกำเนิดระดับต่ำนั้นมีค่าพอ ๆ กัน เพียงแต่การนำไปใช้ต่างกันเท่านั้น

 ตอนนี้ข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดแล้ว เช่นนั้นใช้เป็นหินพลังต้นกำเนิดเถิด 

 ตกลง มีหนังอสูรร้ายทั้งหมดสามสิบเจ็ดชิ้น มีขนาดและคุณภาพแตกต่างกันไป ข้านับว่าหนังสัตว์อสูรหนึ่งชิ้นเท่ากับหินพลังต้นกำเนิดหนึ่งก้อนก็แล้วกัน ของอย่างอื่นข้าให้ชิ้นละสามก้อน ฉะนั้นทั้งหมดเป็นหินพลังต้นกำเนิดสี่สิบก้อน นายน้อยคิดว่าอย่างไร? 

ซูเฉินหัวเราะ  ข้าคงได้แต่ขอบคุณหัวหน้าผู้จัดการร้านแล้ว 

หนังอสูรร้ายระดับต่ำหนึ่งชิ้นปกติแล้วมีราคาเท่ากับหินพลังต้นกำเนิดหนึ่งก้อน ราคานี้ปกติยังเป็นราคาของหนังอสูรร้ายขนาดใหญ่ อสูรร้ายตัวเล็กอย่างแมวป่าเงาลวงปกติแล้วมีมูลค่าต่ำกว่าทว่าถังเจิ้นให้ราคาทุกชิ้นเท่ากับราคาของหนังเต็มชิ้น ดังนั้นการนำของมาขายในร้านของตระกูลตนเองเป็นเรื่องดียิ่ง หากถังเจิ้นไม่บอกกล่าวถึงที่มาของของเหล่านี้ ราคาก็จะไม่ตก อีกอย่างพวกเขาสามารถร่วมมือกันและสามารถแลกเปลี่ยนกันได้อย่างเปิดเผย แทนที่เงินจะเข้าคฤหาสน์ เงินเหล่านี้จะได้เข้ากระเป๋าตนเอง

เมื่อจัดการธุระแล้ว เด็กหนุ่มจึงถามขึ้น  ระหว่างที่ข้าไม่อยู่ ครอบครัวและที่บ้านข้าเป็นอย่างไรบ้าง? 

ถังเจิ้นส่ายหน้า  ทุกอย่างเรียบร้อยดี ทว่าท่านไม่กลับมาในวันที่กำหนด ท่านแม่ท่านจึงเป็นห่วงท่านมาก หากเป็นไปได้ท่านควรรีบกลับไปเพื่อไม่ให้นายหญิงต้องเป็นห่วงมากนัก 

 อีกเดี๋ยวข้าจะกลับไป 

 ใช่แล้ว ข้ารู้ตัวคนที่สั่งเหลาอวี้มาแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงมืออันใด ตอนนี้พวกเราไม่รู้ว่าใครเป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลังคนผู้นั้น 

 ข้าเข้าใจแล้ว จะว่าไป ลูกชายของเหลาอวี้เล่า? 

เขาไม่มีเงินพอไปจ่ายหนี้ จึงถูกตัดแขนทิ้ง ตอนนี้กลายเป็นคนพิการ…… จากนี้ต่อไปเหลาอวี้ไม่ต้องกังวลเรื่องบุตรชายของตนอีกต่อไป 

ซูเฉินเงียบไป

 

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)

Status: Ongoing

ซูเฉินเคราะห์ร้ายสูญเสียการมองเห็นจากการเผชิญหน้ากับชายแก่ลึกลับ จากเด็กหนุ่มที่เคยยืนอยู่จุดสูงสุดในตระกูลกลับร่วงลงมาสู่ก้นเหวแห่งความมืดมิด แม้จะทุกข์ทรมานกับโลกอันดำมืด แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้โดยง่าย ซูเฉินยังคงมุ่งมั่นฟันฝ่าอุปสรรคต่อไป เพื่อลิขิตโชคชะตาของตัวเองและเผ่ามนุษย์ขึ้นเสียใหม่!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท