ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 26 เพื่ออาหารกลางวัน

ตอนที่ 26 เพื่ออาหารกลางวัน

เดิมเป็นสถานการณ์ที่ถึงทางตัน แต่พออาจารย์ปู่ออกมา ไม่ถึงสองนาทีก็คลี่คลายลงเสียแล้ว สำนักชิงหยางแสดงออกให้เห็นอย่างลึกซึ้งแล้วว่าสปิริตของคำว่า หาเรื่องผู้น้อย เอาคืนโดยผู้ใหญ่

เพื่อเป็นการป้องกันฝูงผีจะออกไปปั่นป่วนข้างนอกอีก ก่อนกลับไปยอดเจดีย์ เยี่ยยวนได้โยนยันต์ลงมาสองใบ หนึ่งในนั้นเป็นยันต์เก็บวิญญาณ ชายแก่แค่สะบัดยันต์ออกไป ผีสาวทั้งหลายที่นอนกองอยู่บนพื้น อ่อนแอราวกับจะสลายไป ก็ได้เข้าไปอยู่ในยันต์ก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นเป็นที่เรียบร้อย

ไป๋อวี้ตะลึง สมกับที่เป็นยันต์ของอาจารย์ปู่ ปกติแล้วยันต์เก็บวิญญาณหนึ่งใบใช้เก็บวิญญาณร้ายหนึ่งตนยังต้องเสียแรงมาก แต่นี่ใช้เพียงแค่ใบเดียวกลับเก็บได้ทั้งหมด ทันใดนั้นเขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา พลิกยันต์ไปมาเพื่อพินิจ แต่ก็ดูไม่ออกว่าในนั้นมีกลไกอะไร

นึกไปนึกมา กลับรู้สึกหนักใจ

ยันต์ใบนี้เก็บผีไว้มากมาย เขากับเจ้าหนูไม่เคยเรียนวิชาสำหรับการส่งวิญญาณ เหล่าผีสาวนี่ก็ไม่หลงเหลือซึ่งสติสัมปชัญญะ ไม่สามารถเข้าสู่ยมโลกได้ด้วยตัวเอง คงไม่อาจขังพวกนางไว้ในยันต์ได้ตลอด

เขาอดไม่ได้ที่จะหันไปมองเทพแห่งการเรียนด้านข้าง  เจ้าหนู ต่อไปต้องทำยังไง 

อวิ๋นเจี่ยวหันไปมองรอบด้านที่พังเละเทะ ถึงได้เอ่ยด้วยเสียงทุ้ม  ข้าคิดว่า ที่สำคัญคือเก็บกวาดห้องครัวก่อนค่อยว่ากัน 

 …  ชายแก่สะอึก นึกไปถึงคนที่รอกินข้าวอยู่บนยอดเจดีย์ ละทิ้งความคิดจะขึ้นไปถามอาจารย์ปู่ว่าจะจัดการอย่างไรกับผีสาวดี

 ตอนนี้ใกล้แปดโมงแล้ว  อวิ๋นเจี่ยวเงยหน้ามองท้องฟ้า ก่อนจะเอ่ยต่อ  ห้องครัวพังเช่นนี้ ถึงจะเก็บกวาดเสร็จก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งวัน หากไม่รีบทำให้ทันมื้อกลางวันละก็… 

นางไม่ได้พูดต่อไป แต่ชายแก่กลับสะดุ้งขึ้นมาทีหนึ่ง ราวกับนึกถึงสีหน้าตอนที่อาจารย์ปู่โกรธขึ้นมาได้ พยักหน้าอย่างแรง  เจ้าพูดถูก! เก็บกวาดห้องครัวสำคัญที่สุด ไปๆ รีบทำ  ผีร้ายอะไรไม่น่ากลัวเท่าอาจารย์ปู่!

พูดจบพลันหันซ้ายหันขวา มองหาอุปกรณ์ ก้มลงเห็นที่มือมียันต์ที่อาจารย์ปู่ให้ไว้อีกหนึ่งใบ พร้อมเอ่ยปากถาม  จริงสิเจ้าหนู ยันต์นี้ไว้ทำอะไร 

 ไม่รู้!  อวิ๋นเจี่ยวส่ายหัว รูปบนยันต์นั้นเป็นรูปที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน บนตำราก็ไม่มี  ท่านลองใช้ดูก็รู้  ในเมื่ออาจารย์ปู่ให้มาก็ต้องมีประโยชน์

 เจ้าพูดถูก!  ไม่แน่อาจใช้สำหรับส่งวิญญาณผีสาวก็เป็นได้! เขายกมือขึ้นสะบัดยันต์วิเศษในมือ นาทีถัดมา เห็นเพียงแต่แสงสีทองสว่างขึ้นมา ยันต์ทั้งใบกลายเป็นแสงทองพุ่งออกไป หยุดอยู่บริเวณทางขวาของเศษซากอาคารด้านหน้า

ตามมาด้วยการสั่นสะเทือนของพื้นดิน ผนังที่พังทลายลงไปอยู่บนพื้นนั้นลอยขึ้นมาราวกับไร้แรงโน้มถ่วง และรวมตัวกันเป็นรูปเป็นร่างโดยอัตโนมัติ ยิ่งก่อยิ่งสูง ทันใดนั้นก็กลายเป็นผนังใหม่ทั้งแผ่นถูกก่อขึ้น อีกทั้งเสาไม้ในห้องก็เริ่มที่จะคืนสู่สภาพเดิม

ทั้งสองตะลึงไปสักพัก จ้องมองไปยังบริเวณที่เดิมยังรกรุงรังอยู่นั้น กลับมีอาคารที่เหมือนกับแต่ก่อนหลังหนึ่งเกิดขึ้นราวกับย้อนเวลา พร้อมทั้งยังมีร่องรอยไหม้ที่แต่ก่อนทำไว้อย่างไม่ได้ตั้งใจก็เก็บรักษาไว้ได้อย่างดี

 หรือ…หรือนี่จะเป็นยันต์คืนสภาพที่เล่าลือ!  ไป๋อวี้เบิกตาโพลงอย่างเหลือเชื่อ  นี่เป็นยันต์วิเศษระดับสูง เล่าลือกันว่าสามารถรักษาแผล ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายกลับสู่สภาพที่ดีที่สุด! เล่ากันว่ามีสรรพคุณในการฟื้นคืนชีพอีกด้วย!  เขายิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ดวงตาลุกวาว  ไม่คิดว่าจะมียันต์วิเศษชนิดนี้จริงๆ สมกับที่เป็นอาจารย์ปู่! 

อวิ๋นเจี่ยวก็ตะลึงไปเช่นกัน ฟื้นคืนชีพ! เรื่องจริงหรือหรอก?

 ดีจริง อาจารย์ปู่ช่วยพวกเราซ่อมแซมสำนักชิงหยาง!  ไป๋อวี้มีสีหน้าเต็มไปด้วยความตื้นตัน

เห็นแสงสีทองบริเวณรอบด้านสว่างขึ้นอย่างต่อเนื่อง ห้องที่อยู่ตรงข้ามก็สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มที่จะกลับคืนสภาพปกติ

จากนั้น…แสงก็หยุดลง!

(⊙_⊙)?

เอ๊ะ! หยุดแล้ว? ไหนบอกว่าซ่อมสำนักชิงหยางไง? นี่แค่ห้องเดียวเองไหม?

ชายแก่รอแล้วรอเล่า มั่นใจแล้วว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดอีก แสงสีทองนั้นก็มืดดับลงไป

ท่ามกลางซากของอาคารหลายหลัง มีเพียงห้องเดียวที่ยังคงสมบูรณ์ไม่มีร่องรอยของการถูกทำลายตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง

อย่าแปลกใจไป นั่นคือห้องครัว!

ไป๋อวี้  … 

อวิ๋นเจี่ยว  … 

ในใจมีคำว่า เอ็มเอ็มพี ไม่รู้ว่าควรพูดออกมาหรือเปล่า!

——————

อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกว่าการทำกับข้าวมันก็ไม่ยาก เพราะนางเองก็ทำจนชินแล้ว แต่ที่สำคัญคือพวกนางไม่มีเสบียงแล้ว! วัตถุดิบเป็นปัญหาใหญ่เลยทีเดียว

 หรือไม่พวกเรารีบไปซื้อที่ตลาด  ไป๋อวี้เอ่ย

 ไม่ทันแล้ว  จากที่นี่ไปตลาดไปกลับอย่างน้อยตั้งหลายชั่วโมง มื้อค่ำยังพอมีความหวัง มื้อกลางวันคงไม่ทันแน่ ทันใดนั้นนางก็รู้สึกคิดถึงบริการส่งอาหารในโลกของนางเป็นอย่างมาก

 งั้นทำยังไง 

 ช่างเถอะ ข้าจะคิดหาวิธี!  อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจ

สุดท้ายก็ทำมื้อกลางวันได้ทันเวลา เพียงแต่ไม่มีน้ำแกงไก่ที่เยี่ยยวนต้องการ เพียงแค่ทำน้ำแกงผักที่หลากหลายรสชาติเท่านั้น ถึงแม้จะไม่หอมเท่าน้ำแกงไก่ แต่ดีที่มีปริมาณเพียงพอ

ไป๋อวี้เดิมยังมีความเป็นห่วงว่าอาจารย์ปู่จะโกรธขึ้นมาอีก แต่ไม่คิดว่าเขาเพียงแค่ขมวดคิ้วเล็กน้อย และนั่งลงอย่างไม่พูดอะไรสักคำ ก่อนจะตั้งใจกินน้ำแกงที่รสชาติหลากหลายทั้งโต๊ะคนเดียวอย่างเงียบๆ แต่ก็ยังไม่วายที่จะหันไปมองไป๋อวี้ด้วยสายตามองโจร ราวกับจะเอ่ยว่า บอกแล้วว่าห้ามกิน อย่าคิดว่าจะรอดพ้นจากสายตาข้า!

ไป๋อวี้ที่แม้แต่ใบผักกาดขาวก็ไม่ได้กินนั้น อดไม่ได้ที่จะผลักอวิ๋นเจี่ยวที่นั่งนิ่งอยู่ด้านข้างเบาๆ ก่อนจะกดเสียงต่ำ  เจ้าหนู เจ้าว่าทำไมอาจารย์ปู่ถึงชอบกินน้ำแกงขนาดนี้  อีกทั้งยังไม่เลือกอีกด้วย

อวิ๋นเจี่ยวคิดไปคิดมา ก่อนจะตอบเขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง  อาจเป็นเพราะควันธูปแห้งเกินไป  ในเมื่อเขากินมากว่าหลายพันปีแล้ว

 …  อธิบายแบบนี้ก็ได้เหรอ

แต่ว่า เหมือนกับว่าสมเหตุสมผลดี!

ดังนั้น เขาอยู่ในอารามหลายสิบปีนี้ อาจารย์ปู่ไม่เคยมาปรากฏตัว เพราะว่าเขาบูชาของผิดเหรอ

=_=

อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้สนใจเขา มองไปยังคนตรงข้ามที่กินน้ำแกงถ้วยสุดท้ายหมด นางยื่นมือออกไปรับ เพราะจะเก็บโต๊ะด้วยความเคยชิน  ส่งถ้วยให้ข้า 

 อืม  เยี่ยยวนกำลังจะยื่นมา เงยหน้าพบว่าเป็นนาง ทันใดนั้นก็ชะงักมือ ถ้วยที่อยู่ในมือเกือบจะหล่นลงไป เขาลุกพรวดขึ้น ก่อนจะถอยออกไปหนึ่งก้าวใหญ่

อวิ๋นเจี่ยว  …  นางเป็นเชื้อโรคเหรอไง

ราวกับรับรู้ถึงปฏิกิริยาของตัวเองเกินเหตุ เยี่ยยวนมองนางสลับกับมองถ้วย ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ถอยออกไปอย่างระแวง ราวกับนึกอะไรขึ้นได้ หันไปยัดถ้วยใส่ในมือของไป๋อวี้ พร้อมกล่าวกำชับอย่างจริงจัง  เจ้าล้าง! 

เอ๋?

พูดจบ ราวกับรู้สึกยังไม่พอ หันไปหยิบถ้วยเปล่าใบอื่นบนโต๊ะยัดให้เขา พร้อมเอ่ยเสริม  ในฐานะเป็นศิษย์ของเสวียนเหมิน จะกินอย่างเดียว ไม่ทำงานได้อย่างไร 

ไป๋อวี้ที่ถูกยัดถ้วยเปล่าใส่มือ  … 

จะว่าไปเมื่อกี้เหมือนเขาไม่ได้กินอะไรเลยนะ? ทำไมคนที่ล้างจานก็ยังเป็นเขา!? อาจารย์ปู่ท่านลำเอียงอย่างเห็นได้ชัดเลย?!

เยี่ยยวนไม่คิดแม้แต่จะอธิบาย หันหลังเดินออกจากประตูไป แต่ฝีเท้านั้นกลับดูเร่งรีบ เดินกลับเจดีย์ด้วยเท้าราวกับลืมว่าตัวเองนั้นบินได้

อวิ๋นเจี่ยวถึงได้เก็บมือขวาของตัวเองที่ยื่นออกไป มองไปยังฝ่ามือที่ว่างเปล่า ทันใดนั้นราวกับเข้าใจอะไรบางอย่าง เงยหน้ามองไปยังทิศทางของเจดีย์

จะว่าไป อาจารย์ปู่ของพวกเขาคงไม่…

[1] เอ็มเอ็มพี หมายถึง อักษรย่อยอดนิยมที่ใช้บนอินเทอร์เน็ตของชาวจีน ซึ่งเป็นคำด่าในภาษาท้องถิ่นจีนเสฉวน

 

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing

คำโปรย

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบินขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่งรัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท