ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 43 พาเพื่อนมาหาหมอ

ตอนที่ 43 พาเพื่อนมาหาหมอ

 อู๊ววว  เมื่อเห็นว่านางยังคงนิ่งอยู่ เจ้าจิ้งจอกก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย และร้องเรียกนางอีกสองสามครั้ง จากนั้นจึงกระโดดลงจากขอบหน้าต่าง มุดเข้าพงหญ้าด้านข้าง ไม่นานนักก็คาบอะไรบางอย่างแล้วลากออกมาจากด้านใน เมื่อดูอย่างละเอียดก็พบว่าเป็นไก่ป่าที่ตายแล้วหลายตัว

ดี ขนาดค่ารักษายังพกมาด้วย

อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจแล้วเดินไปบอกกับมันว่า  ข้าจะดูอาการก่อน แต่ไม่รับปากว่าจะรักษาได้!  ในเมื่อนางเองก็ไม่ใช่สัตวแพทย์

ดูเหมือนเจ้าจิ้งจอกจะเข้าใจที่นางพูด มันวางไก่ป่าในปากลงทันทีแล้วกระโดดกลับมาที่ขอบหน้าต่าง มองดูหมาป่าขนเทาอย่างเป็นห่วง

อวิ๋นเจี่ยวเหลือบมองหมาป่าขนเทา ดูเหมือนจะเป็นลูกหมาป่า ตัวของมันไม่ใหญ่มาก พอๆ กับสุนัขขนาดกลาง ดูเหมือนว่ามันจะบาดเจ็บที่ท้อง ท้องของมันมีรูขนาดเท่ากำปั้นและมีเลือดออกมาจำนวนมาก ชีวิตของสัตว์ป่าช่างเข้มแข็ง

อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจ นางกำลังจะช่วยหยุดเลือดให้เจ้าหมาป่า แต่พบว่าขอบแผลของมันเป็นสีดำและมีกลิ่นไหม้ นี่คือ…บาดแผลจากกระสุนปืน? ในโลกนี้มีการแอบล่าสัตว์ด้วยเหรอ?

พอมองเข้าไปใกล้ๆ ก็พบว่ามันไม่ใช่บาดแผลจากกระสุนปืน แต่เป็นบาดแผลที่เกิดจากการถูกระเบิดมากกว่า แผลนั้นจึงทิ้งรูใหญ่ๆ ไว้อย่างนั้น อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้คิดลึกลงไปว่ามันคืออะไร นางดูอาการของมันแล้วพูดว่า  นอนราบอย่าขยับ ข้าจะไปเอาเครื่องมือมา 

หลังจากที่พูดจบ นางก็รู้สึกพูดไปก็ไร้ประโยชน์ สัตว์ตัวน้อยจะเข้าใจได้อย่างไร หันกลับเข้าห้องอย่างรวดเร็วและหยิบเครื่องมือที่อาจารย์ปู่เตรียมไว้ให้ออกมา เมื่อนางหันกลับมาก็พบว่าหมาป่าขนเทาที่ขอบหน้าต่างหายไปแล้ว

 อู้ว…อู้ว  จิ้งจอกร้องเรียกนางอีกครั้ง นางหันหน้าไปพบว่าหมาป่าขนเทาถูกย้ายไปที่โต๊ะหินในสวน และนอนราบตามคำสั่ง เผยให้เห็นบาดแผลบนตัวของมันออกมา

อวิ๋นเจี่ยวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งในความร่วมมือของสัตว์ตัวน้อย นางไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าจิ้งจอกตัวเล็กตัวนั้นแบกหมาป่าขนเทาไปได้อย่างไร นางเดินตรงไปที่โต๊ะหินทันที

 เอ๊ะ?  นางกำลังจะหยุดเลือดและเย็บแผล แต่พบว่ามีบางอย่างอยู่ในร่างของหมาป่า ตอนแรกนางยังไม่ทันสังเกต แต่ตอนนี้พอมองใกล้ๆ ก็พบว่ามีพลังสีดำบางอย่างกำลังไหลเวียนอยู่ในเส้นชีพจรของมัน และค่อยๆ รุกล้ำเข้าสู่เส้นเลือดหัวใจ

ทำไมสถานการณ์มันช่างคุ้นเคยนัก นางก้มหัวลงและเหลือบมองเจ้าจิ้งจอกที่อยู่ข้างเท้า ในตอนที่นางช่วยเจ้าจิ้งจอกนั้น อาการมันก็เป็นเหมือนในตอนนี้ ทันใดนั้นนางรู้ทันทีว่าต้องทำอย่างไร นางวางมีดผ่าตัดลง และหยิบเข็มเงินขึ้นมาเพื่อผนึกเส้นเลือดหัวใจของหมาป่าขนเทา สกัดกั้นพลังสีดำไม่ให้บุกรุกเข้าที่หัวใจ จากนั้นพินิจทิศทางเส้นลมปราณของอีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง ในหัวผุดภาพของข่ายพลังที่จะใช้และหยิบเข็มขึ้นมาปักลงไป

ในเวลาไม่นาน ข่ายพลังปรากฏขึ้นบนบาดแผล เลือดที่ไหลในตอนแรกหยุดลงทันที และพลังสีดำที่เจาะเข้าไปดูเหมือนจะถูกอะไรบางอย่างชักนำ เริ่มถอยออกไปอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก่อตัวขึ้นบริเวณกลางข่ายพลัง ไม่ถึงห้านาที พลังสีดำเหล่านั้นก่อตัวขึ้นเป็นลูกแก้วสีดำ และข่ายพลังก็หยุดและค่อยๆ มืดลง

อวิ๋นเจี่ยวหยิบลูกแก้วสีดำนั้นออกมา จากนั้นถึงเริ่มดึงเข็มที่อยู่รอบๆ ออกอย่างช้าๆ เหลือเพียงแค่เข็มที่ปักไว้เพื่อหยุดเลือด จากนั้นก็เริ่มเย็บแผล เครื่องมือทางการแพทย์ในโลกนี้มีจำกัด นางไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะมีการติดเชื้อหรือไม่จากการเย็บแผลแบบนี้

แต่เมื่อเห็นว่าเจ้าจิ้งจอกนั้นยังกระโดดโลดเต้นได้อยู่ อีกทั้งยังสามารถส่งอาหารให้นางเพื่อทดแทนบุญคุณได้ นางจึงสันนิษฐานว่าโครงสร้างของสัตว์ในโลกนี้คงแตกต่างจากโลกของนาง ใช่แล้ว อาหารที่ปรากฏบนขอบหน้าต่างของนางทุกวัน น่าจะถูกส่งโดยเจ้าจิ้งจอกตัวนี้ จึงไม่แปลกที่ไม่ว่าพวกนางจะติดยันต์ที่หน้าต่างไว้กี่ใบ ก็ยังคงหาคนส่งอาหารมาไม่ได้ ผลสุดท้ายปรากฏว่าที่แท้ก็ไม่ใช่คน

อวิ๋นเจี่ยวใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีในการรักษา แต่เย็บแผลใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมง เมื่อแผลเย็บเสร็จ นางจึงโล่งใจในทันที เก็บเข็มที่ใช้ปิดกั้นความรู้สึกเจ็บปวดและทำให้เส้นประสาทเป็นอัมพาตออก

 เสร็จแล้ว!  นางหันกลับมามองเจ้าจิ้งจอก รู้สึกว่ามันจะเข้าใจคำพูดของนาง ดังนั้นนางจึงกำชับมันอีกสองสามคำว่า  มันห้ามขยับในเวลาสี่ชั่วโมง ให้รอฤทธิ์ของเข็มผ่านไปก่อนถึงจะขยับได้ 

พูดจบก็เก็บเครื่องมือจนเสร็จ แล้วเดินหันหลังกลับเข้าไปในห้อง ลังเลว่าจะสั่งยาให้ดีหรือไม่ เพราะอย่างน้อยมันก็จ่ายค่ารักษา แต่ก็กลัวว่าเจ้าสัตว์ตัวเล็กจะทนฤทธิ์ยาไม่ได้ เมื่อนางหันกลับมาก็พบว่าหมาป่าขนเทาบนโต๊ะหินหายตัวไปแล้ว กระทั่งเจ้าจิ้งจอกน้อยก็หายไปด้วย

นางมองไปรอบด้าน ยังดี! ‘ค่ารักษา’ หลายตัวยังอยู่ที่ขอบหน้าต่าง!

 จิ้งจอก?  ไป๋อวี้รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย  เจ้าหมายถึงอาหารในหลายวันมานี้ เจ้าจิ้งจอกที่เจ้าช่วยไว้ก่อนหน้านี้เป็นคนส่งมาให้ 

 ใช่  อวิ๋นเจียวพยักหน้า  จิ้งจอกตัวนั้นดูฟังภาษาคนออก 

 เปิดสติสัมปชัญญะแล้วย่อมฟังภาษาคนออก  บางทีอาจเป็นเพราะกำลังดื่มน้ำแกงไก่ อาจารย์ปู่แทรกขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี

 จิ้งจอกที่เปิดสติสัมปชัญญะ!  ไป๋อวี้เบิกตากว้าง ราวกับคิดอะไรบางอย่างขึ้นได้ พูดอย่างอ่อยๆ  มันไม่ใช่มารใช่หรือไม่? 

อาจารย์ปู่ใช้สายตามองคนปัญญาอ่อนมองดูเขา  มันก็แค่สัตว์ฉลาดเพิ่งเปิดสติสัมปชัญญะ ไม่ใช่มาร  แต่หมาป่าขนเทานั้น เขารู้สึกได้ถึงพลังมารจากตัวมันเล็กน้อย แม้ว่ามันจะไม่ถือว่าเป็นมารที่สมบูรณ์ แต่มันก็ได้เริ่มฝึกฝนแล้ว

ไป๋อวี้อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย มารร้ายอะไรน่ากลัวกว่าผีร้ายเยอะเลย

 อาจารย์ปู่ มันจะไม่เป็นภัยต่อเจ้าหนูใช่ไหม! 

เยี่ยยวนวางชามเปล่าในมือของเขาแล้วยื่นให้อวิ๋นเจี่ยวอย่างเป็นธรรมชาติ ส่งสัญญาณให้นางเติมให้เต็มแล้วใช้เวลาช่วงว่างที่นางตักน้ำแกงตอบกลับ  ถึงจะเป็นมาร มันก็ไม่ทำร้ายคนโดยไม่มีเหตุผล สัตว์ทั้งสองนั้นไม่ได้ประสงค์ร้ายต่ออวิ๋นเจี่ยว ในเมื่อมันต้องการตอบแทนบุญคุณก็ปล่อยให้มันตอบแทนไป  เยี่ยยวนไม่สนใจอะไรมากนัก นอกจากนี้ในอารามยังมีเขาอยู่ เจ้าสัตว์เล็กทั้งสองนั้นไม่กล้าทำอะไรภายใต้สายตาเขาหรอก คิดไปคิดมาก็พูดเสริมอีกหนึ่งประโยค  บอกให้เอาไก่มามากกว่านี้ 

อร่อย!

(๑>؂<๑)۶

อวิ๋นเจี่ยว  … 

ไป๋อวี้  … 

เมื่อเทียบกับความกังวลของไป๋อวี้ อวิ๋นเจี่ยวกลับรู้สึกว่าไม่เป็นอะไร เพราะว่าการตอบแทนของจิ้งจอกช่วยลดค่าใช้จ่ายในอารามได้อย่างมาก บุญคุณอย่างนี้สามารถทดแทนได้อีกหลายรอบ

ดังนั้น อวิ๋นเจี่ยวจึงไม่คิดมาก ในทุกวันยังคงมีวัตถุดิบต่างๆ ปรากฏอยู่บนขอบหน้าต่าง เจ้าจิ้งจอกก็ไม่หลบซ่อนอีกต่อไป บางครั้งยังส่งเสียงทักทายนางด้วย

จนกระทั่ง…มันนำหมีแพนด้ามาอีกตัว!

เมื่อเทียบกับอาการของหมาป่าขนเทา หมีแพนด้าตัวนี้อาการดีกว่ามาก มีเพียงบาดแผลบริเวณอุ้งเท้า ไม่ลึกมากและเลือดหยุดไหลแล้ว แต่เจ้าหมีแพนด้ายังคงเหยียดอุ้งเท้าหน้าและโน้มตัวมาหานาง และร้องครวญครางเสียงต่ำ อู้วๆ เจ้าสุนัขจิ้งจอกด้านข้างก็ร้องตาม ดวงตาสีเข้มสองคู่มองตรงมาที่นาง เต็มไปด้วยความน้อยใจ

อวิ๋นเจี่ยว  … 

พวกมันคิดว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงหรือสถานีปศุสัตว์หรือไง?

ฉันไม่ใช่สัตวแพทย์นะ!

 อู้วๆ  เมื่อเห็นนางนิ่ง เจ้าหมีแพนด้าและจิ้งจอกก็ร้องเรียกอีกครั้ง

อวิ๋นเจี่ยวถอนหายใจยาว  ช่างเถอะ เห็นแก่ที่เจ้าเป็นสัตว์ประจำชาติหรอกนะ  ค้นหาสายรัดอย่างจำยอมต่อชะตากรรม นางพันสายรัดรอบอุ้งเท้าของหมีแพนด้า ไม่ถึงสิบนาทีก็ทำแผลเสร็จ

เจ้าหมีแพนด้ากับจิ้งจอกร้องอย่างดีใจ ทิ้งหน่อไม้หนึ่งมัดไว้และจากไปอย่างมีความสุข เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่เกินไป ตัวของเจ้าหมีติดอยู่ที่ประตูหลังออกไปไม่ได้ อวิ๋นเจี่ยวจึงต้องก้าวไปข้างหน้าและช่วยผลักมันออกไป

 

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing

คำโปรย

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบินขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่งรัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท