ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 83 ภารกิจฉุกเฉิน

ตอนที่ 83 ภารกิจฉุกเฉิน

ผู้อาวุโสที่ผลักการเรียนคาถาออกไปได้สำเร็จ สุดท้ายก็ต้องหันหลังกลับเข้าสู่ก้นบึ้งของการทดสอบประจำวัน อวิ๋นเจี่ยวเป็นคนที่กระตือรือร้นอยู่แล้ว เมื่อนางบอกว่าจะมีการจัดเปิดการสอนรอบที่สอง วันถัดมานางก็ส่งใบเสนอราคาไปยังสำนักเทียนซือ บอกว่าเปลี่ยนเป็นการทดสอบรายวัน ในคืนนั้นก็มีแบบทดสอบข่ายพลังออกมา

แต่สุดท้ายนางก็ยังไม่สามารถแจกจ่ายแบบทดสอบชุดนี้ออกไป เพราะผู้อาวุโสซึ่งเป็นเสาหลักของสำนักนั้นระดมความคิด…ใช้ข้ออ้างที่ทำให้อวิ๋นเจี่ยวไม่สามารถปฏิเสธได้

 ภารกิจฉุกเฉิน?  อวิ๋นเจี่ยวผงะไปครู่หนึ่ง

 ใช่ๆๆ !  แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่สามารถมองเห็นมันได้ แต่เจ้าสำนักสวีก็ยังคงพยักหน้าอย่างแรง  สหายอวิ๋นขึ้นทะเบียนมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เทียนซือระดับดอกไม้จะต้องออกไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายเป็นประจำทุกปี นี่เป็นหนึ่งในนั้น 

 ต้องเป็นข้าที่ไป?  มีเทียนซือระดับดอกไม้อื่นอีกมากมายในสำนักเทียนซือไม่ใช่เหรอ  แต่เรื่องการสอน…  นางยังไม่ได้เริ่มเตรียมบทเรียนเลย

 ไม่ต้องรีบ!  เจ้าสำนักสวีรีบกล่าว  เรื่องนี้ ผู้อาวุโสของแต่ละสำนักจะคัดเลือกผู้เรียน พวกเราจะแจกจ่ายยันต์ส่งสารของท่านออกไป 

 ท่านแน่ใจว่า มีแค่ข้าเท่านั้นที่สามารถไปได้  เสียงของอวิ๋นเจี่ยวกดต่ำ พูดด้วยสีหน้าสงสัย

 เหอะๆ …  เจ้าสำนักสวีหัวเราะแห้ง ก่อนจะหันไปมองเหล่าท่านอาวุโสที่กังวลอยู่ข้างหลัง ทำได้เพียงพูดต่อ  ข้ารู้ด้วยว่าสหายอวิ๋นตั้งใจที่จะสอนพวกเรา แต่ภารกิจนี้ไม่เหมือนภารกิจก่อนหน้านี้ ต้องใช้เทียนซือระดับดอกไม้ห้าดอกขึ้นไปเท่านั้น แต่น่าเสียดายเรื่องการขึ้นทะเบียนคราวที่แล้วใช้เวลาไปค่อนข้างมาก เทียนซือระดับดอกไม้ห้าดอกล้วนถูกส่งออกไป ข้าจึงต้องมารบกวน 

 ไม่ใช่เพื่อโดดเรียน?  นางพูดออกมา

เจ้าสำนักสวีสำลัก เหงื่อไหลออกมาจำนวนมาก  เหอะ…เหอะๆๆ เป็น…เป็นไปได้อย่างไร  ห้ามยอมรับเด็ดขาด

 อ่อ ถ้าเป็นเรื่องเร่งด่วนเช่นนี้ ทำไมพวกท่านไม่ไปเอง  ไม่ใช่ว่ายังมีเทียนซือระดับพระจันทร์หรือไง

 ท่าน…ท่านอา…  เจ้าสำนักสวีเย็นวาบขึ้นในใจ ท่านอาวุโสทุกคนกำลังทำข้อสอบอยู่ไง

 ท่านอาวุโสก็ต้อง…ยุ่งกับงานอื่นด้วย  เขาหัวเราะแห้งสองสามที ก่อนจะเกลี้ยกล่อมนางต่อ  เรื่องนี้ต้องเป็นสหายอวิ๋นเท่านั้น ตราบใดที่เรื่องนี้จบลง ภารกิจการขึ้นทะเบียนก็จบ เสร็จแล้วท่านจะได้รับ เงินเดือน 

 เงินเดือน?!  ดวงตาของอวิ๋นเจี่ยวเป็นประกาย

 ใช่  เจ้าสำนักสวีตอบ  จะได้รับเงินค่าตอบแทนพร้อม …  

 ได้ ข้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ! 

อวิ๋นเจี่ยวลุกยืนขึ้น บอกแต่แรกสิว่าจะได้รับเงินเดือนและค่าคอมมิชชั่น!

เจ้าสำนักสวี  … 

ท่านอาวุโส  … 

อย่างนี้ก็ได้?

(⊙_⊙)

 อยู่ที่ไหน  อวิ๋นเจี่ยวถาม

เจ้าสำนักสวีตกตะลึง จากนั้นเขาก็ตอบกลับอย่างรวดเร็ว  ในหมู่บ้านหลี่อันนอกเมืองผิงตัน ในเมืองมีสาขาของสำนักเทียนซือ เมื่อถึงตอนนั้นจะมีศิษย์บอกรายละเอียดท่าน 

 รู้แล้ว ข้าจะไปพรุ่งนี้  พูดจบนางก็ตัดสัญญาณยันต์ทันที

จนกระทั่งแสงสีแดงบนยันต์ส่งสารจางลง เจ้าสำนักสวีถึงได้วางยันต์ลง ปาดเหงื่อบนหน้าผากทิ้งไป และหันไปมองผู้อาวุโสที่กังวลใจอยู่ข้างหลัง

 เป็นอย่างไรบ้าง  มีคนถามเบาๆ  สหายอวิ๋นตกลงหรือไม่ 

 อืม ตกลงแล้ว  เขาพยักหน้า  นางจะไปในวันรุ่งขึ้น 

 เยี่ยมมาก!  ทุกคนต่างดีใจและถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันใด  ข้าต้องบอกข่าวดีให้เจ้าสำนักคนอื่นให้ทราบโดยเร็ว 

พูดจบก็หยิบยันต์ส่งสารออกมาแจ้งข่าวดี

 เจ้าสำนักหลี่…ข่าวดี! สหายอวิ๋นตกลง ฮ่าๆ … 

 ท่านอาวุโสจาง มีข่าวดี เรื่องนี้สำเร็จแล้ว ไม่มีสิบวันไม่มีทางกลับมาแน่นอน 

 เจ้าสำนักมู่ พรุ่งนี้ออกมาดื่มกัน! ข้าเลี้ยง! 

 ตาฟางๆ ได้ยินหรือไม่ หมากที่ลงเมื่อสองเดือนก่อนของเรายังไม่จบ คืนนี้ไปลงต่อ! 

 สหายหลิว… 

ทุกคนยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ทั่วทั้งตำหนักเต็มไปด้วยเสียงของคน คึกคักราวกับปีใหม่ จนกระทั่งมีเสียงหญิงสาวที่คุ้นเคยดังขึ้นมาอีกครั้ง

 ข้าเข้าใจว่าพวกท่านดีใจ แต่ได้โปรดอย่าใช้ยันต์ส่งสารนี้ได้ไหม  จะต้องพูดกี่ครั้งว่าข้าก็ได้ยิน!

เจ้าสำนักสวี  … 

ผู้อาวุโส  … 

เจ้าสำนัก  … 

เฮ้ย!

(๑ŐдŐ)b

ในท้ายที่สุด อวิ๋นเจี่ยวก็ตัดสินใจระงับการเรียนเป็นเวลาสิบวัน เพื่อไปทำงานที่ได้รับมอบหมายจากสำนักเทียนซือให้เสร็จก่อน ในเมื่อได้เงิน! ไป๋อวี้ไม่มีความคิดเห็นใดๆ เขาเก็บสัมภาระของเขาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่คิดว่าคนที่คัดค้านจะเป็นอาจารย์ปู่

 ไม่ไป!  เขาวางซุปเห็ดในมือลงทันที สีหน้าดำทะมึน

อวิ๋นเจี่ยวไม่เข้าใจในตอนแรก คิดว่าเขาอยากรอช่วงเวลาวิกฤติค่อยปรากฏเหมือนครั้งที่แล้ว  ถ้าอย่างนั้นท่านจะรออยู่ในสำนัก? 

สีหน้าของเขาเย็นลง หันหน้าและเหลือบมองนางก่อนจะพูดว่า  ไม่ไป! 

อวิ๋นเจี่ยวผงะไปครู่หนึ่ง  ทำไม?  นี่เป็นครั้งแรกที่อาจารย์ปู่ห้ามไม่ให้พวกนางออกไป

คิ้วของเขาขมวดอีกครั้งราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง จากนั้นถึงได้พูดขึ้น ข้างนอกมันอันตรายเกินไป  หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่ซุปในมือ พวกเจ้าไปแล้วข้าจะกินอะไร

 อันตรายอะไร…  อวิ๋นเจี่ยวหยุดชะงัก เหลือบมองอาจารย์ปู่ที่สีหน้าไม่พอใจ ทันใดนั้นนางก็นึกถึงปีศาจไก่สองตัวนั้นได้ ก่อนจะถามออกมา  อาจารย์ปู่กลัวว่าจะเจอปีศาจไก่เหล่านั้นอีก…จะยุ่งยากมากเกินไป? 

ใบหน้าของเขาดำยิ่งกว่าเดิม แต่ก็พยักหน้า  อืม 

 เช่นนั้นท่านสิงอยู่ในกระบอกไม้ไผ่เหมือนเดิม  คนอื่นจะได้มองไม่เห็นเขา

 ไม่ได้! 

 ทำไม?  เมื่อก่อนเขามีความสุขมากกับการสิงกระบอกไม้ไผ่ไม่ใช่เหรอ

เยี่ยยวนหันไปมองนาง ใบหน้าของเขาเย็นชามากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่จะพูดออกมาว่า  มีกลิ่น! 

อะไร

มีกลิ่น?

กลิ่นอะไร? กลิ่นซุปไก่?

อวิ๋นเจี่ยว  … 

ไป๋อวี้  … 

เรื่องมากเสียจริง?!

อวิ๋นเจี่ยวรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย หน้าตาของอาจารย์ปู่นี่เป็นปัญหาจริงๆ และยังไม่มีการโจมตีแบบไร้สายพันธุ์ ขอแค่เป็นเพศเมีย ไม่ว่าจะเป็นผีสาว ปีศาจสาว หรือแม้แต่ศิษย์หญิงล้วนถูกหน้าตาของเขาโจมตีทั้งสิ้น เพียงแค่ดูจากกระดาษจดหมายที่เผาไหม้ทุกวันก็พอแล้ว

ในเวลาต่อมานางถึงรู้ว่ามีศิษย์บางคนในวันขึ้นทะเบียน ได้บันทึกการปรากฏตัวของอาจารย์ปู่เอาไว้ แล้วแพร่กระจายออกไป นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมีคนจำนวนมากส่งจดหมายขอเข้าร่วมสำนักชิงหยาง

แค่เห็นภาพในยันต์ก็บ้าคลั่งเช่นนี้แล้ว ถ้าเจอตัวจริง…

อวิ๋นเจี่ยวตัวสั่น ไม่น่าแปลกใจที่อาจารย์ปู่ไม่ชอบออกไปข้างนอก ทำอย่างไรดี คงไม่อาจทำให้เขาเสียโฉมไปแล้วค่อยออกไปข้างนอกหรอกมั้ง!

เดี๋ยว!

ดวงตาของอวิ๋นเจี่ยวเป็นประกาย นางหันไปมองเยี่ยยวนแล้วพูดว่า  อาจารย์ปู่ ท่านเป็นวิชาแปลงร่าง…กลายร่างไหม  เขาเป็นเทพก็น่าจะเปลี่ยนใบหน้าได้ใช่ไหม

 รู้บ้าง  เขาตอบ

 ถ้าเช่นนั้น…ท่านเปลี่ยนหน้าแล้วค่อยออกไปได้ไหม  เนื่องจากปัญหาทางด้านรูปลักษณ์ เพราะฉะนั้นเปลี่ยนเป็นอีกคนก็ไม่น่ามีปัญหา

Related

 

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing

คำโปรย

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบินขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่งรัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท