ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด – ตอนที่ 132 ใช้เป็นประโยชน์

ตอนที่ 132 ใช้เป็นประโยชน์
“อ่อ…จริงสิ ใบพวกนี้คือหนี้ที่พวกท่านติดอยู่!” อวิ๋นเจี่ยวชี้ไปยังกระดาษบนโต๊ะ “ใบนี้คือที่พวกท่านซื้อขวดขนาดกลางของชายแก่ ใบนี้คือขวดเล็ก นี่คือ…”
เธออธิบายทีละใบ เสร็จแล้วยังเขียน “ตัวอักษร” ที่พวกเขาไม่เข้าใจลงไป ก่อนจะพูดขึ้น “บวกกับค่ารักษาของสองวันนี้ และค่าแรงที่ช่วยพวกท่านออกจากยมโลก ทั้งหมดคือสองแสนสามหมื่นหกพันเจ็ดร้อยห้าตำลึง เห็นแก่ที่พวกท่านเป็นอาจารย์อา ข้าลดให้พวกท่านห้าตำลึง ทั้งหมดคือสองแสนสามหมื่นหกพันเจ็ดร้อยตำลึง” พูดจบเธอก็เขียนลงจำนวนเงินที่พวกเขาสามารถอ่านออกอีกครั้ง
เหวินชิง: “…”
หยวนเจียง: “…”
เดี๋ยว! พวกเขาเข้าสำนักผิดหรือเปล่า ศิษย์หลานกำลังล้อเล่นใช่หรือไม่ ต้องใช่แน่เลย?!
( ̄△ ̄;)
อวิ๋นเจี่ยวแม้แต่สีหน้ายังไม่เปลี่ยน “จริงสิ พวกท่านจะจ่ายตอนนี้ หรือว่าอยากจะติดไว้ก่อน? หากติดไว้ก่อนต้องจ่ายดอกเบี้ยร้อยละสามนะ”
เหวินชิงในฐานะที่เป็นคนเคยโดนทวงนี้ เมื่อเทียบกับศิษย์พี่สองที่ตะลึงไป เขารู้ดีเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่ศิษย์หลานพูดเป็นความจริง นางกำลังทวงหนี้อย่างจริงจัง ทันใดนั้นมีความรู้สึกอยากร้องไห้ ไหนบอกว่าเสวียนเหมินใต้หล้าคือบ้านเดียวกัน? อย่างอื่นก็แล้วไป ค่าแรงนั้นคืออะไรกัน! ไม่ควรจะถือเป็นการพยุงความถูกต้องหรือ
หยวนเจียงตะลึงกับการกระทำของอีกฝ่ายอย่างมาก ก่อนจะตั้งสติได้ มองไปยังศิษย์น้องเล็กที่กำลังจะร้องไห้ ก่อนจะเข้าใจว่าอีกฝ่ายจริงจัง
ศิษย์พี่สองใจเย็นกว่าเหวินชิงอย่างมาก ครุ่นคิดก่อนจะพูดขึ้น “หลายวันนี้ ลำบากศิษย์หลานอวิ๋นแล้ว ค่ารักษาเหล่านี้พวกข้าต้องจ่ายอยู่แล้ว เพียงแต่…อาจารย์อาห่างจากโลกไปนาน เงินทองไม่มีจริงๆ หรือไม่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น?”
อวิ๋นเจี่ยวดีใจ เธอกำลังรอประโยคนี้อยู่ แต่บนใบหน้ายังคงเคร่งขรึมไม่เปลี่ยนแปลง “เปลี่ยนเป็นอะไร”
หยวนเจียงยิ้มอย่างเป็นมิตร “อาจารย์อาเหวินของเจ้าเชี่ยวชาญด้านอาวุธ เทพบนโลกบนล้วนมาขอให้เขาหลอมอาวุธให้ หรือไม่ให้เขาหลอมอาวุธให้ศิษย์หลานเสียสองสามชิ้น?”
“อาวุธหรือ…” อวิ๋นเจี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย ชายแก่รีดไถมาค่อนข้างมากแล้ว คงจะใช้ไม่หมดในเร็ววัน
“หากไม่ชอบอาวุธ ข้าก็พอจะรู้เรื่องของยาและยันต์อยู่บ้าน ยาวิเศษ ยันต์วิเศษหรือสมุนไพรวิเศษล้วนได้” เขาพูดเสริม
“สมุนไพรวิเศษ” อวิ๋นเจี่ยวตาลุกวาว ก่อนจะถามขึ้น “สมุนไพรบนสวรรค์มีมากหรือไม่”
หยวนเจียงตะลึง เข้าใจความหมายของเธอทันที เขายิ้มอย่างเป็นมิตรมากขึ้น “ถึงแม้ไม่มากนัก เพียงแต่พลังเทพบนสวรรค์เข้มข้น มีประโยชน์ต่อการเติบโตของสมุนไพร สมุนไพรบางชนิดที่พบยากในโลกมนุษย์ล้วนมีอยู่บนสวรรค์ ศิษย์หลานเจ้าฝึกฝนด้านหมอรักษาพลังลมปราณ ของเหล่านี้เจ้าน่าจะได้ใช้”
อวิ๋นเจี่ยวสบตากับชายแก่ ก่อนจะพยักหน้า “ได้ เช่นนั้นเปลี่ยนเป็นอันนี้” เธอกำลังกังวลว่าไม่มีวัตถุดิบในการหลอมยา ครานี้หาได้แล้ว ครุ่นคิดอยู่สักพักถึงได้พูดเสริมขึ้น “เพียงแต่…สมุนไพรเหล่านี้ไม่มีมูลค่าอะไรต่อพวกท่าน คงไม่อาจใช้ราคาตลาดในโลกมนุษย์หักล้าง มิเช่นนั้นข้าขาดทุนแย่ ข้าต้องใช้อัตราการแลกเปลี่ยนคิดคำนวณ ในฐานะที่พวกท่านเป็นอาจารย์อา เช่นนั้นข้าคิดเป็นส่วนลดร้อยละเก้าสิแล้วกัน!”
หยวนเจียง: “…”
เหวินชิง: “…”
ชายแก่: “…”
หน้าของอาจารย์อาถูกขนาดนี้?
ศิษย์หลานไม่ได้ฝึกฝนหมอรักษาพลังลมปราณ แต่เป็นสติปัญญาหรือเปล่า?!
“อืม เช่นนั้นตกลงตามนี้” อวิ๋นเจี่ยวหยิบพู่กันขึ้นมา ก่อนจะลงมือเขียนสัญญาอย่างตั้งใจ พลางเขียนพลางพูด “รบกวนบอกวันที่ส่งของ ประเภท สายพันธุ์ คุณสมบัติของสมุนไพรให้ข้าหน่อย”
ทั้งสองคนจึงทำได้เพียงบอกชื่อของสมุนไพรที่พบบ่อยบนสวรรค์ อีกทั้งยังหารือกันเรื่องราคา ก่อนจะประทับลายมือด้วยความมึนงง อวิ๋นเจี่ยวเก็บสัญญาด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะขอตัว
“เช่นนั้นขอให้อาจารย์อาทั้งสองหายในเร็ววัน”
อวิ๋นเจี่ยวไม่ได้อยู่ต่อ หันหลังเตรียมเดินออกจากประตูพร้อมชายแก่ แต่หยวนเจียงเหมือนนึกบางอย่างขึ้นได้ พูดขึ้น “ศิษย์หลานทั้งสอง ช้าก่อน!”
“มีอะไรอีกหรือ” ฝีเท้าของเธอชะงักลง
ทั้งสองคนสบตากัน ภายในลวงตามีบางอย่างแล่นผ่านไป เหวินชิงที่คุ้นเคยกว่าเดินขึ้นหน้าก้าวหนึ่ง ก่อนจะถูมือไปมา พร้อมพูดกลั้นหัวเราะ “คือ…ศิษย์หลาน ถึงแม้ร่างกายของพวกเราจะดีขึ้นแล้ว แต่ยังต้องพักฟื้นอยู่ ครั้งที่แล้วเจ้าบอกว่ามีวิธีช่วยซ่อมแซมร่างกายของศิษย์พี่สอง สมุนไพรที่เจ้าเขียนให้ครั้งที่แล้ว พวกข้าสั่งให้ศิษย์ไปช่วยเตรียมแล้ว แต่ว่าต้องใช้เวลาเล็กน้อย…อีกทั้งพวกข้ายังต้องนำสมุนไพรมาให้เจ้า เจ้าว่าพวกข้า…สามารถ…สามารถอยู่ที่นี่…”
“พวกท่านยังอยากอยู่ต่อ?” เขายังพูดไม่ทันจบ อวิ๋นเจี่ยวก็พูดแทรกขึ้น
“ใช่ๆ” ทั้งสองคนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว หลายวันนี้พวกเขาไม่กล้าที่จะออกจากพำนักหลังจากบาดเจ็บเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่ที่สำคัญคือกลับอาจารย์รังเกียจพวกเขา แล้วไล่ให้พวกเขากลับไป
“ข้าไม่มีปัญหา…” อวิ๋นเจี่ยวเอียงคอ ทำท่าทางครุ่นคิด “แต่ว่าเรื่องนี้ คงต้องถามอาจารย์ปู่ เพราะในชิงหยางเขาใหญ่ที่สุด ข้าเองคงจะไม่อาจตัดสินใจได้”
ทั้งสองคน: “…”
จะหลอกใครกัน! มาทวงหนี้ถึงที่แล้ว จะตัดสินใจไม่ได้?
“ไม่ใช่ ศิษย์หลาน…”
เหวินชิงยังอยากจะพูดต่อ หยวนเจียงที่อยู่ด้านข้างพูดแทรกขึ้น “เพิ่มสมุนไพรอีกหนึ่งเท่า”
“ตกลง!” อวิ๋นเจี่ยวตอบตกลงในทันที “มา พวกเราแก้ไขสัญญากันหน่อย!”
เหวินชิง: “…”
หยวนเจียง: “…”
ชายแก่: “…”
สมัยนี้ อาจารย์อามีค่าไม่เท่าสมุนไพร!
****
“จริงสิ ศิษย์หลาน!” อาศัยช่วงจังหวะที่อวิ๋นเจี่ยวกำลังแก้ไขสัญญา เหวินชิงนึกบางอย่างขึ้นได้” เสี้ยววิญญาณของหานซู ลูกศิษย์ของข้าตอนนี้อยู่ที่ไหน” ไม่ใช่บอกว่าเสี้ยววิญญาณอยู่ที่นี่หรือ
“หานซูหรือ” อวิ๋นเจี่ยวเก็บสัญญา ก่อนจะตอบคำถาม” เขาอยู่ในห้องใต้ดิน”
“ห้อง…ห้องใต้ดิน?!” เหวินชิงผงะ ทำไมเขาถึงอยู่ในห้องใต้ดินได้?
อวิ๋นเจี่ยวมองเขาทีหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้น “ถึงเวลาส่งเขาคืนให้ท่านแล้ว ชายแก่ ท่านพาเขาไปพบหานซูเถอะ ค่ารักษาของสำนักเทียนซือครั้งที่แล้วน่าจะมาถึงแล้ว ข้าไปดูที่ข่ายพลังขนส่งก่อน”
“ได้!” ชายแก่พยักหน้า ก่อนจะเดินนำเหวินชิงและหยวนเจียงไปยังห้องใต้ดิน พลางเดินพลางอธิบาย
“อาจารย์อาเหวิน ครั้งที่แล้วท่านผ่าจนด้านนอกอารามเป็นหลุมไม่ใช่หรือ ต่อมาพวกข้าพบว่ามีหลุมหนึ่งยังไม่ได้ถม เจ้าหนูบอกว่าอย่าสิ้นเปลือง จึงทำเป็นห้องใต้ดิน ห้องนั้นเย็นสบาย ใช้ดีมาก! โดนเฉพาะสหายหานเข้าไป ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นไปอีก”
ใช้ดี? เหวินชิงสีหน้าฉงน
กำลังจะถาม ชายแก่ก็ดึงประตูบนผนังหินออก “ถึงแล้ว อาจารย์อาทั้งสองจะเข้าไปหรือไม่”
ทั้งสองคนถึงได้ก้มหัวมุดเข้าไป ทันนั้นรู้สึกถึงพลังวิญญาณซัดเข้ามา บริเวณโดยรอบหนาวราวกับอยู่ในยมโลก ทั้งสองคนเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าห้องใต้ดินไม่ใหญ่มาก ขนาดเท่ากับห้องแขก ภายในห้องมีวิญญาณที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ด้านซ้ายและขวา ทั้งตัวอบอวลไปด้วยพลังวิญญาณ ด้านซ้ายคือเสี้ยววิญญาณของหานซู เพียงแต่ร่างวิญญาณนั้นแข็งแรงขึ้น ดีกว่าวิญญาณทั่วไปไม่น้อย ส่วนทางด้านขวา คือสีเถิงที่ไม่เจอเป็นเวลาหลายวัน
แต่ว่าเรื่องเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ ที่สำคัญคือ ใจกลางห้องใต้ดิน มีข่ายพลังทับซ้อนขนาดใหญ่ แยกพลังวิญญาณของทั้งสองคนออกจากกัน ส่วนตารางตรงกลางของข่ายพลัง คือกอง…ผัก…ไช่เท้า เห็ด ผลไม้ และเนื้อประเภทต่างๆ…
กองจนกลางเป็นภูเขาขนาดเล็ก อีกทั้งแต่ละชิ้นยังเขียวขจี สดใหม่ราวกับเพิ่งเด็ดลงมา
เหวินชิงกับศิษย์พี่สองของเขาตกตะลึงอย่างมาก นี่มันอะไรกัน จากนั้นพวกเขาก็ได้ยินไป๋อวี้อยู่ด้านข้างพูดด้วยความตื่นเต้น
“อาจารย์อาเป็นอย่างไรบ้าง ห้องใต้ดินที่เจ้าหนูสร้างดีหรือไม่ ข้าจะบอกพวกท่านให้ พลังวิญญาณของสหายหานและสหายสีใช้ดีมาก อุณหภูมิต่ำยังไม่พอ ยังไม่เกาะเป็นน้ำแข็งอีก ท่านดูผลไม้นี้สิ สดราวกับเพิ่งเก็บลงมา ยังไม่ต้องไปซื้อที่ตลาดบ่อยๆ ตอนนี้เจ้าหนูทำอาหารสะดวกขึ้นมากเลย”
เหวินชิง: “…”
หยวนเจียง: “…”
ใช้พลังของวิญญาณมารักษาความสดใหม่ จิตใจของพวกเจ้าทำด้วยอะไร
w(゚Д゚)w
ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

ศิษย์หลานข้า ระวังอย่าหลงผิด

Status: Ongoing

คำโปรย

อวิ๋นเจี่ยว ศัลยแพทย์ปริญญาเอกจากคณะแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดถึงคราวต้องกุมขมับเมื่อทำดีกลับไม่ได้ดี ช่วยเหลือคนแก่ที่หกล้มกลับโดนรีดไถและสาปแช่งให้เห็นผี! ยังไม่พอยันต์ที่ยายแก่คนนั้นสาปเธอยังทำให้เธอทะลุมิติไปยังโลกยุคโบราณและโดนล่อลวง (?) ให้เข้าเป็นศิษย์สำนักเต๋าที่ทำหน้าที่ปราบปีศาจผดุงคุณธรรมอีกด้วย

เล่าลือกันว่าท่านปรมาจารย์เจ้าสำนักอารามชิงหยางนั้นสำเร็จเป็นเซียนและโบยบินขึ้นสวรรค์ไปเมื่อหลายแสนปีก่อน แต่หากเป็นอย่างนั้นจริงเงาร่างหล่อเหลาเปล่งรัศมีเจิดจ้าที่กำลังนั่งเล่นควันธูปอยู่นี่คือใครกันเล่า?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท