เวลาเก้าโมงเช้ามีฝนตกลงมาปรอยๆในวันหนึ่งในฤดูใบไม้ร่วงที่เย็นสบาย นัชชาที่กำลังยืนอยู่แถวๆหน้าประตูนิเวศน์วิลล่าวันนี้เธอไม่ได้พกร่มไปด้วยทำให้เสื้อผ้าโดยเฉพาะช่วงบริเวณไหล่ของเธอเปียกปอนไปหมด แต่เธอกลับทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรหรือไม่มีอะไรเกิดขึ้น เธอบรรจงถอดเสื้อโค๊ทตัวนอกออกมาแล้วเอามาห่อของขวัญที่เตรียมไว้อย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ของชิ้นนั้นได้รับความเสียหายแม้ว่าตัวเธอจะเปียกหมดก็ไม่เป็นไร
วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีของเธอกับดวิษ ที่จริงเธอควรที่จะอยู่บ้านพ่อแม่ของเธอแต่เธอแอบมาซื้อของขวัญให้สามีเพื่อเตรียมจะเซอร์ไพร์สให้กับเขา
แต่กว่าเธอจะเดินมาถึงประตูหน้าบ้านเสื้อผ้าเธอโดนฝนจนเปียกไปหมดแล้ว เธอเอากุญแจออกมาจากกระเป๋าแล้วค่อยๆเปิดประตูอย่างระมัดระวัง เมื่อเธอเข้ามาในบ้านก็ไม่ทันได้เปิดไฟ นัชชาเดินไปเปลี่ยนรองเท้าตรงระเบียงเป็นอันดับแรก ในขณะที่เธอกำลังยกเท้าขึ้นมานั้น กลับเหลือบไปเห็นรองเท้าส้นสูงสีแดงที่ดูแปลกตาคู่หนึ่งวางอยู่บนพื้น
นัชชาตกใจอย่างมากเพราะเธอรู้อย่างแน่นอนว่านั่นไม่ใช่รองเท้าของเธอและก็ไม่ใช่ขนาดไซส์ของเธอด้วย
หัวใจของเธอเหมือนกับโดนบีบอย่างแรงจากมือของใครบางคนที่ไม่มีตัวตนเพราะเป็นความรู้สึกเจ็บจุกอยู่ข้างใน เธอค่อยๆ วางของต่างๆที่ถืออยู่ในมือไว้บนพื้น และเดินไปที่ห้องนอนชั้น 2 อย่างช้าๆ
แต่ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เท่าไหร่เสียงที่รอดออกมาและคำพูดยั่วยวนในห้องก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้น ดวิษ … เสียงของผู้หญิงที่คุ้นเคยดังเข้ามาในแก้วหู เสียงนั้นฟังดูเหมือนกำลังตื่นเต้นมาก
รู้อยู่แล้วว่าเธอต้องชอบ เสียงผู้ชายพูดอย่างคล้อยตามและดูเพลิดเพลิน นิชชารู้อยู่เต็มอกว่าถ้านี่ไม่ใช่เสียงของดวิษสามีของเธอ แล้วมันจะเป็นเสียงของใครไปได้ อีก
จากทางเดินไปถึงประตูนัชชารู้สึกเหมือนทุกย่างก้าวที่ได้เดินไปนั้นอย่างกับเธอเดินเหยียบอยู่บนคมมีดไปตลอดทาง แม้ว่าจะยังไม่ได้เห็นสภาพในห้องเลยก็ตาม แต่ก็เดาได้ไม่ยากเลยว่าข้างในห้องนั้นมันเกิดอะไรขึ้นและเป็นเรื่องรุนแรงแค่ไหน
ระหว่างฉันกับนัชชาคุณชอบใครมากกว่ากัน? เสียงของผู้หญิงถามอย่างกะทันหัน เมื่อได้ยินคำถามนั้นหัวใจของนัชชาก็เต้นแรงขึ้นขนาดที่ว่าลำคอยังเหมือนมีหัวใจอีกดวงเต้นแรงตามไปด้วย
จากนั้นเธอก็ได้ยินคำตอบที่ทำให้เธอต้องเจ็บปวดใจ ทำไมล่ะ เธอหึงเหรอไง ผมใช้แรงอยู่ในตัวเธอเยอะขนาดนี้จะมีแรงที่ไหนไปแตะต้องเขา ผมไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด
ถ้าพูดความจริงบางอย่างออกมาก็กลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อเพราะตั้งแต่คบกันจนถึงขั้นแต่งงาน ใช้เวลาประมาณ1ปีกว่า สามีของเธอไม่เคยแตะต้องตัวของเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียวเหตุผลก็คือเขามีอาการภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
แต่ตอนนี้ สามีของเธอที่มีอาการภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศกำลังเสพสุขกับเพื่อนสนิทของเธออย่างหน้าไม่อาย
นัชชารู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนวันเดอร์วูแมนที่เจอสถานการณ์ร้ายแรงแบบนี้แต่ก็ยังสามารถก้าวเดินต่อไปและอยากจะจัดการให้มันจบลง เธอถึงตัดสินใจผลักประตูเข้าไป
ทันทีที่ประตูเปิดออกในเห็นภาพทุกอย่างภายในนั้น เธอยังคงตกใจแม้ว่าจะรู้อยู่แล้วก็ตามว่าเสียงของผู้หญิงคนนั้นคือใคร และจะไม่เสียใจเท่านี้เลยเพราะถ้าเกิดว่าคนที่นอนเปลือยกายอยู่ข้างๆสามีของเธอไม่ใช่เพื่อนสนิทของเธอเอง เขาคนนั้นคือ ปณิตา คนที่เธอเรียกว่าเพื่อนสนิท…
ตั้งแต่ชั้นมัธยมถึงมหาวิทยาลัยจนตอนนี้เรียนจบแล้ว เธอสองคนเป็นเพื่อนที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมาตลอด เธอไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งปณิตาจะมานอนอยู่บนเตียงของเธอกับสามีของเธอแบบนี้ …
ทันใดนั้นนัชชาก็คิดได้ว่าทุกครั้งที่เธอกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่ ปณิตาก็มักจะถามรายละเอียดเรื่องตารางเวลาของเธอเสมอ และก็ไม่เคยออกไปเที่ยวข้างนอกกับเธอด้วยกันเลย จนตอนนี้มาคิดๆ ดูแล้วทุกสิ่งทุกอย่างมันล้วนมีเหตุผลทั้งสิ้น
ทั้งสองคนที่อยู่บนเตียงนั้นคาดไม่ถึงว่านัชชาที่ควรจะอยู่ที่บ้านพ่อแม่จะมาอยู่ที่นี่ได้ แต่เพียงชั่วครู่เดียว ดวิษก็เรียกสติกลับคืนมาและพูดออกมาอย่างเลือดเย็นว่า ออกไป
ออกไป? เนี่ยนะ
โดยนิสัยปกติของนัชชา เธอก็ไม่ใช่คนที่หงุดหงิดง่ายอะไรเลย แต่ในเวลานี้เธอไม่สามารถระงับอารมณ์โกรธที่อยู่ในใจได้อีกต่อไป เธอเหลือบเห็นกาน้ำร้อนที่อยู่บนโต๊ะแล้วคว้าหูกาน้ำร้อนนั้นขึ้นมา แล้วสาดไปที่ชายหญิงที่อยู่บนเตียงอย่างเร็วและแรง น่ารังเกียจ สกปรกที่สุด
นัชชา ดวิษเขาอยู่กับเธอมาตั้งนานแต่ยังไม่เคยแตะต้องตัวเธอ เธอควรจะยอมรับในรสนิยมของเขาและช่วยเขาบ้างสิ ปณิตาพูดอย่างไม่รู้สึกละอายใจเลยสักนิด เธอยังใช้คำพูดอวดดีกับนัชชาอย่างไม่เกรงกลัว
เหอะ! นิชชาหัวเราะเยาะ ฉันจะต้องพูดขอบคุณเธอใช่ไหมปณิตา ฉันอุตส่าห์เห็นว่าเธอเป็นเพื่อนรัก แล้วเธอก็มาทำแบบนี้กับฉันหรอ? มีอะไรกับสามีคนอื่นมันมีความสุขกว่าเอากับคนอื่นใช่ไหม
ปกตินัชชาไม่เคยใช้คำพูดรุนแรงแบบนี้เลยสักครั้ง ดวิษมองไปทางนัชชา เธอออกไปก่อน
ไม่ต้องห่วงฉันจะไปอยู่แล้ว เพราะฉันก็ไม่อยากอยู่เหมือนกัน แค่มองด้วยหางตานัชชาก็รู้สึกขยะแขยงเป็นที่สุด ดวิษ คุณก็เตรียมตัวคิดให้ดีล่ะว่าจะอธิบายกับคุณแม่ยังไง ไอ้เรื่องฉาวๆ ของคุณน่ะ ฉันจะไม่ช่วยปกปิดมันอีกต่อไป
พวกเขาแต่งงานมา 1 ปีพอดี ในคืนวันแต่งงานดวิษพูดกับเธอว่าเขามีอาการภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศซึ่งเธอนึกว่ามันจะค่อยๆดีขึ้น แต่นานวันเข้าแม่สามีก็คอยถามเธออยู่บ่อยครั้งว่าทำไมไม่มีลูกสักที เธอปิดบังความจริงเรื่องลูกชายของเขา แม่สามียังถามเธออีกว่าร่างกายของนัชชามีปัญหารึป่าว แต่เธอก็ยังปิดบังเอาไว้อีกยอมเป็นคนถูกตราหน้าว่าร่างกายมีปัญหาไม่สามารถมีลูกได้เพื่อช่วยสามีสุดที่รักให้ไม่ต้องตกเป็นปมด้อยในใจ แต่ผลลัพธ์ที่ช่วยเขาปกปิดไว้สุดท้ายกลับได้ผลตอบแทนในความดีมาแบบนี้ นัชชารู้สึกว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาตัวเองโง่มากและสำหรับความกดดันที่นัชชาได้รับมาตลอด ดวิษไม่เคยรู้สึกกังวลเลยสักนิด เมื่อก่อนนั้นตอนที่เขาจีบนัชชาเขาไม่ต้องใช้เวลานานๆ ในการง้อเธอเพราะความรักของเธอไม่มีเส้นบรรทัดหรือข้อแม้สำหรับเขาเลย เพียงแค่เขาไปง้อสักนิดเธอก็หายโกรธแล้วมันเป็นแบบนี้มาตลอด
แต่คำพูดต่อไปของนัชชาทำให้ดวิษตกใจจนรับมือไม่ไหว
เราหย่ากันเถอะ
…….
หลังจากออกมาจากนิเวศน์วิลล่านัชชาก็เรียกรถแท็กซี่แล้วรีบหนีไป รถวิ่งอยู่บนถนนวนไปวนมาอยู่สักพัก ในใจของเธอฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าปรากฏว่านอกจากบ้านของตนเองแล้วก็ไม่มีที่อื่นที่จะให้เธอไปได้อีก
คุณผู้หญิง สรุปคุณจะไปที่ไหนกันแน่ คนขับรถเหลือบมองผู้หญิงด้วยกระจกมองหลังอย่างสงสัย
ตอนนี้รถขับผ่านตึกย่านธุรกิจระดับสูงพอดี นัชชามองดูรถลีมูซีนที่จอดอยู่หน้าประตูบานใหญ่มหึมา ไม่รู้สมองเธอคิดอะไรไป เธอบอกให้คนขับรถจอดรถตรงนั้นแล้วก็ลงมาทันที
หลังจากที่จ่ายเงินแล้ว เธอเดินตรงเข้าไปในคลับเฮาส์ ในล็อบบี้ของบาร์มองดูเมนูเครื่องดื่มที่มีราคาแพงสุดท้ายเธอเลือกสั่งไวน์มา 1 ที่โดยไม่สนใจราคาแม้แต่นิด
ของเหลวที่รสชาติฝาดและทำให้ร่างกายร้อนไหลผ่านลำคอและหลอดอาหาร กระตุ้นให้ดวงตาของเธอเจ็บปวด ฉากในห้องนอนนั้นก็วาปเข้ามาในสมองอีกครั้ง ตอนนี้คิดย้อนไปสิ่งที่คิดมันเป็นการประชดที่รุนแรงที่สุด
เพื่อนสนิทกับสามีของเธอได้อยู่ด้วยกันสมใจอยากแล้ว นัชชาหัวเราะแต่ยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความเจ็บใจ เฮี่ยจริงๆ!
แก้วแล้วแก้วเล่าไม่รู้ว่าดื่มไปเท่าไหร่แล้ว จู่ๆเธอรู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาเลยเดินอย่างโซเซไปห้องน้ำ หลังจากเสร็จภารกิจแล้วก็เดินออกจากห้องน้ำ เธอมองเห็นผู้ชายตัวสูงใหญ่ใส่สูทสีดำยืนเป็นแถว เธอสุ่มไปหาคนหนึ่งในนั้นและพูดว่า คุณหล่อมาก
ผู้จัดการที่อยู่ข้างๆรีบมาดึงตัวเธอออกไปแล้วพินิจพิเคราะห์นิชชาแบบตาเขม่ง เมื่อเห็นว่าผู้หญิงคนนี้อายุไม่มากและบนตัวเธอใส่แต่ของแบรนด์เนม สีหน้าของเขาคลายความตึงลง ขอโทษครับคุณผู้หญิง นี่คือพนักงานต้อนรับ ถ้าคุณต้องการคนหล่อๆ ผมแนะนำให้คุณได้นะครับ
ตอนนี้นัชชาแอลกอฮอล์ขึ้นสมองตอนอยู่กับดวิษเธอคอยอดทนและเชื่อฟังมาตลอดแต่ในเวลานี้ยิ่งมีความสุขกับการแก้แค้นทำตัวเหลวแหลก การแต่งงานครั้งนี้ทำให้เธอได้สูญเสียสามีกับเพื่อนสนิทไป ตอนนี้พวกเขาก็อยู่ด้วยกันแล้ว เธอจะรักษาตัวอย่างดีเพื่อเขาอีกทำไมล่ะ
โอเค ฉันต้องการคนที่หล่อที่สุดแล้วก็แพงที่สุดมาอยู่เป็นเพื่อนฉัน
ผู้จัดการได้ยินคำว่า แพงที่สุด ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา เขารีบพาเธอเดินเข้าไปในโซน VIP รอสักครู่ครับ เดี๋ยวผมจะไปเรียกคนมาให้
พูดเสร็จผู้จัดการก็เดินจากไป ทิ้งให้นัชชานั่งอยู่บนโซฟาคนเดียว เธอรู้สึกมึนเมามากมองอะไรก็เป็นภาพซ้อนไปหมด
ทันใดนั้นประตูที่อยู่ตรงหน้าถูกเปิดออก มีผู้ชายตัวสูงคนนึงเดินออกมา จากขายาวๆที่สมบูรณ์แบบคู่นั้นค่อยๆมองขึ้นไป เอวแคบ ไหล่กว้าง ใบหน้าเหมือนเป็นรูปปั้นแกะสลักที่มีความเพอร์เฟคทุกระเบียบนิ้วโดยเฉพาะดวงตาสีดำสนิทคู่นั้น ดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้ดีเป็นพิเศษ
นัชชาหัวเราะออกมา เธอลุกขึ้นเดินโซเซไป แล้วคว้าแขนของผู้ชายนั้น ดีมาก น่าจะถูกปากฉัน
เตชิตมองดูผู้หญิงตรงหน้าที่โผล่ออกมาอย่างกะทันหัน คิ้วที่ดำเข้มก็ขมวดขึ้น ปล่อย!
ทำไมนายทำท่าทีแบบนี้ล่ะ ผู้จัดการไม่ได้บอกเหรอ คืนนี้ฉันเหมาคุณทั้งคืนเท่าไหร่ก็ได้ เพียงแค่คุณปรนนิบัติรับใช้ฉันดีๆ ฉันจะจ่ายเพิ่มให้อีก 2 เท่า นัชชาพูดจาอย่างอวดดี แล้วก็หัวเราะออกมาอย่างโง่ๆ โชว์ฟันขาวๆ ที่เรียงสวยเป็นระเบียบออกมา ผู้ชายนั้นตัวสูงใหญ่ เธอเขย่งปลายนิ้วเท้าเข้าไปกระซิบใกล้ๆ เขา ฉันจะบอกนายให้รู้ไว้นะ ฉัน… นี่เป็นครั้งแรกของฉัน นายคุ้มมากนะ…