บทที่ 28 รถเทพ
ดีมาก อิ่นซิน พวกเขาต่างก็บอกว่าเธอได้สามีโง่ แต่ฉันว่า สามีเธออยู่เป็นนะ
อิ่นเสี้ยงสวี่เอามือปิดปาก แล้วหัวเราะอย่างภูมิใจ
ทีแรกจะใช้อาหารมื้อนี้ทำให้อิ่นซินขายหน้าซะหน่อย อยากจะอวดสามีหลี่ห้าวของตัวเองหน่อย แต่เธอคิดว่าอิ่นซินต้องปฏิเสธแน่นอน คิดไม่ถึงว่าฉินเฟิงจะทำแบบนี้
ณ ตอนนี้ อิ่นเสี้ยงสวี่ยังพอชื่นชมฉินเฟิงอยู่บ้าง
ได้ค่ะ
เห็นว่าฉินเฟิงได้ตอบตกลงไปแล้ว อิ่นซินก็ไม่มีทางเลือก ทำได้แค่เพียงพยักหน้า
ไปภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสที่เปิดใหม่ตรงถนนตงเจีย32 ภัตตาคารไทรีซัส ฉันได้ยินมาว่าแม้แต่พนักงานที่นั่นก็เป็นคนฝรั่งเศส เป็นภัตตาคารที่หรูมากๆ พวกเธอคงจะไมเคยเห็น
อิ่นเสี้ยงสวี่รู้สึกภูมิใจ เธอเหลือบมองอิ่นซิน แล้วจับมือหลี่ห้าวเดินออกจากประตูบริษัท ชี้ไปรถที่อยู่ด้านนอกแล้วถามว่า อิ่นซิน ฉินเฟิงซื้อรถแล้วเหรอ พวกเธอจะนั่งรถสามีฉันไหม เบนท์ลีย์
ก็ไม่ได้แพงเท่าไหร่สองล้านนิดๆมั้ง น่าจะดีกว่าปอร์เช่เจ็ดปีก่อนที่เธอซื้อมั้ง
เมื่อได้ยินอย่างนี้ หลี่ห้าวก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองมา
ไม่แล้วค่ะ
อิ่นซินกัดฟันและกำหมัดไว้แน่น
เห็นได้ชัดว่าอิ่นเสี้ยงสวี่กําลังอวดดี รถปอร์เช่คันนั้นเธอซื้อมาเมื่อเจ็ดปีก่อนก่อนที่เธอจะได้เจอกับฉินเฟิง ด้วยเงินเจ็ดแสนนิดๆ หลังจากนั้นครอบครัวก็ลำบากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยไม่ได้ซื้อรถคันใหม่ ปัญหาก็เยอะอยู่เหมือนกัน
ไม่นั่งก็แล้วแต่ พวกฉันไปก่อนนะ ปอร์เช่คันเก่าของเธอขับให้มันเร็วๆหน่อยนะ
พวกฉันขี้เกียจรอ
อิ่นเสี้ยงสวี่สะบัดหน้า แล้วก็นั่งรถเบนท์ลีย์ออกไปก่อน
จริงๆเลย
อิ่นซินเปิดประตูรถด้วยอารมณ์ที่ไม่ดี
ที่รัก มาผมขับเอง
ฉินเฟิงกวักมือบอก
ก็ได้ค่ะ
อิ่นซินคิดอยู่สักพักแล้วตอบตกลง ถึงแม้รถจะเป็นของเธอไม่ใช่ของฉินเฟิง แต่โดยปกติแล้วผู้ชายจะเป็นคนที่ขับรถ ถ้าหากว่าเธอเป็นคนขับ เดี๋ยวพอถึงภัตตาคารจะทำให้ฉินเฟิงขายหน้าได้
อิ่นซินนั่งลงเบาะข้างคนขับ ฉินเฟิงนั่งเบาะคนขับแล้วพูดว่า ที่รัก คาดเข็มขัดนิรภัยด้วยครับ
อ่อ
อิ่นซินคาดเข็มขัดอย่างเชื่อฟัง ไม่รู้ตัวเลยว่าอะไรจะเกิดขึ้น เพราะรถของเธอเป็นรถรุ่นเก่า ไม่ได้เปลี่ยนมา 7 ปี แล้วเธอก็ซ่อมมันมาหลายที่ ประสิทธิภาพสู้เบนท์ลีย์ของหลี่ห้าวไม่ได้อย่างแน่นอน
แต่เดิมเธอก็ไม่คิดว่าจะตามรถคันเบนท์ลีย์ทัน
จนกระทั่ง ปอร์เช่ของพวกเธอได้เดินเครื่อง
อ๊าย……
ที่รัก คุณขับช้าๆหน่อย รถ รถ ข้างหน้ามีรถค่ะ
มีคน ยังมีสองคน ช้าหน่อยค่ะ
ข้างหน้ามีโค้ง ช้าหน่อย อ๊าย
เมื่อเริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะและหายใจไม่ทัน ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทําไมฉินเฟิงถึงได้เตือนเธอให้คาดเข็มขัดนิรภัยไว้ นี่ไม่ใช่การขับรถทั่วไป นี่มันบินเลยชัดๆ
ที่รัก ทำไมต้องขับเร็วขนาดนี้คะ!
เมื่อเริ่มดีขึ้น อิ่นซินก็กัดฟันแล้วคว้ามือฉินเฟิง กระจกรถที่ปิดไม่สนิท ทำให้มีลมพัดผ่านมาที่ใบหน้าของอิ่นซิน เผยให้เห็นใบหน้าที่ดูละเอียดอ่อนและโกรธเล็กน้อยอยู่เล็กน้อย
ฉินเฟิงมองดูอยู่สักพักเธอชั่งสวยจริงๆ
ตามพวกเขาให้ทันไง
ฉินเฟิงพูดออกไป รถเบนท์ลีย์คันข้างหน้านั่น
เฮ้ย คุณตามพวกเขาทันแล้วค่ะ
อิ่นซินมองไปข้างหน้า อิ่นซินอึ้งไปชั่วขณะ รถเบนท์ลีย์ที่อยู่ข้างหน้า เป็นรถอิ่นเสี้ยงสวี่นี่เอง เธอจำทะเบียนรถได้ เธอดีใจมาก อิ่นเสี้ยงสวี่ไปก่อนพวกเราหนึ่งนาที ตอนนี้พวกเราตามทันแล้ว ที่รักแซงพวกเขาเลย ใครบอกให้พวกเขาก่อนหน้านี้ขี้อวดนัก หึ
ผู้หญิงเป็นพวกฝังใจ เธอยังจำท่าทีของอิ่นเสี้ยงสวี่ก่อนหน้านั้นได้
แล้วเธอก็ไม่สนอีกว่าฉินเฟิงจะขับเร็วขนาดไหน เพราะเธอรู้แล้วว่า ถึงแม้ฉินเฟิงจะขับเร็วขนาดไหนมันก็ปลอดภัย ตลอดทางไม่ว่าจะโค้งแบบไหน ก็รู้สึกปลอดภัย
ถ้าคุณหอมผมทีหนึ่ง ผมอาจจะขับได้ดีกว่านี้นะ ฉินเฟิงมองอิ่นซินแล้วพูด
อิ่นซินในตอนนี้ช่างน่ารักเหลือเกิน
นี่คุณต่อรองกับฉันเหรอ?
อิ่นซินใช้มือหยิกไปที่ขาของฉินเฟิง เบิกตาโตแล้วมองดุๆไปที่ฉินเฟิง
ฉันมีลูกสาวให้คุณหนึ่งคน คุณไม่เห็นให้รางวัลฉันเลย รีบขับไปเลย
รับทราบครับ
ฉินเฟิงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที
เหนือฟ้ายังมีฟ้านั่นเอง เขาผู้ไม่เคยแพ้ใคร แต่ก็ต้องยอมให้อิ่นซิน คงต้องสั่งสอนใยเด็กอิ่นหนิงหยู่ผู้ไม่เคยเห็นโลกกว้างคนนั้นแล้ว
บนรถเบนท์ลีย์ อิ่นเสี้ยงสวี่พูดกับหลี่ห้าวว่า ปอร์เช่คันนั้นของอิ่นซินเจ็ดปีแล้ว ตอนนี้คงจะตกยุคไปแล้ว ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะกำลังออกจากถนนสายนั้น ฉันจะลองตั้งเวลาดูนะว่าต้องรอพวกเขานานเท่าไหร่
เธอทนรอที่จะเหน็บแนมอิ่นซินไม่ไหวแล้ว
ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังมาจากด้านข้าง พี่เสี้ยงสวี่ รถพวกพี่ช้าไปหน่อยนะคะ
ช้า ?
เสียงนี้
อิ่นเสี้ยงสวี่อึ้งไปชั่วขณะ เพราะเธอจำเสียงนั้นได้ จากนั้นรีบหันไปมองรถที่อยู่ข้างๆ เห็นอิ่นซินนั่งข้างเบาะคนขับ เธอถึงกับเบิกตาโต
พี่(ลูกพี่ลูกน้อง)คะ บ้ายบาย
อิ่นซินยังมาทักทายเธออีก จากนั้นรถปอร์เช่ก็แซงเบนท์ลีย์และขับตรงไปข้างหน้า
นี่มันอะไรกัน ฉันเกิดภาพหลอนเหรอ? คนเมื่อกี้คืออิ่นซิน เป็นไปไม่ได้หรอก รถที่ตกยุคแบบนั้นจะขับแซงรถเบนท์ลีย์ที่เพิ่งได้ยังไง ไม่ใช่ละ ทะเบียนรถนั่นเป็นของอิ่นซินจริงๆ
เหมือนอิ่นซินเลย อิ่นเสี้ยงสวี่จำทะเบียนรถของพวกเขาได้ ตอนนี้แซงพวกเขาไปแล้วจริงๆ
อะไรกันเนี่ย!
อิ่นเสี้ยงสวี่อารมณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที เธอยังเตรียมนับถอยหลังเตรียมที่จะเหน็บแนมพวกเขาอยู่เลย คิดไม่ถึงว่าฉินเฟิงจะขับรถแซงเบนท์ลีย์ของพวกเธอได้ แล้วเธอก็พูดประชดหลี่ห้าวว่า คุณดูคนอื่น แล้วดูตัวเองซิ ขับช้าจริงๆเลย
รถ เธอมั่นใจว่าอิ่นซินสู้เธอไม่ได้
คำตอบเดียวเลยก็คือทักษะ
ผมประมาทไป ก่อนหน้านี้เป็นเพราะรอพวกเขา ตอนนี้ผมจะขับแซงไป
หลี่ห้าวขมวดคิ้ว มองปอร์เช่ที่อยู่ข้างหน้า เขารู้สึกโกรธมาก จากนั้นก็เหยียบคันเร่งหวังจะตามให้ทันพวกเขา เพราะถึงยังไงเขาก็เป็นคนเวสเตอร์แลนด์ และเขาก็เชี่ยวชาญในการขับรถมาก
ทันใดนั้นก็เร่งความเร็วขึ้น
จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็ค้นพบสิ่งหนึ่ง คือรถของพวกเขาและอิ่นซินยิ่งอยู่ยิ่งไกลจากกัน เพียงชั่วขณะก็ไม่เห็นแม้แต่เงารถของอิ่นซินแล้ว