เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน – บทที่ 73 มังกรมีเกล็ดต้องห้าม ถ้าไปแตะโดนมันจะโกรธ!

บทที่ 73 มังกรมีเกล็ดต้องห้าม ถ้าไปแตะโดนมันจะโกรธ!

กว้างซื้อหุ้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป เป็นเรื่องที่ฉินเฟิงสั่งให้ฉีหยุนไปจัดการก่อนหน้านี้

 กว้านซื้อหุ้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป ฮ่าๆๆ 

ฟางจือฮุยหัวเราะออกมาทันที: คุณก็แค่ลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลผู้หญิง ยังบอกว่าต้องการกว้านซื้อหุ้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปของฉัน คุณล้อเล่นใช่ไหม แม้แต่บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปก็ไม่สามารถทำได้ 

บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปเป็นบริษัทขนาดใหญ่ แต่เป็นบริษัทที่พึ่งมาตั้งที่เมืองเจียงเฉิง ไม่รู้จักใครและไม่คุ้นเคยกับที่นี่ เป็นไปไม่ได้ที่จะกว้านซื้อหุ้นของบริษัทฉัน

 บริษัทเฟิงซิ่งกรุ๊ปทำไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าฉันก็ทำไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ฉันขอใช้คำพูดที่คุณเคยพูดไว้ บนโลกใบนี้มีคนบางประเภท ที่คนอย่างคุณไม่ควรล่วงเกินผิดใจด้วย และพอดีฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น 

คำพูดของฉินเฟิง ทำให้ฟางจือฮุยรู้สึกไม่ดีขึ้นมาทันที แต่เขาก็ยังหัวเราะดูถูกและพูด: คุณกล้าข่มขู่ฉันเหรอ กว้านซื้อหุ้นของบริษัทฉัน ดูให้ดีๆตอนนี้ฉันจะโทรศัพท์ออกไปและเปิดโปงคำโกหกของคุณ 

ฟางจือฮุยเหลือมือเพียงข้างเดียว ทำให้เขาเคลื่อนไหวค่อนข้างช้า ใช้เวลาสักพักกว่าจะหยิบโทรศัพท์ออกมาได้ หลังจากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง: เฉินหยุนฮุย เมื่อสักครู่มีคนบอกกับฉัน เขากว้านซื้อหุ้นทั้งหมดของคุณแล้ว ฉันหัวเราะเยาะเขา คุณคิดดูสิ เรื่องนี้มันน่าสนใจมากๆ กล้าพูดว่ากว้านซื้อหุ้นของคุณ 

เฉินหยุนฮุยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นอันดับสองของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป มีหุ้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์

และคนที่อยู่ในสายโทรศัพท์ ไม่ยอมพูดอะไรเลยเป็นเวลานานมาก

 ฮัลโหล เฉินหยุนฮุย คุณพูดมาสิ 

ฟางจือฮุยรู้สึกกังวลใจจนบอกไม่ถูก

 วันนี้ของปีหน้าเป็นวันครบรอบวันตายของฉัน ฉันจะไปไหว้คุณเอง เพราะพวกเราเคยเป็นเพื่อนกัน 

เมื่อพูดคำเหล่านี้จบ ในโทรศัพท์ก็มีเสียงตุ๊ดๆๆดังขึ้น

เขาวางสายโทรศัพท์ไปแล้ว

 ฮัลโหล เฉินหยุนฮุย เฉินหยุนฮุย! 

ฟางจือฮุยตะโกนชื่อของเขาผ่านทางโทรศัพท์ไปสองรอบ แต่โทรศัพท์ได้วางสายไปแล้ว จากนั้นเขาก็บ่นพึมพำ: เป็นไปไม่ได้ คุณมันก็แค่ผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินและเป็นไอ้เศษสวะเท่านั้น เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะสามารถกว้านซื้อหุ้นของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้! 

 ฉันจะโทรศัพท์หาเลขาส่วนตัวของฉัน 

ฟางจือฮุยกลืนน้ำลายตัวเอง และเขาก็เริ่มตื่นตระหนกตกใจ ใช้มือข้างที่เหลือกดเบอร์โทรศัพท์ของเลขาส่วนตัว จากนั้นก็โทรออกไปทันที

ผ่านไปหลายวินาที เลขาก็รับโทรศัพท์

 ฮัลโหล เลขา ก่อนหน้านี้มีการประชุมครั้งใหญ่ไหม? 

หลังจากรับสาย ฟางจือฮุยก็รีบถามทันที

คนๆนี้เป็นเลขาส่วนตัวของเขา เขาวางใจเลขาคนนี้มากๆ

 อืม มีการประชุมครั้งใหญ่ แต่ตอนนี้คุณฟางไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทแล้ว ฉันไม่มีสิทธิ์เปิดเผยความลับของบริษัทให้คุณทราบ 

 ไม่ใช่พนักงานของบริษัท? 

ฟางจือฮุยบีบโทรศัพท์ สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เมื่อวานเขายังเป็นประธานบริษัทอยู่เลย แต่วันนี้เขากลับไม่ใช่พนักงานของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปแล้ว มันเป็นไปได้ยังไง

เกิดอะไรขึ้นกันแน่!

ในเวลานี้ เสียงของเลขาคนนั้นก็ดังเข้ามาในสายสนทนา: เห็นแก่ที่พวกเราทำงานด้วยกันมานาน ฉันจะบอกให้คุณทราบ คุณล่วงเกินผิดใจกับคนที่คุณไม่ควรยุ่งด้วย ในการประชุมครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ มีผู้ถือหุ้นร้อยละเจ็ดสิบแปดโหวตให้บริจาคทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปให้กับโครงการสงเคราะห์เด็ก มูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดหนึ่งพันสองร้อยล้านหยวน 

 พูดตรงๆได้เลยว่า ตอนนี้บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปล้มละลายแล้ว 

เมื่อพูดเสร็จ สายสนทนาก็โดนตัดไปทันที

 นอกจากฉัน ผู้ถือหุ้นทั้งหมดเห็นด้วยกับเรื่องนี้เหรอ? เรื่องนี้เป็นไปได้ยังไง 

ฟางจือฮุยอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา ผู้ถือหุ้นทั้งหมดเห็นด้วยกับการบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดของบริษัทออกไป เป็นไปได้ยังไง มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น แต่ในเวลานี้ เขาก็เงยหน้าขึ้นมาและมองฉินเฟิง: มันเป็นเรื่องจริงเหรอ เรื่องนี้เป็นฝีมือของคุณใช่ไหม? 

 ใช่แล้ว ฝีมือของฉันเอง 

ฉินเฟิงพยักหน้า

 มันเป็นไปได้ยังไง! 

ฟางจือฮุยจับศีรษะของตัวเอง ดวงตาของเขาเบิกกว้าง เขาถือหุ้นทั้งหมดในบริษัทฟางซื่อกรุ๊ปยี่สิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ และเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นที่เยอะที่สุดในบริษัทแล้ว

ดังนั้น เขาก็เลยเป็นประธานบริษัท

แต่ตอนนี้ ฉินเฟิงได้ทำการกว้านซื้อหุ้นที่เหลืออยู่ทั้งหมด ตอนนี้เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในบริษัท จากนั้นเขาใช้การโหวตภายในบริษัท คนส่วนน้อยทำตามคนส่วนมาก และบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดให้กับโครงการสงเคราะห์เด็ก

เขาเป็นประธานบริษัท แต่เขาจำเป็นต้องมีหุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ เพื่อโหวตไม่เห็นชอบ

แต่ตอนนี้ บริษัทฟางซื่อกรุ๊ปล้มละลายแล้ว และบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดให้โครงการสงเคราะห์เด็ก และหุ้นที่เขาถืออยู่ยี่สิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ก็หายไปหมดแล้ว พูดกันตรงๆคือ เขาล้มละลายแล้ว

และสิ่งที่เกิดขึ้น มันเหมือนการล้มละลายในละครเลย

 เขาเป็นใครกันแน่? 

ฟางจือฮุยรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเมื่อมองหน้าฉินเฟิง

 คุณไม่มีสิทธิ์รู้เรื่องนี้ ถึงแม้คุณจะเป็นคนที่ใกล้จะตายแล้ว 

ฉีหยุนที่ยืนอยู่ข้างหลังพูดออกมาทันที สำหรับฐานะและตัวตนของฉินเฟิง ไม่ว่าจะด้านไหนก็เป็นความลับระดับSSS

 คนที่ใกล้ตาย คุณจะฆ่าฉันเหรอ? 

สีหน้าของฟางจือฮุยเปลี่ยนไปทันที เขารู้สึกกลัวและคลานไปด้านหลัง: คุณฆ่าฉันไม่ได้ ฉันยังไม่ได้ลงมือล้างแค้นพวกคุณเลย คุณฆ่าฉันไม่ได้ ฆ่าฉันไม่ได้ ฉันยอมเป็นวัวเป็นควาย คุณอย่าฆ่าฉันได้ไหม 

 ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ตั้งแต่คุณพูดว่าจะเอาภรรยาและลูกสาวของฉันขายไปที่ซ่องโสเภณี คุณก็สมควรตายแล้ว 

ฉินเฟิงพูดอย่างเรียบง่าย แต่ทุกคำพูดล้วนแผงด้วยรังสีฆ่าฟัน

กล้าเตะต้องภรรยาและลูกของเขา ต้องตายทั้งหมด!

สมัยก่อนตอนที่เขาอยู่สนามรบเพียงคนเดียว เขามีชื่อเสียงโด่งดังเพราะฆ่าศัตรูนับหมื่นนับแสน ตอนที่อยู่ในสนามรบมีเรื่องเล่า‘เทพสังหาร’ฉินเฟิงอยู่ ศัตรูที่ตายอยู่ในมือของเขา มีไม่น้อยกว่าแสนคน

 ลูกชายของคุณมีสภาพยังไง คุณก็ตายไปในสภาพแบบนั้น  

ฉินเฟิงก้าวไปข้างหน้าและยืนอยู่ตรงหน้าเขา และบีบแก้วไวน์จนแตก

มีเศษแก้วตกลงมาที่พื้นทีละชิ้นๆ

หลังจากนั้น ก็มีเสียงกร๊อบแกร๊บดังขึ้นต่อเนื่องกัน

และมีเสียง

 อ๊าก……ปล่อยฉันไปเถอะ……ฉันไม่กล้าแล้ว……ฉันไม่กล้าทำอีกแล้ว 

 อย่านะ……ปล่อยฉันเถอะ……ปล่อยฉันไปเถอะ…… 

 อย่านะ……อ๊าก…… 

จนกระทั่งไม่มีเสียงใดๆอีก คนที่เคยเป็นคนกระตือรือร้นและเต็มเปลี่ยนไปด้วยพลัง จิตใจกระฉับกระเฉงและมีชีวิตชีวาอย่างประธานของบริษัทฟางซื่อกรุ๊ป และเป็นผู้นำตระกูลฟางได้ตายอย่างน่าสังเวช

หลังจากจัดการทุกอย่างแล้ว ฉินเฟิงก็เดินออกมาจากคฤหาสน์ของตระกูลฟาง ความเกลียดชังในดวงตาของเขาค่อยๆจางหายไป

หลังจากนั้น ฉินเฟิงก็มองไปรอบๆคฤหาสน์ของตระกูลฟาง: พวกคุณไม่ควรมายุ่งกับภรรยาและลูกของฉัน เพราะพวกเขาเป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของฉัน 

ตั้งแต่แม่ของฉินเฟิงเสียชีวิตไป เขาก็เหลือแค่อิ่นซินกับฉินกั่วกั่ว

และในเวลานี้ เขาได้กลายเป็นผู้ชายที่รักภรรยามากๆ

 ท่านครับ พวกเราจะไปที่ไหนต่อ? 

ฉีหยุนนั่งอยู่ที่เบาะคนขับ หันหน้ามาถาม

เขาไม่ได้รู้สึกประหลาดใจเลย ถ้าศัตรูโจมตีมาถึงคุณแล้ว ถ้าในเวลานี้ไม่ตอบโต้กลับ แล้วจะตอบโต้กลับตอนไหน ในฐานะผู้บัญชาการที่ยอดเยี่ยม ต้องเป็นคนโหดเหี้ยม จัดการเรื่องต่างๆก็ต้องโหดเหี้ยมด้วย

 ไปโรงเรียนอนุบาล ใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว ฉันจะไปรับลูก 

 นายพลฉิน ตอนนี้คุณกลายเป็นพ่อบ้านเต็มตัวแล้ว ทุกวันต้องซักผ้าทำอาหาร รับส่งลูก ถ้าให้พี่น้องในอีสเตอร์แลนด์เห็นคุณในตอนนี้ พวกเขาต้องตกตะลึงจนอึ้งไปเลย โดยปกติแล้วคุณเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังและคิดอุบายวางแผนการรบต่างๆ สามารถฆ่าศัตรูแม้อยู่ไกลนับพันลี้ และเป็นนายพลบุ๋น 

 อยู่เบื้องหลังคิดและอุบายวางแผนการรบต่างๆ ชนะได้แม้อยู่ไกลนับพันลี้ ฉันเคยบอกให้คุณอ่านหนังสือเยอะๆก็ไม่เชื่อ 

ฉินเฟิงกลอกตาใส่ฉีหยุน จากนั้นก็บิดขี้เกียจและพูด: แต่การใช้ชีวิตแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน 

 

เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน

เทพบุตร ทวงแค้น / เทพศึกมังกรหวนคืน

Status: Ongoing

ห้าปีก่อน ถูกให้ร้ายเข้าคุก ห้าปีต่อมา เขากลับมาพร้อมเกียรติยศ อำนาจบารมีใต้หล้า ล้วนอยู่ในกำมือของเขา สิ่งที่ฉันสูญเสียไป สักวันจะต้องเอากลับคืนมาร้อยพันเท่าทวีคูณ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท