คุณมาได้ยังไง?
ฉินเฟิงมองฉีหยุนพลางถาม
หัวหน้ากองพลนี้ ก็คือฉีหยุน
พาเจ้าพวกนั้นออกมาการฝึกการทหารแถวนี้ครับ พบว่ามีผู้ประสบภัยจำนวนมากเลยมาดู ฉีหยุนลูบหัวพลางพูด
เขาเป็นพันเอกคนหนึ่ง เป็นพันเอกในเขตทหารชายแดน มีทั้งอำนาจและคุณสมบัติในการบังคับบัญชาเขตทหารแห่งเมืองเจียงเฉิง และฉีหยุนก็ชอบอยู่ในเขตทหาร มีการให้ทหารเหล่านี้ฝึกแบบพิเศษเป็นบางครั้ง
ฉีหยุนที่มีตำแหน่งถึงพันเอกชายแดน เคยผ่านสนามรบมาแล้ว
นาย……พล……นายพล……
เสียงดังตุบ
คนเหล่านั้นล้มลงไปกับพื้นทันที โดนเฉพาะสวีเสี่ยน ตอนแรกยังโอหังอวดดีเตรียมจะฆ่าคนอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับแน่นิ่งลงไปกับพื้น
เสื้อผ้าทั้งตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ
บนหน้าก็มีเหงื่อไหล
เขากลัวขึ้นสมอง
คิดไม่ถึงว่าจะเป็น……นายพล……โอ้โห……พื้นที่เล็กๆ……อย่างเมืองเจียงเฉิง……มีนายพลโผล่มาได้ยังไง สวีเสี่ยนพูดไม่ได้ศัพท์
ตกตะลึง
นายพล หมายความว่าไง!
นี่สามารถบังคับบัญชาเขตทหารและนำศึกได้ แค่ปลายนิ้วก็ทำให้เขาตายได้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะล่วงเกินคนประเภทนี้เข้า
ขณะนี้ ฉินเฟิงมือไขว้หลังพลางเดินเข้ามาตรงหน้าสวีเสี่ยน: ผมไม่ได้เป็นแค่นายพล ผมยังเป็นเทพเจ้าแห่งอีสเตอร์แลนด์อีกด้วย
เทพเจ้าแห่งอีสเตอร์แลนด์!
สวีเสี่ยนสั่นไปทั้งตัว
แม่เจ้า!
จบเห่แล้ว!
เทพเจ้าแห่งอีสเตอร์แลนด์ หมายความว่ายังไง ก็คือหนึ่งในเขตทหารทั้งสี่ของประเทศต้าหัว อีสเตอร์แลนด์เป็นอันดับที่หนึ่ง เป็นรุ่นที่ไม่เป็นสองรองใคร เป็นเทพสงครามที่ปกป้องประเทศ มีทหารใต้บังคับบัญชาถึงแสนนาย
เป็นหนึ่งในกลุ่มคนชั้นยอดของประเทศต้าหัว
ทว่าตอนนี้กลับมาอยู่ตรงหน้าตน!
บุคคลประเภทนี้ อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่ทั้งเมืองเจียงเฉิงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเทพเจ้าแห่งอีสเตอร์แลนด์ผู้นี้ อีกทั้งเขายังได้ยินมาว่าคนคนนี้เคยฆ่าล้างเมืองมาก่อน
เย็นยะเยือก!
เย็นยะเยือกไปทั้งตัว ตัวเขาสั่นเทาไม่หยุด
สวีเสี่ยน ใช่ไหม?โทรหาเบื้องบนของคุณ ผมอยากรู้เหมือนกันว่าใครเป็นคนดำเนินนการรื้อถอน แบบไม่คิดถึงชีวิตคนอื่นแบบนี้ เห็นเมืองเจียงเฉิงเป็นบ้านของพวกคุณงั้นเหรอ?
ฉินเฟิงพูดกับสวีเสี่ยน
ครับๆ
เรื่องมาถึงขั้นนี้เขาไม่กล้าไม่เชื่อฟัง จึงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออก: ฮัลโหล……คุณชายเฉิน……คือพวกเรา……เจอปัญญาเข้าแล้วครับ……ต้อง……
พูดยังไม่ทันทจบ ก็มีเสียงดังออกมาจากปลายสาย
เจอปัญญา?พวกแกจะทำอะไรกินห้ะ เรื่องเล็กๆแค่นี้ก็จัดการไม่ได้ ขายหน้าบริษัทเฉินซื่อกรุ๊ปหมด รอก่อน ฉันจะพาคนไปเดี๋ยวนี้
พูดจบก็วางสายไป
สวีเสี่ยน: ???
คุณฟังให้จบก่อนได้ไหม?
แถมยังพาคนมาอีก?
คุณมาราดน้ำมันเข้ากองไฟ หรือมาส่งอาหารเนี่ย?
10นาทีผ่านไป รถฮัมเมอร์ทยอยขับมาถึง แล้วมีผู้ชายใส่แว่นดำคนหนึ่งลงมาจากรถคันหน้าสุด: ฉันจะดูสิว่าใครมาขัดขวางธุรกิจของ……
ยังพูดไม่ทันจบ
เขาก็ชะงักไป พูดอะไรไม่ออก
จากนั้นขยี้ตาไปมาพลางลอบกลืนน้ำลาย แล้วสูดหายใจเข้า: ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่ไหม นี่มันรถถัง?แม่เจ้า คนของเขตทหาร!
เมื่อเดินมาจึงเห็นว่ามีรถถังอันดุดันดั่งสัตว์ร้ายจอดอยู่
รอบๆมีทหารติดอาวุธครบครัน สายตาหนักแน่นยืนอยู่ มีกลิ่นดินปืนตลบอบอวลในสถานที่แห่งนี้ ราวกับภายในกี่วินาทีจากนี้ ทหารพวกนี้จะเริ่มเปิดฉากยิง
สวีเสี่ยน แกไปมีเรื่องกับใครเข้าห้ะ!
ผู้ชายคนนี้ลนลาน เมื่อเห็นสวีเสี่ยนก็ไปคว้าคอเขาไว้พลางเขย่าไปมาอย่างรุนแรง
จากนั้นไม่รอให้สวีเสี่ยนได้พูดอะไร ฉินเฟิงที่อยู่อีกด้านก็พูดขึ้น
คุณชายเฉิน เฉินป๋อ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ
ฉินเฟิงมือไขว้หลังพลางมองเฉินป๋อด้วยสายตาเย้ยหยัน เขาไม่คิดว่าโครงการรื้อถอนนี้จะเป็นความรับผิดชอบของเฉินป๋อ
หมอนี่คือคนที่ติดเงินพวกเขาแล้วไม่คืนตอนแข่งรถกันครั้งก่อน
แกคือ?เจ้าหมอนั้นเมื่อครั้งก่อน นี่ยังกล้ามาให้ฉันเห็นหน้าอีกเหรอ ครั้งก่อนตู้ต้วนเทียนอยู่ด้วย แต่ตอนนี้ตู้ต้วนเทียนไม่อยู่ ฉันจะดูซิว่าแกจะทำยังไง!
เฉินป๋อจ้องฉินเฟิงเขม็งด้วยสายตาโกรธแค้น
ครั้งก่อนเขาโดนตู้ต้วนเทียนอัดก็เพราะเรื่องนั้น โดนอัดน่ะไม่เท่าไหร่ แถมยังไม่กล้าต่อต้านอีก เพราะนั่นเป็นถึงลูกชายคนโตของตระกูลตู้
แต่ตอนนี้ตู้ต้วนเทียนไม่ได้อยู่ตรงนี้ เขาจะแก้แค้นให้สาสม!
แม่เจ้า!
คุณมาราดน้ำมันเข้ากองไฟจริงๆ?(ทำให้เรื่องแย่กว่าเดิม)
สวีเสี่ยนเห็นแล้วก็สิ้นหวัง คนผู้มานี้มาถึงก็สั่งสอนนายพลทันที ความกล้าเช่นนี้ต่อให้เป็นผู้นำตระกูลเฉินก็คงไม่กล้า
คุณชาย คนที่เรามีเรื่องด้วยคือเขานั่นแหละ สวีเสี่ยนพูดพลางยิ้มเจื่อนๆ
ว่าไงนะ หมอนี่นะเหรอ!
สวีเสี่ยนตกใจมาก เขาไม่คิดว่าจะเป็นฉินเฟิง สายตายิ่งดูโกรธแค้นเข้าไปอีก: ไอ้น้อง ฉันไม่สนว่าแกใช่วิธีไหน ถึงเชิญทหารของเขตทหารมาได้ แต่ฉันจะบอกแกให้ว่าตระกูลเฉินของเราเป็นใหญ่ในเมืองเจียงเฉิง รู้จักคนในเขตทหารเหมือนกัน แค่โทรกริ้งเดียวก็จัดการได้แล้ว
แค่กริ้งเดียว?
ฉินเฟิงเกิดความสนใจขึ้นทันที ยืนมือออกไปข้างหนึ่งทำท่าทาง: คุณลองดูสิ
เหอะ นี่แกกำลังดูถูกตระกูลเฉินของเรา
เฉินป๋อเดือดทันที คว้าโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรออก: ลุงหลี่ ตอนนี้ผมกำลังเจอปัญหา ที่ถนนทักษิณมีทหารเป็นกองทัพ ลุงช่วยดูให้หน่อยว่าจัดการออกไปได้ไหม อย่าให้มากระทบกับงานของผม
ลุงหลี่ผู้นี้เป็นเพื่อนสนิทของพ่อเขา และเป็นลูกพี่ใหญ่คนหนึ่งในเขตทหาร
มีลูกพี่ใหญ่คอยช่วยต้องจัดการได้อยู่แล้ว
แต่ทว่าหลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ คนในสายก็ถอนหายใจออกมา: เห้อ เฉินป๋อ ฉันจะให่พ่อแกมีลูกใหม่อีกคน ชาติหน้าอย่าทำเรื่องโง่ๆแบบนี้อีกนะ แกหน่ะทำให้ฉันเดือดร้อนไปด้วย
มีลูกใหม่อีกคน?
ชาติหน้า?
เฉินป๋อ: ???
ฮัลโหลลุงหลี่ คือ…… เฉินป๋อรีบพูดขึ้น สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ
ทว่าปลายสายกลับมีเสียง‘ตู้ดๆๆ’ดังออกมา
วางสายไปแล้ว
แม่ง อะไรวะเนี่ย?
เฉินป๋องุนงง ปกติลุงหลี่รักเขามากๆ แต่วันนี้เกิดอะไรขึ้น คิดไม่ถึงว่าจะให้พ่อเขามีลูกอีกคน?
ท่านนายพล ตรวจสอบได้แล้วครับ สายเมื่อครู่คือหลี่ซูหวน เป็นนายพันคนหนึ่งของเขตทหารแห่งเมืองเจียงเฉิง ฉีหยุนพูดจากด้านหลัง
เขาตรวจสอบขณะเฉินป๋อคุยโทรศัพท์
ฝีมือการสืบสวนของอีสเตอร์แลนด์นั้นยอดเยี่ยมมาก
ไปตรวจสอบให้ชัดเจน ถ้าหลี่ซูหวนผู้นี้มีการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ก็ให้ออกซะ เขตทหารประเทศต้าหัวของเราไม่ต้องการคนอยู่ในตำแหน่งแต่ไม่ทำอะไรแบบนี้
ฉินเฟิงโบกมือพลางออกคำสั่ง
ครับ ฉีหยุนพูด
ทว่าเฉินป๋อกลับพูดหัวเราะเยาะขึ้นมา: ฮ่าๆ ตลกจริงๆ ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมครั้งนี้ลุงหลี่ไม่ช่วยฉัน แต่ไม่คิดว่าแกจะให้ลุงหลี่ออกจากตำแหน่ง นี่……แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?เป็นแค่นายพล คิดจะให้ปลดก็ปลดเลย?เหอะ……
ผมเป็นแค่นายพลจริงๆนั่นแหละ ผมฉินเฟิง เทพเจ้าแห่งอีสเตอร์แลนด์ ขอถามว่าตำแหน่งนี้เพียงพอหรือไม่?
ฉินเฟิงมือไขว้หลังพลางยกยิ้มมุมปาก