ไม่เป็นอะไรก็ดี
หลังจากที่ฉินเฟิงแน่ใจแล้วว่าพวกเขาไม่เป็นอะไร ก็หันหลังกลับ มองไปยังคนเหล่านี้ สุดท้ายก็หันสายตาไปมองที่หวงจง : แกจะทำอะไร?
เขารู้ดีอย่างมาก หวงจงมาเพื่อหาเรื่อง
ฉันมาทำอะไรน่ะเหรอ?ก็ต้องมาเป็นแขกอยู่แล้วนะสิ ฉันเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยของอิ่นซินนะ มีมิตรภาพต่อกัน มาเป็นแขก คงไม่แปลกหรอกนะ ส่วนคนเหล่านี้ ล้วนเป็นเพื่อนสนิทของฉัน ฉันเป็นคนพามาเอง แกคงไม่ไล่พวกเราไปหรอกนะ
หวงจงทำท่าทางมีเหตุมีผล ถ้าหากคุณไม่ต้อนรับฉัน งั้นคุณนั่นแหละที่ไม่มีมารยาท
ถ้าหากไม่มีมารยาท งั้นฉันก็ไม่ถือสาที่จะทำอะไรลงไป
มาเป็นแขก?
ฉินเฟิงเลิกคิ้ว : บังเอิญจัง ฉันก็มีเพื่อนมาเป็นแขกเหมือนกัน ไม่งั้น มาด้วยกันไหม?
แกก็มีเพื่อนมาด้วย?
หวงจงรู้สึกแย่โดยทันที แต่ว่าทันใดนั้นก็คิดได้ว่า ฉินเฟิงก็แค่ลูกเขยจนๆที่แต่งงานเข้ามาอยู่บ้านภรรยาเท่านั้นเอง จะมีเพื่อนอะไรได้ จะสามารถทำอะไรได้ ยิ้มอย่างดูถูกทันที : แล้วแต่แก
โอเค
ฉินเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้ว กดโทรออกไป
รอประมาณห้านาทีแล้ว หวงจงค่อนข้างหมดความอดทน พูดขึ้นมาทันทีว่า : ไอ้เด็กน้อย แกยังเรียกคนมาอีกเหรอ แกนี่โง่จริงๆ หรือว่าแกล้งโง่กันแน่ มองไม่ออกเหรอว่านี่มันอยู่ในสถานการณ์แบบไหน?รู้ไหมว่าเพื่อนของฉันเป็นใคร?จางว่าน พี่ใหญ่แห่งถนนหนานแจ เห็นคนพวกนี้ไหม ล้วนแต่เป็นลูกสมุนของพี่ว่านของฉันทั้งนั้น
หวงจงโบกไม้โบกมือ ผู้ชายกว่าหลายร้อยคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
แม้ว่าคนพวกนี้จะยืนอยู่ข้างหลังของจางว่านก็ตาม
และจางว่านที่สวมใส่ชุดดำ จับๆกรอบแว่นของตัวเองแล้ว มองไปที่ฉินเฟิง พูดด้วยความหยิ่งเล็กน้อยว่า : ยอมแพ้การต่อสู้ที่ไร้ความหมายนี่เถอะ ฉันไม่เพียงแค่เป็นพี่ใหญ่แห่งถนนหนานแจ ฉันยังเป็นหลานชายของท่านสามแห่งบริษัทบอดี้การ์ด มังกร จำกัด เพราะงั้นยอมแพ้เถอะ ไม่มีใครมาหรอก ไม่มีใครกล้ามา ที่เมืองเจียงเฉิง มีไม่กี่คนที่กล้ามาล่วงเกินอาสามของฉัน
ท่านสามจางแห่งบอดี้การ์ดมังกร?
ฉินเฟิงมือไพล้หลัง พอที่จะรู้จักคนๆนี้
ครั้งก่อนต้าตาวเคยบอกกับเขาว่า บริษัทบอดี้การ์ด มังกร จำกัดเป็นองค์กรใต้ดินที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเจียงเฉิง ในนั้นผู้มีฝีมือที่รับผิดชอบการต่อสู้เป็นที่เรียกขานกันว่าซ่างเปียวบอดี้การ์ดมังกรมือวางอันดับหนึ่ง
และที่รับผิดชอบติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น ก็เป็นที่เรียกขานกันว่าท่านสามจางแห่งบอดี้การ์ดมังกรเจ้าปัญญาอันดับหนึ่ง
ดังนั้น กลัวแล้ว?ถ้าหากแกยอมมอบสองล้านให้อย่างเชื่อฟัง ฉันก็พอพิจารณาดูได้ว่า ไม่เอาแกถึงตาย ให้แกได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
จางว่านยกแว่นตาขึ้นแล้ว นัยน์ตาปรากฏแสงแห่งความเยือกเย็น
อันที่จริง หวงจงเพียงแค่ให้เขาสั่งสอนฉินเฟิงสักยกหนึ่ง หักแขนสักข้างหนึ่งอะไรทำนองนี้ก็พอแล้ว กลับว่าไม่ได้คิดที่จะฆ่าฉินเฟิงให้ตาย แต่จางว่านก็ไม่ถือสาที่จะรีดไถเงินจากฉินเฟิงสักก้อน
ถึงอย่างไรคนธรรมดาทั่วไปอยู่ในเวลาแบบนี้ เกรงว่าจะตกใจจนไม่รู้จักบันยะบันยังแล้ว
เพียงแต่ว่า มุมปากของฉินเฟิงงอลง : เพราะงั้น คนนั้นที่เรียกว่าท่านสามจางแห่งบอดี้การ์ดมังกร เป็นคนชั่วประเภทเดียวกันกับแก? หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ล้วนแต่ไม่ใช่คนดีอะไร ใช่ไหม ?
คนชั่วประเภทเดียวกัน ไม่ใช่คนดีอะไร?
จางว่านตกตะลึงก่อนเลย ตามมาด้วยนัยน์ตาที่สาดส่องความโมโหออกมา : ไอ้เด็กน้อย คนอย่างแก กล้ามาว่าอาสามของฉัน?แค่ท่านสามพูดออกมา สามารถทำให้แกตายโดยไม่มีที่ฝังศพได้เลยนะ
วันนี้ไม่ต้องถึงท่านสาม ฉันก็สามารถฆ่าแกให้ตายและเอาเถ้ากระดูกของแกไปโปรยทิ้งได้
จางว่านโมโห
แกลองดูสิ
ใบหน้าของฉินเฟิงไม่สะทกสะท้าน
ไอ้เด็กน้อย แกนี่กล้ามากนะ แต่วันนี้อยากลองก็ลองดู ขึ้นไป
จางว่านโบกมือ
สมุนกว่าร้อยคนที่อยู่เบื้องหลังก็ก้าวขึ้นไปแล้ว แต่ว่าในเวลานี้ ได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นรอบๆแล้ว ให้พวกเขาหยุดลงครู่หนึ่ง
นี่คือ?
พวกลูกสมุนเหล่านั้น มองไปรอบๆ
ตูม
เสียงของมอเตอร์ไซค์ มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับออกมาจากหัวมุมแล้ว ตามมาด้วยคันที่สอง คันที่สาม คันที่สี่ ……ฝุ่นและเขม่าควันลงขึ้นสูง ทำให้คนมองเห็นไม่ชัดเจนว่ามีมอเตอร์ไซค์มากี่คันกันแน่
แต่ว่า ดำมืดสนิท
อย่างน้อยก็มีกว่าหลายร้อยคน
แต่ว่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ยังมีเรื่องที่เจ๋งกว่าอีก รถฮัมเมอร์คันแล้วคันเล่าขับมาถึงที่นี่แล้ว สีดำ ท่าทางที่ดุดัน นำมาซึ่งกลิ่นอายแห่งการฆ่า เสียงดังเอี๊ยด รถฮัมเมอร์หยุดลงทันที
ลงมาจากบนรถคนแล้วคนเล่า สวมชุดดำ รูปร่างสูงใหญ่และแข็งแรง
และมีกว่าหลายร้อยคน!
แต่ละคนมีลักษณะที่ดุร้ายโหดเหี้ยมอำมหิต
มีอย่างน้อย 500 คน
จางว่านเห็นฉากนี้ มีเหงื่อเย็นๆไหลบนใบหน้า นี่เป็นกองกำลังของใครกัน 500 คนเต็มๆ อย่างที่รู้พวกเขาตรงนี้มีแค่ 100 คนเท่านั้น
มิตรหรือศัตรู?
ล้อมพวกเขาไว้
วินาทีถัดมา มีเสียงมาจากรถฮัมเมอร์คันหนึ่ง
รับทราบ
ลูกน้องเหล่านั้นต่างจากพวกอันธพาลทั่วไป ไม่มีรอยสักบนร่างกายมากนัก กลับมีความเด็ดเดี่ยวหนักแน่น มีระเบียบ ทันใดนั้นดวงตาปรากฏความดุร้าย ล้อมรอบจางว่านและคนอื่นๆทันที
เวรเอ๊ย ใครกัน?
จางว่านแอบสบถ
คนพวกนี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังมุ่งหน้ามาหาพวกเขา
ตึง
ประตูรถเปิดออก และชายร่างสูงก็ลงจากรถ
ต้าตาวเป็นแกเองเหรอเนี่ย
หลังจากที่จางว่านเห็นต้าตาว ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็คือต้าตาวคนแห่งถนนตงเจียคนนั้นนี่เอง เขาเคยได้ยินมาก่อน เพียงแต่ไม่รู้ว่ามีกำลังคนมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
จากนั้น เขาก็หันไปหาฉินเฟิง ยิ้มมุมปากกล่าว: ฉันก็คิดว่าแกเรียกหาใคร? ที่แท้ก็ต้าตาวคนนี้เอง เหอะ ฉันจะบอกแกให้นะ เขาไม่กล้าล่วงเกินฉันหรอก ฉันเป็นหลานชายของท่านสาม เขาไม่กล้ายุ่งฉันหรอก
ต้าตาว แกถอยไปซะดีๆเถอะ อย่าหาเรื่องให้ลำบากใจเลย
จางว่านมั่นใจ เพราะเขารู้ว่าต้าตาวมีพฤติกรรมอย่างไร ไม่กล้าล่วงเกินเขาหรอก คนเยอะขนาดนี้ เดี๋ยวก็จะถอยกลับไปอย่างเชื่อฟัง
หวงจงยิ้ม
หาผู้ช่วย จะมีประโยชน์อะไร เดี๋ยวก็ถอยกันไปหมดแล้ว
แต่ทว่า ต้าตาวไม่ได้ถอยไป ไม่แม้แต่จะสนใจจางว่านและหวงจงเลย เดินผ่านฝูงชน เดินมาถึงตรงหน้าฉินเฟิง กล่าวคำนับ: พี่ใหญ่
พี่ใหญ่!
ลูกน้อง 500 คนข้างหลัง ตะโกนพร้อมกัน
เสียงดังสนั่นฟ้า
พี่ใหญ่?
แม้ว่าจางว่านซึ่งเป็นที่รู้จักในด้านการคำนวณคนมาโดยตลอด ก็ยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยในขณะนี้ จางว่านคนนี้เรียกลูกเขยจนๆที่แต่งเข้ามาอยู่บ้านฝ่ายหญิงคนนั้นว่าพี่ใหญ่
อะไรกันเนี่ย
ต้าตาว คุณเรียกเศษสวะนี่ว่าพี่ใหญ่เหรอ? คุณเพี้ยนไปแล้วเหรอ?
จางว่านเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว สีหน้าเหลือเชื่อ
แต่ทว่า
เสียงดังเปรี๊ยะ
ต้าตาวตบหน้าเขาด้วยฝ่ามือไปอย่างแรง ตบเขาที่ยังไม่ทันตั้งตัว หลังจากตอบสนอง รอยตบขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
ดูถูกพี่ใหญ่ของฉัน สมควรโดนตบ
ต้าตาวสูงและกำยำ เผยใบหน้าที่โหดเหี้ยม เขาเป็นคนที่เริ่มทะเลาะต่อยตีตั้งแต่เล็กจนโต ตบครั้งนี้ ลงแรงตบไม่เบา ตบจนทำให้จางว่านอึ้งไปเลย
แกกล้าตบฉันเหรอ?
เสียงของจางว่านมีความดุดันหน่อยๆ
ตบแกแล้วยังไง เชื่อไหมว่าวันนี้ฉันจะฆ่าแก ต้าตาวกล่าวอย่างดุร้าย
ในเมื่อเลือกฉินเฟิงแล้ว งั้นก็ต้องไปให้ถึงที่สุด
ฉินเฟิงมองต้าตาว ออร่าค่อย ๆ ปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา ไม่กี่วันก่อน ต้าตาวมาบอกเขาว่า เขาต้องการฝึกกับพวกพ้องของเขาสักพัก
ฉินเฟิงก็ให้ฉีหยุนไป
ตอนนี้ดูเหมือนว่า ต้าตาวก็ถือว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ ในเมื่อเลือกเขาแล้ว งั้นเขาก็ไม่รังเกียจที่จะมอบโอกาสให้ต้าตาวสักครั้ง
บริษัทบอดี้การ์ด มังกร จำกัด
ยมบาลเจียง
สิ่งที่ใหญ่มหึมาแห่งเมืองเจียงเฉิงนี้ ถูกโค่นล้มแล้ว