ครับ
มีบอดี้การ์ดคนหนึ่งก้าวออกมา เขามีส่วนสูง198ซม. สวมเสื้อกันลม สายตาเฉียบคม ในมือซ้ายถือปืนพกหนึ่งด้าม ตรงนิ้วโป้งมีรอยกร้าน
คนผู้นี้คือหลี่เทียนหนาน เป็นบอดี้การ์ดจากจงไห่ที่เกษียณอายุแล้ว หลังจากนั้นก็ทำภารกิจเป็นบอดี้การ์ดมาโดยตลอด ภารกิจนับสิบครั้งที่ต้องพบเจอกับมือสังหาร เขาไม่เคยทำพลาดมาก่อน
หลี่เทียนหนาน บอดี้การ์ดจงไห่ คนแบบนี้ถูกจ้างโดยหลี่เจิ้งหยางได้อย่างไร
เกรงว่าน่าจะให้ในราคาสูง ได้ยินมาว่าคนผู้นี้โลภมาก ทุกงานของเขาสามารถนั่งคุยราคาได้ ความสามารถแข็งแกร่ง แต่ก็ขอเงินในจำนวนที่มากเหมือนกัน
ถ้าเป็นคนผู้นี้ Mr.Xคนนี้คงต้องจบเห่แน่ๆ
หนึ่งในนั้นจำหลี่เทียนหนานได้ เขาอุทานด้วยความตกใจ ทำให้ทั่วทั้งงานต่างพากันตกตะลึง
นี่เป็นบอดี้การ์ดสุดยอดมืออาชีพ
ไอ้หมอนี่ ตายแน่
อิ่นป่ายส่ายหัวไปมา ในสายตามีความสงสารเล็กน้อย เขารู้ดีว่าหลี่เทียนหนานมีความสามารถมากแค่ไหน
ตาย
แต่หลี่เทียนหนานในฐานะบอดี้การ์ดมืออาชีพ ในมือควงปืนพกข้างซ้าย ทันใดนั้นก็ชี้ไปที่หัวของฉินเฟิง ทำให้เขาไม่ทันได้ตั้งตัว
เพียงแต่ ในตอนที่เขากำลังจะลั่นไกนั้น ฉินเฟิงเงยหน้าขึ้นมา ทางที่ดีคุณอย่าเอาปืนจ่อผมดีกว่านะ เพราะว่า คนที่กล้าเอาปืนจ่อหัวผมครั้งล่าสุด หญ้าบนหลุมศพของเขาสูงเท่ากับคุณแล้ว
เขาหัวเราะเบาๆ เผยให้เห็นฟันขาวเรียงสวย
ดูเหมือนสดชื่นรื่นอารมณ์สราญใจ
ในความเป็นจริง มันน่ากลัวมาก
ทันใดนั้น มือข้างนั้นของหลี่เทียนหนานก็กดลงไปไม่ได้ ประสบการณ์ในสนามรบมานานหลายปี สัญชาตญาณของเขาสามารถสัมผัสได้ว่าอันตรายถึงชีวิตใกล้เข้ามา ทำให้รูม่านตาของเขาหดลง ถอยหลังไปสองก้าว
หลี่เจิ้งหยาง คนผู้นี้ผมต่อกรไม่ได้จริงๆ หลี่เทียนหนานถอยหลังไปสองก้าว แล้วกัดฟันพูด
ลำพังแค่ความกดดัน มันก็ทำให้เขาหัวใจเต้นจนแทบหลุดออกมาแล้ว ถ้าลงมือจริงๆ เกรงว่าจะน่ากลัวมากยิ่งขึ้น
มาแล้ว
ทุกคนกำลังขบขันกัน สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ พวกเขาก็แค่พูดๆกันเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าตอนนี้เขาจะแสร้งทำเป็นสู้ไม่ไหวจริงๆ หลังจากนั้นก็นั่งคุยราคา ขอเงินอีกก้อน
โลภจริงๆเลย
หลี่เทียนหนาน ฉันให้แกอีกสามล้าน ฆ่าคนพวกนี้ซะ
หลี่เจิ้งหยางคิดว่าหลี่เทียนหนานจะนั่งขอพูดเรื่องเงิน จึงขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ แต่ลูกศรอยู่บนคันธนูแล้ว จะไม่ยิงก็คงไม่ได้ ประกอบกับเงินที่ถูกเพิ่มขึ้นอีกสามล้าน
จัดการฆ่าMr.Xที่ปลอมตัวเป็นผีนี่ก่อนแล้วค่อยว่ากันดีกว่า
สามล้าน?วันนี้ถึงคุณจะให้ผมสามสิบล้าน ผมก็ไม่ทำ
หลี่เทียนหนานส่ายหัวไปมา แล้วพูดตะโกน หลังจากนั้นสองเท้าของเขา ก็วิ่งออกไปทางประตู เรื่องนี้ ผมหลี่เทียนหนานไม่ขอเอี่ยวด้วย
ตอนนี้เขาแค่อยากจะหนีไป
สามล้านอะไรกัน!
ความร่ำรวยอะไร ตอนนี้เขาแค่อยากรักษาชีวิตไว้
เพียงแต่ สายตาเฉียบคมของฉินเฟิงกวาดมองไป ผมให้คุณไปได้แล้วงั้นหรอ?
ฉันจะไป แกก็ขวางฉันไม่ได้หรอกนะ หลี่เทียนหนานตะคอก
เขารู้ดีว่าตนสู้ฉินเฟิงไม่ได้ แต่ถ้าอยากจะหนีไป ใครก็ขวางเขาไว้ไม่ได้
งั้นหรอ?
ฉินเฟิงยืนเอามือไพล่หลัง แล้วพูดพึมพำ หน้ากากปีศาจบนหน้า ทำให้คนรู้สึกเยือกเย็นมาก
เหลือแค่ก้าวเดียวแล้ว
หลี่เทียนหนานเห็นว่าเหลืออีกแค่ก้าวเดียวก็จะสามารถวิ่งออกจากประตูนี้ได้แล้ว ใบหน้าเผยให้เห็นความดีใจ แต่วินาทีต่อมาทางเข้าประตูก็มีชายสวมชุดดำปรากฏตัวขึ้น
แต่งตัวเหมือนคนที่ยกโลงศพเข้ามาไม่มีผิด
เห็นได้ชัด ว่าเป็นนายทหารเล็กๆคนหนึ่ง
ไอ้หนุ่ม แกเนี่ยนะ อยากจะขวางฉัน แกยังอ่อนไป ให้เจ้านายแกมายังว่าไปอย่าง หลี่เทียนหนานหัวเราะ แล้วล้วงกริชบนตัวออกมาหนึ่งด้าม ตรงเข้าจัดการฆ่าทหารรายนี้
นายทหารเล็กๆคนหนึ่ง อยากขวางเขาไว้ อ่อนต่อโลกมากไปหน่อยมั้ง
แต่แล้ว วินาทีต่อมา ร่างกายของเขาก็หยุดการเคลื่อนไหว สีหน้าของเขาแข็งทื่อ ดวงตาทั้งสองข้างเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เขาก้มลงมองดาบที่ปักบนหน้าอกของตัวเอง
ทำไมถึง……เร็วขนาดนี้
พู่!
หลี่เทียนหนานกระอักเลือดออกมาจากปาก จนกระทั่งก่อนตายเขายังไม่เข้าใจ ว่าทำไมนายทหารเล็กๆคนนี้ถึงได้เก่งกาจขนาดนี้ มีความเร็วในการออกอาวุธรวดเร็วมาก
เร็วกว่าคนที่รับภารกิจเร็วอย่างเขาเสียอีก
องครักษ์หมาป่า สุดยอดฝีมืออันดับหนึ่งของฉัน คนไร้ความสามารถอย่างแกจะมาเทียบชั้นได้อย่างนั้นหรอ
ฉินเฟิงกล่าวอย่างเย็นชา
ครับ
ชายชุดดำมากกว่าสามสิบคนเดินกรูกันเข้ามาด้านใน ทุกคนล้วนคุกเข่าหนึ่งข้างให้กับฉินเฟิง สีหน้าเคร่งขรึม ท่าทีแน่วแน่ เสียงคำรามของฉีหยุน ทำให้ทุกคนที่อยู่ในงานถึงกับตกตะลึง
จัดการ
ฉินเฟิงกวาดตามองทั่วทั้งห้องโถง แล้วพ่นออกมาสองคำ
ครับ
องครักษ์หมาป่า แต่ละคน ชักดาบออกมาคนละด้าม ส่องแสงเย็นยะเยือกภายใต้ความงดงามตระการตา ต่อมานายทหารทุกคนก็เข้าล้อมห้องโถงไว้
ขอเชิญทุกท่านที่ไม่เกี่ยวข้อง รีบออกจากงานให้เร็วที่สุด
หนึ่งในองครักษ์หมาป่ารูปร่างผอมคนหนึ่ง กล่าวขึ้นพลางใช้สายตาเคร่งขรึมมองไปที่คนเหล่านั้น
ไปครับๆ
เราจะไปเดี๋ยวนี้แหละ เรื่องในวันนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเราทั้งสิ้น
เมื่อเห็นฉากที่หลี่เทียนหนานถูกฆ่าตาย คนพวกนั้นที่ไม่มีอิทธิพลอะไรก็ไม่กล้าอยู่ต่อไป แต่คนจำนวนมากยังคงยืนอยู่กับที่ไม่ไปไหน
ถ้าถูกข่มขู่จนวิ่งหนีออกไป ถ้าอย่างนั้นชื่อเสียงของตระกูลพวกเขาจะอยู่ต่อไปอย่างไร
ไอ้หนุ่ม แกบอกให้ฉันไป ฉันก็ต้องไปงั้นหรอ?เมื่อไรกันที่ เห้อเฉิงหลงคนอย่างฉันไม่มีศักดิ์ศรี ถูกแกเรียกให้ไปไหนก็ได้น่ะ
มีอาเสี่ยคนหนึ่งเดินออกมาจากท่ามกลางฝูงชน เขาสูง180ซม. สวมชุดแบรนด์เนม และนาฬิกาหรูแบรนด์โรเล็กซ์ ใบหน้าเต็มไปด้วยความจองหอง
นี่คือเห้อเฉิงหลง เป็นคุณชายของตระกูลเห้อ พึ่งเรียนจบจากนอกกลับมา ได้ข่าวว่าเขาได้รับปริญญาโทสองใบจากฮาร์วาร์ด
ยังได้ข่าวว่า เป็นปรมาจารย์ในการต่อสู้ และยังเคยได้รับรางวัลจากเจียงเฉิงของเราอีกด้วย
คนผู้นี้มีความกล้ามาก แต่ก็ถือว่าเป็นคนที่โดดเด่นคนหนึ่ง ดูท่าเจียงเฉิงแห่งนี้ อิทธิพลของตระกูลเห้อจะกลับมาแล้วสินะ
ทุกคนต่างพากันอุทานขึ้นมา
พวกเขากล้าที่จะไม่ไป แต่กลับไม่กล้าพูดอะไร คิดไม่ถึงว่าเห้อเฉิงหลงจะก้าวออกมา
เหอะ
เห้อเฉิงหลงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ความจริงแล้วเขาไม่ได้ก้าวออกมาพูดเพื่อตระกูลหลี่หรอก เขาทำเพื่อตัวเองเท่านั้น เขาพึ่งกลับมาจากต่างประเทศ ยังไม่ค่อยมีชื่อเสียงในเจียงเฉิงมากนัก ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสของเขา ให้เขาได้แสดงความสามารถ
ทำให้คนในเจียงเฉินรู้ว่าตัวเองเป็นคนที่โดดเด่น เป็นผู้กล้าที่มีความสามารถ
ต่อมาเห้อเฉิงหลงก็สะบัดแขนเสื้อ เรื่องของพวกคุณ ตระกูลเห้อของผมไม่ขอเอี่ยวด้วย แต่วันนี้ไม่มีใครมาบังคับผมได้ ผม……
เขาเอาตระกูลเห้อออกมาพูด ในเจียงเฉิงตระกูลเห้อถือได้ว่าเป็นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง และเขายังแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าไม่ขอเกี่ยวข้องกับเรื่องของตระกูลหลี่ เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนต่อฉินเฟิง
ขอแค่Mr.Xคนนี้มีสมองหน่อย ก็จะไม่มีทางล่วงเกินสองตระกูลของพวกเขาพร้อมกัน
ถ้าเป็นแบบนี้ เขาทั้งสามารถหนีไป แล้วยังสามารถโยนชื่อเสียงของตัวเองออกไปได้อีกด้วย
เพียงแต่ เขายังพูดไม่ทันจบ ฉินเฟิงก็เอามือไพล่หลัง สายตาเฉียบคม ในเมื่อไม่อยากไป งั้นก็ไม่ต้องไป องครักษ์หมาป่า ฆ่าเขาซะ
ครับ
องครักษ์หมาป่า คนหนึ่งกวัดแกว่งดาบครู่หนึ่ง
มะ……ไม่นะ……ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้……ไม่……
สีหน้าของเห้อเฉิงหลงเปลี่ยนไป เหตุใดถึงไม่เป็นแบบที่เขาคาดการณ์ไว้ล่ะ Mr.Xผู้นี้มันเป็นคนบ้าชัดๆ ถึงได้กล้าล่วงเกินสองตระกูลพร้อมกันแบบนี้