ถ้าหากญาณินใช้น้ำเสียงไร้เดียงสาไม่มีอันตรายถามเธอ เธอต้องยิ้มและตอบอย่างดีใจแน่นอน
แต่ธิชามองเห็นความเย็นชาที่ดูแปลกตาในแววตาของเธอ
เมื่อก่อนญาณินไม่มีทางใช้สายตาแบบนี้มองเธอ
เธอค้นพบแล้ว หรือว่าเดาออกแล้ว
อายุอย่างธิชายังไม่รู้ว่าควรรับมือกับเรื่องแบบนี้ยังไง
มิหนำซ้ำฝ่ายตรงข้ามเป็นเพื่อนรักของเธอ เธอไม่อยากทำร้ายเธอจริงๆ
เธอลังเลอยู่สักพัก สุดท้ายก็พยักหน้าอย่างจริงจัง
แน่นอน ฉันต้องดีใจกับเธอแน่นอน
ญาณินจับมือเธอไว้แน่น น้ำเสียงสั่นเล็กน้อย พูดด้วยเสียงกึ่งสะอื้น
ธิชา ฉันรักพี่ชายเธอมาก ความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขา มันมากเกินกว่าผลประโยชน์ทางตระกูล ฉันชอบเขาจริงๆ อยากแต่งงานกับเขา มีลูกให้เขา ช่วยเหลือเขาเลี้ยงลูกให้เขา ใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดชีวิต
มือของธิชาถูกเธอกดจนเจ็บ แต่เธอไม่ได้ดึงออก
เธอพยักหน้า อยู่กับผู้ชายที่เธอรักตลอดชีวิต นี่ต้องมีความสุขมาก ญาณิน ฉันยินดีกับเธอ
มือของญาณินผ่อนคลายลงบ้าง สีหน้าก็เก็บอาการบ้าง เหมือนใช้เรี่ยวแรงอย่างมากเพื่อปิดปังอารมณ์บางอย่าง
ธิชามองดูท่าทางอดกลั้นของเธอ ความรู้สึกก็ค่อนข้างซับซ้อน
เธอกับญาณินโตมาพร้อมกัน ถึงแม้ว่าญาณินจะเป็นคุณหนูที่ไม่มีอะไรให้กังวล แต่ไม่ใช่ผู้หญิงโง่ที่มีแต่หน้าไม่มีสมอง
ถึงแม้ว่าญาณินจะสงสัยอย่างสุดขีด แต่เธอไม่ได้คิดจะเปิดโปง เพียงแค่ใช้วิธีอดกลั้นแบบนี้ตักเตือนเธอ
เธอคงจะหวังให้ตัวเองสามารถหยุดได้ ไม่ไปมีเรื่องมั่วอะไรที่เกินไปกว่าความเป็นพี่น้องกับธาวิน
แต่ญาณินจะไปเข้าใจได้ยังไง เหตุการณ์วุ่นวายนี้เธอไม่สามารถควบคุมได้เลยแม้แต่น้อย
เธออยากมากแค่ไหนที่จะไม่เป็นคนทำลายชีวิตคู่คนอื่น แต่การขัดขืนอย่างรุนแรงจะได้มาซึ่งการกระทำที่ทารุณยิ่งขึ้นจากธาวิน
ธาวินแม้แต่พ่อของตัวเองยังทำให้เป็นอัมพฤกษ์ได้
ความโหดร้ายของเขาไม่ใช่สิ่งที่พวกเธอแม่ลูกจะทนรับได้
………
ระหว่างทางกลับบ้านจากโรงพยาบาล
ญาณินยื่นเอกสารให้เธอหนึ่งฉบับ
ธิชาเปิดเอกสารพวกนั้นออก สายตาชะงักด้วยความแปลกใจ
นี่คือเอกสารคำปราศรัยในงานหมั้น ประโยคที่ทำให้คนน้ำตาหลาย ซาบซึ้งประทับใจ
ธิชารู้สึกว่าไม่มีเรื่องที่น่าตลกไปกว่านี้อีกแล้ว
แต่ญาณินกลับยิ้มเหมือนกับนางฟ้าผู้ไร้เดียงสา ธิชา คำปราศรัยฉันเขียนเสร็จแล้ว ให้ผู้วางแผนจัดงานหมั้นดูแล้ว เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน และเป็นน้องสาวที่รักใคร่ของธาวิน ไม่มีคนที่เหมาะสมกว่าเธออีกแล้ว งานหมั้นให้เธอเป็นคนกล่าวคำปราศรัย นี่เป็นของขวัญงานหมั้นที่ดีที่สุดที่เธอให้ฉัน
ธิชามองดูใบหน้าสวยงามอ่อนโยนของเธอ
นี่เป็นเพื่อนเล่นของเธอตั้งแต่เล็กจนโตจริงๆ แต่จากดวงตาอันไร้เดียงสาของญาณิน มองเห็นความชั่วร้ายบางอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
……….
ในวันงานหมั้น
สภาพของธิชาอยู่ในอาการเหม่อลอยตลอด คำปราศรัยท่องจนคล่องตั้งนานแล้ว
เธอจะทำเรื่องที่ญาณินขอร้องเธอทำให้อย่างดีและสมบูรณ์แบบ
แต่นอกจากคำปราศรัย เธอยังต้องยืนอยู่ข้างธาวินแสดงบทบาทน้องสาวที่เชื่อฟัง
งานหมั้นของคุณชายตระกูลธนาภูวนัตถ์ คนดังมีชื่อเสียงและนักการเมืองทั้งหมดในจังหวัดภาคใต้ทั้งแปดล้วนมาร่วมงานกันหมด
ธิชายืนต้อนรับแขกหน้าประตูทางเข้าในฐานะญาติ อย่างยิ้มแย้ม
จนกระทั่งเธอเห็นดนัยกฤตในชุดทักซิโด้สีดำ รอยยิ้มบนใบหน้าเกร็งทันที
ใครจะไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างประธานดนัยของภักดิภูมิเมธีกรุ๊ปกับธาวินนั้นเป็นอริคู่แข่งกัน
ธิชาเดาไม่ออกว่าทำไมเขาถึงมาร่วมงาน
แต่ตอนที่เธอเห็นพนักงานต้อนรับสาวเซ็นชื่อในรายชื่อแขก เธอก็คิดได้แล้วว่าธาวินเชิญเขามา
ธาวินทำไมถึงเชิญเขามา เป็นมารยาทธรรมดา? หรือว่ามีความหมายที่จะโอ้อวด?
ธิชาคิดไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
ผู้ชายคนนี้มีราศีติดตัว การมาถึงของเขาเสมือนทำให้ห้องโถงงานเลี้ยงเพิ่มสีสันขึ้นมาทันที
แขกมากมายต่างก็เข้าไปหาเขาเพื่อพูดคุย
ในงานเลี้ยงใหญ่โตแบบนี้ดนัยกฤตเหมือนไม่รู้จักเธอ ไม่ได้ทักทายกับเธอ ไม่แม้กระทั่งมองเธอโดยตรง
นี่ก็ทำให้ธิชารู้สึกโล่งใจ
ภายใต้สายตาของธาวิน ถ้าหากเกิดความวุ่นวายขึ้น เธอต้องตายอย่างอนาถแน่
……..
การต้อนรับแขกจบลง ขั้นตอนงานหมั้นก็เริ่มต้นขึ้น ตอนที่พิธีกรกล่าวเปิดงาน ธิชาไปเข้าห้องน้ำ
ตอนที่เธอออกมาจากห้องน้ำ ไหล่ก็ถูกมือใหญ่มือหนึ่งกดไว้ ใช้แรงดึงตัวเธอไปห้องแต่งตัวที่อยู่ใกล้เคียง
กลิ่นอายของดนัยกฤตโอบล้อมตัวเธอไว้ เธอเหมือนสัตว์ตัวเล็กที่ไม่มีที่หลบ อยู่ภายใต้ร่างใหญ่ของเขา ถูกเขาขังไว้ในมุมกำแพงคับแคบ
ท่าทางของเขาค่อนข้างรุนแรง ธิชาดิ้นรนขัดขืนอยู่ พูดด้วยเสียงต่ำ ปล่อยฉัน อยู่ในถิ่นของตระกูลธนาภูวนัตถ์ คุณดนัยกฤตยังกล้าบ้าระห่ำขนาดนี้เหรอ?
ดนัยกฤตไม่ได้ปล่อยเธอ และยิ่งใกล้ชิดเข้าไปอีก หน้าอกอันแข็งแกร่งกดทับอยู่บนร่างเล็กของเธอ
คุณธิชา ตั้งใจหลบหน้าผม แม้แต่วิชาของผมก็จงใจขาดเรียน ทำเอาผมกระวนกระวายใจ หรือว่านี่คือการล่อเหยื่อปล่อยก่อนจับ?
ตอนที่ผู้ชายพูด ลมหายใจร้อนพ่นอยู่บนแก้มของเธอ
ฉันไม่ได้ตั้งใจหลบคุณ แค่รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องคบค้าสมาคมกันอีก คุณดนัยกฤต กรุณาปล่อยมือ ฉันจะเตรียมตัวไปกล่าวคำปราศรัยแล้ว งานหมั้นของพี่ชายฉันคือเรื่องใหญ่ จะเกิดข้อผิดพลาดอะไรไม่ได้
สายตาอันโมโหเร่าร้อนของดนัยกฤตไม่ได้ปิดปังแม้แต่น้อย ถ้ายังไม่หนี เกรงว่าจะสายไปแล้ว
มิหนำซ้ำเธอให้ความสำคัญกับงานหมั้นนี้เป็นอย่างมาก
เรื่องที่ตกลงกับญาณินแล้ว เธอต้องรับผิดชอบ
ขณะนี้ ธิชาไม่รู้เลยแม้แต่น้อย ว่างานหมั้นครั้งนี้จะกลายเป็นฝันร้ายของเธอตลอดชีวิต