หน้าเล็กๆของธิชาแดงจนเหมือนจะหยดเลือดลงมา…….
ถึงแม้ว่าเธอจะถูกผู้ชายคนนี้ใช้วาจายั่วยุมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
แม้กระทั่งกิริยาที่ใกล้ชิดกว่านี้ก็เคยมีมาแล้ว
แต่ว่าทั่วไปแล้วดนัยกฤตไม่พูดจารุนแรงเกินไปกับเธอต่อหน้าคนอื่น ยิ่งไม่ลงไม้ลงมือกับเธอต่อหน้าผู้ชายสะอิดสะเอียนหลายคนแบบนี้
ในใจเธอต่อต้านอย่างรุนแรง มีเพียงโสเภณีเท่านั้นถึงจะถูกผู้ชายอนาจารเล่นในอ้อมกอดต่อหน้าคนอื่น
แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เธอก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะหนีออกไปง่ายๆ ต่อหน้าก็ทำได้แค่ตามใจเขาบ้าง
เธอยื่นมือจับถ้วยลูกเต๋าไว้ ถามเสียงเบา ท่านดนัยอยากเล่นยังไง?
น้ำเสียงผู้ชายเย็นชา เล่นสูงต่ำ คุณมาก่อน
กฎพนันสูงต่ำเธอเข้าใจ แต่เทคนิคพูดได้ว่าไม่มีแม้แต่น้อย
ยังไงเสียก็ไม่คาดหวังจะชนะ จึงยื่นมือเขย่าไปเรื่อยเปื่อย
เป็นไปตามคาดการณ์
รอบแรกเธอก็แพ้แล้ว รอบที่สองก็แพ้
ชนะสองนัดในสามเกม แพ้เกมเรียบร้อย
ธิชาร่างเกร็ง น้ำเสียงเริ่มมีแววแห่งความขอร้องบ้าง ฉันแพ้ให้คุณดนัยกฤตแพ้ได้อย่างเลื่อมใส วันนี้ฉันบุกเข้ามาในถิ่นของคุณอย่างมุทะลุ ฉันผิดไปแล้ว ตอนนี้ฉันไปได้หรือยัง?
ดนัยกฤตหัวเราะอย่างเย็นชาอยู่ข้างหลังเธอ
หัวเราะจนเธอเหงื่อไหลที่หลังหนักขึ้นกว่าเดิม
พฤติกรรมต่อมาของเขายิ่งทำให้ธิชาตะลึงตาค้าง
ผู้ชายคนนี้กลับยื่นมือเข้าไปในชายเสื้อของเธอ บีบเล่นเธอโดยมีเสื้อในอันนุ่มนวลกั้นอยู่ ริมฝีปากยิ่งแนบอยู่ข้างหูเธอพูดอย่างคลุมเครือที่สุด ชนะแล้วสามารถเอาเงินได้ แพ้แล้วก็ไปได้? ธิชา คุณคิดว่าผมเป็นหน้าโง่นิสัยดีเหรอ?
ธิชาเลือดลมแห่งความอับอายในตัวพุ่งขึ้นมาถึงสมอง ความอายโกรธและทรมานบีบจนเธอจะระเบิดแล้ว
แต่เธอก็ยังพยายามควบคุม ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ว่าสถานที่นี้คุณดนัยกฤตมีหุ้นส่วน ถ้าหากฉันรู้ล่วงหน้า ถึงแม้จะเอาความกล้าให้ฉันร้อยเท่าก็ไม่กล้าเข้ามาขอเงินกับคุณแน่นอน
เธอลดตัวเองต่ำมากพอแล้ว ควบคุมและอ่อนโยน
หวังเพียงดนัยกฤตสามารถแสดงความเมตตาปล่อยเธอไป
แต่ดนัยกฤตหลังดื่มเหล้าคนทั้งคนเหมือนเต็มไปด้วยความชั่วร้าย เขาไม่เพียงแค่ไม่หยุด ซ้ำยังรุนแรงขึ้นทุกที ทำตามอำเภอใจ
ผมบอกตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าหากคุณธิชา อยากหนีให้พ้นจากกำมือผม ก็หลบไปไกลหน่อย อย่าให้ผมเจอคุณอีก แต่คุณกลับดีเลย ส่งเข้ามาในอ้อมกอดเอง ผมให้คุณเลือกสองอย่าง หนึ่งคือใช้โอกาสที่ผมยังมีความอดทนต่อคุณ รู้จักพอดีแล้วตามผม
อุณหภูมิร่างกายของธิชาจากปกติเปลี่ยนแปลงเร่าร้อน ตอนนี้จากเร่าร้อนเปลี่ยนเป็นเย็นเยือก
รสชาติของการถูกผู้ชายเหยียดหยามอย่างไม่เคารพแม้แต่น้อยมันแย่มาก เธอไม่รู้ว่าตัวเองยังสามารถทนได้นานแค่ไหน
เธอกัดริมฝีปาก พูดออกมาหนึ่งประโยค สองล่ะ?
เสียงหัวเราะของเขาเย็นชา ตัวเลือกที่สองยิ่งเร้าใจ ถูกปากผม คุณธิชา พูดดีๆไม่ชอบต้องให้บังคับล่ะก็ ผมก็จะกดคุณไว้บนโต๊ะตัวนี้เล่นคุณ เล่นพอแล้วก็ดูอารมณ์ อาจจะเอาคุณส่งต่อให้เพื่อนกลุ่มนี้ของผม อย่างไรเสียก็เป็นผู้หญิงที่ธาวินซ่อนอยู่ในนอน รสชาติของคุณมันกระตุ้นความสนใจของผู้ชายได้ง่ายมาก
เป็นยังไง คุณธิชา เลือกเสร็จหรือยัง
ธิชาร่างเกร็งทื่อไม่ขยับแม้แต่น้อย ท่าทางที่ดูเหมือนอ่อนโยนของเธอทำให้ดนัยกฤตคาดเดาว่าเธอคงเรียนรู้เรื่องงานอยู่
ปากเชื่อฟังนิดหน่อย จะไปยากขนาดไหน
ท่ามกลางความเงียบของเธอ ในห้องรับรองก็เข้าสู่ความเงียบระยะสั้น
ผู้ชายด้านข้างคนหนึ่งดูออกว่าความรู้สึกของดนัยกฤตที่มีต่อผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา
ถ้าหากท่านดนัยอยากบังคับเธอจริง จะต้องเปลืองน้ำลายมาหยอกล้อเธออยู่นี่เหรอ
ไม่เคยได้ยินท่านดนัยเอาใจใส่ผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อน เกรงว่าจะถูกใจจริงๆ ถึงได้เสียยอมเวลากับเธอ
ผู้ชายคนนั้นพูดบรรเทาสถานการณ์ สาวน้อย ไม่ว่าเมื่อก่อนคุณอยู่กับใคร ท่านดนัยถูกใจคุณแล้ว คุณจะมีอะไรไม่สบอารมณ์อีก? ท่านดนัยชอบคุณขนาดนี้ ติดตามเขารับรองกินดีอยู่ดี อย่าเล่นตัวอีกเลย คุณแค่พยักหน้า ฟังคำพูดท่านดนัย พวกเราก็จะออกไปเดี๋ยวนี้ ให้สถานที่กับท่านดนัย
สำหรับผู้ชายอย่างพวกเขาแล้ว คำพูดแบบนี้ความจริงก็ถือว่าให้หนทางเลือกกับผู้หญิงแล้ว
ผู้หญิงทั่วไปที่รู้จักอะไรควรไม่ควร ก็ต้องรับโอกาสนั้นไว้แล้ว ทำตามอย่างเชื่อฟัง
สีหน้าธิชาเกร็งอยู่นานมาก ครู่หนึ่งถึงเงยหน้าขึ้น หัวเราะเบาๆ
มือข้างหนึ่งของเธอวางบนแขนของดนัยกฤตที่ยื่นเข้าไปในเสื้อของเธอ นิ้วมือลูบอยู่บนผิวหนังอันเร่าร้อนของเขา ใช้แรงอย่างฉับพลัน นิ้วจิกเข้าไปอย่างแรง
ดนัยกฤตขมวดคิ้วเล็กน้อย คลายแขนเล็กน้อยไปครึ่งวินาที
ธิชากลับใช้ครึ่งวินาทีนี้ดึงแขนออก ยกแก้วเหล้าที่ดื่มเหลือครึ่งแก้วบนโต๊ะขึ้นมาอย่างไร้วี่แวว
หันหน้า ไม่เหลือช่องว่างเลยแม้แต่น้อย สาดของเหลวสีน้ำตาลครึ่งแก้วนั้นลงบนหน้าของดนัยกฤตอย่างแรง
เขาหลบทันเวลา ในที่สุดก็หลบไปได้มากกว่าครึ่ง
ธิชาไม่สามารถสาดเหล้าครึ่งแก้วนี้บนหน้าหล่อเหลาประณีตของเขาได้
แต่สาดอยู่บนหัวไหล่ข้างหนึ่งของเขา ของเหลวไหลลงอย่างเร็ว ด้านหน้าของเสื้อเปียกไปผืนใหญ่
สีหน้าของดนัยกฤตถูกปกคลุมอยู่ภายใต้แสงไฟอันสลัว ดวงตาอันสดใสของเขาทำให้ดูอารมณ์ของเขาไม่ออก
ไม่ได้แสดงอารมณ์โกรธออกมามากเท่าไหร่นัก เพียงแค่บรรยากาศรอบตัวเขายิ่งเย็นชา
พฤติกรรมของธิชานั้นทำให้ผู้ชายหลายคนที่ดูเหตุการณ์อยู่อึ้งกันไปเลย
ไม่เพียงแค่อึ้ง พูดได้ว่าตกใจเลย
มีผู้หญิงที่ไหนกล้าหยิ่งทะนงกับท่านดนัยอย่างใจกล้าขนาดนี้ ยังลงมือสาดเหล้า จะสามารถเดินออกไปจากที่นี่โดยมีชีวิตอยู่…….
มีผู้ชายคนหนึ่งที่ดูแล้วอายุน้อยหน่อยสีหน้าโมโห
เขาลุกขึ้นมา โคร่ง มองด้วยความโมโห นี่นางแพศยามาจากไหนกันไม่รู้จักแยกแยะแบบนี้ ท่านดนัย ท่านไม่ต้องทำมือสกปรก ผมช่วยคุณสั่งสอนเธอเอง
ผู้ชายคนนั้นเดินเข้าไปหลายก้าว ยังไม่ทันได้ลงมือ
แต่เห็นสายตาของดนัยกฤตเคลื่อนไหว
ยังคงเป็นท่าทางที่แยกอารมณ์ดีหรือโกรธไม่ออก เขายื่นมือปลดกระดุมสองเม็ด
บรรยากาศรอบด้านเหมือนเกิดการเปลี่ยนแปลง
คนดูเหตุการณ์พวกนั้นก็ทำได้แค่นิ่งไม่ขยับ
แต่วินาทีต่อมา ดนัยกฤตกลับปลดหัวเข็มขัด ดึงเข็มขัดออกมาทั้งเส้น โยนทิ้งไปข้างหนึ่ง
เขาลุกขึ้นอย่างไม่รีบไม่ช้า สายตาตั้งแต่ต้นยันตอนนี้ยังคงอยู่บนตัวของผู้หญิงไม่กลัวตายคนนี้
ริมฝีปากบางเม้มเล็กน้อย พูดอย่างเย็นชาและชัดเจน ออกไปให้หมด ปิดประตู
…….. ผู้ชายหลายคนนี้มองหน้ากัน ดูแล้วท่านดนัยเอาจริงแล้ว นี่ต้องใช้ร่างกายตัวเอง สั่งสอนเองแล้ว
รีบผลักประตูออกไปอย่างรู้ตัว ไม่ลืมปิดประตูห้องรับรองด้วย
ดนัยกฤตก้าวขายาวบีบเข้าหาเธอ
ส่วนธิชารีบก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว
แก้มของเธอเกร็งแน่น สายตามีแววความเด็ดเดี่ยว กลับไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย
เธอถอยไปถึงข้างประตู ไม่มีทางถอยแล้ว
ร่างสูงใหญ่ของผู้ชายกดตัวเธอไว้ที่ประตู
ธิชาจ้องตาของเขาที่ลึกซึ้งคาดเดาไม่ออก เงยหน้าขึ้นสูงพูดว่า เหล้าแก้วนี้ฉันเคารพให้คุณ คุณดนัยกฤตเหยียดหยามฉันต่อหน้าคนอื่น ยังไงฉันก็ต้องคืนให้
ดนัยกฤตมือข้างหนึ่งกดไว้ที่ประตู มองดูหน้าอกเธอขึ้นลงจากการหายใจหอบ
ทั้งๆที่เธอไม่ใช่ไม่กลัวอะไรเลย กลับแสดงออกมาหนักแน่นเกินอายุ
ในที่สุดเขาก็หรี่ตา หัวเราะออกมา
มือใหญ่ตบหน้าเธอเบาๆ ใจกล้าใหญ่แล้วนะ เหมือนกับสมัยเด็ก