แรกๆ ธิชาก็ปฏิเสธ จนอณูขุมขนทั่วทั้งร่างกายกำลังต่อต้าน
ทว่าการจูบของเขาอันอ่อนโยนขนาดนี้……
มันมีทั้งความอดทนและการเอาใจอยู่ด้วย พร้อมทั้งพยายามจูบอย่างไม่เร่งรัด อ้อยอิ่งอยู่ตลอด
ราวกับใช้การจูบอย่างอ่อนโยนอ้อยอิ่งครั้งนี้เพื่อเป็นการปลอบโยนความรู้สึกของเธอ
ธิชาอารมณ์ทั้งอายทั้งโกรธนั้นค่อยๆ มลายหายไปอย่างไร้เสียงท่ามกลางลมหายใจที่ค่อยๆ ขาดหายไป…
ทว่ามันกลับแทนที่ด้วยความรู้สึกเจ็บปวดอย่างหนักหน่วงตีขึ้นมาแทน
ตัวเธอเองก็ไม่สามารถขัดขืนได้
พยายามดูดริมฝีปากของเธออย่างอ่อนโยน รอจนเธอค่อยๆ ปล่อยผ่อนคลายความระมัดระวังอยู่ในเวลานั้น ถึงได้ยอมเผยอปากออกมา
ริมฝีปากกับฟันอ้อยอิ่ง ผสมเข้าเป็นสิ่งเดียวกัน
ธิชาน้ำตาไหลพรากโดยไร้เสียง ในขณะกำลังดื่มด่ำกับจูบในครั้งนี้
อีกอย่างก็ยังเกลียดทั้งขยะแขยงตนเองที่ทั้งร่วมมือและอ่อนปวกเปียกตามไปด้วย….
ธิชารู้สึกเบื่อหน่ายสภาพชีวิตของตนเองในเวลานี้
ทว่าเธอรู้ดีว่าตนเองนั้นไม่ได้เกิดมาให้เป็นแบบนี้
ทั้งหมดก็เป็นเพราะว่าธาวินที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพนี้ เขายกย่องเธอไว้สูงส่งด้วยมือของเขาเอง แถมยังเอาดอกไม้และขนมหวานมาให้เธอนับไม่ถ้วน
จนทำให้เธอเชื่อมั่นว่าผู้ชายคนนี้จะเอ็นดูเธอไปชั่วชีวิต และตนเองก็เชื่อมั่นว่าจะอยู่กับเขาไปชั่วชีวิต…
ทว่าไม่คิดเลยว่าการใช้เวลาชั่วชีวิตมันยาวนานเกินไป ยาวนานซะจนธาวินของเธอกลายสภาพจากพลิกหน้ามือเป็นหลังมือคนละขั้วไปเลย เปลี่ยนไปเป็นผู้ชายที่ทั้งโหดร้ายและทารุณคนหนึ่ง
ความรู้สึกสิบปี มันไม่ใช่เวลาอันสั้นชั่วข้ามวัน แล้วมันจะปล่อยวางได้อย่างไรกัน
จากนั้นในทุกครั้งที่ธิชาต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ในเวลาที่โหดร้ายทารุณนั้น กระทั่งจนอดไม่ได้จนสงสัยขึ้นมา หรือว่าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นการจัดฉากเอาคืนตั้งแต่แรกแล้ว
ธาวินเป็นคนถอนความอิสระของตนเองไปกลับมือ จนทำให้เธอสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไป ไม่มีจิตวิญญาณ
ราวกับหุ่นเชิดที่อยู่ในอุ้งมือเขา ไม่สามารถหนีไปที่ไหนได้เลย
…………
ธิชาถลำสู่หลุมลึกอันอ่อนโยนที่ชายหนุ่มขุดขึ้นเอาไว้ จนสติสัมปชัญญะทั่วทั้งตัวหลุดขาดไปเฉยๆ
เธอยอมให้เขาจูบได้ตามสบาย และยินยอมให้เขานั้นได้เป่าผมที่เปียกโชกของเธอให้แห้งสนิท จากนั้นก็อุ้มในนอนเกลือกกลั้วบนเตียงขนาดใหญ่
ธาวินโอบกอดเธอเอาไว้ เพื่อให้เธออยู่ตรงแผงอกของตนเอง
ลักษณะเกยซึ่งกันและของคนทั้งสองคนราวกับเมื่อสมัยยังเด็ก
อารมณ์ของธิชาฟื้นกลับคืนมาเกินครึ่งแล้ว เธอเงียบไปแล้ว จนหายใจเข้าออกก็สงบนิ่งมาก
ทว่าตอนที่เธออยากจะเข้านอนนั้นธาวินก็จูบปลายจมูกของเธอ
พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำอย่างมีเสน่ห์ ไม่ยอมมีลูกให้ผมจริงๆ เหรอ
ธิชาค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้น ด้วยแววตาสุกสกาวจ้องมองไปยังนัยน์ตาของเขา
ปลายจมูกของเธอเริ่มแสบบ้าง สักพักถึงได้ตอบกลับเขาไป
ฉันไม่อยากให้ลูกของฉันเกิดมาแล้วไม่มีสถานะ ไม่อยากให้เหมือนกับณิชานาฎที่เป็นแม่แต่ไร้ความรับผิดชอบใดๆ เลย และไม่อยากให้คนนอกต่างสนใจว่าลูกฉันเป็นลูกไม่มีพ่อ
ธาวินขมวดคิ้ว เขากระซิบถาม นี่คือลูกของผม ใครจะกล้าพูดออกมาว่าลูกผมไม่มีพ่อกัน?
เธอทำสีหน้าเยาะเย้ยให้ตัวเอง ลูกที่เกิดมาโดยไม่มีสถานะนั้น ไม่สนว่าพ่อของเขาเป็นใคร อย่างไรก็คือลูกไม่มีพ่อ ชีวิตฉันก็เป็นแบบนี้มาตลอด พอได้อายุ 20 ปี ก็ยังคงเป็นลูกไม่มีพ่อแบบนั้นแหละ นี่คือชีวิต ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้
สีหน้าของธาวินไม่ค่อยดี เขาขมวดคิ้วแล้วพูดออกมา คุณเป็นคนของตระกูลธนาภูวนัตถ์ นี่กำลังพูดมั่วเรื่องอะไรอยู่
ธิชาผละออกจากแผงอกของเขาเอง พลางพลิกตัวหันหลังให้กับเขา
ธาวินรู้สึกหงุดหงิดกับคำพูดที่เธอพูดออกมาประโยคเมื่อกี้ พลางได้แค่เก็บอารมณ์และกางแขนและค่อยๆ โอบกอดเธอเอาไว้ พลางเกลี้ยกล่อมเธออย่างอดทน เป็นอะไรไปอีก? ผมเพิ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้ใส่อารมณ์เยอะจัง พอพูดขัดหูขึ้นมาประโยคหนึ่งก็เริ่มตั้งแง่กับผมทันที ปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่ไหมล่ะ ผมควบคุมคุณไม่ได้แล้วใช่ไหม?
เธอเม้มริมฝีปากไม่พูดไม่จา ในใจนั้นก็รู้สึกว่าไม่มีเหตุผลสักนิด
ความจริงแล้วเธอย่อมรู้ดีว่าตัวเธอนั้นเริ่มใส่อารมณ์มากขึ้น
ระยะนี้ธาวินปฏิบัติตัวดีกับเธออยู่บ้าง ในวันปกติก็ไม่ได้ทำเกินเหตุ กระทั่งมีบางครั้ง… ยังให้ความรู้สึกผิดปกติกับเธอ ราวกับเหมือนย้อนเวลากลับไปหนึ่งปีก่อน ช่วงวัยที่เขาเอาใจเธอตอนที่เธอเป็นเด็กในเวลานั้น
หากเป็นช่วงเวลาที่เขาปฏิบัติต่อเธออย่างโหดร้ายที่สุดนั้น ธิชารู้ตัวว่าไม่กล้าจะอารมณ์เสียใส่เขาแม้เพียงประโยคเดียวก็ตาม และไม่ต้องไปพูดถึงการลงมือทั้งถีบทั้งเตะเขาด้วยอารมณ์โมโห
แม้ว่าจะรู้สึกผิด เธอก็ต้องจำใจกัดฟันเอาไว้ และพึมพำไม่หยุด คุณเป็นคนเริ่มทำร้ายฉันก่อน ฉันก็แค่ต่อสู้กลับก็เท่านั้นเอง
ธาวินอยากจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
เมื่อครู่หลังจากที่เขาเป่าผมให้เธอจนแห้งแล้วก็สำรวจร่างกายของเธอด้วย บนตัวเธอขาวสะอาดเกลี้ยงเกลา ไม่มีรอยแผลเป็นใดๆ แถมตอนที่เขาใช้เข็มขัดตีลงบนตัวนั้นก็เบามาก แทบจะไม่ได้เจ็บมากอะไร
เขาถึงกลับขี้เกียจจะสนใจเธอแล้ว
ได้แต่โอบกอดทางด้านหลังของเธอและตบหลังให้ อารมณ์เสียใส่กันจนพอแล้วนะงั้นเราก็ควรจะมาคุยธุระอย่างกันได้สักที คุณเป็นคนเริ่มไปฉีดยาก่อน ก็ช่างแม่งมันเถอะ มันก็มีกำหนดแค่สามเดือน อีกสามเดือนค่อยมีลูกก็ได้
ธิชาหน้าถอดสีทันที เธอพลิกตัวกลับมาหาและสบตากับเธอ
ใบหน้าเล็กๆ อันเกลี้ยงเกลาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม
ไม่คลอดให้ พอสามเดือนยาหมดฤทธิ์ฉันจะไปฉีดยาอีก ฉันจะไม่ท้อง คุณอย่าได้บังคับฉันนะ มีปัญญาคุณก็ฆ่าฉันเลยสิ!
ธาวินเห็นเธอมีปฏิกิริยาตอบโต้มากขนาดนี้ ไม่ใช่แค่ปวดหัว แต่อึดอัดอยู่บ้าง
เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ มันยากมากที่เขาจะมาพูดคุยกับเธออย่างอารมณ์ปกติ
ผมไม่อยากให้ผู้หญิงคนอื่นมามีลูกให้ผม ช้าสุดคืออายุ 30นะ คุณต้องท้องก่อนที่ผมจะอายุ 30นะ
ธิชาหน้านิ่วคิ้วขมวด อย่างขมขื่น
เธอไม่เข้าใจเลยว่าทำไมธาวินไม่ให้ผู้หญิงคนอื่นมีลูกให้เขา นอกจากนี้ญาณินได้ตั้งท้องก่อนแล้ว หรือว่าเขาไม่ได้วางแผนให้ลูกคนนี้คลอดออกมาอย่างปลอดภัยเหรอ
แต่ว่าเธอรู้ชัดอยู่ในใจ ธาวินมีแผนการในระยะยาว แถมยังคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนรอบด้าน
เขาถึงขั้นวางแผนไว้แบบนี้ แน่นอนว่าเขาต้องมีเหตุผลอยู่
เธอไม่สนใจว่าธาวินเขาจะมีแผนการอะไร ได้แค่เป็นเจ้านายหลักให้กับมดลูกของตัวเองก็พอ
ธิชาเม้มริมฝีปากไว้ พลางเน้นย้ำออกมาทีละคำพูด ถ้าณิชานาฎคลอดฉันออกมาและมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย ฉันก็คงไม่ได้พบเจอคุณ ก็ไม่ต้องเชิญกรรมวิบากตั้งมากมายขนาดนี้ แต่ถ้าไม่ใช่ลุงรัณ เธอก็คงไม่มีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย … เธอจะพาฉันจากบ้านผู้ชายคนหนึ่งไปอยู่บ้านผู้ชายอีกคน ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก ใครก็สามารถรังแกฉันได้ เรื่องที่ย่ำแย่ที่สุดก็สามารถเกิดขึ้นมาได้ ดังนั้นบางครั้งฉันรู้สึกว่า การที่ได้มาพบเจอกับคุณก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ย่ำแย่ที่สุด
ทว่าหากฉันมีลูกขึ้นมาสักคน กระทั่งเป็นเด็กผู้หญิง ฉันเองก็หวังให้เธอมีพ่อที่เป็นปุถุชนคนทั่วไปเท่านั้น และใช้ชีวิตตามครอบครัวปกติทั่วไป นอกจากนี้แล้ว ไม่มีอะไรที่สำคัญไปกว่า ความปรารถนาของฉันมันง่ายดายแค่นี้แหละ
ทว่าสีหน้าของเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนี้ของเธอแล้วก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นย่ำแย่ที่สุดแทน
เขาขมวดคิ้วนิ่วหน้าเอาไว้แน่น พลันยื่นมือออกมาบีบสะโพกสลาตันของเธอ
เธอเจ็บจี๊ดจนร้องซี๊ดปากออกมา และจ้องมองเขาตาเขม็งด้วยอารมณ์หงุดหงิด
ธาวินตีก้นเธอ คุณยังกล้าตาเขม็งใส่ผมอีกเหรอ? ในสมองวันๆ เอาแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย? แถมยังอยากจะไปมีลูกสาวให้กับผู้ชายธรรมดาทั่วไปอีกเหรอ? ธิชา ความฝันลมๆ แล้งๆ ก็ยังฝันหวานสวยหรูเกินไปสักหน่อยไหม!คุณเชื่อไหมว่าผมจะบีบคอคุณ ถ้าคุณยังมีความคิดที่จะแต่งงานกับคนอื่น ผมจะบีบคอคุณให้ตายคามือ!
ก้นของธิชาที่เขาบีบเคล้นและตีจนเจ็บมาก
เธอยื่นมือออกไปทุบเขาด้วยความโกรธ ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้ว อย่างไรก็ตามฉันก็จะไม่มีลูกให้กับคุณ สามเดือนผ่านไปฉันก็ยังไม่มี! คุณอยากจะมีลูกกับใครก็ไปหาคนนั้นสิ ฉันไม่สนใจคุณหรอก คุณอย่าได้คิดที่จะใช้ผลประโยชน์จากมดลูกของฉัน
เธอพูดจบก็กพลิกตัวลงทันอย่างแรงทันที พลางใช้ผ้าห่มผืนบางคลุมศีรษะของตนเองเอาไว้
ธาวินจ้องมองร่างกายของเธอที่เป็นก้อนกลมๆ พลางขมวดคิ้วนิ่งเงียบอยู่นาน
เขารู้สึกว่าเธอนั้นมีความมุ่งมั่นมากกว่าเก่า แต่โดยรวมแล้วทุกครั้งยังคงกลัวเขาอยู่ และยังคงเชื่อฟังเขาอยู่ ไม่กล้าขัดขืนอะไรง่ายๆ
แต่ว่าครั้งนี้ ถ้าเขาบีบบังคับให้เธอมีลูก กลัวว่าจะเป็นโศกนาฏกรรมทั้งสองฝ่าย
สีหน้าของธาวินไม่ค่อยดี แต่ก็ยังคงปิดไฟให้และนอนกอดเธอเอาไว้แน่น
ฝ่ามือใหญ่ลูบคลำเส้นผมของเธอ น้ำเสียงทุ้มต่ำ เรื่องนี้ขอพักเอาไว้ก่อนก็ได้นะ ขอแค่คุณเชื่อฟังขึ้นสักนิด อยู่ข้างกายผมอย่างเชื่อฟัง ไม่คิดเปลี่ยนใจ อย่าได้คิดว่าจะหนี เรื่องลูก… ยังไม่คลอดตอนนี้ก็ได้นะ
####บทที่ 52 คุณชาย ธิชาต้องการจะชนฉัน
หลังจากเรื่องฉีดยาคุมได้พักยกกันไปแล้ว ธิชาก็ถือว่าใช้ชีวิตอยู่ในวันพายุสงบมาได้หลายวัน
เห็นได้ชัดว่าไพลินก็ไม่ชอบขี้หน้าเธอ เธอก็ไม่อยากจะเอาไพลินมาเก็บไว้ให้รกหูรกตาเหมือนกัน หลังจากที่คุ้นชินกับงานที่ทำแล้ว ก็เริ่มจัดการปัดการควบคุมและการชี้นำของไพลินไปซะ เป็นผู้นำให้คนของตนเองได้ทำงาน
ธิชามีชื่อเสียงดังกระฉ่อนไปถึงข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำธุรกิจหรือว่าในทางสังคมอิทธิพลมืดก็ตาม เมื่อเจอเธอก็มักจะไว้หน้าให้เธอเล็กน้อย
เพราะว่าในใจของพวกเขาต่างคิดกันไว้แล้ว ผู้หญิงคนนี้กับโสเภณีที่อยู่ข้างนอกช่างไม่เหมือนกันเลย
ผู้หญิงด้านนอกของธาวินสามารถเปลี่ยนได้ตลอดเวลา ขนาดภรรยา พูดตรงๆ เลย ขอแค่อยากจะเปลี่ยน ก็เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องหลักการหรือเหตุผลอะไรเลย
มีแค่เท่านั้นแหละ… ยังไงเธอก็มักจะกลับคืนสู่การเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลธนาภูวนัตถ์ แถมทะเบียนบ้านยังเป็นเล่มเดียวกับธาวิน และมีความสัมพันธ์กันมาเป็น 10ๆ ปีอยู่ตรงหน้า ไม่สามารถเปลี่ยนไปได้
ผลของการนำพาทีมด้วยตนเองของธิชาจนทำให้เธอทำธุรกิจได้อย่างราบรื่น ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น มีแค่ช่วงระยะนี้ ที่ตอนเองรู้สึกว่าตงิดใจเหมือนมีดวงตาคู่หนึ่งคอยจับจ้องเธออยู่ในที่มืด
ธิชาไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะว่าตอนนี้ข้างกายเธอมีบอดี้การ์ดคอยประกบอยู่ และน้อยครั้งมากที่จะออกจากบ้านไปคนเดียว อีกทั้งคนที่จ้องมองเธออยู่นั้น มีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะเป็นสายตาของธาวิน
อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ผิดของธาวินเธอชินแล้วแหละ ใครจะไปรู้ว่าเส้นประสาทตรงไหนมันเกิดผิดปกติขึ้นมา ถึงได้จัดคนมาคอยดูเธอเอาไว้ส่วนเธอก็ไม่นึกแปลกใจอะไร
วันนี้ ธิชาขับรถไปเจอกับเถ้าแก่สมพรท่านหนึ่งในงานเลี้ยงสักงาน และพูดคุยกันเรื่องทำงานด้านความร่วมมือทั่วไป
เธอพาผู้ช่วยบอดี้การ์ดไปแค่คนเดียว แถมตนเองยังขับรถเองด้วย
ช่างเหมือนจะไม่บังเอิญเลย ตรงด้านนอกของสถานที่ประชุมนั้น มีนักเลงอันธพาลที่เธอเคยเจอมาแล้วสองคน เห็นกับตาว่าเธอลงมาจากรถปอร์เช่สีชมพูบลอนด์คันนั้น
ผู้ชายหนึ่งในนั้นย้อมสีผมเป็นสีทองและจุดบุหรี่ ทั้งสูบไปด้วยและพูดไปด้วย ผู้หญิงคนนี้หน้าตาดูคุ้นๆ ใช่เมียน้อยของแช่ธนาภูวนัตถ์คนนั้นไหม?
ส่วนอีกคนคือลูกน้องของชนัดพล เขาสำรวจโดยรอบ สีหน้าดูเคร่งขรึม ไม่มีหลักฐานชัดเจนก็อย่าได้พูดไร้สาระออกมา ผู้หญิงคนนั้นระยะนี้ชื่อเสียงดังมากเลยนะ ได้ข่าวว่าเป็นคนคนที่ธาวินซุกไว้นอนข้างกายอยู่ในกรงทองมานานหลายปีแล้ว ท่านดนัยของเราดูถูกคนข้างกายของธาวิน อย่าได้เที่ยวไปพูดว่าจะแย่งมาจากเขาเลย พูดออกไปมันราคาตกชะมัด!
คนผมสีทองคนนั้นพูดต่อ ฉันไม่ได้พูดมั่วๆ! ครั้งที่แล้วกูเห็นกับตามา ท่านดนัยว่าค่อนข้างเอาใจเด็กสาวคนนี้ ไม่แน่นะอาจจะสนใจในตัวแล้วก็ได้ คนของธาวินแล้วจะทำไมล่ะ ท่านดนัยของเราอยากจะได้ แม้ว่าเป็นผู้หญิงของท่านประธานาธิบดีก็ต้องยกให้เขาอย่างเชื่อฟัง
ทั้งสองคนกำลังเถียงกันไม่หยุดอยู่นั้น ก็เห็นเต็มสองตาว่ามีผู้ชายใส่หมวกแก๊ปแอบย่องมาเปิดฝากระโปรงรถคันนั้นของธิชาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เอาประแจขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง จากนั้นก็ปิดฝากระโปรงรถและหนีไปอย่างรวดเร็ว
คนคนนั้นลงมือทำทั้งหมดไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าเป็นการวางแผนมานานแล้ว
นักเลงอันธพาลสองคนนั้นเห็นกับตา เวลานั้นก็ไม่รู้จะทำยังไง จนสุดท้ายผมสีทองก็เลยเสนอตัว ในการแจ้งข่าวตามจริงให้กับชนัดพลรับทราบเรื่องนี้
…………
หลังจากที่ธิชาพูดคุยเรื่องธุรกิจแล้วเดินออกมาจากสมาคมแล้วนั้น ก็ประจันหน้ากับชนัดพลที่มาต้อนรับ
ชนัดพลสีหน้าเกรงใจ พลางพูดอย่างเคารพ คุณธิชา รถของท่านดนัยจอดอยู่ทางด้านข้าง มีเรื่องต้องคุยกับคุณอยู่ไม่กี่ประโยคเอง
ธิชาดูสับสนอยู่ เลยไม่อยากจะขึ้นรถ ในใจก็แอบก่นด่าดนัยกฤตที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลา พร้อมทั้งเดินหน้าขึ้นรถอย่างไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงสายตาตอนที่ทะเลาะกันในที่สาธารณะ
พอธิชาขึ้นรถแล้ว ตอนที่หลุดปากพูดออกมาว่า มีธุระอะไรถ่อมาที่นี่ได้ ในเวลานั้น
สีหน้าของดนัยกฤตไร้ความรู้สึก และโยนiPadให้เธอเครื่องหนึ่งตรงบริเวณขาของเธอ
ธิชาตะลึงทันที และก้มลงมามองด้านในอย่างแปลกใจ เมื่อดูอยู่สักพักถึงได้รู้ตัวว่าเนื้อหาที่กำลังเปิดอยู่ตรงหน้าจอนั้นคือบันทึกในกล้องวงจรปิด
นี่มันไม่ใช่ตรงประตูของคลับเหรอ… ตอนที่เธอกำลังตกอกตกใจใหญ่เพราะไม่เข้าใจอะไรเลยอยู่นั้น หน้าจอก็ปรากฏชายหนุ่มที่ใส่หมวกแก๊ปจนมองหน้าไม่ชัดเจนและใส่เสื้อฟ้าสีฟ้าเหมือนคนซ่อมรถยนต์จำพวกนั้นเดินเข้ามาด้านหน้ารถของเธอ พลางเปิดกระโปรงรถขึ้น จากนั้นก็ทำอะไรสักอย่างด้านในกระโปรงรถ
ธิชาทั้งสงสัยและมีรู้สึกที่หวาดหวั่นหลังจากดูคลิปวงจรปิดช่วงนั้นเสร็จแล้วพลันหันกลับไปวนดูซ้ำอีกรอบอย่างอดใจไม่ไหว
จากนั้นเธอก็มองมาทางดนัยกฤต และถามอย่างไม่เข้าใจ คนคนนั้น…เขาทำอะไรกับรถของฉันเหรอคะ?
สีหน้าของดนัยกฤตไร้ความรู้สึกใดๆ แสดงออกมา นัยน์ตาแสดงอาการไม่มีความสุขออกมาบ้าง น้ำเสียงก็ดูหม่นหมองลงอย่างชัดเจน
เขาไปยุ่งกับเบรกรถของคุณ เมื่อความเร็วของรถแตะไปถึงระดับหนึ่งแล้ว เมื่อเหยียบเบรกกะทันหันมันจะใช้การไม่ได้ แต่ว่าถ้าขับรถทั่วไปคุณจะไม่สามารถจับสัมผัสได้ มีเพียงแต่เบรกกะทันหันเท่านั้นถึงจะแสดงปัญหานี้ออกมา
… ธิชาเบิกตาโตอย่างตกใจ ขนาดจนเกือบจะหยุดหายใจอยู่แล้ว ใครเป็นคนต้องการจะเอาชีวิตฉัน?
ดนัยกฤตขมวดคิ้วเล็กน้อย คุณคิดเอาเองว่าไปทำผิดกับใครเขามา
ธิชาครุ่นคิดอยู่สักพัก เธอไม่เคยไปบาดหมางกับใครมาก่อน แต่ว่าช่วงนี้เหมือนว่าไปบาดหมางกับคนหลายคนมาก่อน….
ที่มีก็คือดนัยกฤต ยังมีตระกูลมงคลวัชรกุล ญาณิน และไพลิน……
ตัดดนัยกฤตออกไปก่อนได้เลย เพราะว่าผู้ชายคนนี้เคยช่วยชีวิตเธอมาหลายครั้งหลายคราแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะมีแผนการอุบายอะไร อย่างไรเสียก็ไม่มีวันคิดจะเอาชีวิตเธอ
ส่วนคนที่สอง ตระกูลมงคลวัชรกุลนั้นเธอคิดแล้วคิดอีกจนตัดทิ้งไป เพราะว่าเรื่องที่ตระกูลมงคลวัชรกุลจับตัวเธอไปนั้นเรื่องมันก็เพิ่งผ่านมาได้ไม่นานนี้เอง และพวกเขาก็จ่ายเงินมากมายมหาศาลให้กับเรื่องนี้ จนต้องโอนหุ้นสองส่วนให้ธาวินกับมือ บทเรียนในครั้งนี้ถือว่าเจ็บปวดมาก ก็คงไม่ทำผิดซ้ำสองในระยะเวลาเพิ่งผ่านไปนานขนาดนี้หรอก
เมื่อคิดแล้วคิดอีก จากนั้นธิชาก็บ่นพึมพำออกมา หรือจะเป็นไพลิน…นังผู้หญิงคนนั้นไม่ชอบขี้หน้าฉันอยู่ด้วย ฉันเองก็เบื่อเธอมากเช่นเดียวกัน แต่คงไม่ถึงขั้นต้องการชีวิตของฉันเพื่อสาเหตุเรื่องยิบย่อยนี้มั้ง?
ดนัยกฤตได้ยินแล้ว ถึงกับหัวเราะอย่างเย็นชาออกมาเล็กน้อย
เขาพาธิชาไปเจอกับคนคนหนึ่ง
คนคนนั้นธิชาคุ้นตามาก เป็นลูกน้องของไพลิน
เวลานี้ดนัยกฤตได้จัดการให้คนสั่งสอนอย่างทรมานแล้ว ตอนที่เจอกับธิชานั้น เขาก็ยอมพูดหมดเปลือกอย่างไม่เหลือความอดทนอะไรอีกแล้ว
คุณธิชา ไว้ชีวิตด้วย ไว้ชีวิตผมด้วย เป็นมันก็แค่อันธพาลคนหนึ่งเอง พี่ไพลินให้ผมทำอะไรผมก็ต้องทำ เธอให้ผมคอยเฝ้าคุณไว้ และฉวยจังหวะตอนที่คุณเผลอลงมือทำอะไรนิดหน่อยกับรถของคุณ ผมก็แค่หาคนงานที่มีความถนัดในการซ่อมรถยนต์มา ที่ผมพูดออกมามันคือความจริงทั้งหมด…
คนคนนั้นทั้งตัวมีแต่บาดแผลไปทั่ว เห็นแล้วถึงกับตกใจเลย
ตอนแรกดนัยกฤตยังคิดว่าธิชาจะตกใจจนกลัวขี้หดตดหาย
ไม่คิดเลยว่าเธอกลับยังคงนิ่งเฉยกับเรื่องที่อยู่ตรงหน้าทั้งหมด อีกทั้งก็ไม่ได้ใจอ่อนหรือว่าพูดกล่าวโทษว่าเขาลงมือกับอันธพาลคนนี้รุนแรงขนาดนี้
ธิชายืนอยู่ตรงนั้นอย่างไร้ความรู้สึกอยู่สักพัก ราวกับกำลังคิดอะไรอยู่
จากนั้นเธอก็หันศีรษะออกไปกำชับกับบอดี้การ์ดของตนเอง เอาตัวคนนี้ไปส่งคืนให้ไพลิน ส่งให้ถึงในคอนโดของเธอเลยนะ
เมื่อบอดี้การ์ดได้รับคำสั่งแล้วก็ลงมือจัดการทันที
สีหน้าของธิชาซีดเผือดเล็กน้อย แต่ก็ยังความรู้สึกโชคดีที่หลุดพ้นความเป็นความตายมาได้
เธอยิ้มให้กับดนัยกฤต เหมือนว่าท่านดนัยช่วยฉันไว้อีกครั้งหนึ่งแล้ว….
ตบไหล่ของเธอเล็กน้อย ผมเป็นนักธุรกิจ ชอบคิดบัญชี จดเอาไว้ก่อนแล้วกันนะ คุณเริ่มตินหนี้ผมอีกครั้งแล้วสิ
ธิชาพยักหน้า
……
ในช่วงเวลาเพียงชั่วอึดใจเดียวนั้น ดนัยกฤตก็ได้หาคนมาจัดการซ่อมเบรกรถของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ธิชาขับรถกลับตระกูลธนาภูวนัตถ์ เมื่อเข้าประตูใหญ่ของตระกูลธนาภูวนัตถ์แล้ว ตอนที่กำลังเข้าสู่โรงรถ แต่กลับบังเอิญที่เจอกับธาวินและไพลินกำลังเดินเคียงข้างกันอยู่ตรงประตูโรงจอดรถ
เธอหันพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนทิศทางทันที ท่ามกลางกรีดร้องดังลั่นของไพลิน ราวกับจะเฉียดกับพวกเขาเช่นนั้น
ไพลินเกือบจนล้มคว่ำ ส่วนธาวินหลบได้ทันเวลา
ธาวินยังไม่ทันพูดอะไรออกมา ไพลินก็ฟ้องด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้นออกมาทันที คุณชาย! คุณก็เห็นกับตาแล้วใช่ไหม เธอต้องการจะขับชนฉันให้ตาย! เธอจงใจหักหลบมาชนฉัน! อีกนิดก็จะชนคุณเข้าแล้ว เธอนี่มันช่างเป็นนอกกฎหมายจริงๆ น่ากลัวชะมัดเลย!