คำข่มขู่เธอของธาวินเหมือนจะเป็นไปไม่ได้
แต่ในใจของธิชารู้ดีว่า ถ้าเธอยืนกรานที่จะไม่ยอมต่อไป ทำให้เขาโกรธ เขาจะต้องทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างแน่นอน
เพราะคนเราต้องมียางอาย
คนเราต้องการมีหน้ามีตา มีเกียรติศักดิ์ศรี ขีดจำกัด
เขาไม่ต้องการมัน เขาก็แค่เพียงสัตว์เดรัจฉานในคราบมนุษย์ เขาไม่ต้องการสิ่งลวงตาเหล่านั้น
ท้ายที่สุดก็ลงเอยด้วยการยอมทำตามคำสั่งของธิชา
หลังจากที่ธาวินพอใจกับ บริการ ของเธอ ก็ยกขาถีบเธอออกไปอย่างไม่เบาไม่แรงนัก
เหมือนกับโยนของเล่นที่เล่นจนเบื่อทิ้ง
ขาสองข้างของธิชาปวดเมื่อยจนยากจะขยับเขยื้อน พักใหญ่ก็ยังลุกไม่ขึ้น
ธาวินเดินเข้าไปอาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวในห้องน้ำด้วยตัวเอง ไม่นานก็เปลี่ยนชุดและเดินออกมาจากด้านใน
เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วก็กลับไปเป็นผู้ดีสูงส่งหล่อเหลาตามปกติ ราวกับว่าคนที่มีการสมสู่เยี่ยงสัตว์ในตอนกลางวันแสกๆ นั้นไม่ใช่เขา ก็แค่เธอคนเดียวเท่านั้น
ก่อนที่ธาวินจะออกไปก็ไม่ลืมที่จะอ้อมมาที่มุมผนัง
ย่อตัวลงมาตรงหน้าร่างที่ขดตัวเปลือยเปล่าของเธอ
นิ้วเรียวยาวรูดผ่านแก้มที่บวมฉึ่งเล็กน้อยของเธอ
สงบเสงี่ยมเจียมตัวหน่อยไม่ดีเหรอ จะต้องให้ใช้กำลัง
ใบหน้าที่ถูกตบจนบวมของธิชายังปวดแสบปวดร้อน
ริมฝีปากของเธอสั่นเล็กน้อย เธอกัดฟัน ถามทีละคำว่า คุณเสพติดความสัมพันธ์ที่ซาดิสก์แบบนี้ขนาดนี้เลยเหรอ ฉันเป็นคนเดียวที่จะทำให้คุณพอใจได้ใช่ไหม ผู้หญิงคนอื่นเป็นแค่ของประดับตกแต่งเหรอ?
ธาวินหยีตามอง ท่าทางที่เขาหัวเราะเยาะออกมาเหมือนกับว่าได้ยินเรื่องที่น่าขันที่สุดในโลก
กลัวว่าสมองคุณจะยังมีสติรู้ตัวไม่พอ คนอื่นเป็นผู้หญิง แต่คุณเป็นได้แค่ทาสบนเตียงของผม แม้แต่ผู้หญิงคุณก็เป็นไม่ได้ ยังจะมีหน้าเอาตัวเองไปเทียบกับคนอื่นอีกเหรอ
แววตาของธิชาเหม่อลอยเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาความสงบหนักแน่น
เธอรู้ว่าที่ตนเองพูดถึงความคิดเพ้อเจ้อลมๆ แล้งๆ ที่จะย้ายออกจากตระกูลธนาภูวนัตถ์ ทำให้ ธาวิน โกรธมาก
หรืออาจจะพูดได้ว่า ไม่ได้โกรธ แต่คำพูดของเธอทำให้ธาวินกลับคืนตัวตนที่แท้จริง
เขาเริ่มจำได้ว่าตนเองอยู่เพื่อทรมานเธอ
ไม่ใช่จมดิ่งลงไปในความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีของกันและกัน
ตอนแรกธิชาคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าในลำคอขมขื่นอย่างมาก
ขมจากคอเข้าไปถึงในหัวใจ
แต่ว่าในขณะที่ขมขื่นทรมานนั้น ในใจเธอก็เกิดความรู้สึกสมเพชตัวเองไปด้วย
ความสัมพันธ์ของเธอกับธาวิน….ตอนแรกก็ไม่ได้เป็นเช่นนี้หรอกหรือ
ธาวินทั้งดุด่าทำร้ายเธอ เหยียบย่ำเธออย่างป่าเถื่อน
ส่วนความอบอุ่นในความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ ดูเหมือนจะมาจากการปรากฏตัวของผู้ชายอีกคนหนึ่ง
ธาวินอาจจะตื่นตระหนก หรืออาจจะวิกลจริตชั่วคราว
เมื่อความสัมพันธ์ของทั้งสองมาถึงขั้นที่เข้าสู่ความเงียบสงบ ธิชา ยังคิดว่าตนเองค่อยๆ ตื่นจากฝันร้ายนั้น
วินาทีนี้จึงเข้าใจว่าทั้งหมดเป็นภาพลวงตาของตนเองเท่านั้น
ธาวินก็ยังคงเป็นธาวิน เขาไม่มีทางเปลี่ยนแปลงเพื่อเรื่องใดๆ ทั้งนั้น
เธออยากจบจะความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเพียงฝ่ายเดียว เกรงว่าจะมีเพียงวันที่ตายเท่านั้นจึงจะกลายเป็นความจริงได้
…………
ธาวินลงมาชั้นล่าง พลันมาอยู่ข้างกายของญาณินราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บนใบหน้าของญาณินก็มีรอยยิ้มอ่อนโยนในแบบที่เธอมีเป็นปกติ
คล้องแขนเขาถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย ธาวินบอกแต่เพียงว่าเมื่อครู่ทำงานอยู่ที่ห้องหนังสือ เธอก็ไม่ได้สงสัยอะไร ได้แต่เป็นห่วงว่าเขาจะเหนื่อยหรือไม่ จะทานอาหารเย็นไหม
ธาวินเอาฝ่ามือวางบนท้องน้อยเธอ คลำไปจนถึงส่วนที่ยกสูงขึ้นเล็กน้อย
เขาหัวเราะเบาๆ ดูเหมือนจะเริ่มเห็นชัดว่าท้องแล้ว
ญาณินยิ้มอย่างหวานซึ้ง ใกล้จะสี่เดือนแล้วนะคะ ท้องใหญ่ขึ้นมาแล้วจริงๆ อีกไม่กี่วันฉันจะไปทำอัลตร้าซาวด์ ก็จะรู้เพศของลูกแล้ว
ธาวินบอกว่า ถ้ามีเวลาว่าง เขาจะไปกับเธอด้วยตัวเอง
ญาณินพุ่งเข้าสู่อ้อมกอดเขาอย่างซาบซึ้ง โอบเอวเขา พูดด้วยสีหน้ามีความหวังว่า วิน ฉันหวังว่าท้องแรกจะเป็นลูกชาย ถ้าฉันมีลูกชายให้คุณได้ก็ดีเลยนะคะ…
ธาวิน ขยี้ผมเธอเบาๆ ก็เหมือนแหละ ลูกสาวก็ดีมาก
ญาณินเม้มปากยิ้ม ในใจกลับมีความหวังต่อท้องแรกเต็มเปี่ยมว่าจะต้องเป็นทายาทคนต่อไป
เพื่อให้คลอดลูกชาย คนทั้งตระกูลมงคลวัชรกุลต่างเตรียมการแผนไว้ให้เธอทั้งนั้น
คุณนายญาณินเตรียม ยาบำรุงเตรียมตั้งครรภ์หลายกล่องไว้ให้เธอเรียบร้อยตอนที่เธอเพิ่งเริ่มคบหากับธาวิน
ท้องของญาณินถือว่าโชคดี กินเข้าไปได้สักระยะหนึ่งก็ตั้งท้องแล้ว
ขอเพียงท้องแรกคลอดลูกชายของธาวินได้ สถานะของเธอก็จะยิ่งมั่นคง ก็ไม่ต้องเห็นธิชานังแพศยานั่นอยู่ในสายตาอีกต่อไป
ฐานะที่เป็นนายหญิงของตระกูลธนาภูวนัตถ์ เธอก็จะแอบคิดหาวิธีที่จะฆ่า ธิชา ให้ตาย เป็นไปไม่ได้ที่ ธาวิน จะลงมือฆ่าแม่ผู้ให้กำเนิดลูกชายของตนเอง
…………
ค่ำคืนนี้สำหรับธิชาแล้วช่างแสนจะยาวนานเหลือเกิน
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เธอจะฝืนร่างกายที่เจ็บปวดตะเกียกตะกายไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ
อาบน้ำเสร็จแล้วก็นอนอยู่นิ่งๆ แทบทนไม่ไหวที่จะให้ตนเองนอนหลับยาวไม่ต้องตื่นขึ้นมา
ตอนที่เธอนอนหลับสะลึมสะลืออยู่นั้นเอง ป้าจันก็เคาะประตูเข้ามา ยกอาหารเย็นมาให้เธอ
ธิชาพลิกตัว พูดไม่ชัดเจน ป้าจัน ฉันไม่หิว วางไว้ก่อนนะคะ
ป้าจันอดห่วงไม่ได้ จึงเปิดไฟด้วยตัวเอง คิดจะกล่อมให้เธอลุกขึ้นมากินข้าว
สายตามองมาที่ใบหน้าของธิชา รอยนิ้วมือหลายรอยที่เห็นชัดพร้อมด้วยรอยแดงเป็นปื้น ป้าจันมองเห็นโดยไม่คาดคิด
เธอยื่นมือออกไปแตะอย่างไม่รู้ตัว คุณหนู หน้าของคุณ…
ธิชาอึ้งไปครู่หนึ่ง ถ้าป้าจันไม่พูด เธอก็ลืมไปแล้วว่าตนเองหน้ายังบวมอยู่
เธอฉีกยิ้มมุมปาก ยิ้มอย่างไม่แยแส เรื่องเล็กค่ะ พรุ่งนี้ก็หายแล้ว
ป้าจันกลับรีบร้อนไปหยิบน้ำแข็งห่อด้วยผ้าเช็ดตัวเพื่อประคบลดอาการบวมให้เธอ และยังปอกไข่ต้มเตรียมไว้ให้เธอหนึ่งใบด้วย
ธิชารู้ดีว่าป้าจันสงสารเธออย่างจริงใจ และไม่อยากให้เธอเสียใจ
จึงแกล้งทำเป็นสบายดี ยิ้มร่าแล้วดึงแขนเสื้อ ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ ฉันชินแล้ว ก็แค่ตบหน้าเอง ฉันเองก็มักจะตบหน้าเขาบ่อยๆ แต่เนื้อเยอะหนังหนา เลยเห็นไม่ชัดเท่านั้นเอง
แววตาป้าจันยากจะกลบเกลื่อนความวิตกกังวลได้
เธอรู้ดีว่าเป็นคนรับใช้ไม่ควรพูดอะไรมาก แต่มันก็อดไม่ได้
ตอนบ่ายไม่ใช่ว่ายังดีอยู่เหรอคะ คุณหนูกับคุณชายไม่ได้จะดีต่อกันง่ายๆ ทำไมถึงทะเลาะกันล่ะคะ วันนี้มีอะไร ทำไมถึง…เฮ้อ คุณหนูเป็นคนฉลาดหลักแหลมมาตั้งแต่เด็ก คุณเองก็รู้ว่าตอนนี้คุณท่านกับคุณนายดูแลคุณไม่ได้แล้ว ทั้งตระกูลธนาภูวนัตถ์ ก็มีคุณชายเป็นผู้นำ คุณก็พยายามอย่าไปยั่วโมโหเขา ทำตามใจเขา ดีกว่าต้องถูกรังแกอยู่เรื่อย ๆ …
ป้าจันเห็นเธอถูกทำร้าย ในใจก็รู้สึกเสียใจจริงๆ
ธิชาเองก็เป็นคนที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็ก นิสัยของณิชานาฎไม่ค่อยชอบอยู่บ้าน อาหารการกินของธิชาล้วนเป็นเธอที่คอยดูแล แม้ว่าธิชาจะไม่ใช่คุณหนูที่เป็นลูกแท้ของตระกูลธนาภูวนัตถ์ แต่กลับโตมาด้วยเสื้อผ้าอาหารการดูแลปรนนิบัติอย่างดี ไม่เคยได้ความน้อยเนื้อต่ำใจอะไร แม้แต่โอกาสที่จะเสียน้ำตาก็มีน้อยมาก
ธิชาฟังอย่างเสียดแทงหัวใจ เริ่มรู้สึกเศร้าเสียใจขึ้นมาเล็กน้อย
เธอดึงมือของป้าจันมา พูดพึมพำเบาๆ ว่า ฉันไม่ได้ยั่วโมโหเขานะคะ ฉันอยู่ดีๆ จะไปยั่วโมโหเขาทำไม วันนี้ฉันก็แค่เกลี้ยกล่อมเขา ว่าต่อไปใช้ชีวิตอยู่กับญาณินอย่างมีความสุข ให้ฉันย้ายออกไปก็จบแล้ว ไม่อย่างนั้น… พอสามคนเผชิญหน้ากันก็จะอึดอัดใจกัน…ป้าจัน ป้าว่าฉันพูดผิดเหรอ ฉันก็แค่เกลี้ยกล่อมเขาสองสามประโยคเท่านั้น เขาก็…
ป้าจันเสียใจเกินจะทนไหว ตอนที่เตรียมจะเอ่ยปากปลอบโยนนั้น ทันใดนั้นที่ประตูห้องก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
ธิชาคุณหลับแล้วหรือยัง ถ้ายังมาคุยเป็นเพื่อนพี่สะใภ้สักหน่อยสิ