ธิชาสีหน้าแดงก่ำ สายตาก็ดูลนลานไม่รู้จะทำยังไง
ดนัยกฤตก็ยังทำตัวสบายๆ ราวกับไม่มีใครอยู่ ฝ่ามือนวดอยู่ที่หน้าผากของเธอเบาๆ หลังจากที่นวดเสร็จก็ยังไม่วายที่จะถามและตำหนินิดหน่อย ยังเจ็บอยู่มั้ยครับ? ทำตัวเซ่อซ่าไปหน่อยนะ
ธิชาส่ายหน้า แล้วหลบออกจากมือของเขาอย่างระมัดระวัง
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่กล้าหันหลังกลับไป แต่สายตาที่สามารถกลืนกินคนได้ของธาวินนั้นยังคงจ้องมองเธอจากทางด้านหลังอยู่ เธอไม่ต้องหันกลับไปมองก็รับรู้ได้ว่าต้องกำลังถูกเขาจ้องมองอยู่แน่นอน
ดนัยกฤตจ้องมองธาวินที่เดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดของผู้หญิง สีหน้ายังคงเรียบเฉย แต่เขาก็ยังใช้มือดึงตัวธิชาให้ไปหลบอยู่ด้านหลังเขาโดยที่หน้ายังคงเดิม แล้วมองไปตรงหน้าด้วยสายตาที่เย็นชา
นี่ เวลาว่างๆ คุณชายธาวินมีรสนิยมชอบเข้าไปเดินเล่นห้องเปลี่ยนชุดหญิงเหรอครับ?
ธาวินหรี่ตาลง ใบหน้าที่เย็นชานั้นไม่ได้แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ เลย
เขาเหลือบมองไปยังปากกาหมึกซึมที่เป็นอาวุธลับในมือของธิชา แล้วพูดประชดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า ถ้าเมื่อกี้ผมไม่เข้ามาห้ามไว้ละก็ ธิชา คุณก็ตั้งใจจะจะเอาชีวิตคนมาล้อเล่นอยู่แล้วใช่มั้ย?
พอธิชาได้ยินน้ำเสียงที่เยือกเย็นของเขา ในใจก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาทันที
ถ้ารู้ว่าวันนี้ธาวินก็จะมาที่สนามขี่ม้าเหมือนกัน เธอก็พร้อมที่จะทำให้ดนัยกฤตโกรธแต่ก็ไม่ยอมมาเหยียบที่สนามขี่ม้าแห่งนี้เด็ดขาด
ความหวาดกลัวที่เธอมีต่อธาวินนั้นมันได้ฝังลึกเข้าไปในใจแล้ว อยากจะเอาชนะมันแต่ก็ทำไม่ได้
ทั้งสองคนประชันหน้ากัน ในระยะอันน้อยนิดนี้ เธอนั้นกลัวว่าธาวินจะขาดสติจนสั่งคนให้จับตัวเธอไป เอาเธอไปขังไว้ในห้องเล็กๆ มืดๆ และทรมานเธอจนตาย
เธอหลบมาตั้งหลายวัน ถ้าธาวินใช้กำลังเพื่อจัดการกับเธอ เธอก็คงจะมีแต่ต้องตายสถานเดียว
ธิชานั้นยื่นมือไปจับชายเสื้อของดนัยกฤตตามสัญชาตญาณ
ดนัยกฤตเหลือบลงไปมองเธอ มือใหญ่ๆ ของเขาไปวางอยู่ที่หลังมือของเธอ แล้วให้กำลังใจเบาๆ
เขาทำเสียงฮึดฮัดเบาๆ ใส่ธาวิน เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้คุณชายธาวินมาเป็นห่วงหรอกครับ ธิชานั้นอยู่ในการดูแลของผม ถ้าเธอเกิดทำให้ใครตายขึ้นมา ผมก็จะเป็นธุระจัดการให้เธอเองครับ
น้ำเสียงของธาวินนั้นเยือกเย็นราวกับดังมาจากในนรก ที่แท้คุณดนัยกฤตยังจำได้อยู่นี่ว่าเธอนั้นใช้แซ่ธนาภูวนัตถ์ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเธอเป็นคนของตระกูลธนาภูวนัตถ์ แต่กลับจงใจเก็บตัวเธอไว้ไม่ยอมคืน นี่คุณตั้งใจจะกักขังเธออย่างผิดกฎหมายจนถึงที่สุดใช่มั้ย?
เมื่อเขาพูดออกมาตรงๆ ขนาดนั้น ธิชาก็รู้สึกทนไม่ไหวขึ้นมา
มือข้างหนึ่งของเธอนั้นกำชายเสื้อของดนัยกฤตไว้ เหมือนในใจจะมั่นใจขึ้นมานิดหน่อย
เธอเชิดคางขึ้น แล้วมองตรงไปที่เขาด้วยสีหน้าที่ใจเย็น ธาวิน ที่ฉันพูดกับคุณในโทรศัพท์มันยังไม่ชัดเจนอีกเหรอคะ? ฉันไม่ติดค้างอะไรคุณอีกแล้ว ความสัมพันธ์ของพี่น้องก็จากไปแล้ว ถ้าคุณรู้สึกไม่พอใจที่ฉันมีรายชื่ออยู่ในตระกูลธนาภูวนัตถ์ คุณก็ลบชื่อฉันออกไปได้เลย จากนี้ฉันจะกลับไปใช้ชื่อเดิม ใช้แซ่เดียวกับแม่ฉันก็ได้
ก่อนที่เธอจะแปดขวบ เธอก็ใช้ชื่อว่าณิตา
ณิชานาฎเป็นคนดึงดันที่จะให้เธอเปลี่ยนไปใช้ชื่อตามชรัญ
แต่พอเวลาได้ล่วงเลยไป ชื่อนี้ก็ถูกคนลืมเลือนไปแล้ว
เหมือนดนัยกฤตจะพอใจกับการแสดงออกของเธออยู่บ้าง เขาแย้มมุมปากขึ้น แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนราวกับกำลังกล่อมลูกสาวอยู่ ตรงนี้มันร้อน คุณไปรอผมบนรถก่อนนะ
ธิชาพยักหน้า ปล่อยมือจากชายเสื้อเขา แล้วเดินตรงไปที่ลานจอดรถ
ถึงแม้ทุกครั้งที่เดินหน้าจะรู้สึกระแวงหลัง มันรู้สึกว่ามีสายตาที่เยือกเย็นและโหดเหี้ยมจ้องเขม็งมาที่เธออยู่ตลอดเวลา
……
ดนัยกฤตเหลือบมองธาวินไปที่หนึ่ง แล้วยิ้มออกมาอย่างสุภาพแต่ก็แฝงไปด้วยความเยาะเย้ย
คุณชายธาวินไม่ต้องโกรธไปหรอกครับ การที่หัวใจของหญิงสาวจะไม่อยู่ในบ้านมันก็เป็นเรื่องธรรมดา น้องเขาก็โตเป็นสาวแล้ว เธอเลือกที่จะไปกับผม ผมเองก็ชื่นชมน้องเขา ก็ต้องรักใคร่มากเป็นพิเศษอยู่แล้ว
เขาชะงักไป แล้วยิ้มออกมาอย่างได้ใจยิ่งกว่าเดิม ธิชานั้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เธอเองก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง คุณธาวินจึงไม่ควรทำเหมือนเธอเป็นเด็กไปตลอด แล้วมัดเธอเพื่อควบคุมตลอดไปนะครับ
……
ธิชานั่งอยู่ในที่นั่งข้างคนขับของบูกัตติ สองมือกอดอก มีเหงื่อไหลออกมาจากฝ่ามือ
เธอไม่รู้ว่าการพูดคุยระหว่างดนัยกฤตกับธาวินนั้นจะออกมายังไง และไม่กล้าที่จะไปคิดด้วย
อย่างน้อยการที่เธอหลบอยู่ในรถมันก็ปลอดภัย เพราะรอบๆ รถนั้นล้อมรอบไปด้วยบอดี้การ์ดของดนัยกฤต ร่างกายของเหล่าบอดี้การ์ดนั้นกำยำทุกคน นอกจากว่าธาวินจะก่อความวุ่นวายจนหน้าแหกกันไปเลย ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางที่จะใช้กำลังเอาเธอไปได้แน่นอน
พอดนัยกฤตขึ้นรถมา ในที่สุดหัวใจที่ตื่นเต้นของเธอก็ทุเลาลง และโล่งอกลงไปได้นิดหนึ่ง
สีหน้าของชายหนุ่มคนนี้ค่อนข้างเรียบเฉย ราวกับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่นิดเดียว
ธิชาก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน จึงทำได้แค่เฝ้ารออย่างเงียบๆ เท่านั้น
หลังจากที่ขับรถไปพักใหญ่ ก่อนที่จะถามเธอออกมาอย่างกะทันหันว่าเที่ยงนี้อยากกินอะไร
ธิชาบอกว่าไม่หิว กินอะไรก็ได้
จู่ๆ ดนัยกฤตก็เหยียบเบรกและเอารถไปจอดข้างทาง แล้วหันมามองใบหน้าเล็กๆ ที่ซีดเซียวและแข็งเกร็ง
เธอจ้องมองเขาอย่างทำตัวไม่ถูก มีอะไรเหรอคะ……
เขายกมือขึ้นมาบีบคางของเธอ เมื่อกี้คุณยังบอกผมว่าหิวอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับบอกว่าไม่อยากแล้ว มันเป็นเพราะเห็นหน้าธาวินแล้วไม่อยากอาหาร หรือเป็นเพราะคิดถึงสายน้ำที่ขึ้นลง พอเกิดขึ้นก็หยุดมันไม่ได้ จนทำให้รู้สึกอิ่มท้องไปเลย?
คำพูดที่กดดันของชายหนุ่มทำให้ธิชารู้สึกรับไม่ค่อยได้แล้ว
เธอหลบตาเขาออก กัดริมฝีปาก หายใจเข้าลึกๆ
ทั้งๆ ที่คุณก็รู้ว่าการพบกันของศัตรูนั้นไม่มีใครยอมใครซึ่งฉันไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น และฉันก็ไม่อยากเจอเขา คุณต่างหากที่จะพาฉันมาที่สนามขี่ม้าให้ได้……
ดนัยกฤตตั้งใจที่จะยื่นมือมากอดเธอ แต่เธอกลับมุ่ยปากแล้วเอี่ยวตัวหลบ
สายตาของเขาเคร่งขรึมลง มือใหญ่ๆ ของเขาจับไปที่ท้ายทอยของเธอ แล้วดันเธอมาข้างหน้า
ริมฝีปากบางๆ โผเข้าหาเธออย่างไม่ส่งสัญญาณใดให้รู้ จูบไปสองทีอย่างไม่หนักหรือเบาจนเกินไป
ธิชาไม่รู้ว่าตัวเองนั้นโกรธหรือไม่โกรธกันแน่
จู่ๆ ก็โดนจูบไปสองทีอย่างไม่คาดคิด ทำให้ใบหน้าของเธอนั้นชมพูจนน่าหลงไหล
เขาขำเยาะเย้ยไปทีหนึ่ง เอาแต่ใจซะจริงเลย ว่านิดว่าหน่อยก็ไม่ได้ ผมแค่ถามคุณเพิ่มอีกนิดหน่อยก็โมโหจนไม่ยอมให้ผมโดนตัวแล้ว?