ธิชานั้นอึ้งไป มองดูความไม่พอใจที่ไม่มีการปกปิดเลย เธอรู้สึกแค่ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรตอบโต้ยังไง
เธอคุ้นชินกับธาวินไปแล้ว ความคุ้นเคยในการคบหากับผู้ชายก็มาจากธาวินทั้งนั้น
การที่ต้องมาเผชิญหน้ากับชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้……เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไงเหมือนกัน
พอดนัยกฤตเห็นเธอไม่ตอบ จึงได้โน้มตัวไปจูบอีกสองที
มันเป็นการกระทำที่แผ่วเบา แต่กลิ่นอายของความคลุมเครือกลับหนักแน่นมาก
สีหน้าที่เขินอายของหญิงสาวนั้นยากที่จะปกปิดได้แล้ว ทำได้แค่หลบออกจากสายตาเขา ไม่กล้าสบตากับเขาตรงๆ
เขาจับท้ายทอยของเธอไว้ ไออุ่นที่ฝ่ามือของเขาร้อนขึ้นเรื่อยๆ
ธิชารู้สึกว่าบรรยากาศในรถนั้นแย่ลงไปเรื่อยๆ อุณหภูมิก็เหมือนจะสูงขึ้นทุกที……
มือเล็กๆ ของเธอที่วางอยู่ตรงหน้าอกของเขาก็ได้ออกแรงผลักเบาๆ และพูดออกมาอย่างไม่ชัดเจนว่า รีบขับรถไปค่ะ หยุดก่อเรื่องได้แล้ว……
การที่ดนัยกฤตออกจากบ้านนั้นไม่ได้ทำตัวธรรมดาเลย เขาจะมีรถกลุ่มหนึ่งขับตามเขาไปเป็นประจำ คนที่อยู่บนรถต่างก็เป็นพวกบอดี้การ์ดของเขาทั้งนั้น ขบวนรถสีดำนั้นช่างเป็นจุดสนใจของผู้คนเหลือเกิน
ตอนนี้เขาเกิดหยุดรถไว้ข้างทางอย่างกะทันหัน จอดอยู่ตั้งนานก็ยังไม่ยอมไป แล้วจะไม่ให้คิดชั่วๆ ได้ยังไงหล่ะ
พอธิชาคิดว่าพวกบอดี้การ์ดที่อยู่ในขบวนรถกำลังจินตนาการถึงสิ่งที่ไม่อาจพูดออกมาได้ อุณหภูมิในร่างกายของเธอก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ……
แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่หนักไม่เบาว่า ตอนนี้หิวแล้วรึยังครับ หือ?
ธิชาจะกล้าตอบว่าไม่หิวอีกได้ยังไงล่ะ เธอจึงรีบพยักหน้าไป
ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยมือแล้วขับรถต่อไปสักที รถยนต์นั้นวิ่งออกไปอย่างมั่นคงไปพักหนึ่ง
เขาเอนหัวมาพูดว่า ผู้หญิงแซ่ไพฑูรย์ที่อยู่กับธาวินนั้น ได้รังแกคุณอีกแล้วใช่มั้ยครับ?
ธิชานั้นไม่อยากพูดถึงไพลินอีกแล้ว จึงได้ตอบไปอย่างง่ายว่า ไม่มีอะไรค่ะ เธอมันก็แค่ปากไม่ดี และฉันก็ไม่ได้ยอมด้วยฉันไม่มีทางทำให้ตัวเองต้องโดนกระทำฟรีๆ หรอกค่ะ
ดนัยกฤตก็ได้ขำออกมาเบาๆ ดังนั้นที่สีหน้าของคุณดูแย่ขนาดนี้ก็ไม่ได้เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น แต่เป็นเพราะธาวิน ก็น่าแปลก การที่ต้องมีพี่ชายแบบนี้สักคนก็ไม่ใช่อะไรที่น่ายินดีเท่าไหร่ ถ้าคุณไม่ชอบใจละก็ ผมก็มีวิธีมากมายที่จะช่วยคุณจัดการเขาให้คุณได้ ตอนนี้กิจการหลายอย่างในมือของธาวินนั้น……
ไม่ ไม่ได้เด็ดขาด!
ในขณะที่เขาพูดได้เพียงแค่ครึ่งเดียว ก็ถูกธิชาพูดขัดด้วยสีหน้าที่ร้อนรนซะก่อน
เธอกลืนน้ำลายไปทีหนึ่ง แล้วมองเขาด้วยสายตาที่จริงจัง อย่าไปมีเรื่องกับธาวินเพื่อฉันเลย ฉันรู้ว่าความสามารถของคุณดนัยกฤตนั้นไม่ธรรมดา ต่อให้เป็นธาวินก็ยังต้องเกรงกลัวคุณในระดับหนึ่ง แต่ธาวินคนนี้……ค่อนข้างเจ้าคิดเจ้าแค้นจะรับมือกับเขานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถ้าไปมีเรื่องกับเขาก็มีแต่จะทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่……
การเกลี้ยกล่อมของเธอนั้นกลับทำให้ดนัยกฤตรู้สึกได้ถึงความหมายอย่างอื่น
เขาเก็บสายตากลับ มองตรงไปข้างหน้าแล้วตั้งใจขับรถต่อไป
ทิ้งให้ธิชาแค่เพียงใบหน้าด้านข้างที่แกะสลักได้อย่างปรานีต
รอยยิ้มบนใบหน้าของเขานั้นได้หายไปจนหมด สีหน้าก็ดูเคร่งขรึมลงไปบ้าง
ธิชานั้นมองเขาไม่ออกจริงๆ จึงตัดสินใจที่จะไม่พูดต่อ เพื่อสังเกตอารมณ์ของเขาอย่างเงียบๆ
รถวิ่งต่อไปอีกพักหนึ่ง จู่ๆ เขาก็ทำเสียงฮึดฮัดออกมาทีหนึ่ง คุณธิชาไม่อยากให้เกิดปัญหาขึ้นกับผม หรือกลัวว่าผมจะลงมือกับธาวินได้รุนแรงเกินไป……จนทำให้คุณต้องเป็นห่วงใช่มั้ยครับ?
ธิชากัดริมฝีปาก แล้วปฏิเสธด้วยสีหน้าที่แข็งเกร็ง ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย
ไม่ใช่เหรอครับ? เขายิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ย เรื่องแบบนี้ทางที่ดีคุณควรไตร่ตรองให้แน่ใจก่อนค่อยตอบออกมาไม่ได้เป็นห่วงใช่มั้ยครับ? ไม่ห่วงเลยสักนิด? งั้นก็แสดงว่าถ้าผมไปฆ่าธาวินให้ตายตั้งแต่ตอนนี้ คุณก็ไม่มีทางใจอ่อนมาขอให้ไว้ชีวิตเขาใช่มั้ยครับ?
สีหน้าของธิชานั้นดูแย่ยิ่งกว่าเดิม
เธอรู้ดีว่าเขานั้นจงใจที่จะหาเรื่อง
ต่อให้เขาจะมีอำนาจล้นฟ้าในเมืองJ แต่ธาวินเป็นคนแบบไหน ตระกูลธนาภูวนัตถ์นั้นขึ้นชื่อว่าเป็นตระกูลมาเฟียมาตั้งแต่รุ่นก่อนๆ แล้ว กิจการก็มั่นคงยากจะสั่นคลอนได้
ถึงเขาจะเป็นคู่ต่อสู้ที่อยู่ระดับเดียวกัน แต่เรื่องการมีอยู่และเหตุผล คู่ต่อสู้ก็มีเหมือนๆ กัน
เพื่อความเท่าเทียบ เพื่อความมั่นคง
ถ้าอีกฝ่ายพังทลายไปอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่จะได้มาไม่ใช่แค่ผลประโยชน์ที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น ยังมีสถานการณ์ความวุ่นวายที่จะเกิดการสูญเสียการควบคุมอีก
นอกจากดนัยกฤตจะเสียสติ ถึงเต็มใจที่จะฆ่าหัวหน้ามาเฟียเพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียว
ธิชานั่งพิงอยู่ที่เบาะรองหลัง สองมือกอดอก แล้วพูดด้วยความหงุดหงิดไปว่า ถ้าคุณท่านดนัยมีปัญญาฆ่าธาวินได้และไม่สนใจผลที่ตามมา งั้นก็ไปฆ่าเลยค่ะ ฉันรับปากว่าจะไม่เข้าไปขวางแน่นอน
พอชายหนุ่มได้ยินก็แค่ขำออกมาทีหนึ่ง และไม่ได้เถียงอะไรต่ออีก
ถึงรถมาจอดอยู่ที่หน้าประตูร้านอาหารใต้ดินแห่งหนึ่ง เขาปลดเข็มขัดออก ถึงได้โน้มตัวมาบีบแก้มของธิชาเอาไว้
ปากเล็กๆ ของคุณนี่ช่างร้ายกาจจริงๆ เลย รู้รึเปล่าว่าคนล่าสุดที่พูดจายั่วยุกวนประสาทผมนั้นต้องตายยังไง?
ธิชากระพริบตา ถ้าบอกใจไม่ได้กระวนกระวายต้องเป็นเรื่องโกหกแน่นอน
เธอไม่ได้กลิ่นของความโมโหจากมือที่ยื่นมาของชายคนนี้เลย แต่น้ำเสียงที่เขาพูดมานั้นอันตรายมาก
เธอห่อไหล่ลงตามสัญชาตญาณ
นิ้วโป้งของเขาเลื่อนผ่านริมฝีปากแดงๆ ของเธอ แย้มมุมปากขึ้นแล้วยิ้มออกมา ไม่ต้องกลัวไป แต่เพียงเท่านั้น ความใจกว้างแค่นี้ผมก็ยังมีอยู่ คุณธิชาที่อยู่ตรงหน้าผมนั้นเป็นคนที่พูดเก่งมาโดยตลอด ถ้าวันไหนเกิดทำตัวดีขึ้นมา ผมกลับจะรู้สึกไม่ชินมากกว่านะครับ
ลมหายใจของเขานั้นใกล้เข้ามามาก ลมหายใจอุ่นๆ ของเขาถูกพ่นใส่ใบหน้าของเธอ
ดนัยกฤตปล่อยคางของเธอออก แล้วขยี้หัวเธอด้วยรอยยิ้ม หวังว่าตอนที่อยู่บนเตียง คุณธิชาจะยังคงรักษาความเก่งกาจของปากกับลิ้นไว้ให้ได้นะครับ ไม่ใช่เอาแต่ร้องไห้อย่างเดียว ่