แค่โทษเธอที่ไม่ได้เตรียมใจมาก่อน……
เธอนึกว่าการที่ไม่อยู่กับธาวิน เธอก็ไม่ต้องพบเจอกับญาณินที่ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดกับเรื่องของความสัมพันธ์อีก
รวมถึงไพลินที่มีแต่ความเคียดแค้นให้เธอ และเรื่องอื่นๆ อีก
แต่เธอกลับลืมไป ไม่ว่าคนใหญ่คนโตคนไหนก็ตาม ต่างก็ต้องมีสาวงามนับร้อยนับพันห้อมล้อมอยู่รอบตัวอยู่แล้ว
วันนี้ก็แค่เป็นอี๊ฟ ก่อนที่เธอจะย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ ดนัยกฤตเคยพาผู้หญิงบ้านมาตั้งเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
ถึงแม้การที่ได้พักอยู่ในบ้านหลังนี้ ดนัยกฤตก็ถือว่าดูแลเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดี
ห้องชุดส่วนตัว พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน บวกกับพี่เลี้ยงและผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการที่คอยดูแลเธอด้วย
แต่ไม่ว่ายังไง มันก็เป็นบ้านของเขา
ภายในอณาจักรของเขา เขาก็ไม่เคยพูดมาก่อนว่าห้ามไม่ให้ผู้หญิงคนอื่นเข้ามาเหยียบเด็ดขาด
ธิชากำมือที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ แล้วเดินขึ้นบันไดไปทีละก้าวทีละก้าว
เธอกลับเข้าห้อง ปิดประตู แต่ก็ไม่ได้ขึ้นเตียงไปทันที
แต่กลับไปนั่งอยู่ตรงข้างหน้าต่าง นั่งกอดเข่าแล้วเหม่อลอยไปพักหนึ่ง
เธอจ้องมองไปยังแสงดาวระยิบระยับที่อยู่นอกหน้าต่าง ในใจอดไม่ได้ที่จะคิดไปว่า
หญิงสาวที่อ่อนเยาว์และสะสวยเมื่อกี้……คืนนี้ก็คงจะค้างคืนที่นี่สินะ
เธอรินชาให้ดนัยกฤตกินเพื่อแก้เมา คงไม่มีทางปล่อยให้เขานอนแผ่อยู่ที่โซฟาอยู่แล้ว
สุดท้ายก็ต้องพยุงเข้าขึ้นมาบนห้อง พอพาเขากลับถึงห้องก็อาจจะช่วยเขาอาบน้ำ จากนั้นก็ไปนอนอยู่บนเตียงด้วยกัน
ธิชารับรู้ได้ว่าการที่ตัวเองมีความคิดแบบนี้นั้น มันเกิดจากความไม่สบายใจและความหึงหวง
แต่เธอนั้นยังไม่เคยได้นอนกับดนัยกฤตเลย แล้วมีสิทธิ์อะไรที่จะไปหึงเขา?
หญิงสาวที่ชื่ออี๊ฟคนนั้นอาจจะอยู่กับเขามาตั้งนานแล้ว ถ้าจะให้พูดถึงการหึงหวง เกรงว่าอี๊ฟจะมีสิทธิ์มากกว่าเธอเยอะเลย
ธิชาจ้องมองไปยังทิวทัศน์ที่อยู่นอกหน้าต่าง ในใจกำลังครุ่นคิดอย่างขมขื่น
เธอควรกลับไปตั้งใจเรียนหนังสือ ต่อไปถ้าเรียนจบ ไปสอบใบรับรองการเป็นอัยการ หรือเข้าไปทำงานเป็นทนายในสำนักงานกฎหมายก็ได้
ยังไงเธอก็ต้องเลี้ยงตัวเองให้ได้ อยู่ได้ด้วยตัวเอง ถึงจะสามารถใช้ชีวิตที่มีความหมายและสงบสุขได้จริงๆ
ธาวินนั้นเป็นพี่ชายของเธอแค่ครึ่งเดียว เขายิ่งพึ่งพาไม่ได้เข้าไปใหญ่
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงดนัยกฤตที่รู้จักแค่ผ่านๆ เลย
ตอนนี้เขายังไม่แตะต้องเธอ และเลี้ยงดูเอาใจใส่เธอเป็นอย่างดีให้อยู่ที่นี่
ทั้งหมดก็เพื่อกิจกรรมที่สดใหม่ระหว่างชายหญิงที่ยังไม่เกิดขึ้น
ถึงแม้ว่าเธอจะไม่อยากนอนกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ถึงแม้ว่าเธอจะยอมนอนกับเขาโดยไม่สนอะไรเลย แล้วความรู้สึกสดใหม่ของชายคนหนึ่งมันจะอยู่ได้นานแค่ไหนกัน?
ดนัยกฤตไม่มีทางแต่งงานกับเธอ และมีเหตุผลอะไรที่จะรักใคร่เธอไปตลอดด้วย
การบริการคนอื่นด้วยเรื่องบนเตียงนั้นมันไม่ยืนยาวหรอก
ธิชาทำการตัดสินใจพร้อมกับความรู้สึกที่วุ่นวาย ไม่ว่าเธอจะสามารถออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้หรือไม่ก็ตาม ยังไงก็ต้องกลับไปเรียนก่อน ต้องกลับไปใช้ชีวิตนักศึกษาให้ได้ก่อน
………
คืนนี้ธิชานั้นนอนไม่ค่อยหลับ ตอนเช้าก็เหนื่อยจนไม่ยอมตื่น
แสงแดดตอนแปดเก้าโมง เธอที่อยู่ในผ้าห่มนั้นถูกปลุกด้วยความรู้สึกอุ่นที่ผ่านเข้ามา
เธอลืมตาขึ้นมาพร้อมกับรู้ว่าตัวเองนั้นกำลังถูกชายหนุ่มกอดไว้ในอ้อมกอด เธอรีบเบิกตาทันที จนไม่หลงเหลือความง่วงเลย
ธิชากัดริมฝีปากไปทีหนึ่ง แล้วพูดเสียงอ้อแอ้ว่า ทำไมคุณถึง……
ดนัยกฤตสวมชุดนอนสีน้ำเงิน กลิ่นที่ออกมาจากตัวเขาค่อนข้างสดชื่น ไม่มีกลิ่นของแอลกอฮอล์ แต่กลับมีไรหนวดผุดขึ้นมาที่ใบหน้า และยังหลงเหลือร่องรอยของอาการเมาค้างอีกนิดหน่อย
เขาอ้าแขนแล้วกอดเธอแน่น พลิกตัว แล้วทับร่างที่เรียวบางของเธอไว้ด้านล่าง โน้มตัวลงไปหวังที่จะจูบเธอ____
ธิชาเบี่ยงหน้าหนีอย่างไม่ต้องใช้ความคิด เธอพูดออกมาเบาๆ ว่า คุณตื่นแล้วเหรอคะ เหมือนเมื่อคืนคุณจะเมามากเลยนะคะ……
ชายหนุ่มขำเบาออกมาทางจมูกทีหนึ่ง แต่ก็ยังไม่ยอมหยุด มือข้างหน้าดันแก้มเธอไว้ โน้มตัวลงจูบไปที่โหนกแก้มที่อ่อนนุ่มของเธอ
จมูก แก้ม คาง หน้าผาก……
การจูบที่ร้อนแรงของเขาค่อยๆ เลื่อนต่ำลง จนตอนที่มือของเขากำลังจะยื่นไปปลดกระดุมตรงหน้าอกของเธอ มือทั้งสองข้างของธิชาถึงได้กำมือของเขาไว้แน่น
เธอโวยวายออกมาเบาๆ ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ หนวดของคุณมันแข็งมาก อย่าจูบฉันนะ มันเจ็บ……
ดนัยกฤตรู้ดีว่าเธอยังไม่เลิกอาย จึงได้ปล่อยมือออก และไม่ทำให้เธอต้องลำบากใจ
เขานอนกอดเธอจากด้านข้าง นิ้วยาวๆ สัมผัสไปที่คิ้วอันสวยงามขอเธอ แล้วถามอย่างกึ่งล้อเล่นกึ่งจริงจังว่า เมื่อคืนคุณเห็นผมเมาด้วยเหรอครับ? แต่ผมกลับจำไม่ได้เลย ผมไม่ได้ถือว่าคอแข็งขนาดนั้น แล้วตอนที่ผมเมาได้ทำอะไรไม่ดีกับคุณรึเปล่าครับ?
ธิชานึกถึงอี๊ฟที่ผิวพรรณขาวใสอกใหญ่เอวคอดขึ้นมา……ในใจก็รู้สึกเหมือนถูกเข็มเล็กทิ่มแทง
เธอพูดออกมาอย่างเรียบเฉยว่า เมื่อคืนคุณเมามาก แต่ฉันไม่ได้เป็นคนดูแลคุณ ต่อให้คุณจะอาละวาด ก็ไม่ได้ทำกับฉันแล้วฉันจะไปเห็นคุณตอนที่กำลังอาละวาดเพราะความเมาได้ยังไงหล่ะคะ
มีเหรอที่จิ้งจอกเถ้าอย่างดนัยกฤตจะฟังไม่ออกว่าคำพูดของเธอนั้นมีอะไรแอบแฝงอยู่
เขายักคิ้วแล้วยิ้มๆ เมื่อคืนคุณเจออี๊ฟแล้วใช่มั้ยครับ?
เธอพยักหน้าทีหนึ่ง แล้วตอบด้วยท่าทีที่ไม่ใส่ใจว่า ตอนตีสามฉันได้ยินเสียงดังมาจากข้างล่าง ฉันเลยลงไปดู แม่สาวอี๊ฟกำลังป้อนชาให้คุณอยู่ ฉันจึงกลับมาที่ห้องอย่างรู้หน้าที่
เธอชะงักไปแปบหนึ่ง แล้วพูดต่อ แม่สาวอี๊ฟนั้นเป็นคนที่สวยจริงๆ สวยกว่าพวกเน็ตไอดอลดังๆ ที่ออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันเยอะเลย ท่านดนัยนั้นมีกำลังทรัพย์มากมาย ถ้าข้างกายมีคนสวยอย่าง อี๊ฟอยู่ด้วย แล้วทำไมถึงไม่ดันเธอให้เป็นดาราหรืออะไรพวกนั้นหล่ะคะ?
ดนัยกฤตได้หัวเราะออกมาทันที เขาหรี่ตาลง แล้วใช้จมูกสูดดมที่ร่างกายของเธอเป็นการใหญ่
แล้วพูดไปพร้อมกับท่าทางที่ทำเหมือนว่ามีเรื่องแบบนั้นอยู่จริงๆ เช้าขนาดนี้ทำไมถึงได้เหม็นเปรี้ยวแบบนี้เนี่ย เหม็นจนผมเริ่มเวียนหัวแล้วเนี่ย
ธิชาขมวดคิ้วพร้อมกับใบหน้าที่แดงก่ำ คุณเอาอะไรมาพูด! ใครมันไปหึงคุณกัน?